Feature

อ็อคแลนด์ ซิตี้ : จากเหยื่อเรียกกระแสของฟีฟ่า สู่ผู้ชนะใจแฟนบอลทั้งโลก | Main Stand

"พวกเอ็งทำสิ่งที่ยากที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ได้สำเร็จแล้วนะโว้ย ... ไม่ชนะ อ็อคแลนด์ ไงไอ้พวกงั่ง ฮ่าๆๆ"

 


แฟนบอลของ โบคา จูเนียร์ส ทีมดังจากอาร์เจนตินา ต่อว่านักเตะของตัวเองผ่านโซเชี่ยลมีเดีย หลังจากทำได้แค่เสมอกับทีมที่ถูกมองว่าอ่อนชั้นที่สุดในรายการ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ 2025 อย่าง อ็อคแลนด์ ซิตี้ 

เห็นได้ชัดว่าสโมสรจากนิวซีแลนด์ทีมนี้ เปรียบดังตัวตลกที่ใครก็อยากจะเห็นพวกเขาโดนถล่ม ... แต่ท่ามกลางคำดูถูก พวกเขากลับสามารถยิงประตูและเก็บแต้มได้สำเร็จ จากนั้นสื่อทั้งโลกก็พลิกลิ้น และเปลี่ยนเรื่องราวให้พวกเขาเป็นเหมือนกับฮีโร่ 

ถ้าคุณรู้จัก ... คุณจะรักกลุ่มนักเตะสมัครเล่นที่มาดวลกับทีมระดับโลกมากขึ้น ขอเชิญทุกท่านชมเรื่องราวทั้งหมดของ อ็อคแลนด์ ซิตี้ กับ Main Stand 

 

นิวซีแลนด์ ดินแดนที่ฟุตบอลไม่เคยเป็นพระเอก

ก่อนจะไปรู้จักสโมสร อ็อคแลนด์ ซิตี้ ก่อนอื่นเราขอชี้แจงก่อนว่า อ็อคแลนด์ ซิตี้ ทีมนี้ คือคนละทีมกับ อ็อคแลนด์ เอฟซี ใน เอลีก ออสเตรเลีย ซึงอาจจะทำให้ผู้คนสับสนกันไปบ้าง โดยพระเอกของเรื่องในวันนี้คือ "อ็อคแลนด์ ซิตี้ ในลีกนิวซีแลนด์" 

นอกจากนี้ คุณควรรู้บริบทของ "ฟุตบอล" ในประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งปูมหลังเหล่านี้จะทำให้คุณเข้าใจได้ว่า ทำไม อ็อคแลนด์ ซิตี้ จึงแพ้ บาเยิร์น มิวนิค ถึง 0-10 ในเกมแรกของศึกสโมสรโลก และกลายเป็นทีมที่ถูกเรียกว่า "ตัวตลกของฟีฟ่า"

ประการแรกเลยก็คือ ประเทศนิวซีแลนด์ ไม่ได้มีฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยม และห่างไกลจากคำ ๆ นั้นมาก ที่นั่น รักบี้ คือกีฬาอันดับ 1 พวกเขามีทีมชาติรักบี้ที่เรียกขานในนาม All Blacks เปรียบเหมือนศาสนาของชาวนิวซีแลนด์ เพราะทีมชาติของพวกเขามีประวัติความสำเร็จระดับโลก และมีอิทธิพลในระบบการศึกษา กีฬาโรงเรียน และสื่อเป็นอย่างมาก

จุดนี้เอง ทำให้เด็กชายส่วนใหญ่มักเริ่มเล่นรักบี้ตั้งแต่เล็ก และมีระบบพัฒนาเยาวชนที่มั่นคงมาก ขณะที่ "ฟุตบอล" ยังถูกมองว่าเป็นกีฬารอง หรือ "กีฬาของเด็กผู้หญิง" ในบางพื้นที่ทางวัฒนธรรม

เมื่อเป็นเช่นนั้น สื่อหลักในนิวซีแลนด์มักเน้นรายงานกีฬา รักบี้, คริกเก็ต, และ เน็ตบอล มากกว่า นำไปสู่การขาดการส่งเสริมกีฬาฟุตบอลในเชิงการตลาด และไม่ดึงดูดผู้สนับสนุนหรือเม็ดเงินเท่ากีฬาอื่น ๆ ซึ่งทั้งหมดส่งผลต่อทีมชาติในกีฬาฟุตบอลที่มีชื่อเรียกขานว่า All Whites รวมถึงฟุตบอลลีกในประเทศของพวกเขาที่มีชื่อลีกว่า New Zealand National League

New Zealand National League นั้นเป็นลีกฟุตบอลในระดับกึ่งอาชีพ ไม่ได้มีรายได้หรือระบบสนับสนุนเท่ากับลีกในยุโรปหรืออเมริกาใต้ ทีมต่าง ๆ ในลีกจึงไม่สามารถจ่ายเงินเดือนแบบเต็มเวลาให้กับนักเตะในทีมทุกคนได้ ดังนั้นจึงเป็นอย่างที่เราได้ทราบกันว่า แม้กระทั่งนักเตะของทีมที่เก่งที่สุดในทวีปโอเชียเนียอย่าง อ็อคแลนด์ ซิตี้ ก็ต้องทำอาชีพอื่นเป็นอาชีพหลัก ไม่ว่าจะ ครู, วิศวกร, เจ้าหน้าที่สาธารณะสุข, พนักงานออฟฟิศ หรือแม้กระทั่งยังศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยอยู่ 

แต่ถึงแม้จะอยู่ในลีกกึ่งอาชีพ อ็อคแลนด์ ซิตี้ ก็ได้รับกาารยกย่องในแง่ของทีมที่ดีที่สุดในประเทศและเก่งที่สุดในโซนของพวกเขา เนื่องด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง เช่น การตั้งอยู่ในเมืองอ็อคแลนด์ ที่เป็นเมืองที่มีโครงสร้างด้านต่าง ๆ พร้อมที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์ เป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม 

ซึ่งที่นี่เองเป็นเมืองที่มีประชากรที่เป็นของคนดูฟุตบอล หรือแม้กระทั่งคนเล่นฟุตบอลมากที่สุด แถมพวกเขายังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่นสนามซ้อม หรือทีมงานโค้ชที่มีดีกรีสูงกว่าทีมอื่น ๆ เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากองค์กรท้องถิ่นหรือภาคเอกชนมากกว่าสโมสรในเมืองเล็ก ๆ ที่เป็นที่ตั้งของสโมสรอื่น ๆ 

อย่างไรเสีย เครดิตทั้งหมดจะยกให้กับที่ตั้งของสโมสรไม่ได้ เพราะ อ็อคแลนด์ ซิตี้ ก็เป็นทีมที่มีการจัดการภายในสโมสรแบบมืออาชีพ แม้พวกเขาจะอยู่ในลีกระดับกึ่งอาชีพก็ตาม พวกเขามีระบบแมวมองพัฒนาเยาวชนของตัวเอง มีระบบการฝึกซ้อมที่พยายามทำให้เหมือนกับทีมในยุโรปที่สุด ทั้งกรใช้เทคโนโลยีมาวิเคราะห์ในด้านต่าง ๆ พวกเขาจึงเป็นทีมที่มีความสม่ำเสมอในแง่ของฟอร์มการเล่นมากที่สุด และทำให้ อ็อคแลนด์ ซิตี้ ถูกเรียกอีกชื่อจากการผูกขาดแชมป์ทั้งในประเทศและในทวีปว่า "บาเยิร์น มิวนิก แห่งโอเชียเนีย"  

อย่างไรก็ตาม การเป็นปลาใหญ่ในบ่อเล็ก ไม่ได้มีความหมายมากพอในวงการฟุตบอลในระดับโลก ในวันที่ อ็อคแลนด์ ซิตี้ ได้รับเลือกจาก FIFA ให้ร่วมแข่งขันฟุตบอล FIFA Club World Cup 2025 พวกเขาก็เป็นหนึ่งในทีมที่ถูกสื่อหมายหัวว่า เป็นทีมมีมาตรฐานต่ำเกินกว่าจะมาเล่นในรายการนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นการโจมตี FIFA ด้วยที่พยายามจัดรายการนี้ เพื่อพยายามทำให้ตัวเองมีทัวร์นาเมนต์ที่สามารถเอาไปต่อกรกับ UEFA ที่มีฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อยู่ในมือได้ ลองคิดดูว่า อ็อคแลนด์ ซิตี้ ได้มาแข่งรายการนี้ ด้วยโควต้าหนึ่งเดียวของ OFC จากผลงานรวม 4 ปี 2021-2024 ที่ดีที่สุด ต่างจากโซนอื่นที่ได้โควต้าหลายทีม

สื่อหลายเจ้าบอกว่า รายการนี้มีแค่เงินเท่านั้นที่ดึงดูดทีมจากยุโรปมาแข่งขัน ขาดซึ่งประวัติศาสตร์ และคุณภาพของทัวร์นาเมนต์ และภาพทุกอย่างก็ถูกสะท้อนผ่านเกมที่ "บาเยิร์น มิวนิค แห่งโอเชียเนีย" อย่าง อ็อคแลนด์ ซิตี้ ถูก บาเยิร์น มิวนิค ตัวจริงถล่มไป 10-0 ... ผลการแข่งขันที่ขาดลอย ณ เวลานั้น ความพยายามของ อ็อคแลนด์ กลายเป็นเรื่องตลกของโลกฟุตบอลอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

ต้วตลกของฟีฟ่า 

การแพ้ บาเยิร์น 0-10 ทำให้ อ็อคแลนด์ ซิตี้ กลายเป็นเครื่องมือที่สื่อใช้โจมตีฟีฟ่า และนั่นทำให้สื่อในประเทศนิวซีแลนด์อย่าง Stuff ถึงกับรวบรวมพาดหัวและสรุปกระแสสื่อทั่วโลกที่มีต่อเกมนี้ว่า "'ตัวตลกของ FIFA' นี่คือสิ่งที่พวกเขาพูดถึงเกมที่ อ็อคแลนด์ แพ้ บาเยิร์น 0-10" 

พวกเขาอธิบายต่อว่า การพ่ายแพ้ที่ขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกินคาดหรือเซอร์ไพรส์จนเกินกว่าเหตุ มันคือการแข่งขันที่ 2 ทีมมูลค่าห่างกันมากที่สุดนับตั้งแต่มีทัวร์นาเมนต์นี้มาเลยด้วยซ้ำ 

"สโมสร อ็อคแลนด์ ซิตี้ ประกอบด้วย คนขับรถยก พนักงานขายน้ำอัดลม ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ และผู้จัดการคลังสินค้า ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ทีมอันดับ 4,957 ในการจัดอันดับโลกของ Opta โอกาสชนะของพวกเขาคงเหลือแค่ 1 ใน 1000 สำหรับการเจอกับทีมที่เก่งที่สุดในบุนเดสลีกา" พวกเขาพยายามอธิบายความห่างชั้นของทั้ง 2 ทีม แต่มันก็ไม่มากที่จะเปลี่ยนความคิดเห็นคนอื่นได้ 

สื่อ news.com.au ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างออสเตรเลีย ที่ปัจจุบันเป็นสมาชิกของ AFC บอกว่า "ตลกสิ้นดี ชาวกีวีถูกกระหน่ำจนเสียหน้าในเกมนองเลือดที่โหดที่สุดในโลกฟุตบอล"  

นอกจากนี้ยังมีพาดหัวจากสื่ออื่น ๆ เช่น "อย่างน้อย อ็อคแลนด์ ก็หยุด แฮร์รี่ เคน ได้ แม้จะแพ้ให้ บาเยิร์น ไป 10 ลูก" จาก The Guardian, "บาเยิร์น 10 อ็อคแลนด์ 0 แชมป์บุนเดสลีกาสร้างสถิติใหม่ด้วยการถล่มพวกนักเตะพาร์ทไทม์" จาก The New York Times และ "เหมือนอยู่กันคนละโลก ทำไม อ็อคแลนด์ ถึงต้องแข่งกับทีมอย่าง บาเยิร์น มิวนิค" จาก BBC เป็นต้น 

หลังจากนั้นไม่กี่วัน อ็อคแลนด์ ซิตี้ ก็เล่นกับ เบนฟิก้า ทีมแถวหน้าจาก โปรตุเกส ซึ่งสุดท้ายพวกเขาก็แพ้ไปอีก 0-6 ... การแพ้ยับ 2 นัด โดนยิงไป 16 ลูก แถมมีโอกาสได้ลุ้นประตูแค่ 2 ครั้งตลอด 180 นาที ทำให้เรื่องราวของนักเตะ อ็อคแลนด์ หลาย ๆ คนเป็นที่สนใจของสื่อ พวกเขาอยากจะได้บทสัมภาษณ์ของนักเตะกึ่งอาชีพเหล่านี้ ซึ่งหลายคนก็ให้สัมภาษณ์ไปตามหน้าที่ และกลายเป็นพาดหัวบนหน้าสื่อต่าง ๆ ที่ทำให้เห็นว่ารายการนี้ยังขาดมนต์ขลังอีกมาก ตราบใดที่ยังเอาทีมระดับที่ห่างกันมาแข่งขันเช่นนี้ 

แม้เหล่านักเตะของ อ็อคแลนด์ จะให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าที่อารมณ์ดี มีรอยยิ้ม บางคนมีการหัวเราะติดตลกราวกับจะยอมรับความห่างชั้นที่เกิดขึ้น เช่นนายทวารของทีมที่ชื่อว่า คอเนอร์ เทรซี่ ให้สัมภาษณ์หลังแพ้ บาเยิร์น ว่า 

"ตอนที่มีการจับสลาก พวกเราไปรวมตัวกันในห้องสโมสร เพื่อดูการถ่ายทอดสด แล้วพอรู้ว่าต้องเจอ บาเยิร์น มิวนิค ทุกคนก็แบบ 'บ้าไปแล้ว !' เราเจอทีมระดับโลก ...  จากนั้นพี่ชายผมหันมาขำ แล้วพูดว่า 'ฮ่า ๆ แฮร์รี่ เคน จะยิงใส่พวกแกสิบลูกแน่ !'" 

อย่างไรก็ตาม ความจริงก็คือสิ่งที่พวกเขาคิดอยู่ในใจ แตกต่างกับที่พวกเขาแสดงออกมาบนหน้าสื่อ ... และเราก็ได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วพวกเขาอยากจะถูกพูดถึงในแง่มุมที่ต่างออกไป ซึ่งพวกเขาแสดงให้เห็นออกมาในเกมสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มที่ลงสนามพบกับ โบคา จูเนียร์ส ยอดทีมจากอาร์เจนตินา 

 

กลับบ้านอย่างฮีโร่ 

ในเกมกับ โบคา จูเนียร์ส เป็นเกมที่ทุกคนก็คิดว่า อ็อคแลนด์ คงเละไม่แตกต่างจาก 2 เกมแรก มีการคาดการณ์จากสื่อหลายเจ้า แม้กระทั่งเว็บพนันถูกกฎหมายที่ออกมาชี้ไปในเชิงที่ว่า เกมนี้ต้องโดน 5 ลูกเป็นอย่างน้อย เพราะก่อนเกม โบคา ยังมีลุ้นเข้ารอบน็อกเอาต์ และทุกอย่างขึ้นอยู่กับการยิงประตูใส่ อ็อคแลนด์ ให้ได้มากที่สุด 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเกมการแข่งขันจริงเริ่มขึ้น นักเตะ อ็อคแลนด์ แสดงถึงความมุ่งมั่นที่แตกต่างออกไป มันเหมือนกับคนที่หลังชนฝา เหมือนกับหมาที่จนตรอก เมื่อพวกเขาไม่เหลืออะไรให้เสีย พวกเขาก็ขุดทุกสิ่งที่มีในตัวออกมาแสดงให้ทั้งโลกเห็นว่าพวกเขาทำอะไรได้บ้าง 

พวกเขาต้านทาน โบคา แบบสุดพลัง นอกจากจะเล่นเกมรับอย่างอดทนแล้ว พวกเขายังมีโอกาสสวนกลับไปยิงประตูสวย ๆ ได้หลายครั้ง และถ้าใครได้ชมเกม ๆ นี้คุณจะเห็นว่า อันที่จริงแล้วพวกเขาก็ไม่ได้แย่ถึงขั้นที่จะโดนสื่อคาดว่าจะถูกยิงเละในเกมนี้ 

เอาล่ะ มันยังมีความห่างชั้นมาก ๆ ให้เห็น แต่อย่างน้อย ๆ การเล่นเกมรับ 11 ตัว ทุกคนขยันวิ่งไล่ฟุตบอลทุกจังหวะ ปิดพื้นที่ และพุ่งสุดตัวในการป้องกันลูกเปิดและลูกยิงของ โบคา มันคือแบบฉบับการซื้อเกมรับที่ทีมที่เป็นรองสุดกู่ใช้กันเสมอ แถม อ็อคแลนด์ ยังทำได้ดีมาก ๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าโอกาสแบบจ่อ ๆ จะ ๆ แจ้ง ๆ ของ โบคา มีน้อยมากในเกมนั้น 1 ประตูที่เกิดขึ้นของทีมจากอาร์เจนตินา คือการทำเข้าประตูตัวเองที่มีจุดเริ่มต้นจากลูกเตะมุมที่เป็นลูกเซ็ตพีซ มันแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเตรียมตัวมาดีสำหรับการป้องกันการเล่นแบบโอเพ่นเพลย์ของคู่แข่ง

เหนือสิ่งอื่นใด การซักซ้อมของ อ็อคแลนด์ ก็ส่งผลชัดเจน ไม่ใช่แค่เกมรับเท่านั้น แต่พวกเขาก็ทำประตูแรกในทัวร์นาเมนต์นี้ได้สำเร็จ จากลูกโหม่งของ คริสเตียน เกรย์ กองหลังของทีมที่มีอาชีพเป็นครูฝึกสอน ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากลูกเซ็ตพีซเช่นกัน พวกเขาทำทุกอย่างที่ทีมรองควรจะทำ และได้ผลการแข่งขันที่เหลือเชื่อที่สุดในทัวร์นาเม้นต์นี้ ด้วยการเสมอกับ โบคา จูเนียร์ส ไป 1-1 ซึ่งหลังเกมนี้แหละ ที่เหล่านักเตะของทีมพยายามออกมาพูดว่า พวกเขาเองก็รู้สึกเลวร้ายกับการโดนมองว่าเป็นตัวตลกในช่่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จนกระทั่งทุกอย่างมาปลดล็อกด้วยประตูและแต้มสำคัญแต้มนี้ 

"มันเป็นการเดินทางที่ยากลำบาก เราเจอกับผลการแข่งขันที่ยากลำบากจริง ๆ สำหรับเกมที่ผ่าน ๆ มา แต่อย่างน้อย ณ ตอนนี้ผมก็มีความสุขสำหรับทีมและเด็ก ๆ ผมคิดว่าเราสมควรได้รับมัน สำหรับประตูและแต้มอันล้ำค่าที่เราร่วมแรงร่วมใจกันทำสำเร็จ" เกรย์ ผู้ทำประตูกล่าว 

"สิ่งนี้เกิดขึ้นนี้มันมีความหมายมากสำหรับสโมสรของเราอย่างแน่นอน พวกเราเป็นสโมสรกึ่งอาชีพ นักเตะหลายคนก็เล่นฟุตบอลแบบพาร์ทไทม์ เราไม่มีเงินมากนัก ดังนั้นผมไม่สามารถคาดหวังอะไรได้มากกว่านี้แล้ว ผมมีความสุขทีได้เห็นพวกเขาทุก ๆ คนที่เกี่ยวข้องกับสโมสรของเรามีความสุข"

ผลการแข่งขันที่เซอร์ไพรส์นี้เป็นแรงกระเพื่อมไม่มากก็น้อยในวงการฟุตบอลของนิวซีแลนด์ โดยก่อนหน้านี้ สื่อของนิวซีแลนด์ไม่ได้ให้ความสนใจกับการแข่งขันสโมสรชิงแชมป์โลกมากนัก โดยเน้นไปที่ช่วงท้ายของการแข่งขันซูเปอร์รักบี้เป็นหลัก ... แต่การเสมอ โบคา คือพาดหัวหลักประจำวันของวงการกีฬาบ้านเขา ... นักเตะของ อ็อคแลนด์ ถูกยกย่องให้เป็นเหมือนกับฮีโร่ของชาติ 

Radio New Zealand กล่าวถึงผลเสมอเกมดังกล่าวว่า "นี่คือเหตุการณ์อันน่าทึ่งของวงการกีฬาบ้านเรา ต้องขอบคุณวีรกรรมอันกล้าหาญของเกรย์และความมุ่งมั่นในการป้องกันอันน่าเหลือเชื่อ ทำให้ อ็อคแลนด์ ซิตี้ สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกฟุตบอล"

ขณะที่ New Zealand Herald บอกว่า "ทีมที่นำโดยนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ครู เซลส์แมน ช่างฝีมือ และนักศึกษา ต่างหวังว่าพวกเขาจะสามารถสร้างผลงานบนเวทีโลกได้ แม้ว่าพวกเขาจะรู้ดีว่าคงเป็นไปไม่ได้ก็ตาม ... ใครจะเชื่อ แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็ทำสำเร็จได้  ท่ามกลางอุปสรรคมากมาย ใครก็ตามในโลกฟุตบอลที่ได้เห็นผลลัพธ์นี้จะต้องขยี้ตาด้วยความไม่เชื่อ แต่มันเป็นเรื่องจริง มันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด"

ไม่แตกต่างจากสื่อทั่วโลกที่ยกย่องวีรกรรมนี้ของ อ็อคแลนด์ ซิตี้ ว่าแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ การพยายามพิสูจน์ตัวเองในเวที่ที่ยากที่สุดเท่าที่พวกเขาจะได้เจอ 

แรงกระเพื่อมที่ อ็อคแลนด์ สร้างขึ้นนี้ ทำให้ สมาพันธ์ฟุตบอลโอเชียเนีย หรือ OFC ได้เริ่มให้ความสนใจลีกอาชีพ ที่จะเริ่มแข่งขันในเดือนมกราคม 2026 เมื่อลีกนี้เปิดตัว ไม่เพียงแต่จะมีทรัพยากรมากขึ้นสำหรับทีมจากชาติต่าง ๆ พวกเขาพยายามทบทวนและหาแนวทางที่จะทำให้ฟุตบอลในโซนนี้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น เพื่อให้ตัวแทนของพวกเขาไปแข่งในรายการระดับโลก และแสดงผลงานที่ยืนยันถึงฟุตบอลของ ณ ดินแดนแห่งนี้ เหมือนที่ อ็อคแลนด์ ซิตี้ ได้ทำ 

เรื่องนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่เราทุกคนต้องยอมรับหัวจิตหัวใจของพวกเขาเหล่านี้ ... จากทีมที่ถูกตัดสินให้เป็นตัวตลกใน 2 นัดแรก พวกเขากลับจบทัวร์นาเมนต์ด้วยการเป็นฮีโร่ของชาติ และเป็นทีมที่ถูกมองในอีกด้าน กลายเป็นตัวแทนของการทำงานหนัก ซึ่งจะเป็นภาพจำที่ทุกคนนึกถึงเสมอ เมื่อได้ยินชื่อสโมสรกึ่งอาชีพจากนิวซีแลนด์ทีมนี้ 

 

แหล่งอ้างอิง

https://en.wikipedia.org/wiki/New_Zealand_National_League
https://www.stuff.co.nz/sport/360725990/fifa-farce-how-international-media-reacted-auckland-citys-record-10-0-club-world-cup-defeat-bayern
https://gazette.com/ap/international/new-zealanders-hail-auckland-city-as-heroic-and-remarkable-after-famous-draw-with-boca-juniors/article_bc84f9e7-a2df-511d-800d-a3e30ff438ac.html
https://www.reddit.com/r/rugbyunion/comments/wczy4t/why_are_nz_and_aus_not_footballsoccer_nations/
https://www.cbssports.com/soccer/news/auckland-city-make-history-at-club-world-cup-as-student-teacher-and-barber-guide-amateur-team-to-rare-result/

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ