Feature

3 ตำแหน่ง 4 คน : แผงกองกลางที่ทำให้สเปน "เหนือชั้น" จนถึง "แชมป์ยุโรป" | Main Stand

เมื่อสเปนก้าวขึ้นมาคว้าเเชมป์ฟุตบอล ยูโร 2024 ก็ได้เวลาพูดถึงจุดแข็งอันดับ 1 ของพวกเขา สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้พวกเขามาถึงจุดนี้นั่นคือ "3 กองกลาง" 

 


ปกติแล้วกองกลางมักจะเป็นนักเตะประเภทปปิดทองหลังพระ ทว่า 3 กองกลางของทีมชาติสเปนชุดนี้เล่นเหมือนพระเอก ยอดเยี่ยม และ โดดเด่นจนใครก็เห็นได้

1 คนคุม 1 คนเคลื่อน 1 คนพิฆาต พวกเขาจัดการทุกทีมที่ขวางหน้า และเขย่าเวทียุโรปอย่างไร ? ติดตามที่ Main Stand

 

ขยับจนเจอ "ฟาเบียน รุยซ์"

สเปน ใน ยูโร 2024 ได้ทีมชุดที่ดีที่สุดมาตั้งแต่ก่อนเข้าทัวร์นาเมนต์ โดยเฉพาะในตำแหน่งแดนกลาง หลุยส์ เดอ ลา ฟวนเต้ กุนซือของทีมเลือกตามสิ่งที่เห็น และเป้าประสงค์ที่จะใช้งาน เรียกได้ว่า ทีมจะเล่นแบบไหน เขาจัดนักเตะที่สเปกตามนั้น 

โรดรี้ จาก แมนฯ ซิตี้ คือคนที่ถูกเลือกโดยอัตโนมัติ เพราะเป็นนักเตะในตำแหน่งเบอร์ 6 ที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้ ไม่ว่าคุณจะเรียกร้องอะไรจากเขา โรดรี้ สามารถทำได้ทั้งหมด ทั้งการเป็นจอมทัพคุมจังหวะ, เป็นตัวตัดและชะลอเกมรุกคู่แข่งก่อนถึงเซ็นเตอร์แบ็ก เป็นคนที่เก็บบอลจังหวะ 2 ให้กับทีม คนที่วางบอลยาว ๆ ในจังหวะสวนกลับ หรือแม้แต่คนที่ขึ้นมายิงประตูในเวลาที่คนอื่นทำไม่ได้ 

ส่วนอีก 2 คนนั้น ค่อนข้างเดาได้ยาก เนื่องจากสเปนมีกองกลางที่ดีหลายคน แต่สุดท้าย เดอ ลา ฟวนเต้ ก็เลือก ฟาเบียน รุยซ์ กองกลางจาก เปแอสเช เข้ามายืนเป็นลูกคู่ของ โรดรี้ ซึ่งผลที่ออกมามันก็เวิร์กมาก ๆ 

ก่อนทัวร์นาเมนต์เริ่ม หลายคนคาดว่าตรงนี้จะเป็นหน้าที่ของ เปดรี้ จาก บาร์เซโลน่า แต่ เดอ ลา ฟวนเต้ ก็ตัดสินใจใช้ รุยซ์ แทน โดยเลือกขยับเอา เปดรี้ ขึ้นไปเล่นเป็นเบอร์ 10 แทน สาเหตุนั้นก็ไม่มีอะไรซับซ้อน ถ้าคุณได้ดูทีมชาติสเปน คุณจะเข้าใจทั้งหมดได้โดยที่แทบไม่ต้องอธิบายเลยด้วยซ้ำ 

รุยซ์ คือคู่มิดฟิลด์ที่ทำหน้าที่ร่วมกับ โรดรี้ ได้อย่างลงตัวที่สุด เขาไม่กลัวที่จะเคลื่อนที่ไปยังทุก ๆ พื้นที่ในยามที่เพื่อนร่วมทีมต้องการใครสักคนมารอรับบอล ซึ่งการไปยังทุกที่แบบ รุยซ์ นั้นไม่ได้ทำกันง่าย ๆ ถ้าเบสิคฟุตบอลคุณไม่ดีจริง ครองบอลไม่เหนียว และไม่สามารถคิดเร็วทำเร็วได้เหมือนกับที่ ฟาเบียน รุยซ์ ทำ คุณก็จะเสียบอล และหลุดจากตำแหน่ง จนกลายเป็นจุดอ่อนให้ทีมตรงข้ามเล่นงานได้ง่าย ๆ 

กลับกัน รุยซ์ ทำให้ทุกอย่างดูนุ่ม ลื่น และเนียนไปหมด มันชัดเจนว่าการเป็นนักเตะที่เทคนิคดี ครองบอลเหนียว รู้จักจังหวะช้าเร็ว รวมถึงความคล่องแคล่วที่มี ทำให้เขาสามารถรับบอล และพาบอลไปยังที่ต่าง ๆ ได้ แม้ในสถานการณ์ที่กดดันจากการเพรสซิ่งได้อย่างดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม ความสุดของเขายังไม่จบแค่นี้ เพราะถ้าเราแหงนหน้ามองสถิติด้านการเล่นเกมรุกของ รุยซ์ สำหรับตำแหน่งหมายเลข 8 แล้ว สถิติที่ออกมานั้นยอดเยี่ยมกว่าผู้เล่นเบอร์  10 หลาย ๆ คนในทัวร์นาเมนต์นี้เสียอีก

รุยซ์ ลงเล่นไป 6 นัดในทัวร์นาเมนต์ (ได้พักในเกมสุดท้ายของกลุ่ม B นัดเจอ แอลเบเนีย) ยิงไป 2 ประตู ทำไป 2 แอสซิสต์ สร้างคีย์พาสเฉลี่ยเกมละ 1.7 ครั้ง และเลี้ยงผ่านคู่แข่งอีกเกมละ 2 ครั้ง ... นี่คือสถิติของกองกลางเบอร์ 8 ที่โดดเด่นกว่าทุก ๆ คนจากทุก ๆ ชาติในทัวร์นาเมนต์นี้อย่างแท้จริง 

ไม่ว่าจะมองด้วยตาเปล่าหรือสถิติ ฟาเบียน รุยซ์ คือคนที่ทำให้เกมรับ - รุก ของสเปนดูสมดุลและลื่นไหล มีไม่มีคนบนโลกนี้ที่ยืนคู่กับ โรดรี้ แล้วไม่โดนรัศมี โรดรี้ กลบมิด รุยซ์ เป็นคนนั้น คนที่ทำงานหนักอย่างมีประสิทธิภาพ จนเด่นขึ้นมาเทียบเท่ากับ โรดรี้ แม้กระทั่งกูรูบางคนยังบอกว่าเขาเป็นอีกคนที่ควรได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์แทน โรดรี้ เลยด้วยซ้ำ 

การเห็น รุยซ์ และเอามาใช้ได้ถูกต้องตรงตามสเปกทุกอย่างของ หลุยส์ เดอ ลา ฟวนเต้ ผลิดอกออกผลอย่างมาก แม้เขาจะเล่นทีมชาติไปไม่ถึง 30 นัด ... แต่การเลือกเขาแสดงให้เห็นแล้วว่าคือการตัดสินใจที่ดีที่สุดของ เดอ ลา ฟวนเต้ เรื่องหนึ่งในทัวร์นาเมนต์นี้ ... เพราะการเอา รุยซ์ มาเล่นเบอร์ 8 ก็ทำให้เขาได้ใช้เบอร์ 10 อีก 2 คนแบบตรงล็อกทุกอย่างเช่นกัน 

 

เกมรุก...ที่ไล่ระดับความเฉียบ 

การที่ รุยซ์ มาเล่นเบอร์ 8 ก็ทำให้ เปดรี้ ต้องขยับขึ้นมาเล่นมาตัวบน ในตำแหน่งคล้าย ๆ เบอร์ 10 มากกว่า โดยสไตล์และฝีเท้าแล้ว เปดรี้ คือคนที่เชื่อมเกมด้านบน คล่องแคล่ว และมีเซ้นส์เกมรุกที่สูง เพียงแต่ว่าด้วยร่างกายที่ไม่ทนทานมากนัก การเอาเขามาเล่นในตำแหน่งที่ต้องเล่นเกมรับเยอะ ๆ ต้องวิ่งเยอะ ๆ เข้าปะทะเยอะ ๆ อาจจะดูไม่เหมาะสักเท่าไหร่

สุดท้ายแล้ว เปดรี้ กับตำแหน่งเบอร์ 10 ที่ถือว่าเป็นตัวหลักและทำได้ดีมาก ๆ ใน 4 เกมแรกของทัวร์นาเมนต์ เปดรี้ เล่นคู่กับ รุยซ์ ได้อย่างยอดเยี่ยม มีจังหวะสลับกันขึ้นมาเป็นตัวยืนหลังกองหน้า และสร้างเกมรุกได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งตัวของ เปดรี้ เองก็เล่นได้เข้ากับตัวรุกด้านหน้าทั้ง 3 คนอย่าง ลามีน ยามาล, นิโก้ วิลเลี่ยมส์ และ อัลบาโร่ โมราต้า เพราะสไตล์ของเขาเป็นนักเตะประเภทที่มักจะชอบมองหาเพื่อนที่มีที่ว่างหรือยืนพื้นที่ดี ๆ ก่อนเป็นอันดับแรก มากกว่าที่จะพยายามยิงเอง

การใช้ เปดรี้ ลงเล่นใน 4 เกมแรก คือสิ่งที่ทำให้เราหลายคนเซอร์ไพรส์ว่าทำไมสเปนชุดนี้ถึงดุดัน รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพได้ขนาดนี้ เพราะการมีเขาอยู่ในพื้นที่แดนบน และเคลื่อนที่เยอะ ทำงานหนัก ทำให้การต่อเกมเป็นไปอย่างลื่นไหล บอลไปถึงตัวรุกตลอด เรียกได้ว่าถ้ามี เปดรี้ ยืนตรงนี้นักเตะในแนวรุกคนอื่น ๆ ก็ได้ทำงานเต็มประสิทธิภาพ 

ความยอดเยี่ยมของ เปดรี้ ทำให้หลายคนพาลคิดไปว่า ในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายกับ เยอรมนี ที่เขาเจ็บจนโดนเปลี่ยนตัวออกช่วงต้นเกมจะกลายเป็นรอยโหว่รอยใหญ่ของทีมชาติสเปน ทว่า ... หลุยส์ เดอ ลา ฟวนเต้ จั่วไพ่อีกใบขึ้นมา และถือเป็นทีเด็ดที่มาได้อย่างถูกที่ถูกเวลา นั่นคือ ดานี่ โอลโม่ 

กองกลางตัวรุกจาก ไลป์ซิก มีความเป็นตัวรุกแดนบนแบบธรรมชาติ เล่นเกมรุกเป็นหลัก และเข้ามาเติมรสชาติใหม่ให้สเปนชุดนี้ จังหวะทีเด็ดทีขาดหน้ากรอบเขตโทษ การหาจังหวะยิงประตู และการส่ายออกซ้าย ออกขวาตลอดเพื่อทำให้เกมริมเส้นไปต่อได้ ถือเป็นสิ่งที่ ดานี่ โอลโม่ เข้ามาสร้างให้กับทีมในเวลาที่ทีมต้องการ

ฟอร์มของ โอลโม่ นั้นโดดเด่นที่สุดในเกมกับ เยอรมัน ที่เขาถูกเปลี่ยนลงมาแทน เปดรี้ นอกจากจะเป็นคนยิงประตูตีเสมอจากลูกยิงที่เป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมทั้งการหาพื้นที่ และการจบสกอร์ที่ฉลาด เฉียบขาดแล้ว โอลโม่ ยังเป็นคนแบกเกมรุกของสเปนในช่วงต่อเวลาพิเศษ ที่ ยามาล และ วิลเลี่ยมส์ โดนเปลี่ยนตัวออกไปแล้ว 

เขาเป็นนักเตะที่ไม่เร็วมากแต่ก็มีทักษะมากพอที่จะเอาชนะการดวล 1-1 และสิ่งสำคัญคือการเลือกเล่นจังหวะต่าง ๆ ของ โอลโม่ ในทัวร์นาเมนต์นี้ต้องบอกว่าสั่งได้ดั่งใจ เมื่อมาถึงจังหวะสุดท้าย ถ้ายิงก็ได้ลุ้น ถ้าจ่ายให้เพื่อนทำก็แม่นยำ ทำให้เพื่อนเล่นได้เปรียบเสมอ 

การสลับกันของ เปดรี้ และ โอลโม่ ถือเป็นอีก 1 สิ่งสำคัญของ สเปน ในทัวร์นาเมนต์นี้มีการเข้าทำที่แปลกใหม่ จากที่เคยมี เปดรี้ และทีมจะเด่นเรื่องการครองบอล และเคลื่อนบอลไปข้างหน้าได้รวดเร็ว พอเปลี่ยนมาเป็น โอลโม่ พื้นที่สุดท้ายก็ได้ความเฉียบขาดขึ้นมา ซึ่งสิ่งนี้แผลงฤทธิ์ออกมาตั้งแต่รอบ 8 ทีมจนถึงเกมที่พวกเขาเอาชนะ อังกฤษ และคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 4 ไปครอง

 

1 คนคุม 1 คนเคลื่อน 1 คนพิฆาต 

ที่สุดแล้ว กองกลางของ สเปน ชุดนี้มันกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของมิดฟิลด์ที่ตรงตามตำรับตำราทุกอย่าง แต่ละคนมีหน้าที่ของตัวเองอย่างชัดเจน และเหนือไปกว่านั้น คือเมื่องานของพวกเขาเสร็จเรียบร้อย พวกเขาก็จะไปช่วยงานส่วนอื่น ๆ ในสนามของทีมด้วย 

โรดรี้ คนคุมจังหวะเกม ถือเป็นอัจฉริยะของยุคไปแล้ว เซ้นส์บอล ความชัวร์ ความแข็งแกร่ง การอ่านจังหวะเกมของเขา คือสุดยอดของเบอร์ 6 ที่ยืนอยู่หน้ากองหลัง ไม่มีกองกลางคนไหนที่สามารถทำลายจังหวะ และความนิ่ง ความแม่นยำของ โรดรี้ ได้ในทัวร์นาเมนต์นี้ เขาดวลมาแล้วกับทั้ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้, โทนี่ โครส และ ดีแคลน ไรซ์ ซึ่งถือเป็นแนวหน้า ตัวท็อปของโลกทั้งสิ้น ทว่าสุดท้าย ไม่มีทีมไหนเลยในทัวร์นาเมนต์ที่ครองเกม และสร้างจังหวะการยิงประตูได้มากกว่า สเปน ในทัวร์นาเมนต์นี้เมื่อเจอกับพวกเขา ... เรียกได้ว่า โรดรี้ เก็บเกมรุกของคู่แข่งใส่กล่องชนิดปิดสนิท พร้อมส่งต่อให้คนที่ทำหน้าที่เคลื่อนเกมได้ทำหน้าที่อย่างหายห่วง

รุยซ์ คือคนที่รับพัสดุที่ถูกปิดผนึกมาอย่างประณีตจาก โรดรี้ และพาไปต่อข้างหน้า ดังนั้นไม่ว่าจะไปทางไหน จะซ้าย หรือจะขวา หรือจะลุยทะลุเข้าไปซื่อ ๆ ก็ทำได้ตามใจสั่ง ไม่มีเสียหายหรือตกหล่นกลางทางง่าย ๆ เพราะความละเอียด และการมีเพื่อนร่วมทีมเข้ามาช่วยทำให้ทุกอย่างดูเรียบง่าย แต่กลับทรงพลังและมีประสิทธิภาพ 

ขณะที่ โอลโม่ และคงรวมถึง เปดรี้ ในช่วงก่อนหน้านี้ได้ คือมือพิฆาต ที่ทำให้ทุกอย่างที่สร้างมาจากข้างหลังไม่สูญเปล่า ทุกอย่างจะถูกส่งถึงปลายทางอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโอกาสสำคัญ การแอสซิสต์ หรือการยิงประตู 

นี่คือ 3 กองกลางที่ลงตัวและความเหนือชั้นที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่แผงมิดฟิลด์ของสเปนได้สร้างให้กับแฟนบอลทั่วโลกให้เห็นใน ยูโร 2024

ความสุดยอดของพวกเขา ทำให้กองกลางที่เคยมองว่าเป็นตัวปิดทองหลังพระ กลายเป็นส่วนที่โดดเด่นฉายแสงเกินใครไปเรียบร้อบแล้วในเวลานี้ 

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.independent.co.uk/sport/football/spain-squad-euro-2024-pedri-rodri-b2558087.html
https://www.france24.com/en/live-news/20240704-reliable-rodri-the-rock-behind-spain-s-sparkling-euros
https://www.thedailystar.net/sports/sports-special/euro-2024/news/spains-computer-rodri-finally-charge-euro-2024-3655596
https://www.goal.com/en/lists/spain-euro-2024-squad-luis-de-la-fuente-germany/blte51a8d1b060b275a
https://theanalyst.com/eu/2024/07/fabian-ruiz-analysis-spain-euro-2024/

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ