จาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน สู่การถูกจับตามองจากถิ่นแอนฟิลด์ นี่คือเหตุผลที่ ลิเวอร์พูล เคยคิดจะเอา รูเบน อโมริม มาคุมทีม
ว่ากันว่ากุนซือชาวโปรตุกีสรายนี้เคยเกือบเป็นตัวแทนของ เยอร์เก้น คล็อปป์ มาแล้ว แต่ทำไมถึงไม่ได้ไปต่อ?
ติดตามกับ Main Stand
ตัวแทน "คล็อปป์"
เยอร์เก้น คล็อปป์ อาจจะไม่ได้มีอายุการทำงานในพรีเมียร์ลีกเทียบเท่ากับโค้ชอีกหลาย ๆ คน แต่แน่นอนว่าสิ่งที่เขาทำไม่มีใครกล้ามองข้าม และเขานี่แหละ คือตำนานบทหนึ่งแห่งยุคสมัยตัวจริงเสียงจริง เมื่อภารกิจของเขาคือการ "สร้าง ลิเวอร์พูล ขึ้นมาใหม่" หลังทีมตกต่ำมานานเกือบ 3 ทศวรรษ และงบประมาณก็ร่อยหรอลงเรื่อย ๆ
เพราะงบประมาณการเสริมทัพถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่ชี้ขาดความสำเร็จของทุกสโมสรบนโลกนี้เลยก็ว่าได้ มันสำคัญถึงขนาดที่ว่ากุนซือบางคนหากไม่มีงบประมาณเสริมทัพ หรือบอร์ดบริหารบังคับขายนักเตะเพื่อเอาเงินเข้ามาบริหารทีม พวกเขาก็แตกหักถึงขั้นลาออกเลยก็มือ ... แต่นั่นไม่ใช่สำหรับ เยอร์เก้น คล็อปป์
ความสุดยอดของ คล็อปป์ นอกจากการเปลี่ยนโฉมทีมขาลงให้กลายเป็นทีมระดับท็อปของโลกแล้ว สิ่งที่หลายคนให้การยอมรับตัวของเขาคือเรื่องของการเสริมทัพที่มักจะเลือกของดีราคาถูกได้เสมอ มันคือความเป็นคนช่างเลือก และมีสเปกนักเตะที่ต้องการชัดเจน เเละเขาเลือกสเปกมาก่อนการเจาะจงไปที่ตัวนักเตะ ซึ่งสิ่งนี้จำเป็นมาก ๆ สำหรับใครสักคนที่จะทำงานกับบอร์ดบริหารของ FSG หรือ Fenway Sports Group กลุ่มทุนจากสหรัฐอเมริกา ที่เชื่อเรื่องความสมดุลมากกว่าการใส่หมดหน้าตักและเน้นที่แพชชั่น
แนวทางของ คล็อปป์ นั้นยอดเยี่ยมมาแต่ไหนแต่ไร สอดคล้องกันหมดทั้งเรื่องผลงานในสนาม ถ้วยรางวัล หรือแม้แต่ตัวเลขในบัญชี
ทว่าไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา เมื่อผ่านครึ่งซีซั่นของฤดูกาล 2023-24 คล็อปป์ ก็ประกาศแบบช็อกแฟน ๆ ด้วยการบอกว่าเขาจะลาออกจากสโมสรหลังจากฤดูกาลดังกล่าวจบลง ภายใต้ความช็อกที่ไม่ได้ตั้งตัว บอร์ดบริหารของหงส์แดงต้องสลัดเรื่องความผูกพันและความรู้สึกทิ้งทั้งหมด เพื่อโฟกัสในช่วงเวลาอันน้อยนิดสำหรับการหาตัวแทนของ คล็อปป์ ซึ่งชื่อแรกที่เปิดหัวมาก่อนใครคือ ชาบี อลอนโซ่
ชาบี อลอนโซ่ อดีตนักเตะเก่าของพวกเขา ที่ตอนนั้นเป็นโค้ชของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น กำลังทำทีมบนเส้นทางไร้พ่าย โดยฝั่ง อลอนโซ่ นั้นเลือกที่จะคุมทีมห้างยาต่อไป และในตอนนั้นก็มีข่าวว่า สาเหตุหลัก ๆ ที่ อลอนโซ่ ไม่ตกลงกับ ลิเวอร์พูล ก็เพราะเขาต้องการไปเป็นกุนซือของ เรอัล มาดริด ที่กำลังจะว่างลงหลังจากสิ้นยุคของ คาร์โล อันเชล็อตติ ต่างหาก ... ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป อลอนโซ่ ก็ได้คุม เรอัล มาดริด จริง ๆ แบบที่หวัง
จากนั้นข่าวลือที่เกี่ยวกับ อลอนโซ่ ก็ดับไป เหลือเพียงคนเดียวที่นำมาโดด ๆ เดี่ยว ๆ คือ รูเบน อโมริม กุนซือหน่มชาวโปรตุกีส ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวท็อปของโค้ช Gen ใหม่เลยก็ว่าได้
ว่ากันว่ามันไม่ใช่ข่าวลือที่ไร้มูลความจริง นักข่าวดังหลายคน สำนักข่าวใหญ่หลายสำนักชี้ตรงกันว่าบอร์ดบริหารของสโมสรของ ลิเวอร์พูล ได้เข้าพูดคุยกับ รูเบน อโมริม แล้วด้วยซ้ำ ... หน้าประวัติศาสตร์ อาจจะเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ ทว่าที่สุดแล้ว เหตุผลบางประการทำให้ อโมริม กับ ลิเวอร์พูล ไม่ได้ลงรอยกัน
นาทีนั้นต้องให้เขา
รูเบน อโมริม ได้ชื่อว่าเป็นโค้ชที่มีผลงานโดดเด่นกับสปอร์ติ้ง ลิสบอน พาทีมคว้าแชมป์ลีกโปรตุเกส และยังสร้างทีมที่มีสไตล์การทำทีมที่น่าสนใจมากในเวลานั้น ทั้งเรื่องการเพรสซิ่ง การครองบอล และความยืดหยุ่นด้วยระบบการเล่น 3-4-2-1 อันเลื่องชื่อของเขา
ขณะที่ ลิเวอร์พูล มองหา "ตัวต่อ" ที่จะรักษามาตรฐานของ คล็อปป์ ทั้งในแง่สไตล์เกมบุกดุดัน ยิงประตูเยอะ, การเพรสซิ่งด้วยความบ้าระห่ำแบบวิ่งกันยกทีม, ความเข้าใจในการทำงานกับฟุตบอลดาวรุ่ง และการพัฒนาผู้เล่นเยาวชน ประวัติการทำงานของ อโมริม สมัยทำ สปอร์ติ้ง นั้นสวยหรูแบบนั้น ชนิดที่ว่าแม้แต่ ลิเวอร์พูล ก็ยังเชื่อว่าแนวทางของเขาเป็นแนวทางที่น่าสนใจ
ไม่ใช่แค่เรื่องของการทำทีมเท่านั้น คาแร็คเตอร์ของอโมริมในเวลานั้น ก็ถูกหลายคนชมมากมาย บ้างก็บอกว่าเขามีลูกบ้าและแพชชั่นที่เหมือนกับ เยอร์เก้น คล็อปป์ เป็นคนที่ลูกทีมเชื่อฟังเมื่ออยู่ในสนาม และเป็นเหมือนพ่อที่ปกครองในห้องแต่งตัว
"ผมชอบเขาในฐานะคน ๆ หนึ่ง, ผมชื่นชมเขาในฐาะโค้ช และผมคิดว่าเขามีความสามารถที่จะไปทำงานที่ลีกไหนก็ได้บนโลกนี้" นี่คือสิ่งที่ โชเซ่ มูรินโญ่ กล่าวถึง อโมริม ในเวลานั้น
ขณะที่ อเบล ซาเวียร์ อดีตนักเตะชาวโปรตุกีสของ ลิเวอร์พูล ก็ถึงขั้นออกโรงเชียร์ว่า "อโมริม เป็นกุนซือที่จัดการและรับมือกับลูกทีมได้มาก เป็นคนที่ยึดมั่นความเป็นทีมมาก่อนเป็นอย่างแรก ซึ่งเป็นสิ่งที่คล้ายกับที่ คล็อปป์ ทำไว้กับ ลิเวอร์พูล คาแร็คเตอร์ที่ยอดเยี่ยมของเขาจะทำให้นี่คือการเซ็นสัญญาครั้งสำคัญของทีมแน่นอน"
นี่คือตัวอย่างของ "ดีกรี" ของ อโมริม ผู้สร้างสปอร์ติ้ง ลิสบอน มาด้วยแนวทางและ 2 มือของเขา ... สิ่งที่ยืนยันความยอดเยี่ยมและเนื้อหอมของเขาก็คือ ในช่วงที่ อโมริม คุม สปอร์ติ้ง ลิสบอน นั้น ไม่ว่าทีมใหญ่ทีมไหนที่มีการเปลี่ยนโค้ช ชื่อของเขาจะเข้าไปเกี่ยวข้องเสมอ ไม่ว่าจะ บาร์เซโลน่า, เชลซี, สเปอร์ส และรวมถึง ลิเวอร์พูล เอง
ความสนใจจากลิเวอร์พูล ที่มีต่อ อโมริม ไปไกลแค่ไหน ? ... คำถามนี้ค่อนข้างตอบยาก แต่อย่างที่ได้กล่าวไว้ มันมากพอที่จะทำให้สโมสรเข้าคุยกับอโมริมโดยตรง และเคยสอบถามเรื่องการจ่ายค่าฉีกสัญญาในมูลค่า 10-12 ล้านยูโร แล้วด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าถ้าจะบอกว่าก่อนจะมาถึง อาร์เน่อ ชล็อต คนที่เข้าใกล้กับการเป็นตัวแทน คล็อปป์ ที่สุดก็คือ อโมริม นี่แหละ
ข้อดีของคนคิดเยอะ
แน่นอนว่าอย่างที่เราหลายคนรู้กัน แม้ข่าวลือจะบอกว่า หงส์แดง เข้าใกล้ อโมริม มากแค่ไหน แต่ที่สุดแล้วการเซ็นสัญญาก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริง และ อาร์เน่อ ชล็อต กลายเป็นม้าตีนปลายที่ชนะใจบอร์ดบริหารของ หงส์แดง ได้มากที่สุดจนได้งานนี้ไป ... คำถามคือทำไม อโมริม จึงไม่ถูกเลือก ?
อย่างที่ได้กล่าวเอาไว้ข้างต้น แม้เจ้าของ ลิเวอร์พูล จะเป็นนักลงทุนชาวอเมริกันที่ไม่ได้รู้เรื่องฟุตบอลมากนัก แต่การที่พวกเขาจ้างคนทำงานในสาขาต่าง ๆ โดยเฉพาะทีมบริหารเรื่องฟุตบอล และผู้อำนวยการกีฬา ที่ขนาดเลือกซื้อนักเตะสักคนยังต้องตามดูฟอร์มกันเป็นปี ๆ ดังนั้นการที่จะตั้งใครสักคนขึ้นมาเป็นเฮดโค้ช เป็นหัวเรือใหญ่ และเป็นหน้าเป็นตาเช่นนี้ พวกเขายิ่งต้องคิดหนัก คิดเยอะ และพิถีพิถันยิ่งกว่าเดิม
ว่ากันว่าขั้นตอนการสัมภาษณ์แบบลึกถึงกี๋น ทำให้ อโมริม กระเด็นออกจากตำแหน่งตัวแทน คล็อปป์ จากเหตุผลหลากหลายข้อ ทั้งเรื่องของแท็คติก ระบบการเล่น เรื่องนี้ถูกระบุภายหลังว่า การที่ อโมริม ยึดมั่นในระบบ 3-4-2-1 ของเขานั้น เป็นอะไรที่แตกต่างจากแนวทางเดิมของ คล็อปป์ มากเกินไป
การปรับระบบการเล่นสำหรับทีมหงส์แดงถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะพวกเขาจะต้องเปลี่ยนมาใช้แผนการเล่นเดียวกันทุกชุด ตั้งแต่ชุดเยาวชน ชุดสำรอง จนถึงชุดใหญ่ เพื่อความเข้าใจและความต่อเนื่องของการส่งนักเตะขึ้นไปทดสอบในระดับที่สูง เหนือสิ่งอื่นใดคือ ลิเวอร์พูล ไม่ต้องการโค้ชคนที่จะเข้ามาและปรับปรุงแบบรื้อใหม่ ซึ่งระบบของ อโมริม นั้นอาจจะนำมาซึ่งการซื้อนักเตะอีกหลายคนเข้า หรือรวมถึงการขายนักเตะหลายคนออกไปด้วย
สำหรับ ลิเวอร์พูล การจะให้โอกาสโค้ชหนุ่มที่ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองในลีกใหญ่ เป็นความเสี่ยงสูงมาก และอาจจะเสี่ยงเกินไปหากทีมทุ่มงบประมาณการเสริมทัพเพื่อให้ตอบสนองปรัชญาการเล่นที่ยังไม่มีอะไรการันตีวาจะประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ยังมีเรื่องปรัชญาการทำทีมในระยะยาว, การทำงานร่วมกับส่วนอื่น ๆ ตามปัจจัยโครงสร้างภายในของสโมสร
รวมไปถึงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ยิบย่อยที่หลุดออกมาเป็นข่าวลือ เช่น เรื่องค่าชดเชยที่ลือว่า มีการต่อราคาจาก 10 ล้านยูโร ขึ้นมาเป็น 20 ล้านยูโร ซึ่งทางบอร์ดบริหารของหงส์แดงคิดว่าสูงเกินความจำเป็น
ทั้งหมดนี้ทำให้ชื่อของ อโมริม ถูกขีดทิ้งไป และฝั่งหงส์แดงก็ไม่ได้คุยกับเขาคนเดียวเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าในลิสต์ของคนที่พร้อมเข้ามาใหม่ และพร้อมใช้ระบบการเล่นที่คล้ายกับ คล็อปป์ การเปลี่ยนโครงสร้างโดยรวมของทีมให้น้อยที่สุด แถมยังไม่มีปัญหาเรื่องการเสริมทัพที่มากเกินควร ... คนนั้น ๆ ก็คือ อาร์เน่อ ชล็อต ที่เคยคุม เฟเยนูร์ด มาก่อน
หากจะว่ากันเรื่องดีกรีความดัง ชล็อต ยังเป็นที่รู้จักน้อยกว่า อโมริม ด้วยซ้ำในเวลานั้น แต่ด้วยเหตุผลที่เขาพร้อมรับข้อเสนอ และตอบโจทย์ทุกข้อที่ ลิเวอร์พูล เรียกร้อง ที่สุดแล้ว ลิเวอร์พูล จึงได้ ชล็อต มาคุมทีม และเพียงปีเดียวพวกเขาก็คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้สำเร็จ โดยที่เสริมทัพด้วยนักเตะแค่รายเดียวเท่านั้น (เฟเดริโก้ เคียซ่า)
ที่สุดแล้ว อโมริม จะเป็นเต็งจ๋าสำหรับ ลิเวอร์พูล ในเวลานั้นแค่ไหนก็ไม่สำคัญ ... เพราะที่สุดแล้วเมื่อถึงคราวต้องเลือก พวกเขาคิดอย่างถี่ถ้วน ละเอียดในแทบทุกมิติ ก่อนจะลงมือตัดสินใจเพื่อให้ได้คนที่เหมาะกับสิ่งที่สโมสรเป็น ซึ่งที่สุดแล้ว พวกเขาก็เจอคนที่ใช่ และต่อติดกับทีมทันทีอย่าง ชล็อต
ไม่ใช่ว่า อโมริม ไม่เก่งหรือไร้ฝีมือ แต่มันคือเรื่องของแนวทางที่แตกต่างกันเป็นหลักใหญ่ใจความสำคัญ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วทำให้ทั้งสองฝ่ายคลาดกัน และ รูเบน อโมริม เป็นกุนซือของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเวลานี้
ไม่มีใครรู้ว่าถ้าวันนั้น ลิเวอร์พูล และ อโมริม ตกลงกันได้ วันนี้จะเป็นอย่างไร ? ... ปล่อยให้คำถามนี้เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบต่อไป มันคงเป็นวิธีที่คลาสสิกและง่ายที่สุดแล้ว
แหล่งอ้างอิง
https://www.liverpoolecho.co.uk/sport/football/football-news/liverpool-ruben-amorim-man-utd-30251564
https://www.reddit.com/r/LiverpoolFC/comments/1cg1cez/why_amorim_lost_out_on_liverpool_job_to_slot_espn/?rdt=34023
https://www.thisisanfield.com/2024/10/why-liverpool-turned-down-ruben-amorim-before-man-united-manager-talks/
https://www.manchestereveningnews.co.uk/sport/football/football-news/man-utd-ruben-amorim-liverpool-30252768
https://www.liverpool.com/liverpool-fc-news/features/liverpool-ruben-amorim-manutd-pressure-30247140
