ในบ้านหลังหนึ่งที่ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นัดเจอกับ อลัน เชียเรอร์ ดาวยิงตีนระเบิดของ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส มาพูดคุยกันเพื่อโน้มน้าวให้เจ้าของฉายา "ฮอตช็อต" เลือกย้ายซบ ปีศาจแดง
"ข้าถามเอ็งจริง ๆ เถอะว่ะ เอ็งมาคุยกับข้าคนแรก หรือเอ็งไปเจอกับไอ้ เควิน คีแกน (กุนซือ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด) มาก่อนแล้ว ?" ป๋าถาม ก่อนที่เชียเรอร์จะตอบตามตรงว่า "ผมไปเจอ เควิน มาตั้งแต่เช้าแล้วครับ"
"แ**งเอ้ย ไอ้สารเลว" ... นี่คือเรื่องราวดีลระดับตำนานที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุค 1990s แย่งนักเตะกับ นิวคาสเซิ่ล ทีมระดับกลาง ๆ ที่ได้ใจ
เราเชื่อว่าหลายคนรู้ตอนจบ ... แต่ระหว่างทางก่อนถึงตอนจบนี่แหละ มีหลายเรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ติดตามกับ Main Stand
กูรักของกูมาตั้งนาน
แฟนฟุตบอลในช่วงยุคปี 1990s จะรู้กันดีว่า อลัน เชียเรอร์ คือกองหน้าที่ยอดเยี่ยมขนาดไหน เขาไม่ได้ตัวใหญ่ ไม่ได้รวดเร็วมาก แต่ทักษะการยิงบอลของเขาทรงพลังเหลือเชื่อทั้งเท้าซ้ายและเท้าขวา ส่วนเรื่องสัญชาตญาณดาวยิงนั้น ก็ต้องยกให้เป็นของท็อปขึ้นห้างได้อย่างไม่เกินเลย
และการซื้อยอดกองหน้า คือสิ่งที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โปรดปรานมาโดยตลอด กองหน้าดี ๆ ที่ยิงประตูเก่ง ๆ และมีคาแร็คเตอร์ของผู้ชนะ คือ "โมเดลต้นแบบ" ที่ เฟอร์กี้ จะเลือกนำมาใส่ให้กับทีมของเขาเสมอ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมชีวิตกุนซือของเขาจึงผูกติดกับ อลัน เชียเรอร์ มากว่า 20 ปี
ย้อนกลับไปในปี 1988 อลัน เชียเรอร์ ที่เป็นเด็กปั้นของสโมสร เซาธ์แฮมป์ตัน ถูกดันขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ และจากนั้นพัฒนาการของเขาก็ชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ สถิติการยิงประตูขยับมากขึ้นในทุก ๆ ปี จาก 0 เป็น 5 ... และปีต่อมาก็เพิ่มเป็น 14 และ 21 ประตูตามลำดับ
ลีลาของ เชียเรอร์ นั้นไม่ได้มากมายอะไร เขาเป็นกองหน้าแบบอังกฤษของแท้ แม้จะตัวสูงแค่ 183 เซนติเมตร แต่การพักบอล การเล่นร่วมกับเพื่อน และการเข้าชาร์จในกรอบเขตโทษทุกรูปแบบ คือของถนัดที่หาตัวเปรียบยาก นั่นทำให้ เฟอร์กี้ ในตอนนั้น ที่กำลังหากองหน้ามาเติมคมให้กับทีมปีศาจแดงในยุคที่สร้างทีมขึ้นมาใหม่ พยายามจะคว้าตัวเขาให้ได้ แต่มันก็เหลือเชื่อที่ เชียเรอร์ กลับเลือกทีมอย่าง แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ก่อน แมนฯ ยูไนเต็ด
การที่ เชียเรอร์ เลือกไปอยู่กับ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ซึ่งเพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 1992-93 ซีซั่นแรกที่มีการรีแบรนด์จาก ดิวิชั่น 1 เดิม เรื่องนี้จึงกลายเป็นตำนาน และคำถามที่แฟนบอลยังพูดถึงจนถึงทุกวันนี้ว่า "ทำไมถึงไม่เลือกแมนฯ ยูไนเต็ด ?"
เหตุผลที่หลายคนไม่รู้คือ แม้ แบล็กเบิร์น จะเป็นทีมน้องใหม่ แต่ตอนนั้นพวกเขาเพิ่งได้มหาเศรษฐีคนท้องถิ่นอย่าง แจ็ค วอล์คเกอร์ เข้ามาบริหารทีม โดยตั้งนโยบายสั้น ๆ เข้าใจง่าย ๆ ว่า "จะทำทุกอย่างเพื่อพาแบล็กเบิร์นเป็นแชมป์ลีกอังกฤษ" แล้วเขาก็ทำจริง ๆ ด้วยการจ่ายเงินค่าตัวเชียเรอร์ ในราคา 3.6 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นสถิติของเกาะอังกฤษในเวลานั้น
นอกจากนี้สิ่งที่ เชียเรอร์ พิจารณาเลือก แบล็กเบิร์น เหนือ ยูไนเต็ด ก็คือ "เขาอยากจะเล่นเป็นตัวจริงทันที" ซึ่ง แบล็กเบิร์น ขายโปรเจ็กต์นี้กับเขา ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเวลานั้นกลับให้ไม่ได้เพราะ เฟอร์กี้ ก็มีลูกศิษย์ก้นกุฏิอย่าง มาร์ค ฮิวจ์ส ที่ถือเป็นตัวท็อปของยุคนั้น และ ไบรอัน แม็คแคลร์ คอยประจำการอยู่แล้ว
ขณะที่กุนซือของ แบล็กเบิร์น ในเวลานั้นอย่าง เคนนี่ ดัลกลิช ตำนานนักเตะและกุนซือของ ลิเวอร์พูล ก็เป็นไอดอลของ เชียเรอร์ ด้วย เขาเคารพและศรัทธาในดัลกลิชมาก และหากจะว่ากันในช่วงปี 1992 ดัลกลิช ถือเป็นกุนซือเบอร์ใหญ่กว่า เฟอร์กี้ ด้วยซ้ำ (ยุคสมัยของ เฟอร์กี้ เบ่งบานสุด ๆ หลังปี 1992 เป็นต้นไป) การได้เล่นให้กับ ดัลกลิช ทำให้ เชียเรอร์ ยอมรับว่าเป็น "หนึ่งในเหตุผลหลัก" ที่ทำให้เขาเลือกย้ายไปแบล็กเบิร์น ซึ่งเป็นทีมที่ให้ทั้งโอกาส, เงิน, และการสนับสนุนอย่างสุดตัว
"ผมได้พบกับทั้ง เซอร์ อเล็กซ์ และ เคนนี่ ดัลกลิช ในสัปดาห์เดียวกัน ... และมันก็ชัดเจนมากว่าใครมองผมเป็นศูนย์กลางของแผนระยะยาว" เขาให้สัมภาษณ์กับ BBC
และนั่นคือครั้งแรกที่ เชียเรอร์ หักอกเฟอร์กี้ ... ไม่เพียงเท่านั้น เรื่องนี้มีภาค 2 ให้ติดตามต่อ
ยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็แพ้ "สาลิกา" ลิ้นทอง
การเลือก แบล็กเบิร์น ของ เชียเรอร์ ในปี 1992 อาจจะไม่ได้ทำให้ เฟอร์กี้ เจ็บปวดมากนัก เพราะหลังจากพลาด เชียเรอร์ ไป เฟอร์กี้ ก็ได้นักเตะที่พลิกประวัติศาสตร์สโมสรอย่าง เอริค คันโตน่า จาก ลีดส์ ยูไนเต็ด เข้ามาทำหน้าที่แทน ขณะที่ตัวของ เชียเรอร์ เองก็บอกเองว่าไม่มีอะไรต้องเสียดาย เพราะการเล่นให้ แบล็กเบิร์น ทำให้เขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้สำเร็จ และกลายเป็นตำนานของทีมจากความสำเร็จที่เขาเลือกเส้นทางของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม รอบของเวลาก็หมดลงอย่างรวดเร็ว หลังจาก เคนนี่ ดัลกลิช พา แบล็กเบิร์น คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 1994-95 ก็ถึงเวลาขาลงของพวกเขา เพราะหลังจากคว้าแชมป์ สโมสรเริ่มถดถอยในฤดูกาลต่อมา (1995-96) จบเพียงอันดับ 7 เท่านั้น ขณะเดียวกัน ดัลกลิช ก็ขยับขึ้นไปเป็นผู้อำนวยการกีฬา และแต่งตั้ง เรย์ ฮาร์ฟอร์ด คุมทีมแทน ซึ่งทำให้ทีมเสียความต่อเนื่อง มาถึงจุดนี้ แบล็กเบิร์น เริ่มไม่สามารถตอบสนองความทะเยอทะยานของเชียเรอร์ได้อีกต่อไป และนั่นทำให้ ฮอตช็อต ย้ายทีมอีกครั้ง
หนนี้เป็นอีกครั้งที่ เฟอร์กี้ รู้ข่าวก่อนใคร และก็เป็นอีกครั้งที่ ยูไนเต็ด ไม่ใช่ทีมเดียวที่อยากจะได้ตัว เชียเรอร์ โดยหนนี้เป็น นิวคาสเซิ่ล ที่เข้ามาร่วมล่าตัว เชียเรอร์ ด้วย
ว่ากันตามตรง หนนี้ ปีศาจแดง เครดิตดีกว่าเยอะ พวกเขากวาดแชมป์ลีกมาหลายหน โครงสร้างทีมดีมาก ทั้งในสนาม ที่เต็มไปด้วยนักเตะดี ๆ อายุน้อย ๆ จาก คลาส ออฟ '92 ที่เติบโตขึ้นมาขับเคลื่อนทีมได้แล้ว ขณะที่นอกสนาม พวกเขาเป็นทีมที่ลุยเรื่องการตลาดระดับโลกเป็นทีมแรกของพรีเมียร์ลีก และนั่นทำให้ทีมมีงบประมาณมหาศาล
กองหน้าที่เก่งที่สุด กับทีมที่เก่งที่สุด จะมีอะไรเหมาะสมกันไปกว่านี้อีก ? ... คำตอบคือ "มี" และทีมที่เอาชนะ ยูไนเต็ด หนนี้ก็เป็นทีมที่เล็กกว่าในทุกมิติอย่าง นิวคาสเซิ่ล
เรื่องที่หลายคนไม่รู้คึอ เดิมที อลัน เชียเรอร์ ก็คิดแบบเรา ๆ นี่แหละที่บอกว่า ยูไนเต็ด เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับอาชีพของเขามากกว่า ... แต่นั่นก็เป็นความรู้สึกเพียงวูบเดียวเท่านั้น
"มีอยู่วูบหนึ่งของความรู้สึกที่ผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมตัดสินใจได้แล้วว่าผมจะไปเล่นให้กับ ยูไนเต็ด ... ผมกลับบ้านและพูดกับคนที่บ้านแบบนั้น บอกว่าเราจะซื้อบ้านของ แกรม ซูเนสส์ และเริ่มชีวิตใหม่ที่แมนเชสเตอร์"
"ผมและภรรยาเราพร้อมแล้วกับการตัดสินใจที่ผมคิดว่าเด็ดขาด แต่หลังจากนั้นไม่นานนัก ผมก็ได้รับสายจาก เควิน คีแกน (กุนซือ นิวคาสเซิล) และเขาบอกว่า หนนี้เขาจะขอคุยแบบจริงจังเปิดใจทุกอย่าง เขาขอเวลาผม 1 ชั่วโมง ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งชั่วโมงที่ผมได้คำตอบใหม่ หนนี้ผมบอกกับภรรยาผมว่า เก็บกระเป๋าได้เลย เราจะกลับบ้านที่นิวคาสเซิลกัน" ... การเปลี่ยนใจนี้เกิดขึ้นได้อย่างเหลือเชื่อ 1 ชั่วโมงนั้นมันเปลี่ยนใจเขาได้อย่างไร ?
อันที่จริง นิวคาสเซิ่ล คือทีมที่อยู่ในหัวใจของ เชียเรอร์ มาโดยตลอด เขาเกิดที่ไทน์ไซด์ เมืองนิวคาสเซิ่ล เป็นแฟนตัวยงของทีมสาลิกาดงตั้งแต่ยังเด็ก และเขามีความทรงจำมากมายกับสโมสรแห่งนี้ ทั้งการไปดูฟุตบอลกับพ่อที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค ไปจนถึงการเล่าความฝันกันตามประสาพ่อลูกที่บอกว่าวันหนึ่งเขาจะสวมเสื้อหมายเลข 9 ของทีมและเป็นดาวซัลโวและพาทีมนิวคาสเซิ่ลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
ส่วนที่ว่ากันว่า นิวคาสเซิล ทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อคว้าตัว เชียเรอร์ นั้นก็ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า เงินเป็นเหตุผลสำคัญในการปฏิเสธ ยูไนเต็ด เรื่องนี้ยืนยันจาก มาร์ติน เอ็ดเวิร์ดส์ ประธานสโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด ในเวลานั้น ที่ได้บอกว่า มันไม่ใช่เรื่องเงิน มันเป็นเรื่องของการเติมเต็มความฝัน และการมี "ผู้ปกครองนอกไส้" ที่เป็นคนที่มีอิทธิพล ทำให้ เชียเรอร์ เลือก นิวคาสเซิล
"ผู้ปกครองนอกไส้" นี้ว่ากันว่ามีอยู่ 3 คน คนแรกคือ คีแกน ที่เข้าหา เชียเรอร์ แบบถูกจริตและซื้อใจเขาได้สำเร็จ ส่วนคนที่ 2 คือ แจ็ค วอล์คเกอร์ ประธานของ แบล็กเบิร์น ที่ไม่อยากให้ เชียเรอร์ ย้ายไปอยู่กับ ยูไนเต็ด เพราะถือว่าเป็นการเติมเขี้ยวเล็บให้กับทีมของ เฟอร์กี้ ที่เดิมทีก็ถือว่าเป็นทีมระดับท็อปของยุคสมัยนั้นอยู่แล้วให้โหดขึ้นไปอีก และมันจะเป็นเรื่องยากที่ทีมอื่นจะขึ้นมาต่อกร
คนสุดท้ายที่เป็นผู้ปกครองนอกไส้ที่ เชียเรอร์ ให้ความเคารพก็คือ เซอร์ จอห์น ฮอลล์ ประธานของ นิวคาสเซิ่ล ในเวลานั้น ที่ได้คุยกับ เชียเรอร์ โดยตรง และบอกว่าเราจะสร้างทีมโดยมีคุณเป็นศูนย์กลาง และจะสนับสนุนทุก ๆ อย่างที่คุณต้องการ เพราะคุณคือชาวเมืองนิวคาสเซิ่ล คุณคือพวกเดียวกันกับพวกเรา ... และนั่นคือเรื่องราวการหักอก เฟอร์กี้ ครั้งที่ 2 ของ เชียเรอร์ ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติโลก ณ ปี 1996
สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว ... สิ่งนั้นดีเสมอ
เรื่องราวเหล่านี้ไม่ได้มีการเปิดเผยมากนักในช่วงยุค 1990s ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่เอามาเล่ากันย้อนหลังในวันที่ผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมดวางมือจากวงการฟุตบอลแล้ว ซึ่งนั่นก็ดี เพราะทำให้เราได้อีกรสชาติและมุมมองหนึ่ง ซึ่งมันเป็นมุมมองของคนที่โตแล้ว และมองโลกอย่างเข้าใจ
เฟอร์กี้ เล่าเรื่องนี้ผ่านไดอารี่ของเขาที่ชื่อว่า A Will to Win เอาไว้ว่า "ผมเชื่อมั่นว่าผมจะเซ็นสัญญาเชียเรอร์ได้แน่นอน ผมคิดว่าเขาไม่มีข้อกังวลอะไร เขาจะได้เสื้อหมายเลข 9 ของทีม และสิทธิ์ในการเป็นมือยิงจุดโทษอันดับ 1 ของ เอริค คันโตน่า ... ถ้านั่นคือสิ่งที่กังวล เราจะจัดการให้เขาเอง เราน่าจะได้ตัวเขามา นั่นคือสิ่งที่ผมคิด"
ความเป็นจริงก็อย่างที่เรารู้กัน เชียเรอร์ กลายเป็นตำนานของ นิวคาสเซิ่ล แม้จะไม่มีถ้วยแชมป์ แต่ทุกครั้งที่ทุกคนพยายามจะถามเขาว่า "คุณคิดถูกหรือไม่ที่เลือก นิวคาสเซิ่ล แทนที่จะเป็น แมนฯ ยูไนต็ด เพราะที่นั่นจะทำให้คุณมีความสำเร็จในอาชีพที่แตกต่างออกไป ?" เชียเรอร์ จะตอบในลักษณะการปฎิเสธว่า "ไม่" ในทุก ๆ ครั้งที่เขาโดนถาม
"ผมไม่เคยเสียดายที่ไม่เลือก แมนฯ ยูไนเต็ด และผมโดนถามคำถามนี้มาเป็นพัน ๆ รอบ ซึ่งผมก็ตอบแบบนี้ทุกครั้ง และผมก็ไม่สนใจด้วยว่าผู้คนที่ได้ยินคำตอบของผมจะเชื่อหรือไม่" เชียเรอร์ กล่าวหลังจากที่เขาแขวนสตั๊ด
"ผมจะพูดอีกครั้งว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมก็จะตัดสินใจเหมือนเดิม ผมมี 10 ปีที่เหลือเชื่อที่นิวคาสเซิล ที่นั่นคือที่ที่ผมพูดว่า 'สโมสรของผม' ได้อย่างเต็มปาก ดังนั้นการได้ยิงประตูที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค คือความฝันของผม ผมจารึกทุกอย่างที่ผมสามารถทำได้ตลอดเอาชีพเอาไว้ที่นั่น ทั้งเรื่องสถิติตัวเลขการยิงประตู ผมมีรูปปั้นของตัวเอง .. ผมมีทุกอย่างที่ผมต้องการที่นิวคาสเซิล และผมจะไม่ยอมแลกสิ่งที่ผมมีกับสิ่งใด ๆ ในโลกทั้งนั้น" เชียเรอร์ กล่าวอย่างเด็ดขาด
ขณะที่ เฟอร์กี้ แม้จะเจ็บปวดและผิดหวังที่ไม่สามารถคว้าตัวนักเตะที่เขาชอบที่สุดในตำแหน่งกองหน้าได้ถึง 3 ครั้ง (ว่ากันว่า มีการพยายามจะซื้อ เชียเรอร์ อีกครั้งตอนอยู่ นิวคาสเซิ่ล) แต่ เฟอร์กี้ ก็ยอมรับในภายหลังว่า ทุกอย่างมันถูกต้องแล้วที่เป็นแบบนี้ การเลือก นิวคาสเซิ่ล คือคำตอบที่ถูกต้องที่สุดสำหรับยอดดาวยิงที่ชื่อว่า อลัน เชียเรอร์ อย่างแท้จริง
"ผมไม่มีคำพูดที่ดีพอจะพูดถึงนักเตะอย่าง เชียเรอร์ นี่คือนักเตะที่มีความมุ่งมั่นและพลังใจล้นเหลือมาก เขาบาดเจ็บในอาชีพหลายครั้ง แต่ทุกครั้ง เขาพยายามรักษา และกลับมายิงประตูถล่มทลายได้เสมอ ... ถ้าคุณจะถามผมว่า เขาเลือกผิดหรือไม่ที่ไม่มาเป็นนักเตะของผม ผมคิดว่าประวัติศาสตร์ได้ให้คำตอบนี้แล้ว และมันเป็นคำตอบเดียวกับที่ผมอยากจะตอบ นั่นคือ อลัน เชียเรอร์ คิดถูกแล้วที่เลือกเล่นให้กับ นิวคาสเซิ่ล" เฟอร์กี้ กล่าวเรื่องนี้ทิ้งท้าย
ทั้ง ยูไนเต็ด ของ เฟอร์กี้ และ อลัน เชียเรอร์ กับอาชีพที่ นิวคาสเซิ่ล ต่างก็ประสบความสำเร็จในแบบของตน คนภายนอกอาจจะมองว่า เชียเรอร์ ควรจะได้สิ่งที่ดีกว่านี้ ทว่าสิ่งที่ดีที่สุดของชีวิตคนเราก็คือ การได้รู้ว่าตัวเองรักอะไร ชอบอะไร และสิ่งไหนให้ความสุขกับเราได้มากที่สุด
เขาเลือก นิวคาสเซิ่ล และอย่างที่ เฟอร์กี้ ได้บอกไปในข้างต้น ประวัติศาสตร์ถูกพิสูจน์แล้วว่านั่นคือทางเลือกที่ดีที่สุดของเขา สุดยอดดาวยิงแห่งยุคที่ยากจะหาตัวแทนของวงการฟุตบอลอังกฤษ "ฮ็อตช็อต" อลัน เชียเรอร์
แหล่งอ้างอิง
https://www.skysports.com/football/news/2369668/shearer-no-united-regrets
https://talkofthedevils.co.uk/2025/08/05/mythbusting-alan-shearer-agreed-to-join-manchester-united-and-never-rejected-them-to-sign-for-newcastle/
https://www.sportsjoe.ie/football/alan-shearer-man-united-137764
https://www.givemesport.com/i-rejected-man-utd-twice-five-years-cant-stand-them-alan-shearer/
https://talksport.com/football/3015552/alan-shearer-secret-man-united-newcastle-meeting-sir-alex-ferguson/