"ไอ้เยอรมันหัว*** แ***โคตรจะอวดดี" ประโยคสั้น ๆ ที่พูดกันในวงเพื่อน ๆ ประโยคนี้ อาจจะเป็นประโยคที่ไม่ได้คอขาดบาดตายนัก หากมันไม่ได้หลุดมาถึงสาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเป็นประโยคของกลุ่มคนที่ทำหน้าที่เป็นกรรมการในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
ประโยคดังกล่าวเป็นการโจมตีใส่ เยอร์เก้น คล็อปป์ อดีตกุนซือของ ลิเวอร์พูล ที่ออกมาจากปากของ เดวิด คูต กรรมการดาวรุ่งที่ทางสมาคมกำลังวางตัวให้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ตัดสินแถวหน้าของอังกฤษในอนาคตอันใกล้
หลังจากนั้นเรื่องราวมากมายก็เกิดขึ้นไม่รู้จบ จนตอนนี้มันได้บทสรุปที่ไม่น่าเชื่อว่า เดวิด คูต จะเดินทางมาถึงตรงนี้
กรรมการฝีมือดี
การเติบโตของ เดวิด คูต นั้น ไม่มีเรื่องใด ๆ ที่เราสามารถบอกได้ว่าเขาขาดความอบอุ่นหรืออยู่ท่ามกลางครอบครัวที่มีปัญหา เพราะประวัติของเขาบอกว่า เขาเติบโตในครอบครัวชนชั้นกลางค่อนบน พ่อของเขา "เดวิด คูต ซีเนียร์" เป็นอดีตนักคริกเกตของสโมสรในเมืองน็อตติงแฮม เคยเล่นในระดับอาชีพมาแล้ว ขณะทีด้านฟุตบอล เขาเคยเป็นนักเตะในระดับลีกท้องถิ่น ซึ่งส่วนนี้เขาเล่นเป็นงานอดิเรกเท่านั้น
เดวิด คูต ที่เป็นลูกก็เดินตามรอยเส้นทางนั้น เขาเล่นกีฬาคริกเกตมาตั้งแต่อายุ 12 ปี ผ่านระบบเยาวชนของหลาย ๆ ทีม จนกระทั่งพัฒนาขึ้น ฝีมือดีจนได้เล่นระดับผู้ใหญ่ในทีมที่ชื่อ วีตชีฟ ยูไนเต็ด (Wheatsheaf United) ซึ่งในทีมนั้นมีพ่อ และลุง ๆ เพื่อนของพ่อเขาเล่นในทีมด้วย
ว่ากันว่านั่นคือจุดเริ่มต้นของการที่ทำให้ เดวิค คูต กลายเป็นคนที่สามารถรับแรงกดดันได้ดี สามารถเล่นในเกมของผู้ใหญ่ได้โดยไม่กลัวใคร ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่เขามีกลุ่มพ่อ ๆ เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวให้ด้วย ตามคำบอกเล่าของ โทนี่ สมิธ บก.ข่าวกีฬาของหนังสือพิมพ์ Newark Advertiser
"เดวิด คูต เริ่มเป็นตัววิ่งให้กับ วีตชีฟ ในทีมมีพ่อและลุงของเขาเล่นอยู่ด้วย ดังนั้นมันจึงเป็นภาพที่เกิดขึ้นประจำว่า ถ้าใครคิดจะเล่นงานไอ้หนูคูตคนนี้ พวกเขาจะต้องโดนดีจากพ่อและลุงของเขาด้วย ... ต้องข้ามศพพี่บิ๊กพวกนี้ไปก่อน มันเป็นแบบนั้นอยู่ 3 ปี คูต มีการ์ดส่วนตัวเป็นของตัวเอง"
"แต่ตอนนี้กับเรื่องที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะไม่มีใครสามารถปกป้องเขาได้แบบนั้นอีกแล้ว ... นี่ไม่ใช่เกมกีฬา แต่มันคือเรื่องของกฎหมายแล้วล่ะ"
จะด้วยเรื่องนี้หรือไม่ ที่ทำให้คูตไม่ได้เดินสายคริกเกตจนสุดทาง เพราะหลังจากที่กลุ่มพ่อของเขาเลิกเล่น คูต ก็เปลี่ยนสายและเริ่มเข้าสู่วงการผู้ตัดสินเกมฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย และไต่ระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าเขาจะมีความถนัดในเรื่องนี้ ...
คูค เริ่มจากการเป็นกรรมการในซันเดย์ลีก เกมเยาวชน เกมระดับลีกภูมิภาค จนกระทั่งก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกรรมการของ EFL หรือ ฟุตบอลลีกอังกฤษ (English Football League) ที่เขาถูกดันให้ขึ้นมาตัดสินในระดับ แชมเปี้ยนชิพ ตั้งแต่ฤดูกาล 2010
เหตุผลที่เขาได้รับการโปรโมตไวเนื่องจากคะแนนประเมินของเขาดีมาก มีการอธิบายว่าเขานิ่งและมีสมาธิสูง ไม่หวั่นไหวจากแรงกดดันของแฟนบอล ณ ตอนนั้น เขาถือเป็นกรรมการดาวรุ่งที่น่าจับตามอง จนกระทั่งถึงปี 2018 เดวิต คูต ก็กลายเป็นหนึ่งในกรรมการรุ่นใหม่ที่สมาคมผู้ตัดสินเชื่อว่าเขาดีพอสำหรับเวทีใหญ่ และเดิมพันสูงสุดอย่าง พรีเมียร์ลีก
และที่เราบอกว่าพรีเมียร์ลีกคือลีกที่เดิมพันสูง มันหมายถึงทุกคนที่เกี่ยวข้องกับลีกฟุตบอลนี้ ไม่ใช่แค่นักเตะ โค้ช หรือสโมสร เพราะแม้กระทั่งกรรมการอย่าง เดวิด คูต ก็ด้วย
คนที่ FA ไว้ใจ และคนที่ทำให้ FA เสียราคา
ไม่นานหลังจากเลื่อนชั้น คูตได้รับความไว้วางใจจาก สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ (The Football Association) ให้ทำหน้าที่ในเกมระดับสูงหลายแมตช์ ทั้งเกมบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีกและบอลถ้วย ถือเป็นช่วงขาขึ้นสำหรับอาชีพของเขาเลยก็ว่าได้
เขาได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในผู้ตัดสินระดับหัวแถว หรือ Elite Referees ของอังกฤษ, เป็นหนึ่งในคนสำคัญที่มีส่วนร่วมกับระบบ VAR ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของโครงการ จนถึงกระทั่งถูกมองว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะสืบทอดตำแหน่งต่อจากกรรมการชื่อดังชาวอังกฤษหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ฮาเวิร์ด เว็บบ์ หรือ มาร์ค แคลตเทนเบิร์ก ที่เคยก้าวขึ้นไปตัดสินในเกมใหญ่ ๆ ระดับโลก
แคลตเทนเบิร์ก ที่เคยดำรงตำแหน่งใหญ่ในสมาคมผู้ตัดสิน เคยพูดถึงจุดเด่นของ คูต ว่า "เป็นคนที่รู้วิธีควบคุมสถานการณ์ เขาอาจไม่ใช่กรรมการที่ดังที่สุด แต่เขาเป็นคนที่ทำให้เกมเดินต่อไปได้โดยไม่ถูกดึงเข้าสู่ดราม่า" นั่นทำให้เขากลายเป็นกรรมการตัวหลักในเกมระดับสูงต่อเนื่อง และชื่อ เดวิด คูต ถูกพูดถึงบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงการเดิมพันครั้งใหญ่ของเขา เพราะ ทุกอย่างเริ่มสั่นคลอนจากคำว่า "ความผิดพลาด"
ชื่อของคูตเริ่มถูกพูดถึงในเชิงลบ หลังมีหลายจังหวะตัดสินที่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมที่ ลิเวอร์พูล ลงแข่งขันในหลาย ๆ เกม คูต มักจะมีปัญหากับจังหวะฟาวล์และ VAR ที่เขาเป็นคนดูแลในห้องควบคุม ทำให้เขาถูกกุนซือของหงส์แดงอย่าง เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องออกมาโจมตี หรือ "แซะให้รู้สึก" อยู่บ่อย ๆ
หนึ่งในเหตุการณ์ที่เป็นข่าวใหญ่ คือช่วงที่เขามีปากเสียงกับ คล็อปป์ อย่างดุเดือดหลังเกม จนสื่ออังกฤษพาดหัวว่า "Coote vs Klopp" ภาพของกรรมการหนุ่มผู้สุขุม เริ่มถูกแทนที่ด้วยภาพความผิดพลาดที่ค้านสายตาในหลาย ๆ ครั้ง สู่ "คนที่รับแรงกดดันไม่ไหว" จากจุดนั้น เสียงวิจารณ์ไม่ใช่แค่เรื่องอาชีพอีกต่อไป
ไม่นานนัก คูต ก็เริ่มเข้าใจสิ่งที่เขาเรียกว่า "การเดินพันที่สูงขึ้น" ในระดับพรีเมียร์ลีกแล้ว เพราะที่นี่ ทุกดราม่าจะถูกขุดคุ้ย ทุกความผิดพลาดจะต้องโดนขยี้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าผิดกฎหมายด้วยแล้ว พวกสื่อจะไม่หยุดเขียนข่าวจนกว่าทุกคนจะได้เห็นจุดจบของคุณ
นึกว่าแค่ด่า คล็อปป์
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์อังกฤษ เผยแพร่วิดีโอที่ คูต ด่า คล็อปป์ แบบสาดเสียเทเสียในงานปาร์ตี้งานหนึ่ง คำพูดจากปากเขาบอกว่า "ไอ้เยอรมันหัว*** แ***โคตรจะอวดดี" นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคำหยาบหลุดออกมาเช่น "German c***" และ "F****** arrogant"
หลายคนคิดว่าเป็นเพียง "ดราม่าอีกชิ้น" ของวงการผู้ตัดสิน เพราะก่อนหน้านั้นเขาก็เคยถูกวิจารณ์จากบรรดากุนซือมาแล้วหลายครั้ง แต่เรื่องกลับไม่จบลงง่าย ๆ เมื่อข่าวฉาวของ คูต เริ่มถูกเปิดเผยต่อเนื่อง และคราวนี้เรียกว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนชี้เป้าไปที่เขาได้อย่างง่ายดาย เพราะมันคือการทำเสียชื่อเสียงวงการฟุตบอลอังกฤษเข้าเต็ม ๆ
ในฐานะกรรมการแถวหน้า คูต ถูกเรียกเข้าไปทำหน้าที่ในฟุตบอล ยูโร 2024 เขาได้ทำงานในห้อง VAR ในเกมคู่ใหญ่ระหว่างฝรั่งเศส กับ โปรตุเกส คลิปวิดีโออีกชิ้นของคูตก็หลุดออกมา เขากำลัง "สูดผงสีขาว" ผ่านธนบัตรม้วน ภาพนั้นเกิดขึ้นระหว่างที่เขายังทำหน้าที่ในทัวร์นาเมนต์ระดับยุโรป ทำให้เกิดคำถามใหญ่โตว่า ทำไมกรรมการระดับอีลิท ถึงกล้าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในจุดนั้น
ผลลัพธ์คือการถูกลงโทษแบน 16 เดือน ฐาน "ละเมิดจริยธรรมขั้นพื้นฐาน" และ "ทำให้ชื่อเสียงของวงการฟุตบอล รวมถึง สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า เสื่อมเสีย" และอย่าคิดว่ามันจะจบเรื่องนี้ง่าย ๆ เพราะเมื่อสื่ออังกฤษได้ลองขุดคุ้ยอะไรขึ้นมาแล้ว พวกเขาเอาจนคุณจมดินได้แน่นอนหากคุณมีมูลให้พวกเขาได้คุ้ยเขี่ย และบังเอิญว่า คูต ก็มีเรื่องเน่า ๆ ที่ซุกไว้ใต้พรมอีกไม่น้อยเลยทีเดียว
แม้ คูต จะตีหน้าเศร้าออกมาขอโทษผ่านสื่อ และบอกว่าการสูดผงขาวของเขาเกิดขึ้นเพราะเขากดดันกับสภาพแวดล้อมรอบตัวมาโดยตลอด เขาเปิดเผยตัวตนว่าเขาเป็น เกย์ และการอยู่ในโลกของฟุตบอลที่เหมือนจะเป็นโลกของชายแท้ ทำให้เขาเครียดตลอดเวลา และเขาต้องใช้ยาเสพติดเพื่อปกปิดความวิตกกังวลนั้น แต่เรื่องนี้มันกลายเป็นคลื่นของสื่อและสังคมไปแล้ว ... มันเริ่มขึ้นแล้ว มันเหมือนกับการที่คุณไม่มีสิทธิ์จะหยุดคลื่นของทะเลได้ นอกจากต้องโดนมันซัด จนกว่ามันจะหยุด คุณจึงจะรู้ว่าตัวเองจะถูกมันซัดจนไปหยุดที่จุดไหนเท่านั้น
เดือนตุลาคม 2025 ที่ศาลเมืองน็อตติงแฮม ชายวัย 43 ปี เดินเข้าไปในห้องพิจารณาคดี มีเพียงเขา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และคำสารภาพความผิดที่ร้ายแรงยิ่งกว่าการเสพยาเสพติดเข้าไปอีกระดับ
เขาถูกตั้งข้อหาสร้างภาพลามกอนาจารของเด็กอายุ 15 ปี และยอมรับว่าเป็นคนทำจริง ภาพนั้นถูกจัดอยู่ใน "Category A" ระดับความผิดร้ายแรงที่สุด มีการล่วงละเมิดทางเพศเกิดขึ้นจริง ... ในห้องนั้น คูต ในชุดสูทสีกรม ใบหน้าซีดเผือด ไม่มีน้ำตา ไม่มีคำแก้ตัว มีเพียงใบหน้าที่ไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ แต่นี่คือศาล ไม่ใช่เกมฟุตบอล ความผิดเกิดขึ้นแล้ว และมันจะไม่จบแค่นั้น โทษของมันกำลังจะตามมา
ความจริงก็คือ คดีนี้ไม่ใช่เรื่องเพศ ไม่ใช่เรื่องความกดดัน แต่มันคือ อาชญากรรมร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดเด็ก ความผิดที่อาจมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี
และคุณต้องไม่เชื่อแน่ว่าเรื่องใหญ่แบบนี้ เกิดขึ้นเพียงเพราะเขาโดนตรวจสอบย้อนหลัง เกี่ยวกับการแจกใบเหลืองให้นักเตะที่อาจเกี่ยวกับการพนัน ในเกม แชมเปี้ยนชิพ ระหว่าง ลีดส์ กับ เวสต์บรอมวิช เมื่อปี 2019 เรื่องนี้ทำให้เจ้าหน้าที่สอบสวนต้องตรวจสอบโทรศัพท์ของเขา จนนำไปสู่การตรวจค้นบ้านของเขา และจบที่การพบไฟล์ภาพอนาจารของเด็กบนฮาร์ดไดรฟ์ ซึ่งกลายเป็นหลักฐานสำคัญประจำคดีนี้
นี่คือความผิดที่ไม่มีบอดี้การ์ดจากไหนมาช่วยเขาได้อีกแล้ว พ่อหรือแก๊งลุงเพื่อนพ่อเล็กเกินไปสำหรับเรื่องนี้ ขณะที่ ฮาเวิร์ด เว็บบ์ ประธานหน่วยงานดูแลผู้ตัดสินฟุตบอลอังกฤษ หรือ PGMOL ที่เคยบอกว่า "เขาคือคนในครอบครัวของเรา … และเราห่วงใยเขาในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง" ก็ถอนคำพูดหลังมีคำตัดสินใหม่ออกมา
ตอนนี้เขากำลังโดดเดี่ยวอย่างที่สุด แม้จะเป็นความรู้สึกที่น่าเห็นใจ แต่เรื่องทั้งหมดนี้เขาสร้างมันขึ้นมาเอง จากเรื่องเล็ก ๆ เกี่ยวกับการทุจริตในหน้าที่ ไปจนถึงการมีคลิปหลุดในสิ่งที่ไม่ควรพูดในโลกยุคนี้ แผลเล็ก ๆ เหล่านี้อักเสบและลุกลาม จนที่สุดแล้วผู้ตัดสินระดับแถวหน้าของอังกฤษรายนี้ก็กลายเป็นแค่อดีตเท่านั้น
ทางเลือกที่ผิดมันเลือกง่าย แต่ถ้าได้ลองเลือกมันแล้ว กว่าจะได้ออกมาจากวังวันแห่งความผิดนั้นมันยากเย็นเหลือแสน บางคนโชคดีออกมาได้ในตอนที่เสียหายอะไรมากนัก แต่สำหรับบางคน โดยเฉพาะ เดวิด คูต เขาออกมาโดยไม่เหลือเกียรติ ความเป็นผู้ตัดสิน หรือแม้กระทั่งความเป็นมนุษย์
แหล่งอ้างอิง
https://www.nytimes.com/athletic/6699746/2025/10/14/the-disgrace-of-david-coote/
https://www.bbc.com/news/articles/cx20negxx11o
https://www.bbc.com/news/articles/c80g5v1lg0eo
https://www.skysports.com/football/news/30778/13297951/david-coote-former-premier-league-referee-apologises-for-actions-which-led-to-sacking-by-pgmol-and-comes-out-as-gay