Feature

ไบรอน กาสตีโญ : แข้งเอกวาดอร์กับการปลอมเอกสารที่อาจทำให้ถูกตัดสิทธิ์จากฟุตบอลโลก | Main Stand

ประเด็นการตัดสิทธิ์การเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ของ เอกวาดอร์ ถูกนำกลับมาพูดถึงอีกครั้งหลังมีการพิสูจน์หลักฐานบ่งชัดได้ว่าพวกเขาได้ทำผิดกติกาอย่างร้ายแรง 

 


เรื่องราวดังกล่าวเกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสารของนักเตะเอกวาดอร์ที่ชื่อว่า ไบรอส กาสตีโญ เนื่องจากแท้ที่จริงแล้วเขาไม่มีสิทธิ์ลงเล่นให้ทีมชาติเอกวาดอร์ เพราะเขาเป็นชาว "โคลอมเบีย"  

ทำไมเรื่องแบบนี้จึงเกิดขึ้นได้ การสืบสวนหาหลักฐานที่อาจทำให้เอกวาดอร์ไม่ได้ไปฟุตบอลโลกเริ่มต้นจากจุดไหน ติดตามได้ที่ Main Stand 

 

จุดเริ่มต้นจากนักเตะเจ้าปัญหา 

ไม่เคยมีใครสังเกตความผิดปกติหรือสงสัยในเรื่องราวชาติกำเนิดของ ไบรอน กาสตีโญ แบ็กขวาจากสโมสรลีออน ในลีกสูงสุดของประเทศเม็กซิโกมาก่อน เพราะเขาติดทีมชาติเอกวาดอร์มาตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ในปี 2015 และลากยาวจนถึงการก้าวขึ้นมาติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2021 

ก่อนเรื่องทั้งหมดจะเกิดขึ้น กาสตีโญ อายุ 23 ปีและมีส่วนสำคัญในทีมชาติเอกวาดอร์ชุดคัดฟุตบอลโลก 2022 เขาทำผลงานได้ดีเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีมทุก ๆ คน เอกวาดอร์ยกระดับการเล่นจากทีมแจกแต้มประจำทวีปกลายมาเป็นทีมที่มีระบบการเล่นชัดเจน มีความเหนียวแน่น สวนกลับเฉียบคม และนั่นทำให้ที่สุดแล้วเอกวาดอร์ชุดนี้ก็คว้าตั๋วลุยฟุตบอลโลกได้สำเร็จอย่างเกินคาด 

เอกวาดอร์ฉลองความสำเร็จครั้งนี้ร่วมกันทั้งประเทศ ทว่าในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ชาติร่วมทวีปอย่าง "ชิลี" ก็ทำให้มีประเด็นจนได้

ชิลี หนึ่งในชาติที่แพ้ เอกวาดอร์ ในรอบคัดเลือก ได้ยื่นเรื่องไปยังสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า เพื่อตรวจสอบเรื่องสัญชาติของ ไบรอน กาสตีโญ คนที่ค้นเรื่องนี้และควรได้รับเครดิตคือ เอดูอาร์โด การ์เลซโซ ทนายความของสหพันธ์ฟุตบอลชิลี

"มีหลักฐานมากมายนับไม่ถ้วนที่บ่งชี้ว่า ไบรอน กาสตีโญ เกิดที่ประเทศโคลอมเบีย ที่เมืองทูมาโก ในวันที่ 25 กรกฎาคม 1995 ไม่ใช่วันที่ 10 พฤศจิกายน 1998 แบบที่เอกสารชุดปัจจุบันของเขากล่าวอ้าง" ทนายของชิลีกล่าวผ่านสื่อและต้องการให้ฟีฟ่าสอบสวนเรื่องนี้ 

ทางชิลีอ้างว่าสัญชาติเอกวาดอร์ ณ ปัจจุบันของกาสตีโญนั้นเกิดขึ้นจากการปลอมแปลงเอกสาร ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนอายุเท่านั้นแต่ยังเปลี่ยนสัญชาติให้กับตัวเองด้วย และพวกเขามั่นใจว่าข้อมูลที่พวกเขาได้รับมาเป็นเรื่องจริงแท้ 100% เพราะไม่ใช่แค่ชื่อเจ้าตัว ไบรอน ฮาเวียร์ กาสตีโญ เซกูร่า ที่เหมือนกัน แต่ชื่อของพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเจ้าของสูติบัตรทั้ง 2 ฉบับก็ตรงกันเป๊ะอีกด้วย

"ระดับของข้อมูลและหลักฐานที่พวกเรารวบรวมมาได้ทั้งในแง่คุณภาพและปริมาณนั้นทำให้เราประหลาดใจมาก ซึ่งเมื่อมีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ในมือ แล้วเราจะไม่ดำเนินการร้องเรียนได้อย่างไร ?" ทนายความจากชิลียืนยันเรื่องนี้อีกครั้งว่าพวกเขาจะเดินหน้าฟ้องร้องอย่างจริงจัง

ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมชิลีจึงต้องตามไล่บี้เอกวาดอร์ในประเด็นนี้อย่างหนัก เนื่องมาจากหากที่สุดแล้วข้อมูลที่พวกเขามีเป็นความจริง เอกวาดอร์ซึ่งจบเป็นอันดับ 4 ในรอบคัดเลือกและได้สิทธิ์ไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอัตโนมัตินั้นอาจต้องถูกแบนจากทัวร์นาเมนต์ที่กาตาร์ และอาจถูกปรับเป็นแพ้ใน 8 เกมที่กาสตีโญลงสนาม ซึ่งจะส่งผลให้ชิลีมีแต้มแซงจากอันดับ 7 ขึ้นมารั้งอันดับ 4 คว้าสิทธิไปลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติแทนทันที เพราะกาสตีโญนั้นลงเล่นในเกมกับชิลีทั้งเหย้าและเยือน ช่วยให้ เอกวาดอร์ ได้แต้มจาก ชิลี ไปถึง 4 แต้มจากการเสมอ 1 เกมและชนะ 1 เกม ส่วนในเกมที่ เอกวาดอร์ ลงเล่นกับ เปรู (อันดับ 5) และ โคลอมเบีย (อันดับ 6) นั้น กาสตีโญ ไม่ได้ลงสนาม

สรุปก็คือถ้ากาสตีโญปลอมแปลงเอกสารจริงและมีการตัดสิน "ปรับแพ้" ในเกมที่กาสตีโญลงสนาม ชิลีจะเป็นทีมที่ได้ประโยชน์ที่สุด จากทีมอันดับ 7 ที่ตกรอบแบบไม่ได้ลุ้นจะกระโดดพรวดขึ้นมามีแต้มเป็นอันดับ 4 ของโซนอเมริกาใต้ทันที นั่นหมายความว่าพวกเขาจะได้ไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแทน 

 

บี้กันงวดแรก 

หลังจากนั้นชิลีก็ยื่นเรื่องให้ฟีฟ่าสอบสวนในช่วงเดือนมิถุนายน ทางเอกวาดอร์ก็ปฏิเสธว่าเรื่องดังกล่าวนั้นไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด ดังนั้นการต่อสู้กันด้วยหลักฐานจึงเริ่มขึ้น 

และที่สุดแล้วในวันที่ 11 มิถุนายน ฟีฟ่าก็ปฏิเสธคำร้องดังกล่าวจากชิลีและออกแถลงการณ์กับสาธารณะว่า "หลังจากวิเคราะห์คำร้องของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและพิจารณาองค์ประกอบทั้งหมดที่นำมาก่อนหน้านั้น คณะกรรมการวินัยของฟีฟ่าได้ตัดสินใจจะไม่ดำเนินการตรวจสอบสมาคมฟุตบอลเอกวาดอร์" 

ซึ่งภายหลังมีการขยายความว่าหากมีการตัดสินความผิดก็อาจลงโทษในรูปแบบอื่นแทนการตัดทีมชาติเอกวาดอร์ออกจากฟุตบอลโลก 2022 แล้วยกโควตาให้ชาติอื่นได้ไปแทน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ชิลีต้องการ 

อย่างไรก็ตามความหวังของชิลีก็ไม่ได้ปิดตายไปเสียทีเดียว เพราะฟีฟ่ายังเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 10 วัน ซึ่งแน่นอนว่า พาโบล มิลาด ประธานสหพันธ์ฟุตบอลชิลี ก็ออกมาแสดงตัวว่าชิลีจะสู้คดีนี้อย่างที่สุด เพราะด้วยหลักฐานที่มีพวกเขามั่นใจว่าตนเองจะเป็นผู้ชนะ แม้ฟีฟ่าจะตัดสินแบบไม่ตรงตามที่พวกเขาคาดหวัง แต่ชิลีก็จะยื่นเรื่องดังกล่าวต่อศาลกีฬาโลก 

"เราตามหลังอยู่ 0-1 แต่มันยังมีครึ่งหลังอยู่ ซึ่งการตัดสินของฟีฟ่าถือว่าน่าผิดหวังสำหรับเรา ทั้ง ๆ ที่มีหลักฐานชัดเจน เราจะรอการโต้แย้งและเราจะอุทธรณ์" มิลาด กล่าว 

 

ตีเสมอท้ายเกม ... และเล็งไว้ที่ "ชัยชนะ"

ชิลี ยื่นอุทธรณ์ทันทีหลังฟีฟ่าเปิดช่องให้พวกเขา หนนี้พวกเขาขอเวลารวบรวมหลักฐานให้หนาแน่นมากกว่าเดิม ชิลีต้องการเล่นงานเอกวาดอร์ให้จนมุมด้วยหลักฐาน และหลังจากนั้น 3 เดือน ชิลีก็มาพร้อมกับหลักฐานชิ้นใหม่ที่ทำให้ชาวเอกวาดอร์ทั้งประเทศต้องใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ 

หลักฐานดังกล่าวถูกยืนยันจากสื่ออย่าง Daily Mail ว่ามีครบถ้วนแทบทุกสิ่งที่ยืนยันถึงความผิดเรื่องการโกงเอกสารของ ไบรอน กาสตีโญ ทั้งเอกสารเพิ่มเติมจากฝั่งโคลอมเบียที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นบ้านเกิดที่แท้จริงของกาสตีโญ นอกจากนี้ยังมีคลิปเสียงยืนยันอย่างหนักแน่นอนว่าคาสติลโญเป็นชาวโคลอมเบีย และมีผู้ช่วยเหลือในการปลอมแปลงเอกสารบางอย่างเพื่อให้เขาเล่นให้เอกวาดอร์ได้ นี่คือหลักฐานใหม่ทั้งหมดที่ทางชิลีเตรียมใช้เป็นหมัดน็อกเอกวาดอร์ 

"เรารู้ว่าคลิปเสียงนี้มีอยู่จริงเพราะมันถูกกล่าวถึงอย่างชัดเจนในเอกสารอย่างเป็นทางการ แต่เราไม่รู้ถึงเนื้อหาของมัน" ทนายความที่เป็นตัวแทนของสหพันธ์ฟุตบอลชิลีกล่าวในการอุทธรณ์ของฟีฟ่า 

"การบันทึกจะตรวจสอบทุกสิ่งที่เราพูดตั้งแต่เริ่มต้นคดีนี้ เห็นได้ชัดว่าตอนนี้จำเป็นต้องส่งเป็นหลักฐานต่อคณะกรรมการอุทธรณ์ของฟีฟ่าก่อนการพิจารณาคดีในวันพฤหัสบดี"

เมื่อหลักฐานมีมากขึ้น การพิจารณาของฟีฟ่าสำหรับคดีนี้จึงถูกรื้อมาทบทวนใหม่อีกครั้ง โดยหนนี้สื่ออย่าง The Athletic ยังเปิดเผยเพิ่มว่าฟีฟ่าจะทำการเรียกตัว ไบรอน กาสตีโญ เข้ามาร่วมพิจารณาคดีที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ด้วย ซึ่งการเรียกนักเตะที่มีปัญหามาด้วยทำให้ฝั่งชิลียิ่งมั่นใจว่าพวกเขาจะเป็นผู้ชนะคดี 

"เราได้ให้หลักฐานจำนวนมากแก่ฟีฟ่าที่พิสูจน์ว่าผู้เล่นคนนี้เกิดในโคลอมเบียและสูติบัตรของเอกวาดอร์ของเขาเป็นของปลอม" เอดูอาร์โด การ์เลซโซ กล่าว"และในที่สุดวันที่ 15 กันยายนนี้ ไบรอน กาสตีโญ มีโอกาสที่จะไปอธิบาย จากนั้นความยุติธรรมก็สามารถดำเนินไปได้เพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย"

จากหลักฐาน ชิลี ตีเสมอ เอกวาดอร์ ได้แล้ว ตอนนี้เหลือแค่การยิงแซงชนะเท่านั้น ซึ่งมันก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายและแบเบอร์ เนื่องจากเวลาของการฟ้องร้องเหลืออีกไม่มาก เพราะฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่กาตาร์กำลังจะเริ่ม นั่นหมายความว่าทุกอย่างจะถูกเตรียมการไว้ให้กับเอกวาดอร์ ทั้งในแง่ของห้างร้านเอกชนไปจนถึงฝ่ายจัดการแข่งขันด้วย

ฝั่งชิลีกำลังร้อนใจอยู่ ณ ตอนนี้ และพวกเขามองว่าฟีฟ่าพยายามทำให้เรื่องนี้ยุ่งยากน้อยที่สุดด้วยการเตะถ่วงการพิจารณาคดีจนกระทั่งหมดเวลาให้ทุกอย่างไม่มีการเปลี่ยนแปลง แม้ที่สุดแล้วเอกวาดอร์จะผิดจริง แต่พวกเขาก็อยากจะหาทางลงโทษแบบอื่นเพราะมันง่ายกว่าการเอาชิลีขึ้นมาแทนที่ทันที เนื่องจากหากเป็นแบบนั้นจริง ๆ ชาติที่ได้อันดับ 5 และ 6 อย่าง เปรู และ โคลอมเบีย ก็จะต้องร้องเรียนเรื่องนี้ไม่ต่างกัน และอาจจะทำให้เรื่องนี้ยืดยาวไม่จบแม้ฟุตบอลโลก 2022 จะคิกออฟไปแล้วก็ตาม 

อย่างไรก็ตามนั่นคือสิ่งที่ฝั่งชิลีคิด เพราะ ณ ตอนนี้ฟีฟ่าปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกับเรื่องดังกล่าว ... ซึ่งจากเวลาที่งวดเข้ามาเรื่อย ๆ มีโอกาสไม่น้อยว่าที่สุดแล้วสิ่งที่ฝั่งชิลีกลัวว่าทุกอย่างจะสายเกินแก้ก็อาจจะเกิดขึ้นจริงก็เป็นได้

แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาจะสู้ด้วยข้อมูลที่มีจนหยดสุดท้ายเพื่อทวงความยุติธรรมที่พวกเขาคิดว่าพวกเขาควรจะได้รับอย่างแน่นอน 

 

แหล่งอ้างอิง

https://theathletic.com/3535115/2022/09/06/explained-why-chile-think-ecuador-should-be-disqualified-from-the-world-cup/
https://theathletic.com/3589640/2022/09/13/ecuador-world-cup-hearing/
https://en.wikipedia.org/wiki/Byron_Castillo
https://football-italia.net/ecuador-to-be-excluded-from-2022-world-cup-chile-or-italy-promoted/
https://www.dailymail.co.uk/sport/sportsnews/article-11203773/Ecuador-face-kicked-World-Cup-new-evidence-Byron-Castillo-Colombian.html

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

ภราดร ภราดร

อยากจะทำให้ดี ไม่ใช่แค่อยากจะทำให้เป็น