ทันทีที่ข้อตกลงบรรลุ และ โนนี่ มาดูเอเก้ กำลังจะกลายเป็นนักเตะใหม่ของ อาร์เซน่อล ... แฟนบอลปืนใหญ่เกินครึ่ง ตั้งข้อสงสัยกับดีลนี้ไม่แง่มุมใดก็แง่มุมหนึ่ง ถึงขั้นมีการขึ้นแฮชแท็ก #NoToMadueke
ภายใต้ความสงสัยมากมายที่เกิดขึ้น มีเหตุผลอะไรที่ปีกขวาถนัดเท้าซ้ายวัย 23 ปีรายนี้ เป็นนักเตะที่ มิเกล อาร์เตต้า อยากได้ตัวมาร่วมทีม ? ติดตามกับ Main Stand
หลายเหตุผลที่โดนยี้
อาร์เซน่อล มีปีกขวาถนัดเท้าซ้ายที่ถือว่าเป็นตัวท็อปของลีก ณ ปัจจุบันอย่าง บูกาโย่ ซาก้า ซึ่งเป็นคนที่อยู่ในสถานะได้ออกสตาร์ทตัวจริงทุกนัด หากไม่เจ็บหรือไม่แบน
ปีกอย่าง ซาก้า รวดเร็ว คล่องแคล่ว ทักษะยอดเยี่ยม เปิดบอลดี และยิงประตูได้ ดังนั้นมันจึงเป็นเหตุผลที่แฟนบอล อาร์เซน่อล มองว่า "แล้วทีมจะทุ่มเงิน 50 ล้านปอนด์เพื่อซื้อ มาดูเอเก้ ไปเพื่ออะไร ?" นี่คือราคาที่ถือว่าแพงมากสำหรับนักเตะตัวสำรอง และผลงานของ มาดูเอเก้ ก็ไม่ได้เด่นชัดมากนักกับ เชลซี ในซีซั่น 2024-25 ที่ผ่านมา
ว่ากันว่าสาเหตุของความไม่พอใจและตั้งข้อสงสัยของแฟนบอลปืนใหญ่ เกิดจากความเบื่อหน่ายกับการซื้อนักเตะจาก เชลซี ที่นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นักเตะเหล่านี้มักทำผลงานได้ไม่ดีนัก ไล่เรียงกันมาตั้งแต่ วิลเลี่ยม กัลลาส หรือแม้กระทั่ง วิลเลี่ยน และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
นอกจากนี้ ความเห็นของแฟนบอลในโซเชี่ยลมีเดียยังแสดงให้เห็นว่า นอกจากราคาที่สูงเกินไปแล้ว ยังมีเรื่องความกังวลว่า การมาของ มาดูเอเก้ อาจจะกระทบต่อพัฒนาการของ อีธาน วาเนรี่ ดาวรุ่งพุ่งแรงที่เป็น "สตาร์บอย" ขวัญใจแฟน ๆ ซึ่งเจ้าตัวก็กำลังเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรอยู่ ที่น่าเป็นห่วงก็คือ เชลซี เองก็มีข่าวว่าสนใจตัว วาเนรี่ ไปในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
แน่นอนว่ามันไม่ใช่ความผิดของ มาดูเอเก้ แต่เขาก็ต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองกับความสงสัยที่เกิดขึ้น เพราะก็ต้องยอมรับว่าตั้งแต่เขาย้ายมาอยู่กับ เชลซี ด้วยราคา 30 ล้านปอนด์เมื่อ 2 ปีก่อน มาดูเอเก้ ลงเล่นไป 67 เกมพรีเมียร์ลีก ทำไป 13 ประตูและอีก 5 แอสซิสต์ ก็เป็นตัวเลขที่ไม่ได้โดดเด่นชัดเจนมากนัก
ยิ่งฟอร์มในช่วงหลังของเจ้าตัว ก็ต้องบอกว่าดูตก ๆ ลงไปพอสมควร เนื่องจากหากนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2025 จนถึงปัจจุบัน มาดูเอเก้ ยิงได้เพียงแค่ 3 ประตูและ 1 แอสซิสต์เท่านั้น (ทั้ง 3 ประตูเกิดขึ้นในรายการ คอนเฟอเรนซ์ลีก) มันยิ่งชวนให้แฟน อาร์เซน่อล คิดว่า จะดีกว่าไหมถ้าพวกเขาแบ่งเงินจากดีลนี้ไปใช้จัดการดีลกองหน้าเบอร์ 9 ที่เป็นปัญหาของทีมมานานอย่าง วิคตอร์ เยอเคเรส จาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ให้เรียบร้อย
คำถามสำคัญมันอยู่ที่ว่า จากสถิติที่ไม่ได้สวยหรูและราคาที่แพงเอาเรื่อง อาร์เซน่อล และ มิเกล อาร์เตต้า เห็นอะไรในตัวมาดูเอเก้ จึงปิดดีลอย่างรวดเร็วหลังมีข่าวเพียงไม่ถึง 2 สัปดาห์ ?
มองอย่างอื่นนอกจากสถิติ
คำตอบของคำถามที่แฟนอาร์เซน่อลหลายคนตั้งขึ้นมา อาจไม่ได้มาจากสถิติการยิงหรือการแอสซิสต์ แต่มันอาจจะมีสถิติบางอย่างที่น่าสนใจมากกว่านั้น
สถิติของ มาดูเอเก้ จากการเก็บข้อมูลของ Opta หน่วยงานเก็บสถิติที่ละเอียดที่สุดในโลกฟุตบอลระบุว่า มาดูเอเก้ เป็นนักเตะที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นและสถิติลึก ๆ ของเขาสูงกว่าปีกตัวท็อปของพรีเมียร์ลีกบางคนด้วยซ้ำ
ยกตัวอย่างเช่น สถิติที่บอกว่า มาดูเอเก้ เป็นนักเตะที่สามารถพาบอลขึ้นไปข้างหน้าและสร้างโอกาสยิงประตูได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดยค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1.63 ครั้ง มากกว่าปีกของ อาร์เซน่อล อย่าง ซาก้า (1.3 ครั้ง) และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (0.7 ครั้ง)
ขณะที่หากนับเฉพาะพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่แล้ว มาดูเอเก้ เป็นปีกที่หาจังหวะง้างเท้ายิงประตูได้มากถึง 3.52 ครั้งต่อเกม ซึ่งเป็นสถิติที่มากกว่าปีกของ เชลซี และ อาร์เซน่อล ทุกคน แม้แต่ ซาก้า ที่ขึ้นชื่อเรื่องการตัดเข้าซ้ายและยิงประตู ก็ยังมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.42 ครั้ง
และอีกหนึ่งสถิติที่น่าสนใจมาก ๆ ที่คาดเดาได้ว่าทีมนักวิเคราะห์ของ อาร์เซน่อล อาจจะมองเห็นจากตัว มาดูเอเก้ ก็คือเขาเป็นนักเตะเกมรุกที่มีสถิติการแย่งบอลต่อเกมได้ดีมาก ๆ อยู่ที่ 3.7 ครั้งต่อเกม มากกว่า ซาก้า (3.63 ครั้ง) และ มาร์ติเนลลี่ (3.05 ครั้ง) อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นปัญหาของ มาดูเอเก้ คือ ต่อให้เขาจะเลี้ยงบอลกินแดนได้ดีที่สุด เลี้ยงบอลเข้าไปหาจังหวะยิงประตูได้ดีที่สุด และเป็นคนที่มีโอกาสยิงต่อเกมมากที่สุด แต่ปัญหาของเขาคือสิ่งที่ทุกคนเห็นด้วยตาตัวเอง ไม่ต้องพึ่งสถิติ นั่นคือจังหวะสุดท้ายของเขานี่แหละ
เพราะจากโอกาสมากมายที่ มาดูเอเก้ ทำได้ กลับต้องมาตายตอนจบเพราะการตัดสินใจสุดท้ายของเขา หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นนักเตะประเภท "จังหวะนรก" จังหวะจะยิงเลือกจ่าย จังหวะควรจ่ายเลือกยิง ... ซึ่งมันอาจจะทำให้แฟนอาร์เซน่อลกลัวว่า มันอาจจะซ้ำรอยกับนักเตะอย่าง สเตอร์ลิ่ง ที่ทีมยืมตัวมาจาก เชลซี ในซีซั่นที่แล้ว แต่กลับไม่มีส่วนช่วยให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นเลย
การเล่นจังหวะสุดท้าย คือสิ่งที่น่าเป็นห่วงของ มาดูเอเก้ แต่อย่างไรเสีย การเอาบรรทัดฐานของ สเตอร์ลิ่ง มาเทียบกับเขาก็เป็นอะไรที่น่าเห็นใจ แม้ทั้งคู่จะเป็นตัวริมเส้นเหมือนกัน แต่สิ่งที่แตกต่างคือช่วงอายุ และศักยภาพในการพัฒนา (Potential) ของทั้ง 2 คน
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ผ่านช่วงพีกและเดินทางสู่ขาลงนับตั้งแต่ย้ายออกจาก แมนฯ ซิตี้ เมื่อปี 2022 แล้ว และนับวันก็ยิ่งถดถอย เพราะปีกสายที่ต้องพึ่งความเร็วเป็นพิเศษอย่าง สเตอร์ลิ่ง เมื่ออายุเข้าเลขสาม (30 ปี) คุณไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่ามันมีผลต่อจุดแข็งหรือคุณสมบัติพิเศษของเขา ยิ่งต้องมาเล่นกับทีมที่ขึงคู่แข่งในแดน และบี้เอาบอลคืนอย่าง อาร์เซน่อล ไม่แปลกเลยที่ สเตอร์ลิ่ง จะล้มเหลวในซีซั่นที่ผ่านมา จากการยิงได้ 0 ประตู ทำไปแค่ 2 แอสซิสต์เท่านั้น
กลับมาดูที่ มาดูเอเก้ กันอีกสักที ในวัย 23 ปี ร่างกายของเขายังแข็งแรง รวดเร็ว และเป็นช่วงวัยที่พัฒนาได้อีกมาก ถ้าเขาพัฒนาจุดแข็งของตัวเองเรื่องการเลี้ยงบอลเพื่อมีจุดมุ่งหมายที่การลุ้นประตูให้ดีขึ้นอีก ที่สำคัญที่สุดคือถ้าเขาพัฒนาจุดอ่อนเรื่องจังหวะนรก และการเล่นจังหวะสุดท้ายที่เฉียบขาดมากกว่านี้ได้ มันจะยิ่งทำให้เขาเป็นนักเตะที่มีคุณสมบัติที่พร้อมกับการเป็นตัวท็อปได้เหมือนกัน และการพัฒนาเรื่องจังหวะสุดท้ายนี้นี่แหละ ที่อาจจะเป็นเหตุผลที่ อาร์เซน่อล เลือกที่จะคว้าตัวเขามาร่วมทีมก็เป็นได้
เติมเต็มในอีกหลายด้าน
จากสถิติที่ร่ายยาวข้างต้น ทุกคนจะพบว่าปัญหาของมาดูเอเก้ก็คือ เขาไม่สามารถแปลงโอกาสทองเหล่านี้ให้เป็นประตูหรือแอสซิสต์ได้เลย แต่ต้องไม่ลืมว่าทีมงานสตาฟฟ์ของ อาร์เซน่อล มีโอกาสที่จะเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะสามารถปรับปรุงการเล่นจังหวะสุดท้ายของ มาดูเอเก้ ให้เด็ดขาดขึ้นมากกว่านี้ได้
ไม่นานมานี้ พวกเขาเคยคว้าตัว ไค ฮาแวร์ตซ์ มาจาก เชลซี และพัฒนาเรื่องจังหวะสุดท้ายของ ฮาแวร์ตซ์ ได้สำเร็จ โดยมีการบันทึกว่าอัตราการทำประตูต่อเกมของ ฮาแวร์ตซ์ นั้นดีขึ้นเมื่อเป็นนักเตะอาร์เซน่อล จากที่เคยมีค่าเฉลี่ยการยิงประตู 0.23 สมัยอยู่กับ เชลซี กลายเป็นนักเตะที่มีค่าเฉลี่ยการยิงประตูเพิ่มเป็น 0.33 ลูกต่อ 1 เกม
นอกจากนี้ อาร์เซน่อล ยังปั้นปีกอย่าง ซาก้า ขึ้นมาเป็นนักเตะที่เล่นจังหวะสุดท้ายได้เฉียบขาดขึ้นมาก ๆ ในช่วง 2-3 ปีหลังสุด ซาก้า พัฒนาขึ้นมากเรื่องจังหวะจบสกอร์ในระยะทำการ และถ้า มาดูเอเก้ มีของซ่อนอยู่ในตัวจริง ๆ ทีมงานของ มิเกล อาร์เตต้า อาจจะช่วยให้เขาดีขึ้นในจังหวะสุดท้ายได้ แบบที่เคยสร้างให้กับ ซาก้า มาร์ติเนลลี่ หรือแม้กระทั่ง วาเนรี่
อีกคุณสมบัติหนึ่งของมาดูเอเก้ที่ดึงดูดอาร์เซนอลคือความเก่งกาจของเขา มาดูเอเก้เป็นปีกสารพัดประโยชน์ ที่สามารถเล่นได้ทั้งฝั่งซ้าย และฝั่งขวาด้วยคุณภาพในระดับเท่า ๆ กัน ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมากับ เชลซี เขามักจะเล่นปีกซ้าย หลังส่วนใหญ่เล่นทางฝั่งขวามาตลอด
นอกจากนี้สิ่งที่ มาดูเอเก้ มีในตัวอีกอย่างก็คือเรื่องความหลากหลาย เพราะถึงแม้โดยธรรมชาติจะเป็นคนถนัดเท้าซ้าย แต่เท้าขวาของเขาก็สามารถใช้งานได้ในคุณภาพที่ลดหย่อนกันไปไม่มากนัก (34 เปอร์เซ็นต์ของการยิงประตูในฤดูกาลที่แล้วมาจากเท้าขวา)
มาดูเอเก้จะช่วยให้อาร์เซน่อลมีความยืดหยุ่นและมีขุมกำลังมากขึ้นในพื้นที่สุดท้าย ในซีซั่นที่พวกเขาต้องลงแข่งขันทุกรายการ การมีขุมกำลังอย่าง มาดูเอเก้ เข้ามาเติมเต็มแทนที่ของ สเตอร์ลิ่ง มันค่อนข้างจะชัดเจนว่า นี่เป็นการเสริมแกร่งให้ขุมกำลังเชิงลึกมีคุณภาพขึ้น ทำให้ทีมมีระดับของตัวจริงและตัวสำรองที่ใกล้เคียงกันมากขึ้นในส่วนของตำแหน่งตัวริมเส้น
ท้ายที่สุดก็คือเรื่องค่าเหนื่อยของ มาดูเอเก้ ที่ว่ากันว่าไม่ได้แพงมากนัก อาจจะที่ราว ๆ 75,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งก็ต้องถือว่าเป็นตัวเลขที่ถือว่าถูกสำหรับโลกฟุตบอลยุคปัจจุบัน มันทำให้ อาร์เซน่อล แบกความเสี่ยงน้อยลง เพราะต่อให้ มาดูเอเก้ เล่นไม่ได้ ไม่เข้าระบบ การขายต่อก็จะไม่ใช่เรื่องยากเกินไป ค่าเหนื่อยระดับนี้สามารถระบายให้ทีมในระดับต่ำกว่าในลีกได้อย่างสบาย ๆ
50 ล้านปอนด์ เป็นราคาที่อาจจะแพง แต่ มาดูเอเก้ ก็มีบางแง่มุมที่ทำให้ อาร์เซน่อล อยากจะลองเสี่ยงกับเขา และสำหรับแฟนอาร์เซน่อล ณ เวลานี้คุณอาจจะไม่พอใจกับดีลนี้นัก แต่เมื่อไรก็ตามที่นักเตะเปิดตัวกับสโมสรอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าในฐานะนักเตะของ อาร์เซน่อล แฟนบอลปืนใหญ่ก็พร้อมจะซัพพอร์ต มาดูเอเก้ ไม่ต่างกับนักเตะคนอื่น ๆ เช่นกัน
แหล่งอ้างอิง
ttps://www.telegraph.co.uk/football/2025/07/10/arsenal-pursuit-noni-madueke-chelsea-data-shows-signing/
https://theanalyst.com/articles/noni-madueke-why-arsenal-sign
https://www.nytimes.com/athletic/6485062/2025/07/10/noni-madueke-arsenal-chelsea-transfer-latest-debate/
https://www.mirror.co.uk/sport/football/transfer-news/noni-madueke-arsenal-arteta-chelsea-35533759
