Feature

เซร์คิโอ โรเมโร่ : โกลผู้เคยถูก “จัดตั้ง” เป็นมือหนึ่งแมน ยูฯ แต่กลับได้นั่งสำรองยาว | Main Stand

เราอาจกล่าวได้ว่า ผู้รักษาประตู เป็นตำแหน่งที่ผู้จัดการทีมฟุตบอลแต่ละคนเลือกเปลี่ยนตัวคนลงไปทำหน้าที่ในระหว่างการแข่งขัน “น้อยกว่า” ตำแหน่งอื่น ๆ ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริง ๆ เช่น เจ็บระหว่างแข่ง หรือโดนใบแดง

 


นั่นทำให้แข้งในตำแหน่งดังกล่าว โดยเฉพาะพวกมือสองหรือมือสาม นอกจากจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อพิชิตใจกุนซือแล้ว นักเตะคนนั้น ๆ จำเป็นต้องรักษาสภาพจิตใจตัวเองไปด้วย เพื่อรอให้โอกาสมาถึงตัวเองในสักวันหนึ่ง

โลกลูกหนังมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นอยู่มากมาย แต่หากจะหานายด่านรายหนึ่งที่ประสบเหตุการณ์ดังกล่าวจนกลายเป็นภาพชินตาของแฟนฟุตบอลหลายคน เขาคนนั้นก็คือ “เซร์คิโอ โรเมโร่” ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

นี่คือจอมหนึบดีกรีรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 กับอาร์เจนติน่า เขาย้ายมายังโอลด์ แทรฟฟอร์ด พร้อมสถานะการถูก “จัดตั้ง” ให้เป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งสโมสร และอย่างที่คอลูกหนังทราบกัน ที่สุดแล้วมันไม่เป็นเช่นนั้น เขากลับกลายเป็นตัวเลือกสำรองตลอดเส้นทางที่ยูไนเต็ด

Main Stand ชวนผู้อ่านทุกคนย้อนกลับไปติดตามเรื่องราวของ เซร์คิโอ โรเมโร่ ที่อาจกล่าวได้ว่า เขาคือนายประตูสำรองฝีมือดี ไปจนถึงบทบาทโกลจอมอาภัพมากที่สุดคนหนึ่งในวงการฟุตบอล

 

แจ้งเกิดจากฟุตบอลโลก 2014

เส้นทางฟุตบอลของ เซร์คิโอ โรเมโร่ ในฐานะนักเตะอาร์เจนติน่า คล้ายคลึงกับนักเตะเพื่อนร่วมชาติและร่วมทวีปอเมริกาใต้หลาย ๆ คนที่ได้โอกาสไปสร้างอาชีพสร้างรายได้บนผืนแผ่นดินยุโรป โดยอดีตเด็กสร้างของ ราซิ่ง คลับ ผู้นี้ ย้ายไปเล่นกับ อาแซด อัลค์มาร์ ตั้งแต่อายุเพียง 20 ปี 

ไม่ว่าจะได้อยู่เฝ้าเสาให้ทีมใดก็ตาม ไล่มาตั้งแต่อาแซด, ซามพ์โดเรีย รวมถึงสัญญายืมตัวระยะสั้นที่ อาแอส โมนาโก แต่โมเมนต์ที่แฟนฟุตบอลทั่วโลกจดจำเขาได้มากที่สุด คือผลงานใน “ฟุตบอลโลก 2014”

นับแต่ถูกเรียกติดทีมครั้งแรกเมื่อปี 2009 ในยุคกุนซือดิเอโก้ มาราโดน่า เซร์คิโอ เป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูขาประจำที่มักจะถูกกุนซือคนแล้วคนเล่าไว้เนื้อเชื่อใจเรียกติดธงอาร์เจนไตน์อยู่เรื่อยมา  

ไม่ว่าจะฟุตบอลโลก 2010 หรือ ฟุตบอลโคปา อเมริกา 2011 ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ของอาร์เจนติน่าในเวลานั้น ล้วนแต่มีนายด่านรายนี้เป็นมือหนึ่ง

ว่ากันว่าทีมชาติอาร์เจนติน่าในฟุตบอลโลก 2014 มีขนาดขุมกำลังเหมาะเหม็งกับการไล่ล่าความสำเร็จไม่น้อย ลิโอเนล เมสซี่ กำลังอยู่ในช่วงการเล่นที่ดีที่สุด ในรายของ กอนซานโล่ อิกวาอิน ฟอร์มแรงร่วมกับนาโปลี ด้าน ปาโบล ซาบาเลต้า ก็เพิ่งช่วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาหมาด ๆ ขณะที่ตำแหน่งนายประตูมือหนึ่ง ยังคงยึดประสบการณ์ของโรเมโร่ 

พลพรรคฟ้าขาว เกือบเดินจากเส้นทางดั่งมาตามนัด พวกเขาจบอันดับในกลุ่ม F ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม ตามด้วยการปราบสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงเบลเยียม ในรอบ 16 และ 8 ทีมสุดท้าย ตามลำดับ และหนึ่งในฮีโร่ของชาติ ก็คือโรเมโร่ ที่เสียไปเพียง 3 ประตูในรอบแบ่งกลุ่ม และไม่เสียประตูเลยในสามนัดหลังที่เล่นรอบน็อกเอาต์

ต่อด้วยการชนะลูกโทษเนเธอร์แลนด์ 4-2 ในรอบรองชนะเลิศ หลังเสมอในเวลา 120 นาที 0-0 และสำหรับเกมนี้ คนที่ทำหน้าที่ได้โดดเด่นเกินใครก็คือ เซร์คิโอ โรเมโร่ หลังนายประตูมือหนึ่งฟ้าขาว โชว์เซฟสองจุดโทษของแข้งดัตช์ อย่าง รอน ฟลาร์ และ เวสลี่ย์ สไนเดอร์

น่าเสียดายที่ฝันของพลพรรคอาร์เจนไตน์นั้นไปไม่ถึงโทรฟี่ฟุตบอลโลก เมื่อมาพ่ายต่อทีมชาติเยอรมนีในนัดชิงชนะเลิศ 1-0 

แม้จะปราชัย แต่ถึงอย่างไร จากผลงานโดยรวม ส่งให้เขาติดโผเป็น 1 ใน 3 นายด่านลุ้นรางวัลถุงมือทองคำประจำทัวร์นาเมนต์ และนั่นก็ทำให้สปอตไลท์ได้สาดส่องมายังนายทวารรายนี้เข้าเต็มเปา 

กอปรกับจังหวะดีสุด ๆ ในช่วงหลังฟุตบอลโลก 2014 เมื่อต้นสังกัดในเวลานั้นอย่างซามพ์โดเรีย เลือกไม่ต่อสัญญากับเขา เป็นเหตุให้หลังสิ้นสุดฤดูกาล 2014-15 เขากลายเป็นนักเตะฟรีเอเยนต์ที่ว่างงานได้ไม่นาน เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจดึงมาร่วมทัพแบบไร้ค่าตัวในซีซั่น 2015-16 

โรเมโร่กำลังจะได้กลับมาร่วมงานกับหลุยส์ ฟาน กัล กุนซือที่เคยให้โอกาสเขาลงเล่นในทีมอาแซด และยังช่วยกันพาทีมเป็นแชมป์เอเรดิวิซี่ ลีกได้หนึ่งสมัย (2008-09) 

แถมการโยกมาเล่นในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ครานี้ เขายังถูก “จัดตั้ง” ให้เป็นนายประตูมือหนึ่งของสโมสรด้วยซ้ำไป

 

มือสองที่ดีที่สุดในโลก

2015-16 หวิดเป็นฤดูกาลที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกิดความเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งผู้รักษาประตูมือหนึ่ง เมื่อ ดาบิด เด เคอา มีข่าวอย่างหนักหน่วงกับเรอัล มาดริดจนเป็นดั่งมหากาพย์ ถึงขั้นที่ว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตกลงทุก ๆ รายละเอียดกันได้แล้ว 

ทว่าอย่างที่สาวกลูกหนังทราบกันดี ที่สุดมันไม่เกิดขึ้น เนื่องจากยื่นเอกสารย้ายทีมไม่ทันตามกำหนดเวลาของตลาดซื้อขายนักเตะ

ในระหว่างนั้นเอง หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือปีศาจแดง ก็ได้จับ “บิ๊กเดฟ” สถิตม้านั่งสำรองตั้งแต่ฤดูกาลใหม่เปิดฉาก เหตุผลหลัก ๆ คือนักเตะไม่พร้อมที่จะลงสนามให้ทีม จากเหตุข่าวคาราคาซังเรื่องย้ายสโมสร

อีกทั้งว่ากันว่า บิคตอร์ บัลเดส นายด่านฝีมือดีอีกรายที่ยังเป็นสมาชิกทีม มีปัญหาไม่ลงรอยกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวดัตช์ 

ด้วยเหตุนี้ นายด่านที่เพรียบพร้อมเป็นมือหนึ่งของยูไนเต็ดมากที่สุดในเวลานั้น ก็คือ เซร์คิโอ โรเมโร่

“กับสถานการณ์ของเรา จากข่าวยืดเยื้อของ ดาบิด เด เคอา ที่จะไป เรอัล มาดริด ผมคิดว่าเราก็ต้องเตรียมฤดูกาลของเราให้ดี และผมคิดว่า เซร์คิโอ โรเมโร่ สามารถเติมเต็มสิ่งนั้นได้ เพราะคุณต้องจัดการทุกอย่างให้รวดเร็วหากมันเกิดสถานการณ์ขึ้นกับดาบิด เด เคอา” ฟาน กัล กล่าวถึงสถานการณ์ช่วงต้นซีซั่น 2015-16

“เซร์คิโอเป็นผู้รักษาประตูที่มีพรสวรรค์ เขาเป็นผู้รักษาประตูอายุน้อยในสมัยที่ผมอยู่คุม อาแซด อัลค์มาร์ และผมดีใจที่เขาย้ายมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เซร์คิโอลงเล่นในฟุตบอลโลกด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมเมื่อซัมเมอร์ที่แล้วในบราซิล นั่นเป็นสิ่งที่ผมเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ เขาจะเป็นส่วนเติมเต็มที่ยอดเยี่ยมให้ทีม”

ขณะที่โรเมโร่ ยอมรับว่าแมนฯ ยูไนเต็ด คือทีมในฝันที่เขาอยากเป็นส่วนหนึ่งมาโดยตลอด “ผมดีใจมาก ๆ ที่ได้ย้ายมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การได้เล่นให้กับสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือความฝันที่เป็นจริง ผมแทบรอไม่ไหวที่จะเริ่มต้นความท้าทายใหม่และน่าตื่นเต้นในอาชีพของผม”

4 เกมแรกในพรีเมียร์ลีก นายทวารเลือดฟ้าขาวรายนี้รับหน้าที่เป็นมือหนึ่งของสโมสร แถมทำผลงานได้น่าประทับใจ เก็บคลีนชีตให้ทีมได้ถึง 3 เกม

อย่างไรก็แล้วแต่ เมื่อดีลการย้ายทีมของ เด เคอา ไม่เกิดขึ้น ที่สุดแล้วตำแหน่งมือหนึ่งของเร้ด เดวิลล์ ก็กลับมาอยู่ที่จอมหนึบสแปนิชอีกครั้ง และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการกลายเป็น “สำรองอดทน” ที่ยูไนเต็ด

 

สำรองแต่ยังสำคัญ

เซร์คิโอ โรเมโร่ เผชิญสถานการณ์เป็นตัวเลือกรองในตำแหน่งผู้รักษาประตูตั้งแต่ซีซั่นแรกที่เข้ามา แม้แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีการเปลี่ยนแปลงเก้าอี้กุนซือไปสักกี่คน ทว่าบทบาทของจอมหนึบอาร์เจนไตน์ ก็ยังคงเดิม

หลังยุค หลุยส์ ฟาน กัล ยูไนเต็ดเลือกใช้บริการ โชเซ่ มูรินโญ่ ทำหน้าที่คุมชุดใหญ่แทน ดูเหมือนว่ายุคของเทรนเนอร์โปรตุกีส จะเริ่มแบ่งสัดส่วนการทำงานในสนามของเหล่านายด่านได้ชัดเจน กล่าวคือ เด เคอา เป็นขาประจำในพรีเมียร์ลีก ขณะที่ฟุตบอลถ้วย สัมปทานเป็นของโรเมโร่

จุดน่าประทับใจแบบจริง ๆ จัง ๆ อีกครั้งของเซร์คิโอ โรเมโร่ ที่มีต่อแมนฯ ยูไนเต็ด คือการได้ลงเล่นในยูโรป้า ลีก 2016-17 แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย แถมได้ทำหน้าที่ในนัดชิงชนะเลิศ ที่ยูไนเต็ดบดอาแจ็กซ์ 2-0 

เบ็ดเสร็จแล้ว เขาทำคลีนชีตในศึกถ้วยยุโรปเล็กปีนั้นไปถึง 8 เกมด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นฟันเฟืองพาทีมเป็นแชมป์รายการดังกล่าวหนแรกอย่างเป็นภาคภูมิ 

จนกลายเป็นความสำเร็จเล็ก ๆ จนแฟนบอล รวมถึงสื่อมวลชนน้อยใหญ่ ยกย่องว่าโรเมโร่คือผู้รักษาประตูมือสองที่ “ดีที่สุดในโลก” 

ต่อให้เป็นมือสอง แต่ลึก ๆ แล้ว เซร์คิโอ โรเมโร่ มีความเชื่อมั่นเล็ก ๆ ว่าการเป็นมือสองของเขานั้นไม่ได้อยู่แบบโดนดองเค็มเฉกเช่นนายด่านสำรองของทีมอื่น ๆ 

และนั่นก็ทำให้เขาเลือกอยู่แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไปจนถึงปี 2021 จากการขยายสัญญากับทีมในซัมเมอร์ 2017 เขาพร้อมจะอยู่ต่อสู้กับทีม และรอคอยโอกาสเผื่อสักวันหนึ่งจะเข้ามาหา 

“ผมได้ร่วมงานกับผู้รักษาประตูเก่ง ๆ ของที่นี่ เราต่างก็ได้เรียนรู้กันและกันมากมาย แน่นอนว่าช่วงเวาลาน่าภาคภูมิใจที่สุดของผมและครอบครัวคือการได้ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศยูโรป้า ลีก และตอนนี้ผมก็พร้อมแล้วที่จะช่วยพาทีมสานต่อความสำเร็จในฤดูกาลใหม่” โรเมโร่ บอกผ่านเว็บไซต์ทางการปีศาจแดง

เหตุผลอีกประการที่มีส่วนให้นายทวารเลือดฟ้าขาวอยู่ยูไนเต็ดต่อ นั่นคือสถานการณ์ที่ ดาวิด เด เคอา ตกเป็นข่าวกับ เรอัล มาดริด อีกครั้ง ในช่วงก่อนเริ่มฤดูกาลใหม่ 2017-18 

นั่นหมายความว่าหากเด เคอา ย้ายทีม โอกาสสู่การเป็น “มือหนึ่ง” มันอาจจะเข้ามาหาเขาได้ทันที 

แต่ที่สุดแล้ว สถานการณ์วนมาเวย์เดิม นายด่านรุ่นน้องแดนกระทิงไม่ได้ย้ายทีม ทางฝั่งราชันชุดขาวก็ปิดมหากาพย์นี้โดยสมบูรณ์ในฤดูกาล 2018-19 หลังปิดดีลกับธิโบต์ กูร์ตัวส์ มาจากเชลซี

 

กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

เส้นทางฟุตบอลที่โอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกิดการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าผู้ฝึกสอนอีกครั้ง จาก โชเซ่ มูรินโญ่ มาเป็น โอเล่ กุนนาร์ โซลชา 

นั่นเท่ากับว่าสถานการณ์ของโรเมโร่ ต้องกลับมานั่งลุ้นต่อ ว่าบทบาทของเขาจะมีมากน้อยแค่ไหน

จริงอยู่ที่โอกาสของเขายังคงสถานะตัวสำรอง ได้ลงเล่นฟุตบอลถ้วย แต่มันกลับเป็นเพียงฟุตบอลถ้วยในประเทศ อย่างเอฟเอ คัพ หรือลีก คัพ เป็นหลัก ขณะที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เขาแทบไม่ได้รับโอกาสเลย

ขณะที่ยูโรป้า ลีก แม้จะได้ลงเล่นต่อเนื่อง ในฤดูกาล 2019-20 ทว่าเมื่อถึงนัดชิงชนะเลิศกับเซบีย่า โรเมโร่ ที่ได้ลงเฝ้าเสามาตลอดเส้นทาง ถูกลดขั้นลงไปนั่งเป็นมือสองเสียอย่างนั้น และยูไนเต็ดก็พ่ายต่อทีมจากสเปนด้วยสกอร์ 1-2 

รวมถึงเกมรอบลึก ๆ ทั้งในเอฟเอ คัพ และลีก คัพ ที่เพลี่ยงพล้ำให้เชลซี (1-3) และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (แพ้สกอร์รวม 2-3) ตามลำดับ

นั่นสื่อให้เห็นว่า โรเมโร่ กลายเป็นตัวเลือกรองที่สถานะถูกลดทอนลงเรื่อย ๆ 

มากกว่านั้น บทบาทของเซร์คิโอ โรเมโร่ ในวัยขึ้นเลขสามยังถูกท้าทายเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อตัวเลือกในตำแหน่งนายทวารของทีมมีมากขึ้น ยูไนเต็ดใส่ชื่อของ ดีน เฮนเดอร์สัน โกลลูกหม้อที่ผลงานดีกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด จากการถูกปล่อยยืม มาเป็นตัวเลือกอีกคนในฤดูกาล 2020-21 

นั่นเท่ากับว่า โรเมโร่ ตกไปเป็นโกลมือสามของทีมที่เขาใฝ่ฝันจะได้ลงเล่นด้วยตั้งแต่เด็ก ไปโดยสมบูรณ์ 

10 สิงหาคม 2020 คือเกมสุดท้ายที่ เซร์คิโอ โรเมโร่ สวมยูนิฟอร์มยูไนเต็ดลงสนาม เพราะฤดูกาลหลังจากนั้น (2020-21) อดีตโกลดีกรีรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 ไม่มีชื่อเป็น 25 ขุนพลลุยพรีเมียร์ลีก รวมถึงแชมเปี้ยนส์ ลีก 

นั่นบ่งบอกได้ชัดเจนว่า อนาคตของเขาในโรงละครแห่งความฝัน “จบลงแล้ว”

 

ถึงคราวลาโรงละครแห่งความฝัน

2020-21 คือช่วงเวลาหนึ่งฤดูกาลเต็ม ๆ ที่เซร์คิโอ โรเมโร่ ไม่มีแมตช์ลงเล่นอย่างเป็นทางการ

ไม่ใช่ว่าเขาจะเพิกเฉยถึงสถานการณ์ของตัวเองไปเสียทีเดียว เพราะในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบซัมเมอร์นั้น เอฟเวอร์ตัน คือทีมที่เกือบจะปิดดีลกับเขาได้แล้ว หลังยื่นข้อเสนอมาในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาด 

แต่สุดท้ายการเจรจาระหว่างกันดันไม่สำเร็จ โรเมโร่ยังคงเป็นนักเตะของยูไนเต็ดเหมือนเดิม 

ในระหว่างที่เขารอแยกทางกับสโมสรหลังหมดสัญญาเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล หน้าที่ของโรเมโร่ในเวลานั้นคือแค่ลงซ้อม บ้างก็ได้ซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมที่เตรียมทำศึกน้อยใหญ่ตลอดซีซั่น บ้างก็โดนจับแยกซ้อมเดี่ยว

“มันเป็นปีที่แปลกสำหรับผมนะ ผมยังลงซ้อมตลอดทั้งปีที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่นั่นละครับ บางวันผมก็ซ้อมคนเดียว เพราะทีมกำลังเตรียมตัวสำหรับเกมการแข่งขัน” เขากล่าวผ่าน The Sun

ขณะที่ เอเลียนา เกร์ซิโอ ในฐานะภรรยาของโรเมโร่ ก็เคยโพสต์โจมตีแมนฯ ยูไนเต็ด โดยตรง ว่าไม่จริงจังกับการปล่อยสามีของตัวเองย้ายทีมมากเท่าที่ควร

“เซร์คิโอ โรเมโร่ทำงานอย่างหนักเพื่อสโมสร โทรฟี่ใบสุดท้ายที่พวกเขาได้ พวกเขาก็ได้ชูถ้วยไปพร้อมกับเขา เขาช่วยให้ทีมเข้าถึงรอบชิงหรือรอบรองชนะเลิศไป 4 ครั้ง จากนั้นเขาก็ต้องนั่งสำรองและแพ้หมดทุกนัด ตอนนี้ถึงเวลาที่จะตอบแทนด้วยการปล่อยให้เขาไปได้แล้ว ให้เกียรติกันสักครั้งเถอะ” เธอโพสต์ลงอินสตาแกรมส่วนตัว

ในที่สุด หลังจบฤดูกาล 2020-21 เซร์คิโอ โรเมโร่ ก็กลายเป็นนักเตะฟรีเอเยนต์โดยสมบูรณ์ ปิดฉากช่วงเวลา 6 ฤดูกาลในโอลด์ แทรฟฟอร์ด นับตั้งแต่ 2015-16 ไปจนถึงปีสุดท้าย 2020-21 ซึ่งเจ้าตัวไม่มีบทบาทใด ๆ กับทีมเลย

จากที่เข้ามาสู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยสถานะการถูกจัดตั้งให้ “ลุ้น” เป็นมือหนึ่ง สู่การอำลาสโมสรไปด้วยสถานะ “ตัวสำรอง” หลากคำนิยาม ทั้ง ตัวสำรองที่เก่งที่สุด ตัวสำรองรอโอกาสอย่างอดทน

ไปจนถึงตัวสำรองที่น่าสงสารมากที่สุดคนหนึ่งของโลกลูกหนัง

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.theguardian.com/football/2015/jul/27/sergio-romero-joins-manchester-united-alkmaar 
https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-10088667/Sergio-Romero-opens-strange-final-year-Man-United-trained-alone.html 
https://en.wikipedia.org/wiki/Sergio_Romero 
https://www.bbc.com/sport/football/40626748 
https://www.90min.com/posts/how-sergio-romero-found-out-about-omission-from-man-utd-s-premier-league-squad 
https://www.90min.com/in/posts/sergio-romero-s-wife-takes-to-social-media-to-slam-manchester-united-over-failed-everton-switch-01eky1ax8hht 
https://www.transfermarkt.com/sergio-romero/leistungsdaten/spieler/30690/plus/0?saison=2019 
https://www.manchestereveningnews.co.uk/sport/football/football-news/manchester-united-sergio-romero-venezia-21848932 

Author

พชรพล เกตุจินากูล

แฟนคลับเชลซี ติดตามฟุตบอลเอเชีย ไก่ทอดและกิมจิเลิฟเวอร์

Photo

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ