ไม่ว่าจะเป็นคนประเทศไหน สีผิวอะไร เชื่อเลยว่าคุณต้องรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อของ โดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจรุ่นใหญ่ชาวอเมริกัน ผู้ซึ่งกลายเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาถึง 2 สมัย
โดนัลด์ ทรัมป์ คือบุคคลผู้สร้างสีสันให้แก่วงการธุรกิจ การเมือง บันเทิง หรือแม้แต่มวยปล้ำ ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเปิดศึกกับ วินซ์ แม็คแมน ประธานของ WWE สมาคมมวยปล้ำอันดับ 1 ของโลก และลงเอยด้วยการมีแมตช์ในศึกใหญ่ WrestleMania ปี 2007 ที่คนแพ้จะต้องโดนจับกล้อนผมให้หัวล้าน !
แมตช์มวยปล้ำสุดบันเทิงครั้งนั้น สร้างชื่อเสียงให้ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นอย่างมาก ต่อให้คุณเป็นแฟนมวยปล้ำแต่ไม่รู้จักเขามาก่อน ก็ได้รู้จักกันทั้งโลกในแมตช์นี้เลย และนี่คือเรื่องราวที่ Main Stand นำมาฝาก ต้อนรับการรับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของเขา
คนใกล้ตัวของ WWE
อันที่จริง ตัวของ โดนัลด์ ทรัมป์ กับ วินซ์ แม็คแมน อยู่กันคนละวงการ จนเหลือเชื่อว่าจะมาร่วมงานกันได้ คนหนึ่งคือนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจนเป็นมหาเศรษฐี อีกคนหนึ่งคือเจ้าพ่อวงการมวยปล้ำแห่ง WWE (สมัยนั้นใช้ชื่อ WWF) ที่เพิ่งประสบความสำเร็จในการผลักดันให้กีฬามวยปล้ำ เป็นโปรแกรมความบันเทิงของชาวอเมริกันในยุค 1980s
มวยปล้ำ WWE ภายใต้การนำของ วินซ์ แม็คแมน ผงาดขึ้นมาเป็นความบันเทิงชั้นนำของอเมริกาอย่างเต็มภาคภูมิ จากความสำเร็จของศึกใหญ่ WrestleMania 3 เมื่อปี 1987 ที่มีคู่เอกคือ ฮัลค์ โฮแกน และ อังเดร เดอะ ไจแอนท์ ค่ำคืนนั้นมีผู้ชมมหาศาลถึง 78,000 คน ที่ตีตั๋วมาดูติดขอบสนาม พอนเทียค ซิลเวอร์โดม เมืองพอนเทียค รัฐมิชิแกน และได้เป็นสักขีพยานในการเห็น โฮแกน จับ อังเดร ที่มีน้ำหนัก 238 กก. ทุ่มด้วยท่าสแลม คว้าชัยชนะจนเป็นตำนานตลอดกาล
WWE ประสบความสำเร็จมหาศาลหลังจบ WrestleMania ครั้งที่ 3 กระแส Hulkamania ของ ฮัลค์ โฮแกน ก็ระบือไกลไปทั่วอเมริกา (และทั่วโลก) กลายเป็นหนึ่งในป๊อปคัลเจอร์ของชาติ บริษัทห้างร้านต่าง ๆ อยากมีส่วนร่วมขอเป็นสปอนเซอร์ และหนึ่งในนั้นก็คือ โดนัลด์ ทรัมป์ นักธุรกิจชื่อดังในวัย 41 ปี ที่มองเห็นโอกาสทองที่จะทำให้ธุรกิจและชื่อเสียงของเขาโด่งดังยิ่งกว่าเดิม
นั่นเลยทำให้ศึก WrestleMania ครั้งที่ 4 ซึ่งจัดในปีต่อมา ได้โยกย้ายไปจัดที่ ทรัมป์ พลาซ่า คอนเวนชั่น ฮอลล์ ใน แอตแลนติกซิตี้ รัฐนิวเจอร์ซี่ย์ ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นเจ้าของ โดยศึกใหญ่วันนั้นมีคนมาซื้อตั๋วชมถึง 19,199 คน และมีแมตช์การปล้ำให้ดูกันแบบจุใจถึง 16 คู่ ก่อนคู่เอกจบด้วยชัยชนะของ แรนดี้ ซาเวจ ที่ปราบ เท็ด ดิเบียซี่ คว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวตไปได้
"ผมแค่อยากเป็นส่วนหนึ่งของงาน" โดนัลด์ ทรัมป์ พูดถึงการเป็นผู้สนับสนุนของ WrestleMania ปีนั้น "ทุกคนในประเทศอยากมีส่วนร่วมในอีเวนต์นี้ และพวกเราก็สามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้"
โดนัลด์ ทรัมป์ ยังมีส่วนร่วมกับ WWE อีกหลายครั้ง ทั้งให้เช่าสถานที่จัดศึกใหญ่ WrestleMania ครั้งที่ 5 เมื่อปี 1989 ซึ่งจัดที่ ทรัมป์ พลาซ่า อีกปี และแวะเวียนมาเป็นพิธีกรประจำงาน หรือแขก VIP ของ WWE ขณะที่ความสัมพันธ์กับ วินซ์ แม็คแมน ก็เป็นไปด้วยดี โดย วินซ์ แม็คแมน ยังเคยบริจาคเงินจำนวน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าองค์กรการกุศลของ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นการสนับสนุนซึ่งกันและกัน
จนกระทั่งวันหนึ่งของเดือนมกราคม 2007 โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ขยับสถานะตัวเอง จากผู้สนับสนุนและแฟนมวยปล้ำ ลงมาเล่นบทบาทบนสังเวียนกับ วินซ์ แม็คแมน เสียเอง
เปิดศึกกับ วินซ์ แม็คแมน
เดือนมกราคม 2007 ในช่วง Road to WrestleMania โดนัลด์ ทรัมป์ ปรากฏตัวใน RAW โชว์รายสัปดาห์ มาพร้อมกับการโปรยเงินดอลลาร์ของจริงลงมาจากฟากฟ้าให้แฟนมวยปล้ำเก็บใส่กระเป๋า โชว์ความร่ำรวยให้ทุกคนเห็น
โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาป่วนงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จของ วินซ์ แม็คแมน เจ้าของ WWE เขาวิพากษ์วิจารณ์ประธานมวยปล้ำจอมบ้าอำนาจอย่างเผ็ดร้อนบนเวที ก่อนปูเรื่องราวไปสู่การมีแมตช์ดวลกันของสองมหาเศรษฐีในศึก WrestleMania ครั้งที่ 23 ในปีดังกล่าว
แมตช์ที่ว่าก็คือ Battle of the Billionaires หรือชื่อไทย "ศึกมหาเศรษฐีตีกัน" ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ กับ วินซ์ แม็คแมน ที่เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนมวยปล้ำได้มาก ทว่าพวกเขาไม่ได้ขึ้นเวทีไปสู้กันเอง แต่จะใช้วิธีเลือกนักมวยปล้ำใน WWE มาเป็นตัวแทนของแต่ละฝ่ายไปสู้กันบนเวที
โดนัลด์ ทรัมป์ เลือก บ็อบบี้ แลชลีย์ นักมวยปล้ำผิวดำกล้ามใหญ่ เป็นตัวแทนของเขา ส่วนฝั่ง วินซ์ แม็คแมน ที่สวมบทประธานบ้าอำนาจ เลือก อูมาก้า นักมวยปล้ำชาวเผ่าซามัว เป็นตัวแทนเขาเอง และเพื่อเพิ่มความสนุก ทั้งคู่ก็มีการใส่เดิมพันเพิ่มเติมว่าแมตช์นี้ ใครแพ้จะต้องโดนจับกล้อนผม !
ดีกรีความสนุกของแมตช์นี้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เมื่อ สโตน โคลด์ สตีฟ ออสติน นักมวยปล้ำจอมขบถผู้เป็นขวัญใจแฟน ๆ ตลอดกาล ปรากฏตัวขอเป็นกรรมการพิเศษ ตัดสินในแมตช์นี้ด้วย
แม้จะเป็นแมตช์ที่ไม่ได้มีอะไรมากกว่าการเป็นแมตช์มวยปล้ำเพื่อความบันเทิงโดยเฉพาะ แต่ WWE ก็ผลักดันให้ศึกของสองมหาเศรษฐี โดนัลด์ ทรัมป์ กับ วินซ์ แม็คแมน เป็นอีกหนึ่งแมตช์สำคัญของ WrestleMania 23 ถึงขั้นที่ว่าได้ขึ้นโปสเตอร์โปรโมตแบบจัดเต็ม ใหญ่กว่าคู่ชิงแชมป์ WWE ระหว่าง ชอว์น ไมเคิลส์ กับ จอห์น ซีน่า และแมตช์ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวตของ บาติสต้า กับ ดิ อันเดอร์เทเกอร์ เสียอีก
เดิมพันด้วยเส้นผม
ก่อนแมตช์จะเริ่มขึ้น WWE เผยแพร่คลิปวีดีโอโปรโมตศึก "เศรษฐีตีกัน" โดยไปถามดารา นักแสดง และบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการต่าง ๆ ว่าอยากเห็นใครโดนโกนผมมากที่สุดระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ กับ วินซ์ แม็คแมน ซึ่งปรากฏว่าบรรดาเซเลบฯ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากเห็น โดนัลด์ ทรัมป์ หัวล้านมากที่สุด ไม่ว่าจะเพราะอยากดูอะไรฮา ๆ หรือหมั่นไส้ความอวดรวยของ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นทุนเดิม
ตัดภาพมาแมตช์จริง WrestleMania ครั้งที่ 23 วันที่ 1 เมษายน 2007 ที่ ฟอร์ด ฟิลด์ เมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน วินซ์ แม็คแมน พร้อม อูมาก้า และ โดนัลด์ ทรัมป์ กับ บ็อบบี้ แลชลีย์ รวมถึง สโตน โคลด์ สตีฟ ออสติน ปรากฏตัวออกมาตามสไตล์ของตัวเอง พร้อมเก้าอี้บาร์เบอร์ กรรไกร และปัตตาเลี่ยนที่เตรียมไว้สำหรับผู้พ่ายแพ้โดยเฉพาะ ซึ่งแมตช์ก็ถูกนำเสนอออกมาในสไตล์เอนเตอร์เทนคนดูเต็มที่
แมตช์นี้มีช็อตน่าจดจำมากมายตามสไตล์วินซ์ ๆ เช่นให้ลูกชาย เชน แม็คแมน มาเป็นกรรมการพิเศษช่วยพ่อโกง แต่ก็โดน สโตน โคลด์ กระทืบไป หรือช็อตที่ โดนัลด์ ทรัมป์ โมโหที่โดนโกงหนัก เลยวิ่งไปคร่อมต่อย วินซ์ แม็คแมน ข้างล่างเวที เรียกเสียงฮือฮาจากคนดูได้มาก ก่อนที่แมตช์จบลงด้วย บ็อบบี้ แลชลีย์ สเปียร์ใส่ อูมาก้า แล้วกดนับสามชนะไป
สุดท้ายก็เป็น วินซ์ แม็คแมน ที่โดนจับโกนหัวต่อหน้าประชาชีกว่า 74,287 คนที่เข้ามาดูสดติดขอบสนาม ฟอร์ด ฟิลด์ และปิดท้ายที่ สโตน โคลด์ แจกท่าสตั๊นเนอร์ใส่ทั้ง วินซ์ แม็คแมน และ โดนัลด์ ทรัมป์ กันไปคนละทีเป็นการปิดฉาก
อย่างไรก็ตาม มีการเปิดเผยจาก Wall Street Journal เกี่ยวกับแมตช์นี้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขอให้ วินซ์ แม็คแมน เซ็นสัญญาว่าจะไม่แตะต้องเส้นผมของเขา หรือจับเขาโกนหัวอย่างเด็ดขาดไม่ว่าผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร ต่อให้แพ้ก็ไม่ต้องโกนหัว และนอกจากนี้ วินซ์ ต้องบริจาคเงิน 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าองค์กรการกุศลของ ทรัมป์ ด้วย ซึ่งทาง WWE ก็ยินยอม และ วินซ์ เองก็ไม่ติดอะไรที่เขาจะต้องโดนโกนหัว เขายินดีรับบทตัวตลกให้แฟนมวยปล้ำหัวเราะอยู่แล้ว เรียกว่าเล่นไปตามบทบาทของตัวเอง
ต่อยอดสู่โลกการเมือง
หลังจากแมตช์สุดเฮฮาใน WrestleMania 23 โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ยังมีโอกาสมาปรากฏตัวใน WWE ตามวาระต่าง ๆ ก่อนถูกบรรจุชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศ Hall of Fame ของ WWE ในปี 2013 และที่หลังฉากเอง เขาก็ยังคงมีความสัมพันธ์อันดีกับ วินซ์ แม็คแมน เช่นเคย ไม่ว่าแง่ธุรกิจหรือการเมือง ที่ฝ่ายหลังออกตัวสนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์ แบบชัดเจน
แน่นอนว่าตามสไตล์นักธุรกิจ หากทำอะไรแล้วไม่ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าก็คงไม่ทำ โดนัลด์ ทรัมป์ ก็เช่นกัน ซึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขายอมเข้ามามีบทบาทหน้าฉากใน WWE ก็เพื่อสร้างความนิยมให้แก่ตัวเอง และต่อยอดไปสู่แวดวงการเมือง ซึ่งเขาเป็นสมาชิกของพรรครีพับลิกัน มาตั้งแต่ปี 1987 โดยมีแผนที่จะชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีในอนาคต
โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ชื่อเสียงไปอักโขใน WrestleMania 23 ขณะเดียวกัน WWE ก็ยังมีบุคลากรที่เป็นหัวคะแนนชั้นดีให้กับเขา ทั้งตัว วินซ์ แม็คแมน, ลินดา แม็คแมน ภรรยาที่ลงเล่นการเมืองในฐานะสมาชิกพรรครีพับลิกันเช่นกัน รุ่นใหญ่อย่าง ฮัลค์ โฮแกน ขวัญใจแฟนมวยปล้ำตลอดกาล บวกกับนโยบายเพื่อชาวอเมริกันโดยเฉพาะม็อตโต้ทรงพลัง "Make America Great Again" ที่ใช้เป็นแคมเปญหาเสียงเมื่อปี 2016 ก็ทำให้เขาได้คะแนนเสียงจากแฟนมวยปล้ำหัวใจรักชาติ มาเป็นกำลังสนับสนุนได้มากทีเดียว
ทรัมป์ รู้ดีว่าแฟนมวยปล้ำ WWE ที่เป็นผู้ชาย คือคะแนนเสียงสำคัญของเขา ดังนั้นการลงมาเรียกความนิยมใน WWE จึงได้ผลชะงัดนัก เพราะในที่สุดเขาก็ได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา สมัยแรกในชีวิต เมื่อปี 2017-2021 ครั้นเมื่อหมดวาระและมีแผนจะคัมแบ็กชิงตำแหน่งผู้นำแห่งอเมริกาอีกครั้ง เขาก็ยังคงใช้วิธีเดิม นั่นคือใช้นักมวยปล้ำของ WWE มาเป็นหัวคะแนนให้แก่ตัวเอง
นั่นเลยทำให้เส้นทางก่อนเลือกตั้งอเมริกา 2024 โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ชวนอดีตนักมวยปล้ำของ WWE มาเรียกคะแนนทั้ง ฮัลค์ โฮแกน ชายผู้มีจิตวิญญาณอเมริกันชนอย่างเต็มเปี่ยม เช่นเดียวกับ เคน และ ดิ อันเดอร์เทเกอร์ สองตำนานแห่งยุค Attitude Era โดยเฉพาะ ดิ อันเดอร์เทเกอร์ ที่ชวน โดนัลด์ ทรัมป์ มาเปิดใจและเรียกคะแนนเสียงผ่านพอดแคสต์ของเขา Six Feet Under ในช่วงโค้งสุดท้าย
แล้วท้ายที่สุดเมื่อการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา 2024 ปิดฉากลง ชัยชนะก็ตกเป็นของ โดนัลด์ ทรัมป์ อีกครั้ง ด้วยคะแนนโหวตจากชาวอเมริกันทั่วประเทศเหนือกว่า กมลา แฮร์ริส ผู้ท้าชิงหญิงจากฝั่งเดโมแครต และได้กลับมาครองตำแหน่งประธานาธิบดี วาระที่สอง
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าการลงมาเล่นในสนามของมวยปล้ำ WWE ให้ผลที่คุ้มค่าอย่างมากสำหรับ โดนัลด์ ทรัมป์ เพราะในที่สุดเขาก็เอามันมาต่อยอดไปสู่ความสำเร็จในสนามการเมือง ขณะที่ฝั่ง WWE ของ วินซ์ แม็คแมน ก็ยังคงดำเนินธุรกิจมวยปล้ำสไตล์ สปอร์ต เอนเตอร์เทน ชั้นนำของโลกมาได้จนถึงปัจจุบัน
ต่างฝ่ายต่างส่งเสริมซึ่งกันและกัน เหมือนที่ ไรอัน ดิลเบิร์ต คอลัมนิสต์ของ Bleacher Report นิยามความสัมพันธ์ของ ทรัมป์ กับ WWE ว่า ...
"เรื่องราวของ WWE จะไม่มีวันสมบูรณ์แบบเลยถ้าไม่มี ทรัมป์ และเช่นเดียวกัน เรื่องราวของ ทรัมป์ ก็จะไม่สมบูรณ์แบบเช่นกันถ้าหากไม่มี WWE"
แหล่งอ้างอิง
https://www.si.com/extra-mustard/2017/03/30/donald-trump-vince-mcmahon-wrestlemania-hair-match
https://www.bloodyslam.com/news/how-vince-mcmahon-and-donald-trump-helped-wrestlemania-23-become-most-bought-wwe-ppv-in-history/?
https://bleacherreport.com/articles/2669447-donald-trump-a-history-of-the-presidential-candidates-involvement-with-wwe
https://www.bbc.com/news/articles/c62g26ln11no