ไครัต อัลมาตี้ สโมสรฟุตบอลจากคาซัคสถานทีมนี้ทำให้โลกต้องหันมามอง กับเกมนัดประวัติศาสตร์ของพวกเขาที่จะเปิดบ้านพบกับ เรอัล มาดริดใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
บนสังเวียนเหย้าที่แชมป์ยุโรป 15 สมัย ต้องใช้เวลาเดินทางมาที่นี่กว่า 14 ชั่วโมง ไครัต อัลมาตี้ พาตัวเองเข้ามายังการแข่งขันเวทีสูงสุดของฟุตบอลยุโรปได้อย่างไร ?
ติดตามกับ Main Stand
ชาติเอเชียในการแข่งขันระดับยุโรป
คำถามแรกที่หลายคนคงสงสัย ทำไมสโมสรสเปนต้องเดินทางไปเอเชียเพื่อเล่นการแข่งขันระดับยุโรป ?
คาซัคสถาน คือประเทศที่ตั้งอยู่ในจุดตัดระหว่างยุโรปและเอเชีย พื้นที่หนึ่งในสิบของประเทศอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำอูราล ทำให้ภูมิศาสตร์ของประเทศนี้เป็นทั้งพรมแดนและจุดเปลี่ยนทางวัฒนธรรมมายาวนาน
หากจะว่ากันตรง ๆ คือพวกเขาคือประเทศในทวีปเอเชีย แต่ในด้านฟุตบอล พวกเขาเป็นสมาชิกของ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า และนั่นทำให้เราต้องมาพูดถึงเรื่องของสโมสร ไครัต อัลมาตี้ ทีมจากลีกคาซัคสถาน ที่กำลังจะได้ลงแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกรอบสุดท้ายในซีซั่นนี้
เรื่องนี้เริ่มต้นหลังการประกาศเอกราชจากสหภาพโซเวียตในปี 1991 ฟุตบอลคาซัคสถานก็เริ่มเปลี่ยนทิศทางไปเข้ากับทางฝั่งตะวันตกอย่าง ยูฟ่า อย่างชัดเจน
สโมสรแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1954 หรือก่อน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แชมป์ UCL ฤดูกาล 2024-25 ถือกำเนิดมาเกือบ 20 ปี โดยตอนก่อตั้ง สโมสรนี้มีรากฐานมาจาก ดินาโม อัลมาตี้ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น ไครัต อัลมาตี้ ในปี 1956
การย้ายเข้าสู่สหพันธ์ฟุตบอลยุโรปเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2002 เมื่อยูฟ่ารับคาซัคสถานเป็นสมาชิกลำดับที่ 52 หลังออกจาก สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอฟซี ที่พวกเขาอยู่มาตั้งแต่ปี 1994 โดยฝั่งของ ไครัต นั้นถือเป็นสโมสรที่มีวัฒนธรรมฟุตบอลที่แข็งแกร่ง และสืบทอดความยิ่งใหญ่มาตั้งแต่สมัยที่พวกเขายังเป็นส่วนหนึ่งของโซเวียตแล้ว
จากประวัติศาสตร์การก่อตั้ง และการเป็นสโมสรแรก ๆ ที่ริเริ่มสิ่งใหม่ ๆ หลาย ๆ อย่างในวงการฟุตบอลคาซัคสถาน ทำให้ ไครัต อัลมาตี้ กลายเป็นทีมระดับหัวแถวของประเทศนี้ ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ไครัตคว้าแชมป์ลีกได้ 4 สมัย และฟุตบอลถ้วยในประเทศอีก 10 สมัย ส่วนทีมที่ตีคู่กันมาก็น่าจะคุ้นหูแฟนบอลบ้านเราอย่าง อัสตาน่า ซึ่งเป็นสโมสรที่คว้าสิทธิ์ไปเล่นในฟุตบอลยุโรปอย่างต่อเนื่อง
เพียงแต่สิ่งที่ ไครัต ทำได้ก่อนใครในประเทศคือการคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบลีก ในฤดูกาล 2025-26 (คุณอาจสงสัยกรณีของ อัสตาน่า ที่ผ่านมา อัสตาน่า เคยเล่นใน แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม 32 ทีม ทว่าตั้งแต่ ยูฟ่า ปรับรูปแบบเป็นระบบลีก 36 ทีม ยังไม่มีทีมจากคาซัคสถานทีมใดที่มาถึงจุดนี้) ซึ่งนั่นทำให้พวกเขากลายเป็นที่สนใจขึ้นมา เพราะทีมที่จะต้องมาเยือนสนามของพวกเขาจะต้องเดินทางไกลกว่า 6,500 กิโลเมตร เพื่อมาแข่งฟุตบอลถ้วยยุโรปที่ใหญ่ที่สุดในแผ่นดินเอเชีย
เก่งยังไง ทำไมได้มาเล่นใน UCL ?
อย่างที่ได้กล่าวมาในข้างต้น ไครัต มีพื้นฐานสโมสรฟุตบอลที่ดีกว่าทีมอื่น ๆ ในประเทศ จากการที่พวกเขาเป็นสโมสรเก่าแก่ตั้งแต่ยุคโซเวียต และสโมสรแห่งนี้เคยเป็นทีมเก่าของนักเตะดังถึงสามคน ได้แก่ อังเดรย์ อาร์ชาวิน อดีตปีกของอาร์เซน่อล, อนาโตลี ติโมชุก อดีตกองกลางของบาเยิร์น มิวนิค และ วากเนอร์ เลิฟ กองหน้าดีกรีทีมชาติบราซิล
สาเหตุที่พวกเขาสร้างนักเตะดี ๆ แบบนี้ได้ก็คือการเริ่มระดมทุนจากกลุ่มทุนในประเทศตั้งแต่ช่วงปี 2010 ที่ช่วยให้ทีมมีโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคง มีนักเตะให้เลือกใช้งานตั้งแต่ทีมชุดใหญ่ และในระดับเยาวชน ซึ่งทำให้พวกเขาสร้างนักเตะและขายทำกำไรให้กับทีมที่ใหญ่กว่าในลีกยุโรปทีมอื่น ๆ
ซึ่งหลังจากเริ่มเห็นกำไรเป็นน้ำเป็นเนื้อในหลาย ๆ แง่มุม สโมสรได้ตัดสินใจลงทุนเพิ่มเติมในการเสริมทัพเพื่อให้ได้นักเตะคุณภาพสูงจากในประเทศ และต่างประเทศเข้ามาสร้างสมดุล จนเริ่มคว้าแชมป์ได้มากขึ้น พร้อมทั้งยังมีการลงทุนกับระบบอคาเดมี่และเยาวชน เพื่อให้ทีมสามารถผลิตแข้งดาวรุ่งคุณภาพขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งในเวลานี้ ผลผลิตของ ไครัต อย่าง ดาสตัน ซัตปาเยฟ กองหน้าวัย 17 ปี ที่เพิ่งถูก เชลซี ซื้อตัวล่วงหน้าไปร่วมทัพด้วยค่าตัว 4 ล้านปอนด์ (ย้ายซัมเมอร์ 2026) ส่วนผู้รักษาประตูมือ 1 ของทีมในวัย 21 ปีอย่าง เตมิร์ลาน อนาร์เบคอฟ กำลังได้รับความสนใจจากทีมในสเปนอย่าง บาเลนเซีย และ เรอัล โซเซียดัด อีกด้วย
การเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกนี้ ทำให้พวกเขาเริ่มมองไกลไปกว่าระดับประเทศ และสัญญาณดี ๆ ก็เริ่มขึ้นหลังจากการลงทุนพัฒนาอย่างจริงจัง โดยในปี 2021 ไครัต ก็มาจารึกชื่อให้ตัวเอง ด้วยการผ่านเข้ามาเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ลีก หลังเอาชนะ โฟลา เอช ในรอบเพลย์ออฟ
แม้ว่าสุดท้ายในฤดูกาลดังกล่าว พวกเขาจะจอดป้ายแค่รอบนั้น ด้วยการเป็นอันดับสุดท้ายของกลุ่ม แต่นั่นก็คือประสบการณ์ที่ล้ำค่าที่จะต่อยอดมาถึงประสบการผ่านเข้าสู่รอบลีกของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก พร้อมกับการสร้างกระแสบ้าฟุตบอลในเมืองให้กลับมาพีกที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย
ครั้งแรก ... และจะมีครั้งต่อ ๆ ไป
ครัต โบรันบาเยฟ ประธานสโมสรกล่าวกับ BBC Sport ว่าสโมสรของพวกเขาเป็นทีมที่มูลค่าน้อยที่สุดในทุก ๆ ทีมสำหรับทีมที่ลงแข่งใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่น 2025-26 (มูลค่าทีม 10.9 ล้านปอนด์)
ดังนั้นการมาแข่งในรายการที่ใหญ่ที่สุดนี้ แม้พวกเขาจะต้องเดินทางไปเล่นเกมเยือน 4 นัด รวมเป็นระยะทางกว่า 40,000 กิโลเมตร แต่ทุกคนก็พร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายนี้ และการเล่นฟุตบอลยุโรปจะสามารถเปลี่ยนแปลงสถานะทางการเงินของทีมในอนาคต หากทีมยังคว้าสิทธิ์มาเล่นอย่างต่อเนื่องได้
นอกจากนี้ ผลกระทบเชิงบวกทางอ้อมที่ไมใช่แค่เรื่องในสนามและการได้เงินรางวัลก็คือ กระแสในประเทศสำหรับทีม ไครัต อัลมาตี้ กำลังบูมสุดขีด โดยเฉพาะในเกมรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายที่ ไครัต ต้องชิงดำกับ เซลติก ในบ้านของตัวเองนั้น มีแฟนบอลเข้ามาดูเต็มสนาม ขณะที่นักศึกษาและคนรุ่นใหม่หลาย ๆ คนที่ไม่ค่อยจะสนใจฟุตบอลมากนัก ก็พร้อมใจกันใส่เสื้อเชียร์เข้าไปดูบอลในสนาม หรือตามที่ต่าง ๆ ในเมือง
"ค่ำคืนนั้นผมว่าทุกคนรู้สึกเหมือนกัน คืนที่หัวใจของคนทั้งเมืองอัลมาตี้เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน คนดูเต็มสนาม เหล่าหอพักนักศึกษาเบียดเสียดเพื่อแย่งกันดูจอทีวีใหญ่ที่กำลังถ่ายทอดสด แม้กระทั่งงานแต่งงานหลาย ๆ งานที่จัดขึ้นตรงกับกkรแข่งขันก็ยังต้องเลื่อนไปก่อน"
"และเมื่อเกมจบ เราได้เห็นบรรยากาศที่บ่งบอกว่า นี่เป็นเมืองแห่งฟุตบอล เสียงแตรรถดังขึ้นไปทั่วท้องถนน ขณะที่ธงชาติ และธงของสโมสรติถูกโบกสะบัดผ่านหน้าต่างที่เปิดอยู่ นั่นคือความสุดยอดที่เราได้เห็นกับตา"
"อารมณ์ของเมืองนี้ล้นทะลักออกมา มันแสดงให้เห็นว่าสิ่งสำคัญที่สุดของพวกเราคือความเชื่อมั่น" ประธานสโมสร ไครัต กล่าว
เหนือสิ่งอื่นใด ในค่ำคืนนี้ สโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง เรอัล มาดริด กำลังจะมาเยือนที่ อัลมาตี้ เป็นครั้งแรกเพื่อลงดวลกับ ไครัต แน่นอนว่าการมาของ มาดริด ถือว่าเป็นการจุดกระแสฟุตบอลฟีเวอร์ในเมืองนี้พร้อมเจอกับความบันเทิงที่ฟุตบอลจัดสรรมาให้กับพวกเขาอีกครั้ง
"เมื่อเราได้เข้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก เราเข้าใจว่าเราจะต้องเดินทางไกลมาก ๆ ในแต่ละนัด แต่มันไม่ใช่ปัญหา มันคือรางวัลมากว่าในมุมมองของผม … การเจอกับทีมอย่าง มาดริด คือบททดสอบที่ยากที่สุดสำหรับฟุตบอลของพวกเรา แต่มันก็เป็นรางวัลเช่นกัน นี่ความฝันที่เป็นจริง และเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์สำหรับฟุตบอลคาซัคสถาน"
"เกมนี้น่าจะเป็นโอกาสครั้งเดียวที่จะเกิดขึ้นในชีวิตของนักเตะของผมแนนอน พวกเราทุกคนต่างรู้ดีถึงความท้าทายที่เราจะต้องเจอกับทีมในระดับที่สูงกว่าที่รออยู่ข้างหน้า แม้จะยาก แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้การแข่งขันนี้ออกมาเข้มข้นมากที่สุด" ราฟาเอล อูราซบัคติน เฮดโค้ขของ ไครัต กล่าวก่อนเกมนี้จะเริ่มขึ้น
แหล่งอ้างอิง
https://www.bbc.com/sport/football/articles/czjvekl4ewno
https://en.as.com/soccer/who-are-kairat-almaty-real-madrids-opponents-in-the-champions-league-n/
https://edition.cnn.com/2025/09/30/sport/soccer-champions-league-almaty-kazakhstan-real-madrid-intl
https://www.nytimes.com/athletic/6578446/2025/08/28/kairat-champions-league-explained/