นับตั้งแต่เทคโอเวอร์สโมสรจาก “การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” มาเป็น “บุรีรัมย์ PEA” ตั้งแต่ปี 2010 จนกลายร่างมาเป็น “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” อย่างสมบูรณ์แบบจนถึงปัจจุบัน พลพรรค “ปราสาทสายฟ้า” เดินหน้าคว้าแชมป์ทุกรายการมากถึง 30 โทรฟี่ ชนิดที่ไม่มีทีมไหนเทียบได้ เรียกว่านี่คือมหาอำนาจลูกหนังไทยในรอบทศวรรษตัวจริงเสียงจริง
นอกจากความเก่งกาจของนักเตะ ยังมีกุญแจสำคัญที่ “เนวิน ชิดชอบ” ประธานสโมสรติดตั้งไว้ ไม่ให้ทุกคนแตกแถว จะเป็นเรื่องอะไรบ้าง ไปติดตามกับ BallThaiStand
ทรงอย่างแบด ไม่ใช่ทางของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ภาพลักษณ์ของ “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” หลายคนจะคิดถึงภาพของ “เนวิน ชิดชอบ” อดีตนักการเมืองคนดังที่กุมบังเหียนทีมแบบเบ็ดเสร็จ แต่หากเจาะลึกลงไปถึงการทำงานของนักเตะในสนาม นอกจากความเก่งกาจแล้ว ต้องยอมรับว่า “ปราสาทสายฟ้า” เป็นทีมที่เล่นฟุตบอลชนะใจคนดู
เพราะเป็นทีมที่เล่นสนุก เน้นเกมรุกเป็นหลัก นักเตะวิ่งสู้ฟัดจัดเต็มทุกจังหวะไม่มีกั๊ก สร้างความคึกคัก ปลุกเร้าด้วยบรรยากาศในสนามที่แทบจะเหมือนต่างประเทศไม่ผิด นอกจากนี้นักเตะของทีม “ปราสาทสายฟ้า” ไม่ค่อยเกเร ขณะที่นอกสนามแทบไม่มีข่าวมัวหมอง
ทำให้นักเตะของทีมมีด้อม “เซราะกราว” เพิ่มขึ้น สตาร์ดังอย่าง ธีราทร บุญมาทัน ไปเล่นที่ไหนมีแม่ยกคอยเอาของมาฝากเพียบ
ด้าน ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กลายเป็นขวัญวัยรุ่น นี่คือการสร้างความเป็นสุภาพบุรุษในสนาม แน่นอนว่ามันทำให้ภาพลักษณ์ของสโมสรดีขึ้น นอกจากผลงานในสนามแล้ว นักเตะเหล่านี้ยังดึงดูดแฟนบอลให้มาซื้อสินค้า สร้างรายได้เข้าสโมสรอีกเพียบ
แต่ “โจนาธาน โบลินกิ” ได้ทำลายทุ่งลาเวนเดอร์ของทีมพังทลาย เมื่อไปสาวหมัดใส่ทีมงานสตาฟฟ์โค้ชของ “ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด” จนโดนใบแดงในเกมรอบชิงชนะเลิศลูกหนัง ช้าง เอฟเอคัพ ทั้งที่สถานการณ์ทีมเป็นต่อทุกอย่าง และฉากจบกำลังจะสวยงาม
แม้ “โบลินกิ” จะเป็นกองหน้าตัวหลักของสโมสร เป็นฮีโร่เหมาคนเดียว 2 ตุง พาทีมคว้าชัยเหนือ “แข้งเทพ” แต่เมื่อพฤติกรรมจัดว่าแบด ซึ่งสโมสรไม่สนับสนุน ทำให้ เนวิน ชิดชอบ ประกาศไม่เก็บเขาไว้ในทีมฤดูกาลหน้าทันที
“ผมเจอเหตุการณ์นี้กับ เจบี และทำให้ภาพลักษณ์ฟุตบอลไทยและ บุรีรัมย์ มีปัญหา ตั้งแต่อุ่นเครื่องกับ ขอนแก่น ก็มีปัญหากัน เรียงมาเรื่อย 2-3 นัด ผมก็เตือนตลอดว่าต้องปรับพฤติกรรม นี่ถือว่าดีขึ้นเยอะ แต่ก็ยังไม่ดีพอกับ บุรีรัมย์”
“แม้ว่าฝีเท้า เทคนิค ความสามารถ ร่างกาย ทุกอย่างได้หมด แต่การควบคุมอารมณ์ในการเล่นฟุตบอลไม่ได้ ก็อยู่ไม่ได้"
นี่คือความเด็ดขาดของทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่แสดงให้เห็นแล้วว่า เก่ง แต่พฤติกรรมแย่ ก็ยากจะเดินร่วมทางกัน
เหล้ายา ปลาปิ้ง เส้นขนานของนักฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
นักฟุตบอลตัวเทพหลายๆ คนในอดีตถือว่าจัดอยู่ในประเภทคอทองแดง ไม่ว่าจะเป็น โทนี อดัมส์ กัปตันทีม อาร์เซนอล หรือจะเป็น ไบรอัน ร็อบสัน กัปตันทีมกระดูกเหล็กของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งส่งอิทธิพลแผ่หลามายังวงการลูกหนังไทย ที่ชูนโยบาย “กินได้ ก็ซ้อมได้”
เมื่อฟุตบอลลีกอาชีพบ้านเรามีการยกระดับจนสลัดคำว่า “กึ่งสมัครเล่น” ทิ้งไป ภาพนักเตะตับเหล็กค่อยๆ หายไป กลายเป็นการหันมารักตัวเองมากขึ้น ดูแลสุขภาพ ทำให้ร่างกายฟิตปั๋ง เพราะเงินเดือนที่ได้รับมีมูลค่าแตะหลักแสนถึงล้าน หากเล่นได้นานเท่าไหร่ โอกาสที่ยอมแขวนสตั๊ดจะกลายเป็นเสือนอนกินก็มีสูง
แต่นักเตะต่างชาติบางคนยังติดแสงสี ชอบปาร์ตี้และติดนิสัยดื่มอยู่เสมอ ซึ่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็เจอปัญหาเหล่านี้บ่อย
เมื่อจ้างนักเตะระดับพรีเมียม โฟรไฟล์หรูเข้ามาร่วมทีม ประเคนเงินเดือนหลักล้านให้ นักเตะต้องรังสรรค์ผลงานระดับมาสเตอร์พีซและเติมประสบการณ์ที่ดีแก่นักเตะไทย หนึ่งในนักเตะที่ตรงตามสรรพคุณที่กล่าวมาในประวัติศาสตร์ลูกหนังของ “ปราสาทสายฟ้า” ย่อมมีชื่อของ “จาจ้า” ชาคสัน โคเอลโญ
“จาจ้า” เป็นดาวยิงบราซิเลียน ผ่านการเล่นให้กับหลายสโมสรทั้งบ้านเกิดและในยุโรป เคยลงเล่นฟุตบอลระดับสูงอย่างศึกยูโรปา ลีก รวมถึง โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส คัพมาแล้ว
เขาย้ายมาร่วมทีม “ปราสาทสายฟ้า” เมื่อปี 2017 ยิงไป 34 ประตู เป็นรองดาวซัลโวไทยลีก ตามหลัง “ดราแกน บอสโควิช” ของทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ยิงไป 38 ประตู แค่คนเดียว พาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก มาครองได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตามในฤดูกาลต่อมาเขาถูกปล่อยตัวให้ “เมืองทอง ยูไนเต็ด” แบบช็อคแฟนบอล เพราะด้วยฝีเท้าและผลงานการยิงเป็นกอบเป็นกำเขาควรจะได้ไปต่อกับสโมสรอย่างไร้ข้อโต้แย้ง
แต่ไม่นาน บิ๊กเน ได้ออกมาเฉลยเหตุผลที่ปล่อยตัวดาวยิงฟอร์มเทพออกไป เพราะเจ้าตัวดื่มจัดนั่นเอง ซึ่งถือว่าแหกกฎเหล็กที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เน้นและให้ความสำคัญมาก
“หลายคนถามว่าทำไมถึงปล่อย จาจ้า แฟนบอลจะรู้มั้ยว่ามันเมาอาทิตย์ละ 4 วัน กว่าจะเป็นได้อย่างทุกวันนี้ ผมเกือบตาย นี่คือฟุตบอล อยากทำความเข้าใจ”
“อยากบอกพวกเราว่าผมเก็บไว้เฉพาะคนที่ดีที่สุดสำหรับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เก็บไว้เพื่อชัยชนะของแฟน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เท่านั้น”
ระบบ 6S คอนเทนต์สายฮา ซ่อนด้วยอัตลักษณ์ของทีม
ระบบฟุตบอลของ “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ที่เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จจากรุ่นสู่รุ่นคือการสร้างความกลมเกลียวและสร้างทีมเวิร์คให้แกร่ง นักเตะรู้หน้าที่ของตัวเอง เมื่อลงไปในสนามทุกคนจะช่วยกันทั้งเกมรับและเกมรุก ไม่มีใครทำตัวเด่นเพียงคนเดียว
ตัวตนและคอนเซ็ปต์ของทีมถูกถ่ายทอดผ่านแก๊ง 6S ประกอบด้วย รัตนากร ใหม่คามิ, สุภโชค สารชาติ, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, ศุภชัย ใจเด็ด, ศศลักษณ์ ไหประโคน, นฤบดินทร์ วีระวัฒโนดม และ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี
รัตนากร, สุภโชค และ ศุภณัฏฐ์ คือนักเตะลูกหม้อของสโมสร ขณะที่ ศศลักษณ์ เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของชาว บุรีรัมย์ ขณะที่ ศุภชัย แม้จะมาใหม่ แต่ก็อยู่กับทีมมานานผ่านอุปสรรคมากมายที่แวะมาทดสอบจิตใจ
ส่วน นฤบดินทร์ และ พีรดนย์ คือตัวแทนของรุ่นพี่ที่คอยดูแลน้อง เมื่อทั้งหมดได้รับคำท้าจาก บิ๊กเน ก็จะวางแผน และร่วมกันทำผลงานให้ดีที่สุด ทั้งหมดจะซัพพอร์ตกัน ไม่มีใครเอาเปรียบกัน แม้ว่าจะเล่นคนละตำแหน่ง แต่เป้าหมายคือ “ช่วยกัน” พาทีมระเบิดฟอร์มเทพ
เมื่อบรรลุเป้าหมายทุกคนก็จะมีความสุขร่วมกัน การทำงานเป็นทีม การช่วยเหลือกัน การให้กำลังใจถูกส่งต่อ หล่อหลอมให้กลายเป็นทีมเวิร์คและเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของทีม
รางวัลตอบแทนคือความยิ่งใหญ่
จุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของ “บุรีรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ต้องยอมรับว่าได้รับอิทธิพลมาจาก “การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค”
เมื่อได้นักเตะเก่าใหม่ และต่างชาติผสมผสานกันอย่างลงตัวแล้ว ทีมจึงเดินหน้าคว้าแชมป์ไทยลีกในปี 2011 จากนั้นพวกต่อยอดสร้างความยิ่งใหญ่ ด้วยการคว้าแชมป์ไทยลีกเพิ่มเป็น 8 สมัย
ตามด้วย แชมป์ เอฟเอคัพ 6 สมัย,แชมป์ลีกคัพ 6 สมัย, ถ้วยพระราชทาน ประเภท ก. 4 สมัย ,แชมป์ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ 1 สมัย, ไทยแลนด์พรีเมียร์คัพ 3 สมัย และแม่โขง คลับแชมเปียนส์ชิพ 2 สมัย รวมแล้วกวาดแชมป์ไป 30 รายการ
นอกจากนี้พวกเขายังทำสถิติคว้าแชมป์ไร้พ่าย 2 ครั้งในปี 2013 และ 2015 ล่าสุดได้กลายเป็นทีมแรกที่คว้า 3 แชมป์ทั้งบอลลีกและบอลถ้วย 2 รายการ รีโว ลีกคัพ และ ช้าง เอฟเอคัพ มาครอง 2 สมัยติดต่อกัน เรียกว่า นี่คือมหาอำนาจลูกหนังไทยในรอบทศวรรษตัวจริงเสียงจริง
กว่าจะก้าวมาเป็นยอดทีมเบอร์ 1 ของเมืองไทย เนวิน ชิดชอบ และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้องเจอพฤติกรรมด้านลบของนักเตะหลายคน นี่เป็นเพียงบางส่วนที่หยิบยกมาให้เห็นเท่านั้น
นี่เป็นการสะท้อนการสร้างความยิ่งใหญ่ของทีมว่า นอกจากจะต้องมีโค้ชและนักเตะที่เก่งแล้ว ระเบียบ วินัย ทีมเวิร์ค และพฤติกรรมนอกสนามต้องหล่อหลอมกันเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อก้าวไปประสบความสำเร็จ ทั้งในและนอกสนาม ตามแบบฉบับฟุตบอลอาชีพของจริง