Feature

ฮัลค์ โฮแกน : ตำนานมวยปล้ำตลอดกาล และคนบาปในคราบฮีโร่ | Main Stand

ฮัลค์ โฮแกน คือตำนานนักมวยปล้ำตลอดกาลชาวอเมริกัน จากบทบาทนักมวยปล้ำสายธรรมะของ WWE ในยุค 1980s เขาปรากฏตัวในชุดแต่งกายสีเหลือง-แดง โบกธงชาติสหรัฐอเมริกาปลิวไสว เป็นฮีโร่ผู้รักความยุติธรรม จัดการศัตรูหมู่มารที่ขวางหน้าเพื่อปกป้องทุกคน เป็นต้นแบบที่ดีของเด็ก ๆ และแฟนคลับที่ชื่นชอบตัวเขา

 

แต่หากใครที่ติดตามข่าวสารมวยปล้ำอย่างจริงจัง นอกจากความบันเทิงบนสังเวียน หลายคนมักรู้ดีว่า ฮัลค์ โฮแกน ไม่ใช่คนดีเลิศประเสริฐศรี เขาคือมนุษย์เจ้าปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้คนรอบข้างมาตลอด ไม่ว่าเพื่อนร่วมงาน บริษัท แม้กระทั่งครอบครัว สวนทางกับภาพลักษณ์บนเวทีที่แสดงออกให้เห็นอย่างมาก

ฮัลค์ โฮแกน เป็นคนที่มีด้านสว่างบนเวทีมวยปล้ำ แต่หลังฉากเขาคือมนุษย์ที่มีด้านมืดมากมาย อันเป็นผลจากชื่อเสียง ความนิยม การเสพติดความสำเร็จ ที่ส่งให้ ฮัลค์ โฮแกน กลายเป็นคนที่เพื่อนร่วมงานหลังฉากเอือมระอา

หากอยากรู้ว่า ฮัลค์ โฮแกน สร้างวีรกรรมอะไรมาบ้าง Main Stand จะพาไปหาคำตอบ

 

ด้านมืดของวีรบุรุษมวยปล้ำ

หากเปรียบเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ ฮัลค์ โฮแกน ก็คือฮีโร่ที่มีมุมมืด มุมที่เลวร้าย มุมที่ไม่เป็นมิตรกับทุกคน และมีมุมเห็นแก่ตัว ทำเพื่อตัวเองมากกว่าคนอื่น

แฟนมวยปล้ำในยุค 1980s คงคุ้นภาพคุ้นตาของ ฮัลค์ โฮแกน ที่เดินโบกธงชาติสหรัฐฯ ออกมาพร้อมกับเพลง Real American ของ ริค เดอร์ริงเจอร์ เขาวิ่งขึ้นเวทีไปปราบศัตรูหมู่มาร ปกป้องประเทศชาติและชาวอเมริกันจากนักมวยปล้ำสายอธรรม อาทิ ดิ ไอรอน ชีค, ร็อดดี้ ไพเพอร์, อังเดร เดอะ ไจแอนท์, ริค แฟลร์ ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนจบด้วยชัยชนะ และได้รับเสียงกู่ร้องชื่นชมจากสาวกทั้งในสนามและจอทีวี

ชัยชนะติดต่อกันบนเวที และกิมมิคความเป็นนักมวยปล้ำสายธรรมะ เป็นฮีโร่ของอเมริกันชน สร้างเสริมให้ โฮแกน เกิดการเสพติดชื่อเสียงและความสำเร็จ เขาจะไม่ยอมโดนนักมวยปล้ำคนไหนกดนับสาม แพ้อย่างเด็ดขาด ถ้าเขาไม่ยินยอมหรือมีผลประโยชน์แลกเปลี่ยนที่น่าพอใจ เขาต้องได้รับบทเป็นผู้ชนะ และต้องเป็นคนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในหลังฉาก กำหนดบทบาทบนเวทีของตัวเองได้ แทรกแซงคนเขียนบทได้เสมอ นั่นจึงทำให้เขาได้รับบทเด่นกว่าใครทุกครั้งที่ปรากฏกาย

เบรท ฮาร์ท สุดยอดนักมวยปล้ำชาวแคนาดา รู้ซึ้งถึงนิสัยของ ฮัลค์ โฮแกน เป็นอย่างดี โดยย้อนไปเมื่อศึก เรสเซิลมาเนีย ครั้งที่ 9 เมื่อวันที่ 4 เมษายน 1993 เบรท ฮาร์ท เสียเข็มขัดแชมป์โลก WWE ให้กับ โยโกซูน่า นักมวยปล้ำร่างยักษ์ ทว่าหลังจบแมตช์ ฮัลค์ โฮแกน ผู้ซึ่งไม่มีคิวปล้ำตั้งแต่แรก กลับโผล่ออกมาท้าชิงกับ โยโกซูน่า ในค่ำคืนนั้น แล้วก็กระชากแชมป์ไปครองได้

"เดอะ ฮิตแมน" คิดว่า ฮัลค์ โฮแกน จงใจบ่อนทำลายชีวิตนักมวยปล้ำของเขาที่กำลังรุ่งเรือง โดยคิดว่า โฮแกน ใช้อิทธิพลหลังฉากกดดันให้ วินซ์ แม็คแมน เจ้าของสมาคม WWE ยอมเปลี่ยนแผนส่งเจ้าตัวไปขึ้นเวที แล้วเอาเข็มขัดแชมป์โลกมาจาก โยโกซูน่า เพื่อความพอใจของตัวเอง และรักษาสถานะการเป็นซูเปอร์สตาร์เอาไว้ต่อไป

โฮแกน แสดงความเห็นแก่ตัวบ่อยครั้งที่หลังเวที เขาต้องเป็นผู้ชนะเสมอไม่ว่ายุคไหน ไม่ยอมเปิดทางให้นักมวยปล้ำรุ่นใหม่ คนดูจากที่เคยนิยมชมชอบ แปรเปลี่ยนเป็นเสียงโห่ โดยเฉพาะเมื่อตอนที่เขาย้ายไปอยู่กับ WCW เขายังเสพติดชัยชนะและชื่อเสียงความเป็นพระเอก จนวันหนึ่งเมื่อไม่อาจทานทนต่อกระแสต้านของคนดู จึงยอมพลิกบทมาเป็นตัวร้าย มาเป็น "ฮอลลีวูด โฮแกน" จับมือ เควิน แนช และ สกอตต์ ฮอลล์ แห่ง The Outsiders มาตั้งแก๊งใหม่เป็น nWo จนคืนชีพอีกครั้ง

แต่ก็ยังไม่วาย โฮแกน ใช้ความนิยมอันถล่มทลายของการเป็นสมาชิกแก๊ง nWo สร้างอิทธิพลอันคับพองขึ้นมาที่หลังฉาก นักมวยปล้ำหรือผู้บริหารคนไหนก็ไม่มีใครยิ่งใหญ่ไปกว่าพวกเขา ก่อนนำมาสู่การล่มสลายของ nWo และ WCW ในเวลาต่อมา ทำให้ โฮแกน กลับไปตายรังกับ WWE อีกครั้ง และก็เป็นทาง WWE ที่เอา nWo ไปย่ำยีต่อหน้าสาธารณชน เอานักมวยปล้ำฝั่งคู่แข่งมาฝังให้หมดสภาพ และถูกทำให้เป็นแค่สินค้าหาเงินเข้าบริษัทเท่านั้น

อีกตัวอย่างที่ชัดเจน ศึก WWE Summerslam ปี 2005 ฮัลค์ โฮแกน ที่กลับมาในร่างวีรบุรุษแห่งอเมริกา มีคิวสู้กับ ชอว์น ไมเคิลส์ นักมวยปล้ำเจ้าเสน่ห์ขวัญใจแฟน ๆ ทีแรกนั้น WWE ตั้งใจให้คู่นี้สู้กันแบบไตรภาค 3 แมตช์ ผลัดกันแพ้-ชนะ แล้วไปตัดสินกันในแมตช์สุดท้ายของศึกใหญ่รายการอื่น แต่ โฮแกน ไม่ยินดี เขาแจ้งกับผู้บริหารว่าขอสู้แค่แมตช์เดียวเท่านั้น และขอเป็นผู้ชนะด้วย เล่นเอา HBK ไม่พอใจ โฮแกน อย่างมาก

แล้วเมื่อถึงคิวต้องสู้กันจริง ๆ HBK ยอมเป็นฝ่ายแพ้ แต่ก็ขอเอาคืนด้วยการทำ "Oversell" แกล้งเจ็บเกินจริงทุกครั้งที่โดน โฮแกน เล่นงาน เวลาที่ถูก โฮแกน เตะ ต่อย หรือจับทุ่ม HBK ก็จะดีดเด้งแบบโอเวอร์แอ็คติ้งตลอด เรียกเสียงฮาจากคนดูอย่างมาก และมันก็ทำให้หลายคนรับรู้ว่ามันมีดราม่าอยู่ข้างหลัง จนกลายเป็นหนึ่งในแมตช์ที่ด่างพร้อยที่สุดในชีวิตการปล้ำของ ฮัลค์ โฮแกน

 

ทำลายครอบครัวด้วยมือตัวเอง

ปี 1983 ฮัลค์ โฮแกน แต่งงานกับ ลินดา คลาริดจ์ พวกเขามีลูกกัน 2 คน แต่ชีวิตครอบครัวก็ไม่ราบรื่นนัก โฮแกน ถูกแฉผ่านสื่อว่าเขานอกใจภรรยาไปมีสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่น ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็คือเพื่อนสนิทของลูกสาวตัวเอง ลินดา ทนไม่ได้กับเรื่องนี้ จนต้องขอฟ้องหย่าในปี 2007 ยุติชีวิตคู่ที่อยู่ด้วยกันมา 24 ปี

ลินดา บอกว่าหลังการหย่าร้าง โฮแกน ทำให้ครอบครัวที่ควรจะสมบูรณ์แบบ กลายเป็นพังทลาย แถมเพิ่มเติมว่า โฮแกน เป็นพวกติดเซ็กส์ เป็นคนโกหก รวมถึงคำสัมภาษณ์ผ่าน TMZ ที่เธอพูดถึงอดีตสามีว่า "เขาเป็นพ่อที่ดี แต่เป็นสามีที่ห่วยแตก"

ปี 2012 โฮแกน ยังตกเป็นข่าวฉาวอีก เมื่อเพื่อนสนิทคนหนึ่งของเขา นำคลิปวีดีโอแอบถ่ายตอนที่ โฮแกน กำลังมีสัมพันธ์สวาทกับภรรยาของเพื่อนไปโพสต์ลงเว็บไซต์ Gawker ในอินเตอร์เน็ต โดยเป็นคลิปการเริงรักที่เกิดขึ้นในปี 2007 ปีที่ โฮแกน ถูกภรรยายื่นเรื่องขอหย่าร้างพอดี

โฮแกน ฟ้องร้องเว็บไซต์ Gawker ที่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของเขา แม้ที่สุดแล้ว โฮแกน จะเป็นผู้ชนะคดี ได้เงินค่าเสียหายจาก Gawker ถึง 31 ล้านเหรียญสหรัฐ และทำให้ Gawker ปิดตัว แต่ข่าวกับคลิปที่ออกไปก็ทำให้ โฮแกน แปดเปื้อนมลทิน ทำลายภาพลักษณ์ความเป็นขวัญใจปวงประชาโลกมวยปล้ำอย่างมาก

 

จอมเหยียด และพวกเอียงขวา

อีกเรื่องที่คนในวงการมวยปล้ำพูดถึงกันมากเกี่ยวกับความนิสัยเสียของ ฮัลค์ โฮแกน ก็คือการที่เขาเป็นจอมเหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติ แถมฝักใฝ่นักการเมืองฝั่งขวา อนุรักษ์นิยม

หลักฐานเกิดขึ้นในปี 2015 เมื่อมีการเผยแพร่วีดีโอที่ โฮแกน วิจารณ์ บรู๊ค ลูกสาวตัวเองที่ไปคบหากับผู้ชายผิวดำ โดยเรียกแฟนของลูกสาวว่า "Nigger" ซึ่งมันคือถ้อยคำที่หยาบคาย มีความหมายเหยียดคนดำอย่างรุนแรง โฮแกน ถูกสังคมรุมถล่มอย่างหนัก ขณะที่ WWE ก็จัดการลบชื่อเขาออกจากหอเกียรติยศอย่างเร่งด่วน จากพฤติกรรมน่ารังเกียจนี้

โฮแกน ที่รับรู้ถึงผลกระทบอันรุนแรงจากการเหยียดผิวแฟนลูกสาว กล่าวขอโทษออกสื่อ การที่เขาเป็นคนแบบอนุรักษ์นิยม หัวโบราณ ทำให้เขาพลั้งเผลอพูดสิ่งที่ไม่สมควรออกไป "ผมใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมในบทสนทนา มันไม่ควรเกิดขึ้น ผมไม่มีข้อแก้ตัว และอยากขอโทษที่พูดแบบนั้นออกไป นั่นไม่ใช่ตัวผมเลย เพราะผมเชื่อว่าทุกคนบนโลกนี้เท่าเทียมกัน"

เรื่องการเมืองก็เช่นเดียวกัน ฮัลค์ โฮแกน ออกตัวมาตลอดว่าเป็นแฟนคลับของ โดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ผู้ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับตัวเขาตั้งแต่สมัยเป็นนักมวยปล้ำ WWE และคอยสนับสนุนเจ้าตัวในทุกย่างก้าว โดยเฉพาะการลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่ ทรัมป์ ชิงตำแหน่งผู้นำของชาติเป็นสมัยที่ 2 ในฐานะตัวแทนของพรรครีพับลิกัน โฮแกน รับบทเป็นหัวคะแนนให้กับเขา และออกไปพูดเชิญชวนให้ชาวอเมริกันมาลงคะแนนเลือกมหาเศรษฐีฝีปากห้าวคนนี้

อย่างไรก็ตาม ชาวอเมริกันชนยุคใหม่ ไม่นิยมชมชอบในตัวของ โดนัลด์ ทรัมป์ เท่าไหร่นัก จากลีลาการหาเสียงและนโยบายต่าง ๆ ที่เน้นเอาใจพวกฝั่ง "ขวาจัด" ชาตินิยมสุดโต่ง เป็นส่วนใหญ่ ตกยุค ไม่ทันสมัย เช่นเดียวกับ โฮแกน ที่ก็ถูกมองว่าเป็นพวกขวาจัดเช่นกัน แม้ว่าที่สหรัฐอเมริกา ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียง แสดงออกได้อย่างเป็นอิสระ แต่การที่ โฮแกน ประกาศตัวว่าเป็นพวกเดียวกับทรัมป์ เขาก็เลยไม่เป็นที่รักของคนฝ่ายซ้าย เสรีนิยม และเด็กรุ่นใหม่ยุคนี้

 

เสียงโห่ในฉากสุดท้าย

ฮัลค์ โฮแกน รีไทร์จากการเป็นนักมวยปล้ำอาชีพเมื่อปี 2012 กระนั้นเขาก็ยังมาเป็นแขกรับเชิญ สร้างสีสันให้กับ WWE และสมาคมมวยปล้ำอื่นบ้าง ตามวาระต่าง ๆ และมีสถานะเป็นตำนานนักมวยปล้ำขวัญใจคนดูตลอดกาล

โฮแกน ปรากฏตัวออกทีวีครั้งล่าสุดให้กับ WWE ในรายการ RAW ตอนแรกที่ย้ายจากช่อง USA Network มาสู่ Netflix แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับโลก วันที่ 6 มกราคม 2025 ค่ำคืนวันนั้น โฮแกน เดินออกมาพร้อมกับเพลงเปิดตัว Real American ที่หลายคนแสนคุ้นเคย โดยมี จิมมี่ ฮาร์ท โฆษกเพื่อนคู่ใจออกมาด้วย

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลายเป็นฝันร้าย เมื่อ โฮแกน ไม่เป็นที่ต้อนรับของคนดูในสนาม อินทูอิท โดม ไม่ว่าจะพูดอะไรเขาก็ถูกแฟนมวยปล้ำส่งเสียงโห่แทรก เล่นเอาเจ้าตัวรวมถึงทีมงานเบื้องหลังถึงกับช็อกพอสมควร และรีแอ็คชั่นที่เกิดขึ้นก็กลายเป็นข่าวที่สื่อหลายสำนักเอาไปเขียนถึงมากมาย

มีการวิเคราะห์ว่า คนดูที่ส่งเสียงโห่ใส่ โฮแกน เพราะพวกเขาไม่พอใจที่ โฮแกน สนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์ และพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยม และไม่เป็นที่ชอบใจของชาวอเมริกันยุคปัจจุบันสักเท่าไหร่ รวมถึงพฤติกรรมต่าง ๆ สมัยอดีตของ โฮแกน ที่ถูกแฉผ่านสื่อมากมายหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา ยังส่งผลกระทบด้านลบมาถึงชื่อเสียงและความเป็นตำนานในโลกมวยปล้ำของตัวเองด้วย

แล้วมันก็กลายเป็นการปรากฏตัวของ ฮัลค์ โฮแกน ครั้งสุดท้ายบนหน้าจอทีวีมวยปล้ำ ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตไปแบบไม่มีใครคาดฝัน ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2025 เขาจากโลกนี้ไปด้วยวัย 71 ปี จากอาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน


แม้แต่ฮีโร่ก็มีบาดแผล

การเสียชีวิตของชายผู้สร้างปรากฏการณ์ "Hulkamania" ไปทั่วโลก ผู้คนในวงการมวยปล้ำ และแฟนมวยปล้ำครึ่งหนึ่งแสดงความอาลัยต่อการจากไปของเขาในช่องทางต่าง ๆ แต่กลับกัน ก็มีแฟนมวยปล้ำอีกครึ่งที่แสดงออกผ่านโซเชียล มีเดีย ทำนองว่าไม่ได้รู้สึกเสียอกเสียใจอะไรกับการเสียชีวิตของอดีตแชมป์โลก WWE คนนี้สักเท่าไหร่

เหตุผลก็เพราะส่วนหนึ่งคือ มีแฟนมวยปล้ำหลายคนเกิดไม่ทันในช่วงเวลาที่ โฮแกน รุ่งโรจน์บนสังเวียน และอีกส่วนหนึ่งก็คือพวกเขาไม่ชอบพฤติกรรมของ โฮแกน ที่ปรากฏให้เห็นผ่านสื่อ ทั้งเรื่องการเหยียดผิว การเลือกสนับสนุนพรรคการเมืองฝั่งขวา หรือเรื่องราวหลังฉากมวยปล้ำที่ถูกเผยแพร่ให้รู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองว่า โฮแกน ไม่ใช่คนดีอย่างที่เขาเป็นบนเวที

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มอง โฮแกน เป็นคนเลวเสียหมด

มาร์ค เฮนรี่ อดีตนักมวยปล้ำร่างยักษ์ผิวดำของ WWE แสดงความเห็นถึง ฮัลค์ โฮแกน ผู้จากไป โดยใจความสำคัญ เขามองว่า โฮแกน ผู้มีชื่อจริงว่า "เทอร์รี่ จีน โบเลีย" เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีทั้งด้านบวกและด้านลบ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เป็นฮีโร่ที่สามารถทำสิ่งที่ดี และทำเรื่องผิดพลาดได้เหมือนคนทั่วไป

"ฮัลค์ โฮแกน คือฮีโร่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อพวกเรา เมื่อเวลาผ่านไป เทอร์รี่ โบเลีย อาจไม่ใช่คนที่มีบุคลิกตรงกับที่ ฮัลค์ โฮแกน สร้างไว้ บางทีเขาอาจพูดหรือทำสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่น่ารังเกียจ ซึ่งไม่ตรงกับสิ่งที่เขาพูดในโปรโม แต่ เทอร์รี่ ก็เป็นมนุษย์ และ ฮัลค์ โฮแกน ก็คืออีกตัวตนในแนวคิดของเขา"

"เมื่อไหร่ที่เพลง Real American ดังขึ้นมา คุณรู้เลยว่าซูเปอร์ฮีโร่กำลังจะมาช่วยโลก มันทำให้ผมรู้สึกขนลุก และมีความหวังว่า ความชั่วร้ายจะไม่มีทางเอาชนะความดีได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เทอร์รี่ โบเลีย มอบความหวังให้กับพวกเรา"

"ฮีโร่อาจทำสิ่งที่ผิดพลาด แต่สิ่งดี ๆ ที่เขาทำให้กับพวกเราก็จะถูกจดจำไว้เหมือนกัน บางครั้งเราไม่ต้องการตัวบุคคล แต่เป็นแนวคิดของบางสิ่งนั้น แนวคิดที่ ฮัลค์ โฮแกน มอบให้จะยังคงอยู่ตลอดไป ขอบคุณที่ทำให้ผมเป็นคนที่ดีขึ้น และขอบคุณที่มอบความเชื่อมั่นให้กับผม"

ส่วน จอห์น เดอโวร์ นักเขียนของ Rolling Stone ผู้ซึ่งเป็นแฟนคลับของ ฮัลค์ โฮแกน เขียนบทความรำลึกถึงการจากไปของ โฮแกน ทำนองว่าแม้เขาจะไม่ชอบเรื่องราวด้านลบของอดีตฮีโร่ในดวงใจ แต่เขาก็คิดเหมือนกับ มาร์ค เฮนรี่ ที่มองว่า โฮแกน ก็คือมนุษย์ที่มีสิทธิ์ทำผิดพลาด และสิ่งที่เขามอบให้กับวงการมวยปล้ำโลก ก็ทรงอิทธิพลและมีคุณค่า แบบที่ข่าวฉาวใด ๆ ของเขาก็ไม่สามารถทำลายมรดกที่ยิ่งใหญ่นั้นได้

"ผมรัก ฮัลค์ โฮแกน แต่ต้องยอมรับความจริงว่า ฮีโร่วัยเด็กของคุณก็เป็นเพียงคนธรรมดา ขณะที่บางคนก็ทำตัวตรงข้ามกับสิ่งที่คุณคาดหวัง เทอร์รี่ โบเลีย จากโลกนี้ไปแล้ว แต่ ฮัลค์ โฮแกน จะยังมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยก็ในหัวใจผม" 

จอห์น เดอโวร์ ทิ้งท้ายในบทความที่รำลึกถึงฮีโร่ในวัยเด็กของเขา ซึ่งสะท้อนให้ทุกคนเห็นว่า มนุษย์ทั่วไป หรือซูเปอร์สตาร์มีชื่อเสียงระดับโลก ทุกคนล้วนมีดี มีเลว ไม่มีใครขาวหรือดำสนิท

เช่นเดียวกับ ฮัลค์ โฮแกน ที่ก็เป็นทั้งคนที่มีดี มีเลว เหมือนคนทั่วไป ขึ้นอยู่กับแฟนมวยปล้ำว่าอยากจดจำภาพของเขาแบบไหน ?

 

แหล่งอ้างอิง :

https://edition.cnn.com/2025/07/24/sport/hulk-hogan-death
https://www.dailymail.co.uk/sport/wwe/article-14938251/hulk-hogan-death-wwe-undertaker-shawn-michaels.html
https://people.com/inside-hulk-hogan-scandals-controversies-sex-tape-racist-rant-family-drama-11778716
https://www.rollingstone.com/culture/culture-features/hulk-hogan-legacy-remembrance-1235393582/
https://sports.yahoo.com/why-hulk-hogan-booed-netflix-095728433.html?guccounter=1

Author

วัลลภ สวัสดี

ฟังไปเรื่อย ดูไปเรื่อย เขียนไปเรื่อย

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ