Feature

แฟลกฟุตบอล : กีฬาหน้าใหม่ในโอลิมปิก 2028 และเรื่องราวของทีมชาติไทยในเวทีสากล | Main Stand

หนึ่งในชนิดกีฬาใหม่ที่มีการชิงเหรียญในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ลอสแอนเจลิส 2028 คือ "แฟลกฟุตบอล (Flag Football)" ที่ดูแปลกใหม่สำหรับใครหลายคน

 

ถึงแม้ว่ากีฬาแฟลกฟุตบอลจะมีสารตั้งต้นมาจากอเมริกันฟุตบอลอันเป็นกีฬาแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา แต่ถึงอย่างไร แฟลกฟุตบอลกลับมีกฎ กติกา ตลอดจนรายละเอียดยิบย่อยที่แตกต่างไปจากศึกคนชนคนอยู่มาก โดยเฉพาะการคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เล่น ดังนิยามที่คนในแวดวงแฟลกฟุตบอลบอกเสมอว่านี่คือ "กีฬาสำหรับทุกคน"

มากไปกว่านั้น แฟลกฟุตบอลยังมีทัวร์นาเมนต์การแข่งขันในระดับนานาชาติมาช้านาน ไล่มาตั้งแต่ศึกชิงแชมป์โลก ชิงแชมป์ระดับทวีป การแข่งขันในเวิลด์เกม กระทั่งล่าสุดกับการชิงชัยในโอลิมปิก แอลเอ 2028 

และสำหรับแฟลกฟุตบอลในไทย ใครเลยจะรู้ว่าที่ประเทศไทยมีการเล่นกีฬาชนิดนี้มานานแล้ว แถมยังมีทีมแฟลกฟุตบอลทีมชาติไทยด้วย

Main Stand ขอชวนผู้อ่านมาทำความรู้จักแฟลกฟุตบอลกันให้มากขึ้น และชวนมาติดตามเรื่องราวของทีมชาติไทยกับการแข่งขันในระดับสากลไปพร้อม ๆ กัน

 

กีฬาสำหรับคนทุกวัย

ว่ากันว่าจุดเริ่มต้นของกีฬาแฟลกฟุตบอลนั้นเริ่มขึ้นในกองทัพสหรัฐอเมริกา ช่วงต้นทศวรรษที่ 1940s หรือในระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โดยทหารอเมริกันจะเล่นกีฬาประเภทนี้ในช่วงที่เว้นว่างจากภารกิจ 

การเล่นแฟลกฟุตบอลของทหารอเมริกัน นอกจากจะเป็นกิจกรรมสันทนาการของทหารในกองทัพ สร้างมิตรภาพในหมู่คณะ และช่วยเสริมสร้างสภาพร่างกายแล้ว เหตุผลสำคัญอีกข้อหนึ่งที่เกี่ยวข้องคือ แฟลกฟุตบอลไม่ใช่กีฬาที่ต้องเข้าปะทะแบบเดียวกับอเมริกันฟุตบอล ซึ่งจะช่วยทำให้ทหารไม่ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาในระหว่างเข้าประจำการ

จากนั้นหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง กีฬาประเภทนี้ถูกจัดแข่งขันแบบเป็นกิจจะลักษณะมากขึ้น เริ่มมีลีกแข่งขันเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1950s และช่วง 1960s แฟลกฟุตบอลได้รับความนิยมไปทั่วสหรัฐฯ คนทุกเพศวัยเริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง จากเดิมที่ปรากฏเป็นภาพของทหารจากกองทัพ ไม่นานก็เริ่มแพร่ขยายออกไปสู่ระดับโลก

แม้ว่ารากฐานของแฟลกฟุตบอลกับอเมริกันฟุตบอลจะมีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง เช่นการเล่นที่ต้องอาศัยทั้งการวิ่ง การขว้างลูก ตำแหน่งของผู้เล่นในสนามที่มี ควอเตอร์แบ็ก (Quarterback), รีซีฟเวอร์ (Receiver), รันนิ่งแบ็ก (Running back) ไปจนถึงเซ็นเตอร์ (Center) ฯลฯ แต่กระนั้นกีฬาทั้งสองประเภทนี้กลับมีรายละเอียดที่ต่างกันอยู่พอสมควร

แฟลกฟุตบอลจะให้ความสำคัญในเรื่องการหลีกเลี่ยงการเข้าปะทะเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องอาการบาดเจ็บ โดยจะมีอุปกรณ์อย่าง "ธง (Flag)" ที่เป็นแถบผ้าติดอยู่บริเวณเข็มขัดข้างลำตัวของผู้เล่น แทนที่ผู้เล่นจะเข้าชนคู่แข่งเหมือนอเมริกันฟุตบอล นักกีฬาแฟลกฟุตบอลจะใช้วิธีการดึงแถบผ้าที่ติดอยู่ให้หลุดออกจากเข็มขัดเพื่อหยุดเกมไม่ให้คู่แข่งนำลูกเข้าไปตั้งเล่นในแดนที่กำหนด 

"จุดที่มันแตกต่างกันก็คือ แฟลกฟุตบอลได้ชื่อว่าเป็น Non-Contact Sports คือไม่มีการปะทะ แต่เราดึงสาย Flag (ธง) กัน" ธีรวุฒิ สุวรรณรัตนมณี เฮดโค้ชแฟลกฟุตบอลทีมชาติไทย อธิบาย

ส่วนเรื่องของนักกีฬาในสนามก็จะถูกกำหนดและยืดหยุ่นไปตามปัจจัยหลายหลาก เช่น สนามแข่งขัน และทัวร์นาเมนต์ที่ลงชิงชัย 

ยกตัวอย่างการแข่งขันเวิลด์เกม (มหกรรมกีฬาระดับโลกที่นำชนิดกีฬาซึ่งไม่ได้บรรจุในโอลิมปิกมาจัดแข่งขัน) แฟลกฟุตบอลกำหนดให้แต่ละทีมมีนักกีฬาในทีม 12 ราย แบ่งเป็นผู้เล่นในสนาม 5 รายในส่วนเกมรุก ขณะที่เกมรับก็มี 5 ราย อีก 2 รายเป็นตัวสำรอง ด้านทัวร์นาเมนต์เอเชียน บีช เกมส์ 2014 ที่ทีมชาติไทยเคยได้เหรียญทอง รายการนั้นกำหนดให้นักกีฬาลงสนามทีมละ 4 ราย ตามขนาดพื้นที่ของสนามแข่งขัน เป็นต้น

ด้านเรื่องอุปกรณ์การแข่งขัน แน่นอนว่าการที่แฟลกฟุตบอลเป็นกีฬาที่หลีกเลี่ยงการเข้าปะทะ ดังนั้นนักกีฬาจึงไม่จำเป็นต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันเหมือนอเมริกันฟุตบอล มีเพียงแค่ชุดกีฬา รองเท้ากีฬาหรือสตั๊ด เท่านี้ก็สามารถเล่นกีฬานี้ได้ทันที

"อย่างอเมริกันฟุตบอล มันจะมีคนขว้างบอล ขว้างไปให้ปีก ปีกรับบอลเสร็จปุ๊บก็จะถูกคนเข้ามารุมปะทะ มาชนมาอะไรแบบนี้ ซึ่งมันก็ต้องมีเครื่องป้องกันอะไรเยอะแยะมากมาย แถมเครื่องป้องกันก็ราคาแพง" ธีรวุฒิ หรือ โค้ชโชค กล่าวต่อ

"แต่แฟลกฟุตบอล เราใช้การดึงสายธงด้านข้างแทนการปะทะ ซึ่งมันก็เซฟกว่า แล้วอุปกรณ์ก็ง่าย มีแค่ (หนึ่ง) ลูกบอล (สอง) มีสายธง แค่นี้ก็เล่นได้แล้ว" 

"ถ้าธงโดนดึงไปแล้วนักกีฬาคนนั้นก็จะ Down by Contact ก็จะเริ่มเล่นบอลตรงนั้น ตรงจุดที่โดนดึงธง แทนการที่คนจะมารุมเข้าปะทะก็มาหยุดตรงนั้น จุดที่มันแตกต่างกันก็คือว่า แฟลกฟุตบอลได้ชื่อว่าเป็น Non-Contact Sports คือไม่มีการปะทะ แต่เราดึงสาย Flag (ธง) กัน" 

"มันเป็นอเมริกันฟุตบอลฉบับย่อที่มันเซฟกว่า เหมาะกับการใช้สกิลร่างกายที่แตกต่างกัน มันเลยเล่นได้ทุกเพศทุกวัย ผู้หญิงก็เล่นได้ คนมีน้ำหนักก็เล่นได้ แต่ละคนมีหน้าที่ของตัวเอง เหมือนเป็นเกมวางแผนด้วย เพราะมันเป็นการเล่นแบบ play ต่อ play"

กับข้อมูลที่ว่ามานี้ จึงไม่แปลกเลยที่แฟลกฟุตบอลจะได้รับคำนิยามจากคนในวงการว่านี่คือกีฬาสำหรับ "ทุกคน"

 

ถนนสู่โอลิมปิก 2028

นับตั้งแต่ที่กีฬาแฟลกฟุตบอลเริ่มเป็นที่พูดถึงและกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในสหรัฐอเมริกาในยุค 1950s ถึง 1960s จากการที่ทหารในกองทัพเลือกเล่นกีฬาชนิดนี้ต่อหลังจบสงคราม ไม่นานแฟลกฟุตบอลก็แผ่ขยายไปสู่การเล่นระดับมัธยมต้น มัธยมปลาย วิทยาลัย ไปจนถึงการที่หลาย ๆ เมืองในอเมริกาเริ่มพัฒนาขึ้นมาสู่ระดับลีกสมัครเล่น และเติบโตไปพร้อมกับกฎกติกาที่ชัดเจนขึ้นในช่วงยุค 1970s ไปจนถึงยุค 1990s

เมื่อกาลเวลาเดินทางมาถึงยุค 1990s ต่อ 2000s ระหว่างนี้เองกีฬาชนิดนี้ก็ถูกพัฒนาไปสู่ระดับสากลอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการถือกำเนิดขึ้นของ สหพันธ์อเมริกันฟุตบอลนานาชาติ (International Federation of American Football หรือ IFAF) ในปี 1998

ยิ่งไปกว่านั้น หนึ่งในแรงขับเคลื่อนชั้นดีเพื่อให้แฟลกฟุตบอลก้าวสู่ระดับสากลในอนาคตก็คือ เอ็นเอฟแอล (NFL หรือ National Football League ลีกอเมริกันฟุตบอลอาชีพ) หนึ่งในนั้นคือการริเริ่มประชาสัมพันธ์ผ่านการแข่งขัน NFL Flag Football World Championship โดยการคัดเลือกเยาวชนจาก 10 ประเทศทั่วโลกมาชิงความเป็นหนึ่ง

เมื่อแฟลกฟุตบอลก้าวไปถึงเวทีนานาชาติได้สำเร็จ กอปรกับที่ทาง IFAF ในส่วนของสหพันธ์ตามแต่ละภูมิภาคก็เริ่มถือกำเนิดขึ้น พร้อม ๆ กับการจัดแข่งขันทั้งในระดับทีมชาติและสโมสรควบคู่กันไป 

เวลาต่อจากนั้น แฟลกฟุตบอลก็เริ่มเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันรายการอื่น ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ ที่เด่นชัดที่สุดรายการหนึ่งคือการถูกบรรจุเข้ามาอยู่ในเวิลด์เกม 2022 ที่เมืองเบอมิงแฮม รัฐอลาบามา มาจนล่าสุดกับการผลักดันสู่โอลิมปิก 2028 ที่ลอสแอนเจลิส ภายใต้ความเป็นปึกแผ่นที่ว่าทาง IFAF จัดการแข่งขันระดับชิงแชมป์โลกและชิงแชมป์ระดับทวีปอยู่บ่อย ๆ ซึ่งเปรียบดั่งหมุดหมายที่ดีของกีฬาชนิดนี้สู่ความเป็นสากล

และหากเกิดขึ้นจริง นี่จะเป็นหนแรกของโอลิมปิกฤดูร้อนที่มี แฟลกฟุตบอล เป็นหนึ่งในชนิดกีฬารอให้ทีมชาติจากทั่วทุกมุมโลกร่วมชิงชัย

"(แฟลกฟุตบอล) มีความเกี่ยวโยง มีนวัตกรรม และอิงกับชุมชน กีฬาชนิดนี้เล่นได้ตั้งแต่ที่สวนหลังบ้าน สนามโรงเรียน ศูนย์ภายในชุมชน สนามกีฬา และสวนสาธารณะทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก" เคซีย์ วาสเซอร์แมน ประธานจัดแอลเอ 2028 ย้ำความสำคัญ

"สิ่งต่าง ๆ เกี่ยวกับกีฬาประเภทฟุตบอลกำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็ว" เบ็ตติน่า คอร์นเวลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจกีฬาแห่งมหาวิทยาลัยโอเรกอน กล่าว 

"เป็นความคิดที่ชาญฉลาดมากสำหรับการทำให้เกมประเภทฟุตบอลถูกนำเสนอในวงที่กว้างขึ้นและน่าจะดึงดูดผู้คนทั่วโลก และแสดงเห็นว่าเราสามารถเล่นกีฬานี้ได้โดยไม่ต้องไปยึดติดกับการเล่นกีฬาที่ต้องเข้าปะทะ (อเมริกันฟุตบอล)"

 

แฟลกฟุตบอลในประเทศไทย

แฟลกฟุตบอลเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันกับที่ฝั่งอเมริกาเริ่มการเผยแพร่สู่ระดับโลก โดยฟันเฟืองแรก ๆ ของการขับเคลื่อนที่ไทยเริ่มจากคนที่เคยมีประสบการณ์ตรงกับอเมริกันฟุตบอลและแฟลกฟุตบอลมาก่อน อย่างคนที่เคยไปใช้ชีวิตที่สหรัฐอเมริกา

"สักประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว ทาง NFL มีโปรแกรม NFL Flag Football ให้เป็นกีฬาสำหรับเยาวชน เขาเลือกทีมส่งไปแข่งโดยคัดจาก 10 ประเทศ ซึ่งตอนนั้นมีบริษัทในไทยที่เป็นตัวแทนที่มีไลเซนส์ของ NFL ก็รับมิชชั่นนี้มาว่าให้คัดเลือกทีมไทยที่เป็นเยาวชนมา เยาวชนอายุ 12-14 ปี ก็ไปหาตามโรงเรียนต่าง ๆ แล้วพยายามหาคนไปฝึกสอน และทำหน้าที่ต่าง ๆ" พิเชษฐ สิทธิอำนวย นายกสมาคมแฟลกฟุตบอลและอเมริกันฟุตบอลในไทย เกริ่น

"เราในฐานะคนดูกีฬานี้มาก่อน อยู่เมืองนอกก็เคยเล่นมาก่อน เขาก็ขอมาว่าช่วยได้ไหม เรามีความรู้ก็มาช่วยกัน ก็หาคนที่สนใจเกมพวกนี้ที่เคยเล่นที่อเมริกา แม้จะเป็นระดับแฟลกที่ไม่ได้เป็นระดับใส่หมวกใส่ชุดกันอะไร ก็ตรงกับที่ทางนั้นเขาต้องการ ก็เลยมาช่วยทางโรงเรียน ลงไปดูว่าช่วยอะไรได้บ้าง บางคนก็ไปช่วยเป็นโค้ช บางคนก็ทำหน้าที่จัดการ" 

จากจุดเริ่มต้นที่เป็นนักกีฬาที่เป็นเยาวชน ที่สุดแล้วตัวแทนทีมแฟลกฟุตบอลจากประเทศไทยก็ก้าวไปไกลถึงแชมป์รายการ NFL Flag Football World Championship โดยได้แชมป์รายการนี้ถึง 2 สมัย ในปี 2005 และ 2006

"ทีมไทยสามารถไปถึงแชมป์ ถ้าจำไม่ผิดคือ 2 หนนะครับ ต้องบอกว่าเป็นความสำเร็จที่สูงมาก เพราะต้องบอกว่าเราเป็นประเทศที่ความนิยมของกีฬาชนิดนี้นี่น้อยมากเมื่อเทียบกับเกาหลีและญี่ปุ่นซึ่งมีการเล่นอเมริกันฟุตบอลแบบเต็มรูป หรือแบบเข้าปะทะมากกว่า ปรากฏว่าเรามีการจัดการที่ดี มีการเก็บตัวคัดเลือกนักกีฬาที่ดี ทำให้เราสามารถคว้าชัยชนะได้ในระดับโลกมาได้" นายกสมาคมแฟลกฟุตบอลฯ ว่าต่อ

ความสำเร็จเล็ก ๆ นี้ทำให้วงการแฟลกฟุตบอลในไทยเติบโตขึ้น มีการพัฒนาสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติ คราวนี้ IFAF เป็นผู้จัดการแข่งขันเองทั้งระดับทีมชาติและสโมสร ผลปรากฏว่าทีมไทยทำผลงานได้น่าชื่นชมอยู่บ่อย ๆ อย่างในรายการ IFAF Flag Football World Championship 2006 ทีมชาติไทยก็คว้าอันดับสามของการแข่งขัน, ทีม Bangkok Flag Football Club ในฐานะตัวแทนไทย ได้แชมป์ในรายการ Asia Flag Football Open Championship 2011 (Club Team) ฯลฯ

ต่อเนื่องด้วยความสำเร็จของทีมชาติไทยใน Asia Flag Football Championship 2015 ที่คว้าแชมป์มาครองได้ รวมถึงการแข่งขัน Asia Beach Flag Football Championship (4th Asian Beach Games) ปี 2014 โดยคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งเอเชีย ผลปรากฏว่าทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ในการแข่งขันที่จังหวัดภูเก็ต

"ตอนนั้นประเทศไทยเราเป็นเจ้าภาพเอเชียน บีช เกมส์ แข่งที่ภูเก็ตนะครับ ตอนนั้นทางการกีฬาขอให้เราจัดทีมส่งแข่ง แล้วก็ช่วยจัดการแข่งขันด้วย ก็เป็นมิชชั่นที่ยาก เพราะเราไม่เคยจัดการแข่งขัน เราก็เลยจัดการแข่งขันแล้วส่งทีมลงแข่ง เราก็เอาเด็ก ๆ สมัยก่อนนี่แหละมาคัดตัว" พิเชษฐ สิทธิอำนวย หรือ คุณโบ้ เผยต่อ

"ปรากฏว่าเราประสบความสำเร็จสูงสุดแล้วคือได้เหรียญทอง เรียกได้ว่าดีทีเดียว หลังจากนั้นก็เป็นการแข่งขันในระดับเอเชีย มีการแข่งขันที่เวียดนาม ฟิลิปปินส์ เราก็ได้ที่หนึ่งบ้างที่สองบ้างแล้วแต่รอบ ก็เรียกว่าเป็นกีฬาที่คนอาจจะยังเล่นไม่เยอะมากแต่คุณภาพคับแก้ว"

อย่างไรก็ดี แม้ทีมแฟลกฟุตบอลไทยไม่ว่าจะทีมชาติ ระดับสโมสร หรือทีมเยาวชนจะต่อกรกับทีมนานาชาติได้อย่างน่าสนใจ แถมหลายครั้งยังหยิบเหรียญรางวัลกลับบ้านได้อยู่บ่อย ๆ 

ทว่าการเดินทางของทีมแฟลกฟุตบอลไทยก็ใช่ว่าจะราบรื่นไปเสียทั้งหมด โดยเฉพาะข้อจำกัดเรื่องของจำนวนนักกีฬา ความนิยม ไปจนถึงเรื่องงบประมาณ โดยเฉพาะงบประมาณยามที่ต้องเดินทางไปแข่งขันในต่างประเทศ 

"จริง ๆ ต้องบอกว่านักกีฬาต้องเป็นคนที่รักกีฬานี้มาก ๆ สมัยก่อนก็ดีอย่าง นักกีฬาส่วนหนึ่งตั้งแต่สมัยที่ไปชิงแชมป์โลกมาเล่นกัน แต่รุ่นใหม่ ๆ ก็มีนักกีฬาที่อยู่ในสถาบันการศึกษาที่เล่นอยู่ อย่างมหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ฯลฯ" คุณโบ้ อธิบายต่อ

"ปัญหาที่ใหญ่สุดอย่างแรกคือเรามีจำนวนนักกีฬาสำหรับคัดเลือกที่จำกัด คนที่มาบางคนอาจจะบอกว่า ฉันอยากเล่นวันเสาร์วันอาทิตย์แบบสนุก ๆ พอ อีกส่วนหนึ่งบอกว่าฉันอยากจะเล่นแบบระดับแข่งขัน เพราะฉะนั้นมันทำให้จำนวนคนเล่นมันหายไปเยอะเหมือนกัน การคัดตัวก็ยากขึ้น"

"สองคือเรื่องของค่าใช้จ่าย การไปแข่งต่างประเทศ เดี๋ยวนี้แมตช์เริ่มเยอะกว่าเดิม ปัญหาที่ตามมาคือเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะยิ่งเป็นแมตช์นานาชาติค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องใหญ่มาก มันต้องมีค่าตั๋วค่าที่พัก"

อนึ่ง ต่อให้จะมีอุปสรรคหรือเรื่องราวที่พัดพาให้เป็นโจทย์อยู่บ้าง กลับกันวงการแฟลกฟุตบอลไทยก็ไม่เคยหยุดพัฒนาเพื่อรอวันที่จะก้าวไปให้ไกลกว่าเดิม

 

ทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์เอเชีย และเป้าหมายต่อจากนี้

จากประสบการณ์ที่สั่งสมมานานของแฟลกฟุตบอลทีมชาติไทยซึ่งกินเวลาเกินทศวรรษ นำมาซึ่งความเข้าใจในเกมการแข่งขัน นี่คือเหตุผลสำคัญข้อหนึ่งที่ทำให้ทีมตัวแทนจากไทยอยู่ในระดับ "เต้ย" ของทวีปเอเชียมาช้านาน

แม้ชาติอื่นจะเริ่มพัฒนาขึ้นมามากน้อยเพียงใด อย่างญี่ปุ่นที่มีการเล่นอเมริกันฟุตบอลเต็มรูปแบบ จีนก็เริ่มพัฒนากีฬาประเภทนี้มากขึ้นในแต่ละเมือง หรือแม้แต่มาเลเซียที่ใช้โมเดลดึงอินฟลูเอนเซอร์ในหลาย ๆ แวดวงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง จนทำให้มาเลเซียมีคนที่เป็นส่วนหนึ่งของกีฬานี้แตะหลักพันคน

สำหรับแฟลกฟุตบอลชายทีมชาติไทยกับผลงานดีกรีอันดับ 13 (จากทั้งหมด 22 ทีม) ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกเมื่อปี 2021 ที่อิสราเอล และแชมป์เอเชีย-โอเชียเนีย ปี 2023 ที่มาเลเซีย เช่นเดียวกับทีมแฟลกฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยที่เพิ่งคว้าแชมป์ MAFA ROSE BOWL 2023 ที่มาเลเซีย ทั้งหมดนี้ถือเป็นตัวอย่างชั้นดีที่สื่อให้เห็นถึงการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังบทสัมภาษณ์ของ คุณโบ้ ในฐานะหัวเรือใหญ่แห่งวงการแฟลกฟุตบอลไทย

"ถึงแม้ว่าในประเทศไทยของเราจะมีผู้ที่สนใจเล่นกีฬาแฟลกฟุตบอลน้อยกว่าชาติอื่น ๆ มาก แต่ต้องขอบอกว่าบรรดาชาติคู่แข่งเขาจับตาวิธีการเล่นและพัฒนาการของทีมชาติไทยอยู่ตลอด ข้อแรก คือทีมชาติไทยมีความเข้าใจเกมในระดับที่สูงมาก เนื่องด้วยประสบการณ์การแข่งขันมากกว่า 10 ปี และข้อที่สอง คงหนีไม่พ้นเรื่องความรวดเร็วและความคล่องตัว"

"แฟลกฟุตบอลเป็นกีฬาที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก แต่เราสามารถเล่น และมีศักยภาพ มีความสามารถในระดับเอเชียเลย"

"ตอนแรกเราทำทีมระยะสั้น ในสมัยก่อนเหมือนมีแข่งทีหนึ่งก็รวมตัวกันทีหนึ่งอะไรแบบนี้ แต่ตอนหลัง ๆ พอเรามีข่าวมาตั้งแต่ต้นปีกันแล้วว่ามันมีโอกาสที่จะเข้าไปสู่โอลิมปิก ทีนี้เราก็เลยคุยกับทางสมาคมฯ ว่าถ้าเกิดเราทำแผนระยะยาว มันจะต้องทำประมาณไหน" โค้ชโชค ตอบคำถามเรื่องแผนการทำทีมแฟลกฟุตบอลทีมชาติไทย

"เราก็ได้บทสรุปว่าเราก็เปิดเป็นวันเสาร์นัดทุกคนมาซ้อมรวมกัน แค่วันเสาร์หรือไม่ก็วันอาทิตย์ หนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ แล้วเราก็ดึงคนใหม่ ๆ เข้ามา" 

"แล้วพอมีเด็กอายุน้อย ๆ เข้ามา เราก็เก็บประสบการณ์กันไปเรื่อย ๆ ให้เขาเล่นกับคนที่เก่ง ๆ มีประสบการณ์เยอะ ๆ พอมี Generation แบบนี้เข้ามาทดแทนเรื่อย ๆ มันก็โตเร็ว"

หากทีมชาติไทยทั้งทีมชายและทีมหญิงรักษามาตรฐานที่มีอยู่เดิม เพิ่มเติมด้วยการยกระดับและพัฒนาในหลาย ๆ ด้าน

ไม่แน่ว่าเราอาจได้เห็นวงการแฟลกฟุตบอลไทยก้าวไปสู่ความยิ่งใหญ่บนเวทีโลกมากกว่านี้ โดยเฉพาะกับการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2028 ณ มหานครลอสแอนเจลิส

 

 

แหล่งอ้างอิง

บทสัมภาษณ์พิเชษฐ สิทธิอำนวย นายกสมาคมแฟลกฟุตบอลและอเมริกันฟุตบอลไทย
บทสัมภาษณ์ธีรวุฒิ สุวรรณรัตนมณี เฮดโค้ชแฟลกฟุตบอลทีมชาติไทย
เอกสารประวัติความเป็นมา Flag Football โดยสมาคมแฟลกฟุตบอลและอเมริกันฟุตบอลไทย
https://www.facebook.com/ThaiFlagLeague/posts/662540997220160/?locale=th_TH 
https://nflflag.com/coaches/flag-football-rules 
https://operations.nfl.com/learn-the-game/flag-football/flag-football-growth/ 
https://en.wikipedia.org/wiki/Flag_football 
https://www.standard.co.uk/sport/sport-olympics/what-is-flag-football-rules-olympics-la-2028-games-b1113405.html
https://www.worldcupflagfootball.com/history-origin-flag-football/ 

Author

พชรพล เกตุจินากูล

แฟนคลับเชลซี ติดตามฟุตบอลเอเชีย ไก่ทอดและกิมจิเลิฟเวอร์

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ