Feature

แมนฯ ซิตี้ กาวใจของสองพี่-น้อง กัลลาเกอร์ จุดเริ่มต้นจากพ่อที่เกลียดเข้าไส้ สู่การเป็นตัวแทนของทีมจากชนชั้นแรงงาน | Main Stand

 

Oasis วงบริทร็อกชื่อดัง ประเดิมการรียูเนียนเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี ที่ Principality Stadium เมืองคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2025

 


แฟนเพลงทั่วโลกต่างตื่นเต้นกับการกลับมาของสองพี่น้อง "โนล" และ "เลียม" กัลลาเกอร์ ที่ยุติความบาดหมางเป็นที่เรียบร้อย นับตั้งแต่ปี 2009  ... แต่หนึ่งสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลาความไม่ลงรอยของสองพี่น้องเลยแม้แต่วันเดียว คือความรักที่พวกเขามีต่อ "เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมฟุตบอลบ้านเกิด ซึ่งทั้งคู่ยังคงเชียร์อย่างเหนียวแน่น 
ในโลกของฟุตบอล แฟนบอลอาจจะไม่แปลกใจกับความเป็นแฟนตัวยงของสองพี่น้อง กัลลาเกอร์ ที่มีต่อทีมเรือใบสีฟ้า มากนัก แต่ในอีกแง่มุมที่น่าสนใจคือ ความรักต่อสโมสรแห่งนี้ ดันเกิดจากพ่อบังเกิดเกล้าแท้ ๆ ที่พวกเขาเกลียดเข้าไส้ ซึ่งพวกเขาหารู้ไม่ว่า ปัจจุบัน "ซิตี้" ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่พวกเขายังเยาว์วัย แทนที่สามพี่น้องตระกูลกัลลาเกอร์ (พอล , โนล , เลียม) จะได้นอนดูการ์ตูนเรื่องโปรดกับครอบครัวแบบพร้อมหน้าในช่วงบ่ายวันหยุด แต่สิ่งที่พวกเขาได้รับกลับเป็นเสียงสบถด่าและการทุบตีจาก ทอมมี่ กัลลาเกอร์ พ่อแท้ ๆ ที่ทั้งขี้เมา , โมโหร้าย และชอบใช้ความรุนแรง โดยส่วนใหญ่จะเป็น เพ็กกี้ (แม่), พอล และ โนล ที่ต้องเผชิญกับอารมณ์ร้ายของพ่ออยู่เสมอ ส่วน เลียม นั้นยังเด็กเกินไป แต่เขาก็ได้รับรู้ถึงความรุนแรงนี้มาโดยตลอด

ถึงแม้เหล่าพี่น้องกัลลาเกอร์ จะเกลียดพ่อขนาดไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ทอมมี่ ได้ทิ้งไว้ให้ลูก ๆ คือความรักที่มีต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งหากย้อนเหตุผลที่ทอมมี่เลือกเชียร์แมนฯ ซิตี้นั้น มาจากความขัดแย้งในครอบครัวเขาเอง เพราะญาติคนอื่น ๆ เชียร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กันหมด ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเชียร์ทีมเรือใบสีฟ้า ก่อนนำความเป็น "ซิติเซ่น" มาสู่ โนล และเลียม

หากลงลึกไปที่ความขัดแย้งของครอบครัวนี้ ซึ่งก่อร่างมาจากความยากลำบากของชนชั้นแรงงาน เราจะเห็นมิติด้านการเมืองที่ส่งผลโดยตรง จากนโยบายของ มาร์กาเร็ต แธตเชอร์ นายกรัฐมนตรีหญิงของอังกฤษระหว่างปี 1979-1990 การดำเนินตามแนวทางลัทธิเสรีนิยมใหม่ ที่เน้นลดบทบาทของรัฐ และปิดโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งในภาคเหนือของประเทศ ก่อให้เกิดอัตราการว่างงานสูงและความยากจนในชุมชนแรงงานแมนเชสเตอร์ สะท้อนไปถึงบริบทใหญ่ของเมือง ในช่วงวัยเด็กที่สองพี่-น้อง ต้องเผชิญ

ชัดเจนว่า ชาวแมนเชสเตอร์แท้ ๆ เกลียดลอนดอน และ มาร์กาเร็ต แธตเชอร์ จากรอยแผลลึกทางสังคมและเศรษฐกิจที่ยังคงส่งผลถึงปัจจุบัน แน่นอนว่า รวมถึงทีมที่มีภาพลักษณ์เชิงพาณิชย์ อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา สองพี่น้อง กัลลาเกอร์ เติบโตในเบอร์เนจ ย่านชนชั้นแรงงาน ที่อยู่ทางตอนใต้ของเมืองแมนเชสเตอร์ จึงได้ซึมซับความรู้สึกต่อต้านและความภาคภูมิใจในท้องถิ่น มาอย่างเต็มเปี่ยม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จึงมีภาพลักษณ์การเป็นตัวแทนชนชั้นแรงงานอย่างชัดเจน สะท้อนถึงความผูกพันลึกซึ้งของแฟนบอลในพื้นที่กับสโมสร โดยเฉพาะในยุคที่เมืองแมนเชสเตอร์ มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างมาก ดังนั้นการที่สองพี่น้อง กัลลาเกอร์ เลือกเชียร์ซิตี้ จึงมีเหตุผลที่ลึกซึ้งกว่าเพียงแค่การเชียร์ตามพ่อ

ครั้งหนึ่ง โนล เคยพูดติดตลกว่า เป็นความผิดของพ่อ ที่ทำให้เขาเชียร์แมนฯ ซิตี้ และไม่เคยเปลี่ยนใจไปเชียร์แมนฯ ยูไนเต็ด แม้ทีมปีศาจแดงจะเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากกว่าก็ตาม
 
อีกหนึ่งสิ่งนอกเหนือจากการที่พวกเขาเกลียดพ่อและเกลียดกันเองหลังแยกวง คือความเกลียดชังที่มีต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยังคงสถานะในปัจจุบัน ภาพจำของสองพี่น้อง กัลลาเกอร์ ต่อแมนฯ ยูไนเต็ดนั้น ไม่ใช่เพียงแค่การเป็นทีมอริร่วมเมือง แต่เป็นความขัดแย้งเชิงตัวตนและค่านิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแมนฯ ยูยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ Oasis เริ่มโด่งดัง

โนล เป็นคนที่มักจะไปดูแมตช์ที่สนามเป็นประจำ ส่วน เลียม ซึ่งดูจะเป็นคนก้าวร้าว แต่เมื่อมีคนมาถามถึงเรื่องซิตี้ เขากลับแสดงความอ่อนโยนอย่างจริงใจ นั่นจึงทำให้แฟนซิตี้รู้สึกได้ว่า ทั้งสองคนเป็น "ซิติเซ่น" อย่างแท้จริง แม้ในช่วงเวลาที่ทั้งคู่มีความขัดแย้งกันมากที่สุด แต่ความรักต่อทีมเรือใบสีฟ้ายังเป็นสิ่งเดียว ที่ทำให้พวกเขาไม่เคยทะเลาะกันเลยในเรื่องฟุตบอล

นั่นจึงทำให้เรามักจะได้ยินเพลงของ Oasis ใน เอติฮัด สเตเดียม อยู่เสมอ โดยเฉพาะเพลง "Stop Crying Your Heart Out" ที่มีเนื้อหาไปในทางให้กำลังใจ ที่แฟนบอลมักนำมาร้องให้นักเตะฟังในวันที่ทีมพ่ายแพ้ แม้เพลงนี้จะมีอายุถึง 23 ปีแล้วก็ตาม


 
การนำเพลงของ Oasis มาใช้ในสนาม ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงความเคารพต่อวงดนตรีที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองแมนเชสเตอร์ แต่ยังสะท้อนถึงความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งระหว่างดนตรีและฟุตบอล ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศและความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างทั้งสองสิ่ง

ซึ่งหาใช่แค่สองพี่น้อง กัลลาเกอร์ ที่ได้แสดงออกถึงความรักที่มีต่อสโมสรของพวกเขาเพียงฝ่ายเดียว เพราะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ได้มีการต้อนรับข่าวการรียูเนียนของวง Oasis ด้วยข้อความว่า
 
"The guns have fallen silent. The stars have aligned. The great wait is over. Come see. It will not be televised."
 
"แม้กาลเวลาจะผ่านไป แม้ความขัดแย้งส่วนตัวจะรุนแรงแค่ไหน แต่สายใยบางอย่างก็ไม่มีวันขาดสะบั้น"
 
นั่นคงเปรียบเสมือนสายใยของสองพี่น้อง กัลลาเกอร์ ที่มีต่อกันเอง และที่มีต่อแมนฯ ซิตี้ ซึ่งไม่สามารถแปรเปลี่ยนไปเป็นอื่นได้ แม้ว่าทั้งคู่จะทะเลาะ จะด่า หรือจะแซะกันแค่ไหน แต่สิ่งที่ทั้ง โนล และ เลียม ยังคงมีเหมือนกัน คือความจริงใจที่มีต่อทีมไม่เคยเปลี่ยนแปลง 

ไม่ว่าซิตี้จะอยู่ในสถานการณ์ใด ทั้งคู่ก็ยังคงเป็นแฟนตัวยงไม่เคยละทิ้ง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้แฟน ๆ เรือใบสีฟ้า ยังคงรักและให้ความเคารพทั้งสองพี่น้องจวบจนปัจจุบัน

ซึ่งก็หวังว่า เราคงจะได้เห็นภาพของสองพี่น้อง กัลลาเกอร์ ไปเชียร์ทีมรักร่วมกันในสนามอีกครั้ง ดังเช่นอดีตที่เคยหอมหวาน
 
ด้วยรัก ... เลียม-โนล-โอเอซิส และแมนฯ ซิตี้
 

Author

ณัฐวุฒิ บุญโท

Ever Tried Ever Failed Try Again Failed Better.

Graphic

อภิสิทธิ์ โชติพิบูลย์ทรัพย์

Art Director ผู้รับเหมางานภาพกราฟิกหน้าปกบทความทุกชิ้น