ใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ ฤดูกาลนี้ ถ้าจะพูดถึงทีมที่มีฟอร์มการเล่นโดดเด่นก็ต้องยกให้กับ เบิร์นลีย์ ของกุนซือ แว็งซ็องต์ กอมปานี
แต่ถ้าจะพูดถึงสโมสรไหนที่มีคอนเทนต์โดดเด่นที่สุดในเวลานี้ก็คงจะหนีไม่พ้น “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ ซึ่งในทีมนี้มีนักเตะอยู่หนึ่งคนที่กำลังโด่งดังในชั่วข้ามคืนจากการฝากวีรกรรมเอาไว้ระหว่างที่เขาลงเล่นฟุตบอล
ซึ่ง Mainstand จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ “ลุค โอเนียน” นักเตะตัวรับที่มีฝีเท้าดุดัน ไม่เกรงใจใคร แต่ก็แอบ ใ จ เ ก เ ร
ดาวรุ่งแตนอาละวาดที่แจ้งเกิดไม่ได้
ลุค โอเนียน เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ปี 1994 ที่เมืองเฮเมล เฮมสตีด ในเขตเฮิร์ตฟอร์ดเชียร์ ประเทศอังกฤษ โดยลุคเป็นชาวอังกฤษเชื้อสายสิงคโปร์ เนื่องจากตระกูลโอเนียนมีสมาชิกในครอบครัวอยู่ในสิงคโปร์และคุณปู่ของลุคก็เกิดที่ประเทศสิงคโปร์เช่นกัน อีกทั้งพี่ชายของคุณปู่อย่าง ลิม คิม ซาน ก็เป็นถึงนักการเมืองท้องถิ่นคนสำคัญที่มีบทบาทในการพัฒนาประเทศสิงคโปร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการที่มีชื่อว่า Public Housing Projects ซึ่งเป็นโครงการเคหะสาธารณะเพื่อสร้างความมั่นคงและคุณภาพความเป็นอยู่ให้กับคนภายในประเทศ
ชีวิตของ ลุค โอเนียน ในวัยเด็กถือว่ารู้จักกับการเล่นกีฬาค่อนข้างเร็ว เนื่องจาก เทอร์รี่ โอเนียน คุณพ่อของลุคเป็นนักกีฬากอล์ฟอาชีพมาก่อน โดยลุคเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่ยังเด็ก ก่อนที่เขาจะได้โอกาสไปเข้าแคมป์อคาเดมีของ วัตฟอร์ด ตอนอายุประมาณ 7 ปี ซึ่งเขาได้ลงเล่นให้กับวัตฟอร์ด รุ่นอายุไม่เกิน 9 ปี จากนั้นลุคก็ยังคงลงเล่นในอคาเดมีของวัตฟอร์ดและพัฒนาฝีเท้าขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามลำดับ ก่อนที่ ลุค โอเนียน ในวัย 18 ปี จะได้รับสัญญาอาชีพฉบับแรกในปี 2013
ฤดูกาล 2013/14 เขาถูกวัตฟอร์ดชุดใหญ่เรียกตัวให้ไปเข้าร่วมทัวร์กระชับมิตรพรีซีซั่นที่ประเทศอิตาลี หลังจากที่เขาสร้างความประทับใจให้กับทีมสตาฟโค้ชระหว่างการฝึกซ้อม จากนั้นลุคก็ได้รับเสื้อหมายเลข 32 เมื่อตอนที่เกมลีกเริ่มทำการแข่งขันแล้ว แม้ว่าตอนพรีซีซั่นเขาจะมีผลงานที่ค่อนข้างน่าพอใจ แต่ก็ไม่ได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงจากทัพ “แตนอาละวาด” เลย เขามีชื่ออยู่บนม้านั่งสำรองเพียงแค่ไม่กี่นัด
ซึ่งกว่าที่เขาจะได้ประเดิมสนามให้กับวัตฟอร์ดก็ต้องรอถึงวันที่ 15 มีนาคม ปี 2014 เป็นเกมที่ วัตฟอร์ด เปิดบ้านถล่ม บาร์นสลีย์ 3-0 โดยเขาถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 88 เพื่อทำหน้าที่ปิดเกมและรักษาผลสกอร์ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดและเก็บชัยชนะไปได้ในนัดดังกล่าว
หลังจบเกม ลุค โอเนียน ในวัย 19 ปี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกถึงการได้ประเดิมสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของวัตฟอร์ด ซึ่งเขาก็ตอบคำถามสื่อไปว่า “ผมรู้สึกดีใจมาก แต่ที่สำคัญที่สุดคือผมรู้สึกดีใจกับชัยชนะในวันนี้ ผมคิดว่านักเตะทุกคนทำผลงานได้ดีมาก และมันเป็น 3 แต้มที่ยอดเยี่ยม”
“เมื่อไรก็ตามที่ผมอยู่บนม้านั่งสำรอง ผมจะพยายามทำให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอเผื่อว่าจะถูกโค้ชเรียกใช้งาน และจากนั้นไม่นานโค้ชก็พยักหน้าเล็กน้อยส่งสัญญาณให้ผมลงมาเล่น ซึ่งตอนนั้นผมรู้สึกพร้อมมาก”
แต่หลังจากที่ได้ประเดิมสนามให้กับวัตฟอร์ดเพียงแค่ 12 วัน สโมสรก็ได้ส่ง ลุค โอเนียน ไปอยู่กับ เวลด์สโตน เอฟซี ที่เป็นสโมสรกึ่งอาชีพที่เล่นอยู่ในลีกระดับภูมิภาคของกรุงลอนดอน โดยลุคเซ็นสัญญาระยะสั้น 1 เดือนกับเวลด์สโตน ซึ่งเขาได้ประเดิมให้กับเวลด์สโตนในฐานะตัวสำรองในเกมที่ชนะ บิลเลอริเคย์ ทาวน์ 2-0 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ปี 2014 จากนั้นอีก 3 วันต่อมา ในวันที่ 3 เมษายน 2014 ลุค โอเนียน ก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับ เวลด์สโตน ช่วยให้ทีมเอาชนะ อีสต์ เธอร์ร็อค ยูไนเต็ด 3–0
1 เดือนที่เขาอยู่กับเวลด์สโตน เขาได้ลงสนามไป 5 นัด ส่วนผลงานก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยเมื่อหมดสัญญายืมตัวเขาก็กลับไปที่วัตฟอร์ดในเดือนพฤษภาคม ปี 2014 ซึ่งสโมสรก็ได้มอบสัญญาฉบับใหม่ให้กับนักเตะเพิ่มอีก 1 ปี ตอนแรกเขาคิดว่าน่าจะกลับมาได้โอกาสลงเล่นจากทีมที่เขาเคยอยู่มานานตั้งแต่สมัยเป็นเยาวชน แต่สุดท้ายฤดูกาล 2014/15 เขาก็ถูกส่งไปเวลด์สโตนยืมตัวอีกครั้งด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล ตลอดซีซั่นกับเวลด์สโตนคราวนี้เขาได้โอกาสลงเล่นถึง 31 นัด ทำไป 4 ประตู ทั้งที่เขาลงเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับ
และในฤดูกาล 2015/16 ก็เป็นฤดูกาลที่วัตฟอร์ดได้โอกาสเลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก แต่ทาง ลุค โอเนียน กลับต้องเจอกับปัญหาครั้งสำคัญเมื่อทัพ “แตนอาละวาด” ตัดสินใจปล่อยเขาออกจากทีมเมื่อหมดสัญญา ปิดฉากการค้าแข้งกับทีมด้วยการลงสนามในฐานะตัวสำรองไปเพียงแค่ 1 นัด แถมได้เวลาลงเล่นไม่ถึง 5 นาที
ใฝ่หาโอกาสกับทีมใหม่
หลังเขาถูกวัตฟอร์ดปล่อยตัวจนกลายเป็นนักเตะฟรีเอเยนต์ในปี 2015 ลุค โอเนียน ก็พยายามหาโอกาสเพื่อที่จะได้เล่นฟุตบอลต่อไป จนกระทั่งเขาได้รับข้อเสนอจาก วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส สโมสรในอังกฤษที่ ณ ตอนนั้นกำลังแข่งขันอยู่ในลีก ทู โดยเขาได้รับข้อเสนอสัญญาระยะสั้นเบื้องต้น 1 ปีจากทางวีคอมบ์ และเขาก็ตอบรับสัญญานั้นทันที
ผลงานของเขากับ วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส ในฤดูกาล 2015/16 สามารถเรียกว่าเป็นผู้เล่นตัวหลักได้อย่างเต็มปาก โดยเขาลงเล่นรวมทุกรายการไปทั้งสิ้น 40 นัด ทำไป 5 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์ ถือว่าโดดเด่นมากด้านเกมรุก ทั้งที่ส่วนใหญ่เขาลงเล่นในตำแหน่งกองกลางค่อนไปทางตัวรับมากกว่า
ต่อมาฤดูกาล 2016/17 แม้ฟอร์มการเล่นของเขาจะตกลงไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังถือว่าเป็นตัวหลักให้กับวีคอมบ์อยู่เหมือนเดิม โดยเขาลงสนามรวมทุกถ้วยไป 39 นัด ทำไป 3 ประตูกับอีก 5 แอสซิสต์ ซึ่งในฤดูกาลดังกล่าวเขาถูกโยกให้ไปเล่นในหลากหลายตำแหน่ง ทั้งกองกลางตัวคุมเกม กองกลางตัวรับ หรือแม้แต่ตัวริมเส้นซ้าย-ขวาที่เขาลงไปรับหน้าที่แก้ขัดในบางครั้ง
ข้ามมาที่ฤดูกาล 2017/18 ต้องยอมรับเลยว่านี่อาจเป็นปีที่เขาท็อปฟอร์มที่สุดนับตั้งแต่ขึ้นมาเล่นฟุตบอลอาชีพ โดยเขาลงสนามรวมทุกถ้วยไป 40 นัด มีส่วนร่วมมากถึง 13 ประตู แบ่งเป็น 9 ประตูกับ 4 แอสซิสต์ มีส่วนสำคัญในการพาให้ วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส เลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีก วัน ได้สำเร็จ
ยกระดับกับทัพแมวดำ
จากผลงานที่โดดเด่นใน 3 ฤดูกาลกับ วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส ทำให้หลายสโมสรในลีกรองต่างเริ่มให้ความสนใจในตัวเขา ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ซันเดอร์แลนด์ และในวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2018 ลุค โอเนียน ก็ได้เซ็นสัญญาย้ายมาสู่ถิ่นสเตเดียม ออฟ ไลต์ แบบไม่เปิดเผยค่าตัว
โดยปกติแล้วการย้ายมาเล่นกับสโมสรแห่งใหม่อาจจะต้องมีการปรับตัวกันสักเล็กน้อย แต่ยกเว้นกรณีของ ลุค โอเนียน ที่เขาแทบไม่ต้องปรับตัวเลย ในฤดูกาล 2018/19 เขากลายเป็นกำลังหลักให้กับทัพ “แมวดำ” ได้ตั้งแต่ปีแรกที่ย้ายมา ซึ่งการย้ายมาเล่นที่ซันเดอร์แลนด์เหมือนกับทำให้เขาได้ยกระดับความสามารถของตัวเองมากขึ้นไปอีกระดับ เนื่องจาก แจ็ค รอสส์ กุนซือของซันเดอร์แลนด์จับเขาไปลงเล่นในตำแหน่งฟูลแบ็กฝั่งขวา แต่ถึงอย่างนั้นผลงานของเขาก็ยังถือว่าโดดเด่นตามมาตรฐานของตัวเอง เขาลงสนามรวมทุกถ้วยไป 52 นัด ทำไป 5 ประตูกับอีก 7 แอสซิสต์
สาเหตุที่ แจ็ค รอสส์ เลือก ลุค โอเนียน ไปเล่นในตำแหน่งแบ็กขวาแทนที่จะเป็นตำแหน่งธรรมชาติอย่าง กองกลางตัวรับ เป็นเพราะว่าช่วงแรกที่ย้ายมาลุคได้รับโอกาสให้เล่นตำแหน่งกองกลาง แต่ผลงานของเขาก็ยังถือว่าไม่ค่อยดีนัก กอรปกับตอนนั้นฟูลแบ็กของทีมต่างมีปัญหาบาดเจ็บไปหลายคน ทำให้โค้ชตัดสินใจส่ง ลุค โอเนียน ไปเล่นแทน เพราะมองว่านักเตะเล่นเกมรับได้ดี มีความดุดัน เข้าสกัดบอลได้อย่างแข็งแกร่ง และสามารถเติมเกมรุกได้ด้วย
ในฤดูกาล 2018/19 ระหว่างที่ ลุค โอเนียน กำลังลงเล่นให้กับซันเดอร์แลนด์ในตำแหน่งแบ็กขวา บางนัดเขายังได้รับหน้าที่ให้ไปลงเล่นในตำแหน่งอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นกองกลางคุมจังหวะ กองกลางตัวรับ ตัวริมเส้นซ้าย-ขวา และเขายังสามารถลงเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายกับเซ็นเตอร์แบ็กแบบแก้ขัดได้อีกด้วย
ช่วงระหว่างฤดูกาล 2018-2021 ถือเป็นฤดูกาลที่สามกับซันเดอร์แลนด์ที่เขาได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง โดยเขามีส่วนร่วมทั้งเรื่องของเกมรับและเกมรุกในหลาย ๆ นัด จนกระทั่งฤดูกาล 2021/22 กลายเป็นช่วงที่ไม่ค่อยดีนักสำหรับ ลุค โอเนียน เนื่องจากมีช่วงเวลาที่เขาบาดเจ็บที่หัวไหล่จนพลาดโอกาสลงสนามไปหลายนัด แต่ผลงานภาพรวมก็ยังถือว่าน่าพอใจ เขาลงสนามรวมทุกรายการ 35 นัด ทำไป 4 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์
แม้ว่าผลงานส่วนตัวของเขาจะไม่โดดเด่นเท่าไร แต่อย่างน้อยนักเตะก็มีส่วนในการพาซันเดอร์แลนด์จบอันดับที่ 5 ของตารางลีก วัน และสามารถชนะการเพลย์ออฟคว้าสิทธิ์ในการเลื่อนชั้นขึ้นสู่ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เป็นทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
ป่วนคู่แข่งจนสร้างชื่อ
ฤดูกาล 2022/23 ลุค โอเนียน ได้โอกาสมาเล่นใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อีกครั้งกับซันเดอร์แลนด์ โดยเขาก็ลงสนามช่วยทีมตามปกติและรักษามาตรฐานการเล่นได้อย่างคงเส้นคงวา ส่วนชื่อเสียงของเขาก็ถือว่าไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ทว่าช่วงนี้เขากลับกลายเป็นที่พูดถึงมากขึ้นในหน้าสื่อของวงการฟุตบอล เนื่องจาก ลุค โอเนียน ดันไปทำวีรกรรมแบบใจเกเรใส่คู่แข่งถึง 2 ครั้งในช่วงเวลาเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์
เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นในเกมที่ ซันเดอร์แลนด์ เปิดบ้านเสมอกับ บริสตอล ซิตี้ 1-1 เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ปี 2023 โดยวีรกรรมสุดแสบเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลัง เป็นจังหวะที่ อเล็กซ์ สกอตต์ ดาวรุ่งของบริสตอล ซิตี้ กำลังดวลตัวต่อตัวกับ ลุค โอเนียน ที่เพิ่งลงมาเป็นตัวสำรอง จากนั้น อเล็กซ์ สกอตต์ ก็จัดการกระชากบอลผ่านตัวเขาไปทันทีหวังจะไปทำเกมรุกต่อ จู่ ๆ ตัวของ ลุค โอเนียน ที่คิดว่าน่าจะหลุดตำแหน่งของตัวเองก็กระโดดขี่หลังใส่ อเล็กซ์ สกอตต์ เพื่อรั้งตัวไม่ให้คู่แข่งวิ่งต่อ แถม ลุค โอเนียน ยังไปจุ๊บแก้มใส่ อเล็กซ์ สกอตต์ ด้วย ทำเอาสื่อทั่วโลกต่างรู้สึกตกใจและขำขันกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมนัดดังกล่าว
อีกหนึ่งเหตุการณ์คือเกมที่ ซันเดอร์แลนด์ บุกไปเยือน นอริช ซิตี้ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ปี 2023 นัดนั้น ลุค โอเนียน ลงเล่นเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็กซ้าย ซึ่งระหว่างเกมมีจังหวะที่เขากำลังมีเรื่องกับ ยาค็อบ โซเรนเซ่น ผู้เล่นของนอริช ซิตี้ แล้วจู่ ๆ ลุค โอเนียน ก็ยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บปากใส่โซเรนเซ่นแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทำให้ฝั่งของโซเรนเซ่นออกอาการไม่พอใจก่อนที่สุดท้ายจะแยกกันไป สุดท้ายเกมจบลงที่ ซันเดอร์แลนด์ บุกไปเฉือน นอริช ซิตี้ 1-0
โดยเหตุการณ์ที่น่าหวั่นไหวของ ลุค โอเนียน ก็กลายเป็นกระแสขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และทำเอาสื่อหลายสำนักทั้งในไทยและต่างประเทศต้องหยิบยกประเด็นนี้มาเล่นเป็นสีสันกันอย่างสนุกสนาน
แม้ว่าเขาจะเป็นนักเตะที่มีฝีเท้าดีในระดับหนึ่ง แต่เราต้องยอมรับว่าตอนนี้ชื่อเสียงและวีรกรรมของ ลุค โอเนียน ดูจะโดดเด่นมากกว่าฝีเท้าของเขาไปซะแล้ว ซึ่งไม่ช้าก็เร็วเราอาจจะมีโอกาสได้เห็น ลุค โอเนียน ขึ้นมาโชว์ฝีเท้าพร้อมสร้างวีรกรรมสุดป่วนบนเวทีพรีเมียร์ลีกในอนาคตก็เป็นได้
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Luke_O%27Nien#
https://www.transfermarkt.com/luke-onien/leistungsdaten/spieler/282939/plus/0?saison=2022
https://web.archive.org/web/20150609233208/http://www.watfordfc.com/news/article/140315-onien-post-barnsley-1423116.aspx
https://safc.com/players/1st-team/luke-onien
https://www.chroniclelive.co.uk/sport/football/football-news/jack-ross-explains-luke-onien-15976668
https://www.thesun.co.uk/sport/21440103/watch-luke-onien-kiss-sunderland/
https://www.skysports.com/watch/video/sports/football/competitions/championship/12832181/sunderlands-luke-onien-with-a-cheeky-kiss-for-jacob-sorensen