สภากรรมการ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในยุคของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฯ เริ่มต้นทำงานกันแล้ว หลังผ่านการ #เลือกตั้ง และได้จดทะเบียนรับรองจากการกีฬาแห่งประเทศไทย
นายกสมาคมฯ และกรรมการ รวมทั้งสิ้น 19 คน นี่คือองคาพยพในการบริหารงานสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
แต่มีอีกหนึ่งตำแหน่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือ #เลขาธิการ
ตำแหน่งนี้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่หน้าที่และการทำงาน มีความสำคัญที่ขาดไม่ได้
และไม่ใช่ใครที่ไหนจะมาเป็น #เลขาธิการ ได้ง่ายๆ เช่นกัน…
“เลขาธิการ” คือส่วนหนึ่งของโครงสร้าง
ตำแหน่ง “เลขาธิการ” เป็นไปตามข้อบังคับลักษณะการปกครอง ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งระบุไว้ในหมวดที่ 4 องค์กร ข้อ 23.โครงสร้างการบริหารสมาคม 23.3 สำนักงานเลขาธิการ ประกอบด้วย เลขาธิการ กับเจ้าหน้าที่สมาคม มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการบริหารภารกิจของสมาคมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามวัตถุประสงค์
นั่นหมายความว่า “โครงสร้างการบริหารสมาคม” จะต้องมี “สำนักงานเลขาธิการ” เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารด้วย
โดย “เลขาธิการ” คือตำแหน่งในสำนักงานเลขาธิการ ซึ่งไม่ใช่ว่าจะจับสลากได้ชื่อใครก็มาดำรงตำแหน่งนี้ได้เลย แต่มาจากการที่นายกสมาคมฯ เป็นผู้เสนอชื่อให้กับสภากรรมการ “จ้าง” หรือ “เลิกจ้าง”
ดังนั้นคุณสมบัติของ “เลขาธิการ” จะต้องมีความรู้ ความสามารถ และได้รับการยอมรับจากสภากรรมการ ตามข้อบังคับฯ ข้อ 44.2 ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการจะต้องเป็นผู้มีมีความรู้ ความสามารถ เหมาะสมกับตำแหน่งตามหลักเกณฑ์ที่สภากรรมการกำหนด
ส่วน “วาระ” ไม่มีกำหนด เพราะเปรียบเสมือน “ลูกจ้าง” คนนึง ว่าง่ายๆ ถ้าเลิกจ้างเมื่อไหร่ ก็หมดวาระเมื่อนั้น แต่ก็ต้องจ่ายชดเชยมาให้ด้วย
งานของ “เลขาธิการ” ไม่ใช่เดินตามนายกฯ
การเดินตามนายกฯ ถือกระเป๋า จัดทรงผม เป็นหน้าที่ของ “เลขาส่วนตัว” แต่ “เลขาธิการ” มีหน้าที่ตามข้อบังคับลักษณะการปกครอง ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ระบุหน้าที่ของเลขาธิการไว้ในข้อ 44.3
“เลขาธิการมีหน้าที่และความรับผิดชอบดำเนินการดำเนินการตัดสินใจโดยผ่านที่ประชุมใหญ่และสภากรรมการโดยเป็นการปฏิบัติตามมติที่ประชุมใหญ่และตามคำสั่งของนายกสมาคม, รวบรวมบันทึกและจัดทำรายงานการประชุมสำหรับการประชุมใหญ่และการประชุมสภากรรมการตลอดจนหน่วยงานอื่นๆ, จัดการและเก็บรักษาบัญชีของสมาคมอย่างถูกต้อง, ดำเนินการประสานงานด้านต่างๆของสมาคม, ดำเนินการติดต่อกับสมาสมาชิกสภากรรมการและกรรมการฝ่ายต่างๆ รวมถึงฟีฟ่าและเอเอฟซี, ให้การสนับสนุนด้านธุรการแก่คณะกรรมการการเลือกตั้ง”
แปลไทยเป็นไทย คือ “เลขาธิการ” มีหน้าที่ขับเคลื่อนตามนโยบายที่สภากรรมการกำหนด
ยกตัวอย่าง : เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมแล้ว จะเป็นหน้าที่ของเลขาธิการในการรับนโยบายมาสั่งการต่อ เพราะสภาไม่สามารถเซ็นเอกสารที่เป็นทางการเพื่อดำเนินการได้ ฉะนั้นเลขาธิการจะต้องเป็นคนเซ็นเอกสารและขับเคลื่อนภายในไปสู่ฝ่ายต่างๆ ต่อไป
หรือการเจรจาระหว่างองค์กรกับองค์กร จะเป็นการติดต่อระหว่างสำนักเลขาธิการ เช่น สมาคมฟุตบอลต่างชาติติดต่ออุ่นเครื่อง-เก็บตัว, FIFA, AFC, AFF แจ้งโปรแกรมการแข่งขัน, แจ้งการเข้าร่วมประชุม, แจ้งการจ่ายเงินบำรุงสหพันธ์, โครงการต่างๆ ฯลฯ ก็จะมีการส่งหนังสือมาที่ “สำนักเลขาธิการ” ซึ่งถือว่าสมาคมฯ รับรู้แล้ว
เรียกได้ว่า “มาทุกมิติ”
ซึ่ง “สำนักเลขาธิการ” จะเป็นเซ็นเตอร์แรกในการรับเรื่องและนำเสนอต่อไป
นอกจากนั้นยังต้องบริหารงานสมาคมฯ ในกรณีที่นายกสมาคมฯ และสภากรรมการ เว้นว่าง หรือ ลาออก ซึ่งเลขาธิการจะต้องดำเนินกิจการไปพลางก่อน รวมถึงจัดการเลือกตั้งเพื่อให้ได้มาซึ่ง นายกฯ และสภากรรมการ ภายใน 3 เดือน
เหมือนมีอำนาจ แต่จริงๆ ไม่ใช่
จากหน้าที่ของเลขาธิการ แทบไม่ต่างอะไรกับนายกสมาคมฯ เพราะต้องรับรู้ทุกเรื่องและต้องจัดการให้ได้ทุกเรื่อง จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมสื่อมวลชนไทยถึงเรียกตำแหน่งนี้ว่า “พ่อบ้านสมาคม”
แต่แท้จริงแล้ว “เลขาธิการ” ไม่ได้มีอำนาจอะไรเลย เพราะคนที่มีอำนาจสูงสุด คือ นายกสมาคมฯ
นายกสมาคมฯ เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการกำหนดนโยบายผ่านสภากรรมการ จากนั้น “เลขาธิการ” จะรับช่วงต่อในการประสานงานกับฝ่ายต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ
การตัดสินใจใดๆ เป็นอำนาจของนายกกับสภาซึ่งจะมีผลทางกฎหมายด้วย เช่น ยกเลิกสัญญากับคู่สัญญา, ให้สิทธิ์สโมสรในการกลับมาเล่นลีกอาชีพ ฯลฯ นั่นคือการตัดสินใจภายใต้ตัวแทนสโมสรสมาชิกที่เลือกคุณมา ดังนั้นคำสั่ง, นโยบาย, คำตัดสินนั้น จึงผูกพันธ์ในเชิงนิติกรรมหรือทางกฎหมาย
ส่วน “เลขาธิการ” ไม่เกี่ยว!
“เงินเดือน” ได้จาก...
ด้วยความที่ “เลขาธิการ” เป็นตำแหน่งที่มาจากการแต่งตั้ง ทำให้เป็น “ลูกจ้าง”
ดังนั้นจึงเป็นตำแหน่งที่ต้องมีเงินเดือน ไม่เหมือนกับนายกฯและสภา ที่เป็นงานอาสา จึงไม่อาจรับเงินเดือนได้
แต่หลายคนมีความเชื่อที่ว่า “เลขาธิการ” ได้เงินเดือนโดยตรงจาก FIFA เนื้อๆ เน้นๆ
จะว่าใช่ก็ใช่...จะว่าไม่ใช่ก็ไม่เชิง
อธิบายง่ายๆ FIFA, AFC, AFF มีเงินสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกต่างๆ ซึ่งการที่ประเทศนั้นๆ จะเอาเงินของ FIFA ไปพัฒนา “ฟุตบอล” จะต้องมี 2 ตำแหน่งนี้ คือ
1.ด้านเทคนิค : ประเทศนั้นๆ ต้องมี “ทีมชาติ” ทั้งทีมชายชุดใหญ่, ชุดเล็ก, ฟุตบอลหญิง, เยาวชน ฯลฯ ดังนั้นต้องมี “ประธานเทคนิค" (ต้องทำตัวเป็นสมาชิกที่ถูกต้องด้วย เช่น เข้าประชุม)
2.เลขาธิการ : ทำหน้าที่ดูแลด้านธุรการและกิจการทั่วไปตามโครงการของ FIFA
ทั้ง 2 ตำแหน่งเป็นตำแหน่ง “ขับเคลื่อน” ด้านเทคนิคและธุรการ ซึ่ง FIFA ต้องคอยประสานงานอยู่ตลอด ดังนั้นหากไม่มีตำแหน่งเหล่านี้ก็ไม่รู้จะโยนเงินสนับสนุนมาให้ทำไม
แต่เงินสนับสนุนส่วนนี้ FIFA เตรียมไว้ให้กับประเทศสมาชิกที่ “ยากจน” หรือ “ไม่มีเงิน” มากพอในการจ้าง ซึ่งสมาคมฯ เพียงแค่ส่งประวัติให้ FIFA รับทราบเพื่อดูความสามารถ วัยวุฒิ คุณวุฒิ เพื่อ
ประกอบเหตุผลในการนำเงินของ FIFA มาสนับสนุนเป็นค่าใช้จ่ายของ 2 ตำแหน่งนี้
แต่หากประเทศไหนร่ำรวยหรือมีเงินมากพอในการใช้เงินสมาคมฯ จ่ายเอง .... FIFA บอกว่า “ก็ไม่ติดอะไรนะ”
ทิศทางบอลไทย “เลขาฯ” มีส่วนอย่างยิ่ง
เห็นหน้าที่ความรับผิดชอบของ “เลขาธิการ” สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ บอกได้เลยว่า “ไม่ง่าย”
เพราะหาก “พลาด” เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ก็มีผลต่อการบริหารงานของสมาคมฯ
ขณะเดียวกัน การบริหารงานของสมาคมฯ จะเป็นไปในทิศทางบวกได้ ตำแหน่ง “เลขาธิการ” ก็มีส่วนไม่น้อยเช่นกัน
ฉะนั้นตำแหน่งนี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่ใช่ว่าจะเอาใครมาเป็นก็ได้ แต่ต้องมีความรู้ ความสามารถ การตัดสินใจ ความแม่นยำระเบียบข้อบังคับ ฯลฯ
ที่สำคัญ...ต้องฟูลไทม์!!!
ซึ่งนายกสมาคมฯ และสภากรรมการ จะต้องมีการพิจารณาอย่างละเอียด เพราะนี่คือส่วนหนึ่งของโครงสร้างสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
