Feature

ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา : ลูกชายตำนานที่ทั้งประเทศอยากให้เป็นตัวแทน "CR7" | Main Stand

สัมผัสแรกของ ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา ในยูโร 2024 คือการส่งบอลเข้าประตูและทำให้โปรตุเกสเอาชนะสาธารณรัฐเช็ก ไป 2-1 และเรื่องราวของเขาก็ถูกขุดคุ้ยออกมามากมายหลังจากประตูนั้น 

 


ภายใต้ประตูแจ้งเกิดของเด็กคนนี้ มีเรื่องราวถูกซ่อนเอาไว้มากกว่าที่ว่าเขาเป็นลูกชายของหนึ่งในตำนานทีมชาติโปรตุเกส และคนทั้งประเทศหวังว่าเขาจะเป็นแนวรุกที่แบกความหวังทีมชาติต่อจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 

อ่านเรื่องเชิงลึกที่ชวนว้าวของ ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา ที่นี่ 

 

ช่วงเวลาที่ยากลำบากจะสร้างคนที่แข็งแกร่ง

ปรัชญายอดฮิตที่ปรับมาใช้กับทุกยุคทุกสมัยได้ จาก จี ไมเคิล ฮอฟฟ์ นักเขียนหนังสือขายดีของ USA Today ว่าด้วยการส่งต่อ "ยุคสมัย" ของคนอีกรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง จากรุ่นพ่อไปสู่รุ่นลูก มีอยู่ว่า 

"Hard times create strong men. Strong men create good times. Good times create weak men. And, weak men create hard times."

แปลได้ว่า "ช่วงเวลาที่ยากลำบากจะสร้างคนที่แข็งแกร่ง - คนที่แข็งแกร่งจะสร้างช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม - ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมจะสร้างคนให้อ่อนแอ - และคนที่อ่อนแอจะสร้างช่วงเวลาที่ยากลำบาก"  

ความหมายตรงตามนั้น เพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ และเปรียบให้เห็นในวงการฟุตบอล คือชีวิตของ เปเล่ สุดยอดนักเตะตลอดกาลของโลกทีเกิดจากความยากจนข้นแค้น ก่อนจะพัฒนาตัวเองเพื่อก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก กลายเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลก มีเงินทอง และชื่อเสียง เป็นคนดังที่ยิ่งกว่าคนในวงการฟุตบอลก็รู้จัก นั่นคือ "ช่วงเวลาที่ยากลำบากจะสร้างคนที่แข็งแกร่ง" และ  "คนที่แข็งแกร่งจะสร้างช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม" 

ทว่าในรุ่นลูกของ เปเล่ นั้น ครอบครัวที่เขาสร้างความมั่งคั่งทุก ๆ ด้านเอาไว้ ลูกชายของเขาอย่าง เอ๊ดสัน "เอดินโญ่" โชลบี้ โด นาสซิเมนโต้ กลับเผาผลาญสมบัติที่มี จนชีวิตแหลกเหลว เข้ากับแก๊งค้ายาและฟอกเงินจนโดนโทษจำคุก 33 ปี นั่นคือ "ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมจะสร้างคนให้อ่อนแอ" และ "คนที่อ่อนแอจะสร้างช่วงเวลาที่ยากลำบาก

ทำไมเราต้องจั่วหัวถึงเรื่องนี้ เพราะมันสำคัญมาก ๆ เกี่ยวกับการดูแลนักเตะอย่าง ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา ฮีโร่ของโปรตุเกสในเกมล่าสุดกับ เช็ก ที่ถึงแม้ แซร์จิโอ คอนไซเซา พ่อของเขาจะเป็นหนึ่งในตำนานนักเตะชุดโกลเด้น เจเนอเรชั่น รุ่นเดียวกับ หลุยส์ ฟิโก้ รุย คอสต้า และอีกหลาย ๆ คน  อีกทั้งเมื่อ แซร์จิโอ คอนไซเซา แขวนสตั๊ดเขายังเป็นเฮ้ดโค้ชที่มีชื่อเสียงในวงการฟุตบอลโปรตุเกสอีกด้วย 

ด้วยดีกรีสมัยที่เป็นนักเตะ และตำแหน่งหน้าที่ในปัจจุบัน มันจะง่ายมากถ้า แซร์จิโอ คอนไซเซา พยายามปั้นลูกชายเขาด้วยวิธีการในแบบ พ่อ - ลูก ทว่าอย่างที่บอก "ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมจะสร้างคนให้อ่อนแอ" คอนไซเซา เชื่อในคำ ๆ นี้ และเขาก็ปล่อยให้ลูกชายทั้ง 4 คน พยายามสู้ด้วยตัวเอง เหมือนกับเด็ก ๆ หลายคนที่ไม่มีแต้มต่อ หน้าที่พ่อคือสนับสนุน และยืนมองลูกชายจากด้านหลังเท่านั้น ไม่มีการชี้นำ หรือใช้สิทธิ์ที่มี เพื่อสร้างสิทธิพิเศษให้กับลูกชายของเขาเลย

"ผมตั้งใจตั้งแต่แรก ผมมีลูกชายทั้งหมด 4 คน และผมไม่เคยทำให้เรื่องของฟุตบอลเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องของครอบครัวเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผมไม่ชอบอะไรแบบนั้น ผมมันไม่แฟร์กับคนอื่น ๆ" แซร์จิโอ คอนไซเซา ว่าแบบนั้น 

"ถึงผมจะพูดแบบนั้น แต่อย่าคิดว่ามันจะทำง่าย ๆ ในความเป็นจริง ในส่วนของความเป็นพ่อ ผมที่เคยผ่านประสบการณ์ในโลกฟุตบอลมามาก ก็อยากจะผลักดันพวกเขาและทำให้อะไร ๆ มันง่ายขึ้น แต่เพราะเรารู้วิธีแยกแยะให้ออกเรื่องบทบาทหน้าที่ในแต่ละส่วนของชีวิต ไม่ว่าจะพ่อกับลูกชาย ผู้เล่นกับโค้ช นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด"

"เหตุผลก็เพราะ ถ้าเราอยากจะอยู่ในจุดที่ดีที่สุด เล่นฟุตบอลหรือทำทีมฟุตบอลเพื่อความเป็นเลิศ เราล้วนต้องทุ่มเททุกอย่าง เลือกสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น ไม่มีคำว่าพ่อลูกหรือใด ๆ ทั้งสิ้น มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเก่งพอหรือไม่ นี่คือแก่นของการทำฟุตบอลเพื่อความสำเร็จ" คอนไซเซา บอกแบบนั้น 

แน่นอนว่าไม่มีทางที่เขาจะปล่อยลูกชายของเขาแบบโยนลงน้ำแล้วไปฝึกเองทั้งหมด คอนไซเซา ทำสิ่งที่คนเป็นพ่อควรทำ นั่นคือสนับสนุนผลักดันอย่างที่สุด การส่งเข้าไปเรียนในอคาเดมี่แบบที่ต้องให้ลูกชายเขาไปคัดตัวเอง และตัวของเขาก็ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน+ค่าเลี้ยงดูให้กับสโมสร รวมถึงการบอกเล่าพูดคุยหรือแนะนำวิธีการเล่นจากประสบการณ์ที่เขาเคยผ่านมา ที่เหลือขึ้นอยู่กับว่าลูกชาย 4 คน จะผลักดันตัวเองไปได้ไกลแค่ไหน 

"วัยเด็กที่ยากลำบาก และการให้พวกเขาได้เจอกับความผิดหวังตั้งแต่อายุยังน้อยจะเป็นภูมิต้านทานที่ดี ... ผมอาจจะคิดผิดก็ได้ แต่ผมเจอมากับตัวเองในเรื่องแบบนี้" คอนไซเซา ผู้พ่อว่าต่อ

คอนไซเซา มีวัยเด็กที่ลำบาก พ่อของเขาเสียตั้งแต่เขาอายุ 16 ปี ก่อนที่ตอนเขาอายุ 18 ปี แม่ของเขาจะจากไปอีกคน เขากลายเป็นเด็กกำพร้า "ผมมาจากครอบครัวที่อยู่แทบจะในจุดต่ำสุดของประเทศ ผมเหมือนกับวัยรุ่นอีกหลายคนที่ต้องโตมาพร้อมกับความแตกสลาย แต่ไปต่อได้ด้วยความเชื่อและความฝัน ผมพยายามอย่างมากในการก้าวข้ามความลำบากในทุกตอนของชีวิต แน่นอนว่ามันไม่ง่าย ... แต่คนที่ผ่านเรื่องพวกนี้ได้ พวกเขาจะแข็งแกร่งมาก ๆ แม้ลูก ๆ ของผมอาจจะไม่ได้ลำบากขนาดนั้น แต่ผมอยากให้พวกเขาได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้บ้าง เพื่อให้เข้าใจความหมายในการเดินทางของพวกเขาเอง" 

 

ตัวอย่างของ "ฟรานซิสโก้"

ในขณะที่ แซร์จิโอ คอนไซเซา เลิกเล่นฟุตบอลในปี 2003 ณ ตอนั้น ฟรานซิสโก้ เพิ่งลืมตาดูโลกได้แค่ 1 ปีเท่านั้น ในช่วงที่ คอนไซเซา ผู้พ่อถึงช่วงเวลาถอนตัว วงการฟุตบอลโปรตุเกสก็มียอดนักเตะคนใหม่เกิดขึ้นมา นั่นคือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นักเตะที่มีปูมหลังที่ยากลำบากทั้งฐานะและครอบครัว แจ้งเกิดขึ้นมาด้วยวิธีการพิสูจน์ตัวเองที่เด็ดเดี่ยวที่สุด พยายามผลักดันตัวไปเองโดนไม่มีเพดานบินจำกัด ตะเกียกตะกาย หิวกระหาย จนกว่าตัวเองจะไปถึงจุดสูงสุด

ตัวของ คอนไซเซา ชื่นชมนิสัยและความทะเยอทะยานของ โรนัลโด้ มาก ๆ จนถึงขั้นเคยออกมาชมว่า "ผมว่าจากนี้อีกหลายสิบปี เราจะไม่ได้เห็นนักเตะอายุมาก ๆ อย่าง เปเป้ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ยังเล่นในเกมระดับสูงสุด ด้วยแพชชั่นและความทะเยอทะยานเหมือนกับเด็ก ๆ ผมอยากจะมีชีวิตอยู่สัก 140 ปี เพื่อเห็นว่ายุคสมัยของ โรนัลโด้ จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน ... พวกเขาเปล่งประกายตลอดเวลา มีอาชีพที่ยอดเยี่ยม และดูแลตัวเองเพื่อการเล่นฟุตบอลด้วยอายุที่มากขึ้น ... นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ ยอดคนเท่านั้นที่ทำได้" 

มีหรือถ้าพ่อชอบ ลูกจะไม่ชอบ และลูกชายคนที่ชอบ โรนัลโด้ ที่สุดของเขาก็คือ ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา นี่แหละ ฟรานซิสโก้ เป็นลูกชายคนที่ 4 ของตระกูล คอนไซเซา ที่เล่นฟุตบอล และแทบทุกคนล้วนเป็นตัวรุกริมเส้นเหมือนกับพ่อของพวกเขา แต่ ฟรานซิสโก้ คือคนที่เดินตามรอยเข้ามาได้ใกล้ที่สุด โดยมีพ่อของเขา และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นไอดอล 

ตัวของ ฟรานซิสโก้ ไม่ได้เริ่มเล่นกับสโมสรใหญ่ในประเทศ แต่เริ่มจากอคาเดมี่ของทีมเล็ก ๆ อย่าง เบเลเนนเซส ก่อนจะค่อยขยับตัวเองไปอยู่กับทีมที่ใหญ่ขึ้นอย่าง สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทีเป็นที่สำคัญในการฟูมฟักฝีเท้าของเขาเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าเด็ก ๆ ของ สปอร์ติ้ง ล้วนมี โรนัลโด้ เป็นไอดอลทั้งนั้น เพราะ โรนัลโด้ เองก็เกิดมาจากสโมสรนี้ 

ตัวของ ฟรานซิสโก้ นั้นมีความสู้ตายในแบบของ โรนัลโด้ โดยเฉพาะในช่วงวัยหนุ่มที่เขาพยายามจะพัฒนาตัวเองอย่างมาก ก่อน ปอร์โต้ ดึงตัวไปร่วมทีมเยาวชนในปี 2017 ซึ่งเป็นปีเดียวกันที่พ่อของเขา แซร์จิโอ เข้ามาเป็นกุนซือของ ปอร์โต้ ด้วย นั่นเป็นที่มาที่ทำไม แซร์จิโอ ถึงเอาเรื่องเขากับลูกชายมาพูดบนหน้าสื่อ เขาไม่ได้เป็นคนชักนำ แต่เป็นนโยบายการซื้อขายของสโมสรที่จะเอานักเตะอายุน้อย ๆ ฝีเท้าดีในประเทศ มารวมตัวกันที่นี่ และขายทำราคาในอนาคต

สิ่งที่ยืนยันได้ว่า ฟรานซิสโก้ ไม่ใช่เด็กเส้นคือ คอนไซเซา ผู้พ่อ กว่าจะหยิบจับเขามาใช้งาน ก็ผ่านไปถึง 4 ปี เริ่มจากการส่งไปเล่นกับ ปาโดรเอนเซ่ ทีมในเครือข่าย ก่อนลงสนามชุดใหญ่ครั้งแรกกับ ปอร์โต้ บี กระทั่งปี 2021 เป็นต้นมาจึงเริ่มมีบทบาทกับทีมชุดใหญ่บ้าง และตอนนั้นหลายคนก็เริ่มได้เห็นความยอดเยี่ยมของเขา 

นักเตะตัวริมเส้น เล่นได้หลากหลายทั้งฝั่ง มีเท้าทั้งสองเท้าที่ถนัดเพราะฝึกมาเป็นอย่างดี แถมสูง 170 เซนติเมตร ในบางช่วง เขาถูกเปรียบกับ ลิโอเนล เมสซี่ โดยมีฉายาสมัยเล่นให้กับ ปอร์โต้ ช่วงแรก ๆ ว่า เมสซี่ โด โอลิวัล 

อาแจ็กซ์ ทีมจากลีกดัตช์เห็นถึงสิ่งนี้ในตัวเขา จึงได้ขอซื้อตัว คอนไซเซา จาก ปอร์โต้ ในราคา 10 ล้านยูโร โดยจะมีออปชั่นในการแบ่งกำไรให้ 20% ในอนาคตหาก อาแจ็กซ์ ขายเขาออกจากทีม 

ตัวของ คอนไซเซา เหมือนกับพ่อทั่วไปที่รู้ว่าการออกไปค้าแข้งในต่างแดนตั้งแต่อายุ 18 ปี นั้นเป็นเรื่องยากมาก ไม่ใช่แค่เรื่องฟุตบอล แต่มันเป็นเรื่องของชีวิต ภาษา ความเป็นอยู่ แต่อย่างไรเสีย นี่ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว ข้อเสนอที่ดีสำหรับนักเตะที่ยังไม่ได้เป็นตัวหลักของทีม อีกทั้งยังได้ % เพิ่มเติมในการขายครั้งหน้าทำให้เขาเป็นหนึ่งในคนที่ตัดสินใจส่งลูกชายไปเนเธอร์แลนด์  ... และสิ่งที่เขาอยากให้ลูกชายได้เจอ ก็เจอจริง ๆ ฟรานซิสโก้ รู้จักความล้มเหลวตั้งแต่ตอนนั้น 

 

เติบโต ก้าวผ่าน และเป็นอย่าง โรนัลโด้ 

การไป อาแจ็กซ์ ของ คอนไซเซา ดูท่าจะดีในช่วงแรก อัลเฟรด ชรอยเดอร์ ชม คอนไซเซา เยอะมากหลังได้เห็นผลงานในสนามซ้อม โดยคำชมว่า นักเตะคนนี้มอบพลังงานให้กับทีม วิ่งเพรสซิ่งได้ทั้งวัน เล่นเกมด้านกว้างได้ดีมาก สร้างผลกระทบเมื่อมีบอลอยู่กับเท้า อีกไม่นานเขาจะใช้งานกับทีมชุดใหญ่แน่นอน 

"เราได้เห็นว่าเขาทำอะไรได้บ้างในสนามซ้อม เขามาและแสดงออกให้เห็นแล้วว่าโดดเด่นสุด ๆ ในอนาคตหากมีโอกาส เขาจะกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมเราได้แน่ ๆ" กุนซืออาแจ็กซ์ กล่าว

แต่ฟุตบอลมันคือเกมหนึ่งของชีวิต คอนไซเซา ออกมาแบบเด็กเกินไป เขาอยู่ที่ อาแจ็กซ์ และรู้สึกถดถอยลง เขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ พูดภาษาดัตช์ไม่ได้ แถมยังปรับตัวไม่ได้ ดังนั้นโค้ชจึงไม่สามารถใช้เขาได้ในทีมชุดใหญ่ และเรื่องนี้กลุ่มทีมงานของ ปอร์โต้ รู้ดีว่าพรสวรรค์ดีที่ของเขาจะถูกทำลาย ถ้าไปเสียเวลากับที่ที่ไม่ใช่มากเกินไป ปอร์โต้ จึงยืมตัว คอนไซเซา กลับมา และหนนี้ เขาใช้เวลาไม่กี่เดือนกลับมาสู่เส้นทางที่ควรจะเป็นได้

"มันเหมือนกับการได้กลับสู่สภาพแวดล้อมที่คุณเคย ผมสดชื่นแบบที่ไม่เคยรู้สึก ผมเอาเท้าเหยีบบสนามด้วยความคิดที่ว่า ผมจะไม่ถอยหลังอีกครั้งแล้ว" คอนไซเซา ผู้ลูกกล่าว

ขณะที่ คอนไซเซา ผู้พ่อที่เฝ้าดูพัฒนาการในฐานะโค้ช ก็เลือกหยิบ ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา ขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่แบบเต็มระบบ โดยในฤดูกาล 2023-24 ที่ผ่านมา คอนไซเซา ได้ลงเล่นมากถึง 43 นัด ยิงไป 8 ประตู และทำไปอีก 13 แอสซิสต์  

ด้วยผลงานแบบนี้ แซร์จิโอ คอนไซเซา จึงพูดและชมลูกชายของเขาได้อย่างเต็มปากเป็นครั้งแรก เพราะเมื่อผลงานพิสูจน์ได้ ดราม่าเรื่องพ่อดันลูก จึงถูกเลิกสงสัยไปโดยปริยาย 

"ฟรานซิสโก้ เหมือนกับที่เปิดกระป๋อง ในเวลาที่เราคิดอะไรไม่ออกและไม่รู้จะหาทางยังไง เขาเป็นคนที่ช่วยแก้ปัญหาได้ เพื่อนร่วมทีมจะเห็นเขาในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เขาจะไปอยู่ยังที่วางเพื่อรับบอลเสมอ จบสกอร์ได้ยอดเยี่ยม และแข็งแกร่งมากในการเล่นแบบตัวต่อตัว" แซร์จิโอ ชมลูกชายของเขาแบบนั้น 

สิ่งที่พ่อพูด เกือบ ๆ จะตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในยูโร 2024 ที่ผ่านมา ในตอนที่ โปรตุเกส มองไม่ออกว่าใครจะเป็นคนที่ส่งบอลเข้าประตูในช่วงเวลาอันน้อยนิด คอนไซเซา เป็นคน ๆ นั้น สัมผัสเดียวของเขาคือการส่งบอลเข้าประตู 

แน่นอนว่ามันไม่แสดงอะไรมากมายว่าเขาจะเก่งขนาดไหน แต่ แซร์จิโอ ก็ยิ้มได้ในวันที่ให้ลูกชายของเขาดูวิธีการเอาชนะตัวเองแบบที่ โรนัลโด้ ทำ สอนให้ออกไปเจอชีวิต ไปเจอประสบการณ์ที่ยากลำบากในต่างแดนแบบที่ โรนัลโด้ เป็น

หลังจากที่ ฟรานซิสโก้ ยิงประตูนั้นได้ เรื่องราวของเขาถูกขุดคุ้ยออกมาเล่ามากมายหลายมุม สื่อในประเทศและแฟนบอลหวังจริง ๆ ว่าเขาที่จะเป็นคนที่นำพาทีมโปรตุเกสสู่ยุคต่อไป ในวันที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงจากบัลลังก์ 

ยูโร 2024 ยังเหลืออีกหลายเกม กุนซือ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ บอกว่า ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา จะได้แสดงอะไรให้ทุกคนได้เห็นมากกว่าแมตช์แรก ... นี่คือหนึ่งในดาวรุ่งที่ทำให้ยูโร 2024 ออกรสออกชาติ เตรียมจับตาดูการเติบโตในทัวร์นาเมนต์ใหญ่แรกของเด็กคนนี้ให้ดี

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.straitstimes.com/sport/football/5-things-to-know-about-francisco-conceicao-portugal-s-hero-against-czech-republic
https://www.eurosport.com/football/euro/2024/francisco-conceicao-roberto-martinez-full-of-praise-for-portugal-match-winner-he-has-a-scent-for-danger_sto20011894/story.shtml
https://777score.com/news/football/569238-sergio-conceicao-imposes-strict-discipline-on-his-son-francisco-how-the-coach-uses-his-tough-life-story-to-help-his-children-excel
https://onefootball.com/en/news/francisco-conceicao-on-the-right-path-ajax-boss-schreuder-36562217
https://777score.com/news/football/1176110-meet-francisco-conceicao-hero-of-portugal-in-euro-debut-and-son-of-historic-player-coach
https://rr.sapo.pt/2021/02/15/porto/francisco-conceicao-o-novo-abre-latas-do-fc-porto/noticia/226805/ 

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ