Feature

เจดอน ซานโช่ : "Freedom" ... คำคอมเมนต์ที่กลายเป็นดั่งหนามทิ่มแทงตัวเอง | Main Stand

เชลซี เคยทำข้อตกลงร่วมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าหากพวกเขาสามารถจบอันดับได้ดีกว่าที่ 14 ของตารางในฤดูกาล 2024-25 จะใช้ออปชั่นบังคับซื้อ เจดอน ซานโช่ ที่ทีมสิงโตน้ำเงินครามยืมมาจากทัพปีศาจแดง ด้วยค่าตัวราว 25 ล้านปอนด์ ขึ้นกับอันดับเมื่อจบซีซั่น

 


อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังกลับมีกระแสข่าวตีกลับว่า เชลซี อาจตัดสินใจจ่ายเงินราว 10 ล้านปอนด์ ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แทน เพื่อเป็นการชดเชย ขอยกเลิกเงื่อนไขการบังคับซื้อตัวปีกชาวอังกฤษวัย 24 ปี 

เห็นแบบนี้ใครหลายคนคงมองว่า นี่คือเรื่องปกติของตลาดซื้อขายนักเตะที่มีปัจจัยแวดล้อมมาเกี่ยวข้อง อย่างผลงานในสนามที่ไม่เป็นไปตามคาด อย่างไรก็ตาม ในกรณีของ เจดอน ซานโช่ ดันมีที่มาที่ไปที่ลึกซึ้งกว่านั้น ซึ่งเชื่อมโยงกับคำว่า "Freedom" 

Freedom หรือที่หมายความว่า "อิสรภาพ" กลายเป็นที่ถูกพูดถึงและเกี่ยวข้องกับกรณีของ เจดอน ซานโช่ อย่างไร ? ติดตามไปพร้อมกันได้ที่ Main Stand

 

ไม่มีที่ยืนในยูไนเต็ด

อย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่า เจดอน ซานโช่ มีปัญหาส่วนตัวอย่างรุนแรงกับทาง เอริค เทน ฮาก อดีตกุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนไม่มีโอกาสลงสนาม ต้องเก็บข้าวของไปอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อดีตต้นสังกัดที่แจ้งเกิดเป็นพลุแตกในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2023-24

แม้ว่าทาง เจดอน ซานโช่ จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อต้องการให้ทาง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซื้อขาดกลับไปร่วมทีม แต่ด้วยผลงานของเจ้าตัวที่ไม่ได้ดีเด่นเหมือนกับครั้งที่เขาตอนเป็นแข้งดาวรุ่งให้กับทีม ประกอบค่าเหนื่อยของเจ้าตัวที่ได้รับสูงถึง 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เป็นเรื่องยากมากสำหรับการจ่ายค่าเหนื่อยระดับนี้ของทาง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ท้ายที่สุดแล้ว เจดอน ซานโช่ ต้องกลับมาอยู่ที่ต้นสังกัดที่แท้จริงของเขาอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าการกลับมาในรอบนี้ เจดอน ซานโช่ และทาง เอริค เทน ฮาก จะได้มีการพูดคุยเป็นการส่วนตัว ซึ่งทั้งสองต่างมีความเข้าใจกันมากขึ้น และกลับมาร่วมงานกันได้อีกครั้ง 

เราจึงได้เห็น เจดอน ซานโช่ กลับมาลงสนามอีกครั้งให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงพรีซีซั่น อุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาล 2024-25 และในเกม คอมมูนิตี้ ชิลด์ ที่ทางทัพ ปีศาจแดง แพ้ในการดวลจุดโทษให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมืองไปด้วยสกอร์ 7-8 (เสมอกันในเวลา 1-1)

แม้ว่าจะได้โอกาสกลับมาคืนสนามให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ด้วยขุมกำลังผู้เล่นในตำแหน่งริมเส้นของทีมที่มีอยู่หลายราย ทั้ง อาหมัด ดิยัลโล่, มาร์คัส แรชฟอร์ด, อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ อันโตนี่ ส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจเลือกที่จะปล่อยยืม เจดอน ซานโช่ ออกไปจากทีมอีกครั้ง

ในครั้งนี้เป็นทางฝั่งของ เชลซี ทีมคู่ปรับร่วมลีก ที่ตัดสินใจยื่นข้อเสนอยืมตัวเข้ามาในช่วงไม่กี่ชั่วโมงสุดท้ายในตลาดซื้อขายนักเตะฤดูร้อน 2024 พร้อมกับมีออปชั่นบังคับซื้อขาดในราคาระหว่าง 20-25 ล้านปอนด์ หากทัพสิงห์บลูส์จบอันดับในลีกได้ดีกว่าที่ 14 ของตาราง

"ผมตื่นเต้นมากที่ได้ย้ายมาอยู่ที่ เชลซี ผมเกิดและเติบโตจากกรุงลอนดอน ผมดีใจที่ได้กลับมาร่วมงานกับโค้ช (เอ็นโซ่ มาเรสก้า - เคยร่วมงานสมัย เจดอน ซานโช่ เป็นนักเตะเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้) เขาได้เล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ของทีมในฤดูกาลนี้ สำหรับผมที่อายุยังน้อย มันเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก ซึ่งตัวผมเองก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผมจะทำประตูและแอสซิสต์ให้ได้เยอะที่สุดเพื่อนำมามอบให้กับชาว เดอะ บริดจ์" เจดอน ซานโช่ กล่าวความรู้สึกในวันเปิดตัวกับสิงโตน้ำเงินคราม

 

เปิดตัวอย่างหอมหวนกับเชลซี

ความแตกต่างของ เจดอน ซานโช่ ระหว่างการอยู่ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เชลซี นั้นชัดเจน เพราะหากย้อนกลับไปในช่วงระยะเวลาทั้งหมด 2 ปีครึ่งที่ทาง ซานโช่ ลงเล่นให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ภาพจำในสไตล์การเล่นของเขานั้น ถูกมองว่าเป็นปีกที่ไม่กล้าเลี้ยงบอลขึ้นไปข้างหน้า หากไม่มีฟูลแบ็คของทีมอาทิเช่น ดิโอโก้ ดาโลต์ หรือ ลุค ชอว์ คอยวิ่งโอเวอร์แล็ปเติมเกมขึ้นมาช่วย

จึงเห็นได้บ่อยครั้ง สิ่งที่ เจดอน ซานโช่ เลือกทำนั่นคือการส่งบอลคืนหลัง และเป็นที่มาให้ตลอดระยะเวลาที่ดาวเตะค่าตัว 73 ล้านปอนด์ ลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขามีส่วนร่วมในการทำประตูไปได้เพียง 18 ประตูเท่านั้น โดยแบ่งเป็นยิงไป 12 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์

แต่กลับกัน การย้ายมาเล่นที่ เชลซี เจดอน ซานโช่ มีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นอย่างเด่นชัด เขาดูมีชีวิตชีวาในการเล่นฟุตบอลมากขึ้น และการได้เล่นกับเพื่อนร่วมทีมที่อายุใกล้เคียงกันกับเขา ทั้ง โคล พาลเมอร์, นิโคลัส แจ็คสัน, โนนี่ มาดูเอเก้ และ เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ ส่งให้ผลงานของ ซานโช่ ในช่วงแรกยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก มีส่วนร่วมการทำประตูให้กับทีมไปมากถึง 7 ประตู (2 ประตู 5 แอสซิสต์) ตลอดการลงเล่นในช่วง 3 เดือนแรก

ยิ่งไปมากกว่านั้น เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือของทีม ยึดสัมปทานผู้เล่นในตำแหน่งปีกซ้ายของทีม ที่ในช่วงแรกเป็นของ เปโดร เนโต้ และ ชูเอา เฟลิกซ์ หมุนเวียนสลับกันลงเล่น นำมามอบให้กับ เจดอน ซานโช่ ลงเล่นในตำแหน่งนี้กับการเป็นผู้เล่น 11 คนแรกเกือบทุกนัด 

"เขาไม่ทำให้ผมต้องผิดหวังเลยสำหรับ เจดอน ซานโช่ เขาทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างยอดเยี่ยมตามเป้าหมายที่ผมคาดหวังเอาไว้ในตัวเขา เจดอน แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นนักเตะที่ดีและแฝงไปด้วยคุณภาพความสามารถเฉพาะตัวที่อยู่ในตัวเขาเต็มเปี่ยม ทุกคนได้เห็นแล้วว่าการดวลตัวต่อตัวกับคู่แข่งในพื้นที่สุดท้าย เขาทำได้สุดยอดขนาดไหน ผมมั่นใจว่าเขาจะเป็นอีกหนึ่งนักเตะคนสำคัญพาพวกเราไปถึงเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างแน่นอน" เอ็นโซ่ มาเรสก้า กล่าวชื่นชม เจดอน ซานโช่

 

FREEDOM

"ออกจากผีได้ดีทุกคน" ประโยคเด็ดนี้ถูกนำมาเปรียบเปรยอีกครั้ง หลังจากที่ทั้ง เจดอน ซานโช่ และ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ถูกปล่อยตัวไปให้กับ นาโปลี ทีมยักษ์ใหญ่ในประเทศอิตาลี ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ ต่างทำผลงานได้ดีกับต้นสังกัดใหม่ด้วยกันทั้งสิ้น 

มิหนำซ้ำในรายของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็เป็นอีกหนึ่งรายที่โชว์ผลงานส่วนตัวของตนเองได้อย่างน่าตื่นตา หลังจากที่เขาถูกทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปล่อยยืมตัวไปให้กับ แอสตัน วิลล่า ใช้งานเป็นระยะเวลา 6 เดือน และทำผลงานไปทั้งหมด 4 แอสซิสต์ จน โธมัส ทูเคิ่ล เรียกตัวกลับไปติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่อีกครั้งในรอบ 1 ปีเป็นที่เรียบร้อย

นอกเหนือจากนั้น ด้วยความที่ทาง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เจดอน ซานโช่ ต่างเป็นเพื่อนสนิทกัน เป็นที่มาให้มีอยู่ในครั้งหนึ่งที่ทาง "แรชชี่" ได้โพสต์ภาพส่วนตัวของตนเองฉลองชัยชนะกับต้นสังกัดใหม่อย่าง แอสตัน วิลล่า และไม่วายที่ ซานโช่ จะเข้าไปคอมเมนท์แสดงความดีใจกับเพื่อนรักของเขา

แต่ทางฝั่งของ เจดอน ซานโช่ กลับเลือกที่จะแสดงความคิดเห็นคำว่า "Freedom" ที่ให้ความหมายว่า "อิสรภาพ" ซึ่งทุกคนต่างรับรู้เป็นอย่างดีว่าคอมเมนท์ดังกล่าว ซานโช่ มีการกล่าวไปถึงอดีตต้นสังกัดเก่าของพวกเขาทั้งสองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างแน่นอน

เพราะด้วยความที่ยุคสมัยอดีต ในช่วงที่ทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เจดอน ซานโช่ ต่างยังสวมยูนิฟอร์มลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาล้วนแต่เป็นตัวเลือกแรก ๆ ของทีมที่มักจะถูกโจมตีด่ากราด มองว่าเล่นกันอย่างไม่เต็มที่จากทั้งเหล่าแฟนบอล รวมไปถึงสตาฟโค้ช

ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ "Freedom" ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสักนิดที่จะทำให้แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างขับไสไล่ส่ง เจดอน ซานโช่ ไปมากกว่าเดิม จากที่ในเวลาแรกช่วงที่ ซานโช่ มีปัญหากับ เอริค เทน ฮาก แฟนบอล เร้ด เดวิลส์ บางส่วนจะปกป้องและให้การซัพพอร์ตแข้งชาวอังกฤษรายนี้เช่นกัน พร้อมกับต่อว่า เทน ฮาก ว่ามีการปฏิบัติที่ไม่ให้เกียรติตัวนักเตะมากจนเกินไป

แต่กลับกัน หลังจากเหตุการณ์นี้ แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนใหญ่ถึงกับสาปส่งใส่ทาง เจดอน ซานโช่ อย่างดุเดือด รวมไปถึงในรายของ พอล พาร์คเกอร์ อดีตนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ต่อว่า ซานโช่ อย่างตรงไปตรงมา ชี้ว่าแข้งรายนี้เหมือนกับเด็กขี้แงเอาแต่ใจ

"เจดอน ซานโช่ ทำให้ผมนึกถึงพวกเด็กขี้แงเอาแต่ใจที่ชอบใช้คนอื่นมาเป็นเครื่องมือเพื่อให้เขาได้ระบายอัดอั้นความแค้นที่เขามี เขาจึงเลือกที่จะใช้ มาร์คัส แรชฟอร์ด มาอยู่ในวังวนความวุ่นวายนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งผมหวังว่า แรชฟอร์ด จะฉลาดมากพอที่ไม่สนใจเรื่องของ ซานโช่"

 

คดีพลิก ! สิงห์ (อาจ) ไม่ต้องการ ผีก็ไม่เอา

อย่างไรก็ตาม ผลงานของ เชลซี ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2024-25 ถือว่าตกลงไปมากพอสมควร พวกเขาสะดุดแพ้มากถึง 7 นัดจากการลงเล่นในช่วง 3 เดือนหลัง และหนึ่งในแข้งที่มีผลงานตกลงไปอย่างเห็นได้ชัดเจน นั่นก็คือในรายของ เจดอน ซานโช่ ที่มีส่วนร่วมเพียง 1 แอสซิสต์เท่านั้นในช่วงที่ผ่านมา

แม้ว่าผลงานของเขาจะดร็อปลงไป แต่ด้วยความโชคดีที่ทั้ง โนนี่ มาดูเอเก้ และ นิโคลัส แจ็คสัน 2 แนวรุกของทีมต่างมีอาการบาดเจ็บรบกวนไม่สามารถลงช่วยทีมได้ มิหนำซ้ำในรายของ ชูเอา เฟลิกซ์ ก็ถูกปล่อยยืมตัวไปให้กับ เอซี มิลาน ใช้งานเป็นระยะเวลา 6 เดือน จึงเป็นที่มาให้ เจดอน ซานโช่ ยังได้โอกาสลงสนามเป็นผู้เล่นตัวจริงของทีมตามเช่นเดิม

กระนั้น ผลงานของเขาก็ยังไม่กระเตื้องขึ้นมาแม้แต่นิด และดูเหมือนว่าจากเดิมที่เป็น "เพอร์เฟค บอย" แตะต้องไม่ได้ แต่ในเวลานี้กลับสวนทางกันอย่างชัดเจน เจดอน ซานโช่ ถูกโจมตีอย่างหนักหน่วง เริ่มจาก พอล สโคลส์ ตำนานแข้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ออกมาวิจารณ์ ซานโช่ เกี่ยวกับเรื่องทัศนคติส่วนตัวของเขา ผ่านทางรายการในช่องของ Sky Sports 

"เขา (เจดอน ซานโช่) ไม่มีทางเล่นได้ดีในพรีเมียร์ลีก ถ้าหากเขายังเล่นเหมือนเดิมแบบนี้ในทุกปี เกมรุกเขาก็ไม่กล้าเล่น เกมรับเขาก็ยังไม่ลงไปช่วยเพื่อนเล่นอีก มันเป็นทัศนคติส่วนตัวที่ย่ำแย่มาก ผมรู้สึกดีนะที่ทีมรักของผมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปล่อยตัวเขาออกไปได้"

มิหนำซ้ำในรายของ จอห์น โอบี มิเกล ตำนานกองกลาง เชลซี ก็เป็นอีกหนึ่งรายที่ออกมาวิจารณ์ เจดอน ซานโช่ อย่างหนักหน่วงเช่นกันผ่านรายการพอตแคสต์ส่วนตัวของตนเอง 

"เจดอน ซานโช่ เขาหลอกเราด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมในช่วง 2-3 นัดแรกที่ทำให้ทุกคนต่างคิดว่าเขาจะกลับไปเล่นได้ดีเหมือนตอนที่เล่นให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คำรบแรก แต่ตอนนี้มันกลับตรงกันข้ามอย่างเห็นได้ชัด เขาแทบไม่มีส่วนร่วมกับทีมเวลาที่ได้ลงสนาม เขาไม่สามารถแม้แต่เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งได้ ผมคิดว่านี้คือดีลเสริมทัพที่น่าผิดหวัง เพราะเขาช่วยทีมไม่ได้อย่างที่คาดหวัง"

ท้ายที่สุดแล้วหลังจากเข้าสู่โหมดผลงานที่ย่ำแย่อีกครั้งของ เจดอน ซานโช่ มีการรายงานจากสื่อระดับสูง เผยว่า เชลซี อาจตัดสินใจใหม่ ด้วยการเตรียมจ่ายเงิน 10 ล้านปอนด์ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อขอยกเลิกสัญญาที่พวกเขาได้เซ็นไว้ก่อนหน้านี้ที่ต้องบังคับซื้อตัว ซานโช่ หากทำอันดับในพรีเมียร์ลีกได้สูงกว่าอันดับ 14 ของตาราง

แต่ทางฝั่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยืนยันอย่างชัดเจนแล้วเช่นกันว่า แผนงานของ รูเบน อโมริม ในฤดูกาลหน้าก็ไม่มี เจดอน ซานโช่ อยู่ในทีมเช่นกัน โดยพวกเขาไม่ต้องการอยากได้ตัวดาวเตะรายนี้กลับมาอยู่กับทีม เพราะทัศนคติส่วนตัว รวมไปถึงค่าเหนื่อยที่แพงเป็นอันดับต้น ๆ ของสโมสร จึงเป็นเหตุให้พวกเขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อนำตัว ซานโช่ ออกไปจากทีมให้ได้อย่างเร่งด่วนที่สุด

ท้ายที่สุดแล้ว หากพูดถึงเรื่องนี้ ดูเหมือนคนที่ประสบปัญหา จะมีแต่ฝั่งของ เจดอน ซานโช่ เพราะหากเขาเพียงแค่ก้มหน้าก้มตาทำผลงานออกมาให้กลับมายอดเยี่ยมอีกครั้ง และไม่ต้องไปสนใจเรื่องราวนอกสนาม เชื่อว่าคงไม่มีเรื่องเสีย ๆ หาย ๆ ให้เกิดขึ้นแบบในปัจจุบันอย่างแน่นอน 

คำว่า "Freedom" ที่ทาง เจดอน ซานโช่ คอมเมนต์ไปในวันนั้น เหมือนจะเป็นบาดแผลที่ทิ่มแทงตัวเองในทุกวันนี้เสียแล้ว

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.bbc.com/sport/football/articles/c5y5z5vl4dko
https://www.90min.com/jadon-sancho-told-erik-ten-hag-man-utd-bought-wrong-player
https://www.independent.co.uk/sport/football/enzo-maresca-jadon-sancho-premier-league-erik-ten-hag-bournemouth-b2613034.html
https://mybettingsites.co.uk/news/paul-parker-slams-jadon-sancho-a-weak-little-boy/

Author

วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว

หนุ่มน้อยผู้คลั่งรัก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดหัวใจ

Photo

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ