Roberto Firmino : Si Señor คือหนังสือเล่มใหม่ที่ วิศรุต สินพงศพร เจ้าของเพจวิเคราะห์บอลจริงจัง ที่ได้ลิขสิทธิ์นำมาแปลให้แฟนชาวไทยได้อ่าน
และ Main Stand พบว่าหนังสือเล่นนี้บอกเล่าหลากหลายเรื่องราว ที่ต่อให้คนไม่ใช่แฟนบอลลิเวอร์พูล คุณก็สามารถอิน และได้อะไรจากการอ่านหนังสือเล่มนี้มากมาย
เด็กบราซิลทำไมถึงเตะบอลเก่งโดย DNA, ตอนอายุ 17 ปี เขาทำอย่างไรให้เลิกเล่นบอลแบบ "แอ็คว่าเก่ง", การไปยุโรปครั้งแรก และสำคัญที่สุด เรื่องราวชีวิตของเขาในรั้วแอนฟิลด์ ภายใต้ 3 ประสาน ซาลาห์, ฟีร์มิโน่ และ มาเน่ มีความขัดแย้งซ่อนอยู่ในกลุ่มของพวกเขาจริงหรือไม่ ?
นี่คือเหตุผลที่เราจะบอกคุณว่า นี่คือหนังสือที่ควรค่าแก่การได้อ่านสักครั้ง อ่านรีวิวของ Main Stand หลังจากเราอ่านหนังสือเล่นนี้ได้เลย
เรื่องไม่ลับยังน่าสนใจ
แม้เราจะเปิดหัวบทความการรีวิวหนังสือเล่มนี้ด้วยคำว่า "ลึกสุดใจ" ทว่าจริง ๆ แล้วความน่าสนใจของหนังสือ Roberto Firmino : Si Señor กลับซ่อนอยู่ในทุกหน้ากระดาษ เพราะนี่เป็นหนังสือที่ ฟีร์มิโน่ แสดงแนวคิดของตัวเองหลาย ๆ เรื่องเอาไว้อย่างน่าสนใจ
หลายคำถามเป็นเรื่องที่ชาวบราซิลทุกคนรู้แต่คนชาติอื่นไม่รู้ เช่นเรื่อง "ทัศนคติ" ของนักฟุตบอลบราซิล เมื่อโตขึ้นมาระดับหนึ่ง และพวกเขาเริ่มตั้งเป้าที่จะเป็นนักเตะอาชีพ พวกเขามีวิธีคิดแบบไหน และการเป็นนักเตะในประเทศที่พวกเขาบอกว่าคนเตะฟุตบอลเป็นเกือบทั้งประเทศมันยากแค่ไหน
ฟีร์มิโน่ ถ่ายทอดเรื่องราวดังกล่าวผ่านแนวคิดของเขาเองได้อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะเรื่องในวัยเด็กที่เขาต้องพยายามก้าวข้ามผู้เล่นคนอื่น ๆ เพื่อโอกาสที่จะต้องมีผู้ผิดหวังมากกว่าสมหวัง
และเหนือสิ่งอื่นใด ตอนที่เขาเล่าเรื่องสมัยที่เขาเป็นวัยรุ่น เป็นนักเตะที่อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่มนุษย์เพศชายทุกคนกำลังห้าว กำลังมั่นใจ และกำลังคิดว่าตัวเองสามารถครองโลกได้ ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วพวกเขาเหล่านั้นกลับไม่เคยรู้สึกเลยว่า การมีอยู่ของตัวเองในวงการฟุตบอลนั้นเปราะบางแค่ไหน
คุณจะได้เห็นว่าทำไม ฟีร์มิโน่ จึงเป็นนักเตะที่เล่นในสไตล์ที่พิเศษไม่มีใครเหมือน ผ่านเส้นเรื่องแต่ละหน้ากระดาษ และเราคงต้องบอกว่าส่วนที่เราชอบที่สุดของพาร์ทนี้คือช่วงที่เขาไปเล่นในยุโรปครั้งแรกกับสโมสร ฮอฟเฟ่นไฮม์ ในเยอรมัน
ช่วงพาร์ทนี้คุณจะได้เห็นเขาเล่าแบบฉากต่อฉาก อะไรทำให้เขาได้มาเยอรมัน แมวมองจากฮอฟเฟ่นไฮม์มาเห็นฟอร์มของเขาที่เล่นในลีกดิวิชั่น 2 ของบราซิลได้อย่างไร ? และเรื่องนี้มาเข้มที่สุดในวันที่เขาไปถึงเยอรมันตอนอายุ 18 ปี และถูกโยนเข้าสู่แนวคิดแบบคนเยอรมันแบบเต็ม ๆ
ชาวบราซิลเจ้าสำราญและเล่นฟุตบอลจากจินตนาการของตัวเองเป็นหลัก ต้องมาอยู่ในประเทศเยอรมนีที่เชื่อมั่นเรื่องระบบ ระเบียบ และการให้ความสำคัญของทีมมาเป็นอันดับ 1 คุณจะได้เห็นว่าเมื่อสองสิ่งนี้มาเจอกัน ฟีร์มิโน่ ค้นหาตัวเองก่อนที่เขาจะเป็นเขาแบบทุกวันนี้ได้อย่างไร
ถ้าเป็นหนังเรื่องหนึ่งก็ต้องบอกว่า นี่คือเรื่องราวที่คล้าย ๆ กับการเล่าปูมหลังของตัวละคร เพื่อเตรียมเข้าสู่บทที่เข้มข้นขึ้นในพาร์ทต่อไป นั่นคือชีวิตจริง ๆ ในโลกฟุตบอลจริง ๆ ที่ทำให้ ฟีร์มิโน่ กลายเป็นนักเตะหมายเลข 9 ของลิเวอร์พูล
เรื่องราวธรรมดา ๆ แต่เล่าผ่านแนวคิดของคนอย่าง ฟีร์มิโน่ กลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจ และกลายเป็นการพาเราเข้าไปในโลกแห่งการเตรียมพร้อมของเด็กคนหนึ่งที่กำลังเข้าสู่โลกแห่งมืออาชีพอย่างเห็นภาพ และผู้เขียนบทความนี้ต้องบอกว่า มันชวนให้เราย้อนกลับมามองเด็ก ๆ หรือวงการฟุตบอลไทยว่าทำไมฟุตบอลของเราจึงห่างไกลในระดับนั้นหลายปีแสง ทั้ง ๆ ที่นักเตะบราซิลเองก็ยากจน สโมสรก็ไม่ได้มีความพร้อมเรื่องเงินมากมาย แถมค่าจ้างของนักเตะอาชีพของบ้านเขาก็แสน้อยนิดเมื่อเทียบกับยุโรป
แต่บราซิล ก็คือ บราซิล ... จุดนี้แหละที่เป็นเรื่องไม่ลับ เรื่องธรรมดา ๆ แต่สำคัญมาก ๆ ในการเปิดเรื่องของหนังสือเล่มนี้
เรื่องลับ ก็ลับจริง
เมื่อเราบอกว่าแม้แต่เรื่องธรรมดายังน่าสนใจ เราก็คงต้องพูดถึงไม้เด็ดของหนังสือเล่มนี้ ซึ่งเอาเข้าจริงไม่มีพาร์ทไหนเข้มข้น และเป็นสิ่งที่ผู้คนแทบไม่เคยรู้มาก่อน เพราะมันเป็นเรื่องของคนสามคนผู้แบกเกมรุกของ ลิเวอร์พูล จนคว้าทุกแชมป์ที่ลงสนาม
โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่ และ โม ซาลาห์ ทั้ง 3 คนนี้ถูกประกอบร่างโดย เยอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งภาพที่สะท้อนออกมาในสนามหรือในทีวีที่เราเห็นคือ พวกเขาทั้ง 3 คนเหมือนจะสนิทกันมากระดับมองตาก็รู้ใจ จนชวนให้คิดว่าพวกเขาสนิทกันทั้งในและนอกสนาม เป็นเพื่อนแท้ชนิดตายแทนกันได้
แต่เอาเข้าจริง เรื่องราวในหนังสือเล่นนี้กำลังจะบอกคุณถึงสิ่งที่คุณเองไม่สามารถจินตนาการถึงความสัมพันธ์ของทั้ง 3 คนนี้ โดยเล่าผ่านแนวคิดและมุมมองของ ฟีร์มิโน่ แต่เพียงผู้เดียว
เราไม่สามารถสปอยล์เนื้อหาในตอนนี้ได้จริง ๆ เพราะถือว่าเป็นจุดพีกของหนังสือเลยก็ว่าได้ แต่ที่แน่ ๆ คือเรามั่นใจว่าคุณจะไม่ทันได้เตรียมตัวที่จะรู้ความจริงของความสัมพันธ์ของทริโอที่เข้าขารู้ใจกันที่สุดในช่วงเวลาของพวกเขา
เราสามารถบอกใบ้ได้แค่เพียงว่า "บ็อบบี้" เป็นคนกลางของเรื่องนี้ และเขาใช้ความพยายามอย่างมากที่จะยึดโยงทั้งทีมเข้าด้วยกัน นอกจากนี้เขายังอธิบายอย่างเห็นภาพว่า ซาลาห์ และ มาเน่ เป็นนักเตะประเภทไหนในมุมมองที่เขาสัมผัส และยิ่งกว่านั้นคือการเล่าเรื่อง "ความเป็นคน" ของทั้งคู่ได้อย่างเห็นภาพ และชวนคิดและจินตนาการต่ออย่างแท้จริง
เมื่อคุณอ่านพาร์ทนี้จนจบ คุณจะเข้าใจในทันทีเลยว่าทำไม ฟีร์มิโน่ จึงเป็นกองหน้าที่ยิงประตูได้น้อยถ้าเทียบกับนักเตะตำแหน่งตัวริมเส้นของทีม และปล่อยให้ปีก 2 คนอย่าง ซาลาห์ และ มาเน่ ยิงประตูระเบิดเถิดเทิง
แม้กระทั่งเรื่องราวที่หลายคนอยากจะรู้ที่สุด ในวันที่ มาเน่ หมดความอดทนกับ ซาลาห์ จนไปโวยกับ เยอร์เก้น คล็อปป์ ที่ออกอากาศผ่านเกมพรีเมียร์ลีกที่ ลิเวอร์พูล เจอกับ เบิร์นลี่ย์ ... ฟีร์มิโน่ ก็เล่าแบบไม่มีกั๊กว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร และเรื่องนี้จบอย่างไร
ยิ่งกว่าเป็นนักฟุตบอล คือความเป็นคน
ในฐานะแฟนบอล เราล้วนมีโอกาสได้ดูพวกเขาแค่เบื้องหน้าผ่านการออกสื่อของนักเตะ หรือไม่ก็การลงสนามการแข่งขันผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เท่านั้น
แต่หนังสือเล่มนี้มันยอดเยี่ยมก็ตรงที่ว่า พาร์ทของฟุตบอล ที่พวกเรารู้และเห็นกันมาหลายปี ถูกขยายและเจาะให้ลึกลงไปอีก และส่วนสำคัญในระดับมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ของหนังสือเล่มนี้ก็คือการบอกเล่ามุมมองความเป็นคนของเหล่านักเตะอาชีพ หรือนักเตะระดับโลกแต่ละคนมากกว่า
ภายใต้หน้าฉากที่เก่งกาจ โด่งดัง ร่ำรวย และมีชื่อเสียง มนุษย์ทุกคนล้วนมีความทุกข์และปัญหาในแบบของตัวเองทั้งสิ้น แม้กระทั่งจุดที่พวกเขามีชีวิตเหมือนกับในฝัน พวกเขาก็ยังเจอบทพิสูจน์ที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถหยุดก้าวเดินไปข้างหน้าได้
มันเป็นเรื่องที่บอกเราในทางอ้อมว่า แม้แต่นักเตะที่มีทุกอย่างพร้อม พวกเขาไม่สามารถหยุดอยู่กับที่ได้เลยแม้แต่วันเดียว มันคือความยากในการเอาตัวรอดของคนในวงการฟุตบอลอาชีพ ... เมื่อพวกเขาลุล่วงซึ่งเป้าหมายที่ตั้งไว้ พวกเขาก็ยังต้องเดินหน้าไปยังเป้าหมายใหม่ที่ยากขึ้นเรื่อย ๆ
สำคัญก็คือพวกเขาจะพิชิตเป้าหมายที่ยากขึ้นด้วยวิธีไหน ในเมื่อมาถึงจุดที่ตัวเองสุขสบายและมีทุกอย่าง ... ในพาร์ทความเป็นคนนี่แหละ คือเดอะเบสต์ของหนังสือเล่มนี้ที่ Main Stand เชื่อว่า ต่อให้คุณไม่ใช่แฟนคลับของ ฟีร์มิโน่ ไม่ใช่แฟนบอลของ ลิเวอร์พูล คุณก็จะได้อะไรจากการอ่านหนังสือเล่มนี้แบบคุ้มค่าเต็มเม็ดเต็มหน่วยกับทุก ๆ หน้ากระดาษอย่างแน่นอน
เรื่องบางเรื่องแม้เราไม่เคยได้สัมผัสด้วยตัวเอง แต่เราก็สามารถเอาบทเรียนของคนอื่น ๆ มาดูเป็นตัวอย่างได้ ... และบทเรียนชีวิตของ ฟีร์มิโน่ ในส่วนต่าง ๆ นี่แหละคือสิ่งที่เขาจะพาคุณทัวร์ในตลอดชีวิตค้าแข้งของเขาตั้งแต่ต้นจนจบ และเราพบว่านี่คือหนังสือที่คุ้มค่ากับการได้อ่านอย่างแท้จริง
สำหรับท่านใดที่อยากอ่านหนังสือ Roberto Firmino : Si Señor นั้น Main Stand ทราบมาว่าหนังสือเล่มนี้มีราคารวมส่งทั่วประเทศอยู่ที่ 500 บาท รอบแรกตีพิมพ์ทั้งหมด 4,000 เล่ม สำหรับวิธีการสั่งซื้อออนไลน์ แอดไลน์ @firmino (ต้องมี @ ด้วย) หรือสามารถติดต่อผู้ขายโดยตรงได้ที่ Inbox เพจ "วิเคราะห์บอลจริงจัง" ได้เลย