Feature

ไขรหัส คาเซมิโร่ : เด่นมาพร้อมกัน ทำไมไม่เทพตอนแก่เหมือน โครส - โมดริช ? | Main Stand

ลูก้า โมดริช ยังพีกแม้อายุใกล้แตะหลัก 4, โทนี่ โครส เข้าชิงบัลลงดอร์ในวัย 34 ปี เก่งกาจจน คาร์โล อันเชล็อตติ ไม่อยากให้แขวนสตั๊ด ... ทว่าอีก 1 ในตำนานทริโอมิดฟิลด์ของ เรอัล มาดริด อย่าง คาเซมิโร่ ทำไมถึงเจอเรื่องยากลำบากมากมายนัก แม้เขาจะอายุแค่ 32 ปี เท่านั้น ? 

 


ถ้าเทียบกับคนอื่น เขาอายุน้อยกว่า และยิ่งเทียบกับนักเตะปัจจุบันหลายคน ในวัย 32 ปี ยังเล่นระดับสูงได้อย่างเหนือชั้น ทว่าทำไมหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในโลกอย่าง คาเซมิโร่ จึงเจอเรื่องยากลำบากกว่าเพื่อน ? 

ร่วมหาคำตอบและติดตามไปพร้อมกันที่ Main Stand 

 

จากตำนาน ทริโอ 

กลุ่มตำนานทริโออย่าง โมดริช, โครส และ คาเซมิโร่ ถือเป็น 3 มิดฟิลด์ที่เก่งกาจระดับขึ้นหิ้ง มีความสำเร็จการันตีมากมาย เรียกได้ว่ากินกันไม่ลงกับทริโอยุค บาร์เซโลน่า ครองโลกอย่าง เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ชาบี เอร์นานเดซ และ อันเดรส อิเนียสต้า 

ความยอดเยี่ยมของทริโอทั้ง 2 ชุดนี้ คือการแบ่งหน้าที่และสอดประสานกันอย่างลงตัว ซึ่งเมื่อเราจะพูดถึงเรื่องของ คาเซมิโร ก็ต้องยกเรื่องที่ เรอัล มาดริด มาเป็นตัวอย่างและอธิบายให้เห็นภาพ 

คาเซมิโร่ ตัดและชะลอเกม, โครส ควบคุมจังหวะให้เป็นอย่างใจ ขณะที่ โมดริช เด็ดดวงทะลวงแนวรับคู่แข่งได้ทั้งบอลสั้นและบอลยาว พวกเขาทั้ง 3 คนได้รับฉายาว่า "สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า" จาก คาร์โล อันเชล็อตติ

"ผมเรียกพวกเขาว่า สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ด้วยเหตุผลเดียว เมื่อคุณหลงเข้ามาอยู่ท่ามกลางพวกเขา คุณไม่มีทางหาฟุตบอลเจอ ลูกฟุตบอลจะเหมือนถูกหลุมดำดูดกลืนหายไป" นี่คือความกลมกล่อมที่ อันเช่ ขยายความ 

แม้จะมีความถนัดที่แตกต่างแต่อยู่ด้วยกันอย่างลงตัว ยังมีรายละเอียดอีกหลายสิ่งที่ อันเชล็อตติ อธิบายถึง 3 มิดฟิลด์ของเขาว่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้ เรอัล มาดริด ในยุคที่มี 3 คนนี้ยืนเป็นกองกลางยิ่งใหญ่ที่สุด คือคุณสมบัติที่ตรงกัน โดยเขาเรียกว่า "คุณสมบัติของยอดกองกลาง" ไม่ว่าจะรุกหรือรับ คุณต้องมีสิ่งนี้ให้พร้อม 

1. ความเข้าในเชิงแท็คติก เข้าใจบทบาทของตัวเองและทำหน้าที่ในการแข่งขันจริงตามที่ซักซ้อมมาอย่างแม่นยำ นั่นรวมถึงการอ่านเกม การคาดเดาความเคลื่อนไหวของคู่แข่ง และการตัดสินใจที่รวดเร็วจากไหวพริบที่เฉียบแหลม

2. ความเป็นผู้นำและประสบการณ์ ทั้ง 3 คนไม่ใช่แค่เล่นร่วมกันมานาน แต่ผ่านคู่แข่งเก่ง ๆ มาแล้วทุกแบบทุกสไตล์ ความนิ่งของพวกเขา และการปรับแก้กลยุทธ์แบบด้นสดในสถานการณ์จริง โดยเอาประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคนมาใช้ได้เลย และทำให้ทีมได้ผลประโยชยน์เชิงบวกโดยไม่ต้องรอให้โค้ชเป็นคนสั่ง 

3. เชี่ยวชาญในจังหวะชี้เป็นชี้ตาย ทั้ง 3 คนมีคุณสมบัติพิเศษ คือมักจะเป็นคนที่อยู่ในสถานการณ์ที่บีบคั้น สถานการณ์ที่กองหลังเข้าตาจนในการป้องกันประตู หรือสถานการณ์ที่กองหน้าเร่งไม่ขึ้นยิงไม่ได้ ทั้ง 3 คนนี้ก็จะเป็นคนที่อยู่ ณ ตรงนั้นแบบผลัดกันขึ้นผลัดกันลง โมดริช ไปสกัดบอลจากบนเส้นปากประตู โครส เปลี่ยนมาเป็นคนตัดเกมจังหวะสุดท้ายก่อนจะหลุดเดี่ยว หรือ คาเซมิโร่ เติมขึ้นมายิงประตู ... ภาพทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาอยู่ด้วย 

เพียงแต่ว่าในวันที่แยกตัวกันตามวัฏจักรของฟุตบอล กลับกลายเป็น คาเซมิโร่ ที่ดูจะเจอกับ "ขาลง" เร็วกว่าใครเพื่อน และในบางครั้งบางเกมในวัย 32 ปี เขาแทบไม่เหลือลายของยอดกองกลางตัวรับผู้ไร้เทียมทานในอดีตเลย เหตุผลเพราะอะไร ? 

 

ใช้ร่างกายมากกว่าใคร 

อ่านแค่หัวเรื่องอย่าเพิ่งคิดว่า โมดริช และ โครส ไม่ใช้ร่างกายในการเล่น พวกเขาเป็นนักเตะที่วิ่งต่อเกมเยอะมาตลอด แต่ที่แตกต่างกว่า คาเซมิโร่ คือ คาเซมิโร่ มีหน้าที่เหมือนกับคนที่คอยทำงานสกปรก เข้าปะทะ กระแทกกระทั้น ชนกันแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ตัวต่อตัว มากกว่า โมดริช และ โครส ที่มีหน้าที่แตกต่างกันออกไป 

เดิมที คาเซมิโร่ ก็ไม่ใช่คนที่เก่งเรื่องปะทะมากนักในตอนแรก เขามาสมบูรณ์แบบและเป็นคนที่ปัดกวาดหน้ากองหลังได้ดี ก็ตอนที่เขาเริ่มได้รับการฝึกสอนโดย ซีเนดีน ซีดาน คนที่โอกาสเขาเป็นตัวจริงใน มาดริด 

ซีดาน เป็นคนบอกเขาเองในปี 2016 ว่าให้ คาเซมิโร่ พยายามคิดที่จะครองบอลและผ่านบอล รวมไปถึงการวิ่งสอดเข้าไปเพื่อช่วยเป็นตัวเลือกให้เพื่อนร่วมทีม แต่จริง ๆ แล้วหน้าที่หลักของเขาคือต้องใช้ความเร็ว ความแข็งแรง และพละกำลังแย่งบอลกลับมาให้ทีมต่างหาก 

"ตอนที่ ซีดาน มาคุมทีม 5 เกมแรกผมไม่ได้ลงเล่นเลย เพราะเขาใช้เวลาทั้งหมดนั้นสอนผม ... เขาพยายามบอกผมว่าผมต้องเล่นตรงไหนและเล่นอย่างไร เขาสอนจนกว่าจะมั่นใจว่าผมจะพร้อม 100% จริง ๆ และมันก็เป็นแบบนั้น ผมรอจนได้ออกสตาร์ทแล้วผมก็ไม่เคยถอยหลังอีกเลย"

"พละกำลังและความดุดันคือสิ่งที่ถูกเติมเข้ามา ความดุดันของนักเตะแบบผมคือการพยายามเข้าแย่งบอลทุกจังหวะ ทุกโอกาส ผมไม่สนหรอกว่าจะเป็นนาทีสุดท้ายของเกมหรือเปล่า" คาเซมิโร่ กล่าวถึง ซีดาน ในครั้งหนึ่ง

อย่างที่ได้กล่าวเอาไว้ในข้างต้น คาเซมิโร่ เป็นคนบู๊เอาบอลกลับมาให้กับทีม โครส เป็นคนควบคุมจังหวะ ขณะที่ โมดริช เป็นคนคอยขยับขับเคลื่อนให้เกมลื่นไหล ... แค่หน้าที่ข้างต้น หลับตาแล้วนึกภาพคุณก็พอจะนึกภาพออกว่าใครใช้ร่างกายเยอะที่สุด ? 

หลังจากย้ายจาก เรอัล มาดริด มาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด หลายสิ่งหลายอย่างก็เปลี่ยนไป คาเซมิโร่ ย้ายออกมาตอนอายุ 29 ปี ถือเป็นช่วงกำลังพีก แถมเขาก็ไม่ได้เป็นคนที่มีแค่กำลัง เขาดูแลตัวเองเป็นอย่างดี หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า คาเซมิโร่ เป็นนักเตะที่ลงทุนจ่ายเงินซื้อข้อมูลการแข่งขันของลีกที่เขาลงเล่น เพื่อวิเคราะห์คู่ต่อสู้ของตัวเอง เขาพยายามถนอมร่างกายอย่างที่สุดแล้วโดยใช้เทคโนโลยี รวมถึงวิทยาศาสตร์มาช่วย แต่โลกของนักเตะสายเกมรับจ๋า ๆ ที่ต้องวิ่งขึ้นวิ่งลง แย่งบอลทุกจังหวะ และต้องใช้พละกำลังในการสปีด น้อยคนมากที่จะรักษาคุณภาพการเล่นระยะยาวได้ 

รอย คีน หมดตั้งแต่อายุ 32 ปี, โคล้ด มาเกเลเล่ ก็หมดในช่วงรุ่นราวคราวเดียวกัน, เจนนาโร่ กัตตูโซ่ จืดจางลงตามอายุและมีช่วงพีกที่ไม่ยาวนัก ... เยอะแยะมากมายที่เป็นตัวอย่างของการใช้ร่างกายของมิดฟิลด์เบอร์ 6 "ยุคเก่า" ที่เป็นพวกฮาร์ดแมนได้เป็นอย่างดี  

และนั่นคือเหตุผลว่า มิดฟิลด์หมายเลข 6 ยุคใหม่ จะมีความเป็นฮาร์ดแมนน้อยลง เน้นเรื่องการชิงจังหวะ การคุมจังหวะ และความแม่นยำในการตัดและเชื่อมบอลมากขึ้น อาทิ โรดรี้ หรือ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ เป็นต้น 

สำหรับ คาเซมิโร่ นั้นฟอร์มตกลงอย่างชัดเจนตั้งแต่ช่วงปลายฤดูกาล 2022-23 ที่เริ่มมีอาการบาดเจ็บบ่อย และช้าลงในจังหวะแย่งบอลและออกบอลหลาย ๆ จังหวะ ซึ่งเทียบอายุของเขาในเวลานั้นก็ราว ๆ 30 ปีพอดิบพอดี ... และหลังจากนั้นก็สามารถใช้คำได้ว่า "ขาลง" อย่างเต็มรูปแบบ 

ตลอดการค้าแข้งกับ แมนฯ ยูไนเต็ด คาเซมิโร่ มีอาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ ตลอด เขาพลาดเกมไปถึง 21 เกม คิดรวมเป็นเวลาบาดเจ็บที่หายไปจากสนามคือ 93 วัน ... เท่านั้นยังไม่พอ คาเซมิโร่ ยังเป็นเบอร์ 6 ธรรมชาติคนเดียวในทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วง 3 ปีหลังสุด นั่นหมายความว่าทีมต้องการเขาเสมอ ขาดเขาไม่ได้ และนั่นหมายถึงการเข็นเขาลงโดยที่ไม่ได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ ซึ่งแน่นอนว่ามันส่งผลกับนักเตะอายุเยอะฟื้นตัวช้าแน่ ๆ 

และถ้าคุณหันกลับไปมอง โมดริช และ โครส ในช่วง 2-3 ปีหลังสุด (ช่วงที่ คาเซมิโร่ เริ่มขาลง) พวกเขาได้รับการดูแลเรื่องร่างกายที่แตกต่างกัน โมดริช และ โครส มีตัวแทนที่คอยสอดแทรกตลอด บางเกมที่ไม่จำเป็นต้องเล่น พวกเขาก็ไม่ต้องเล่น เพราะมีคนหนุ่มอย่าง เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, ออเรเลียง ชูอาเมนี่, เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า และ บราฮิม ดิอาซ พร้อมลงทดแทนตลอด 

เช่นเดียวกัน โมดริช และ โครส ในช่วงปีที่ผ่านมา มีน้อยครั้งมากที่พวกเขาจะลงคู่กัน เพราะอายุที่มากขึ้นของพวกเขาจะทำให้เกมแดนกลางขาดความดุดันถ้าลงพร้อมกัน ซึ่งคนหนุ่มตามรายชื่อที่กล่าวมาเติมเต็มเรื่องพละกำลังและความแข็งแรงได้เป็นอย่างดี ... ตัดภาพกลับมาที่ คาเซมิโร่ เขาเป็นเบอร์ 6 ที่โดดเดี่ยว ในทีมที่ทุกคนชอบเล่นเกมรุก พร้อมทิ้งปัญหาเกมรับให้ต้องจัดการมากมาย ด้วยวัยอย่างเขา เขาไม่สามารถจะทำได้ทุกอย่าง ตราบใดที่แท็คติกที่วางไว้ ไม่ได้ทำให้ภาระของเขาเบาบางลง 

 

โดดเดี่ยวไปใครจะช่วยเขาได้ ?

แท็คติกของ เอริค เทน ฮาก แม้จะยากที่จะหาภาพจำหรือลายเซ็นชัด ๆ ว่าเป็นฟุตบอลสไตล์ไหน แต่ถ้าหลับตาแล้วนึกภาพเอาแบบที่เห็นภาพ และมีกลิ่นชัดที่สุดคือ เทน ฮาก ชอบให้ทีมเล่นเกมรุก ใช้จำนวนผู้เล่นขึ้นไปกดคู่แข่งในแดนตรงข้ามบ่อย ๆ หรือที่เรียกตามศัพท์เทคนิคว่า "โอเวอร์โหลด" 

ซึ่งภาพที่เราเห็นเป็นประจำคือเมื่อพวกเขาเสียบอล นักเตะเกมรับจะต้องเจองานหนักมาก เจอสถานการณ์ที่ตัวรุกฝั่งตรงข้ามมาด้วยจำนวนมากกว่าพวกเขาอยู่บ่อย ๆ ... แล้ว คาเซมิโร่ จะช่วยอะไรได้ในสถานการณ์แบบนั้น ... ต่อให้เป็นเขาในวัย 25-26 ปี ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะเอายู่

มีคอมเมนต์จาก ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่น่าสนใจมาก ๆ คือ เมื่อถูกจับแยกออกจาก โมดริช และ โครส ทำให้ คาเซมิโร่ อ่อนแอลงในแง่กลยุทธ์ เขาอายุมากขึ้น แต่กลับได้รับหน้าที่ที่มอบหมายมากขึ้นกว่าตอนที่ตัวเองยังพีก ๆ 

ขณะเดียวกัน โมดริช และ โครส ได้งานที่เหมาะสมกับช่วงวัย ใช้สมอง ใช้ไหวพริบ ใช้ประสบการณ์ ส่วนเรื่องร่างกายเป็นหน้าที่ของนักเตะหนุ่ม ... ว่าง่าย ๆ ก็คือปัญหาเชิงโครงสร้าง และการจัดการขุมกำลังนักเตะที่ ยูไนเต็ด มีนั้นล้มเหลว แตกต่างจากมาดริดที่มีการผลัดใบอย่างเหมาะสม ซึ่งเมื่อคุณมีส่วนผสมที่ลงตัวของพละกำลัง ไหวพริบ และประสบการณ์ คุณจะได้ทีมที่มีทุกอย่างที่คุณร้องขอ พร้อมที่จะเล่นแบบรวดเร็วทรงพลังในเกมที่เจอกับทีมที่อ่อนกว่า บดขยี้กันให้ตายไปข้าง

และในขณะเดียวกัน เมื่อเจอกับทีมที่จัดจ้านกว่า เรอัล มาดริด ก็ยังมีวิธีเล่นที่รัดกุม เหนียวแน่น เพื่อใช้เกมสวนกลับเป็นหมัดเด็ดจากการจ่ายบอลไม่กี่ครั้งของนักเตะอย่าง โครส และ โมดริช ... ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ขาดความยืดหยุ่นแบบนี้โดยสิ้นเชิง พวกเขาร้องเรียกหา คาเซมิโร่ เสมอ แม้รู้ทั้งรู้ว่านักเตะคนนี้ถดถอยลงไปมากแล้วก็ตาม

"มันง่ายที่จะพูดว่าเขาควรพอหรือเขาหมดแล้ว เขาอายุ 32 ปีใช่มั้ย ? แต่เมื่อผมดูเขา ผมรู้สึกว่าเขาถูกขอให้ทำหลายสิ่งอย่างมาก เช่นการจ่ายบอล 30 หลา และกำหนดจังหวะของเกม" ริโอ กล่าว

"เขาไม่เคยถูกขอให้ทำแบบนี้ที่ เรอัล มาดริด เขาจะทำพลาดเพราะมันไม่ใช่ธรรมชาติเกมของเขา"

"ทางเดียวที่ คาเซมิโร่ จะประสบความสำเร็จที่ แมนฯ ยูไนเต็ด คือต้องมีโครงสร้างทีมที่สนับสนุนนักเตะแบบที่เขาเป็น"

"คุณซื้อนักเตะเพื่อให้เข้ากับระบบที่คุณเล่น แต่ คาเซมิโร่ ถูกจับมาอยู่ในทีมที่เล่นในแบบที่เขาไม่เคยเล่นมาก่อน"

นี่คือการสรุปที่ไม่ต้องขยายความเพิ่มและทำให้ทุกคนเห็นภาพในทันที ... คาเซมิโร่ กำลังเจอกับความโกลาหลที่ไม่สัมพันธ์กับความฟิตและสภาพร่างกายของเขา นั่นยิ่งทำให้ภาพจำของเขาแย่ลงไป แตกต่างจาก โมดริช และ โครส เพื่อนร่วมงานที่เดินสู่บั้นปลายอาชีพอย่างสง่าสมราศี  

ส่วนเรื่องนี้จะแก้ไขได้หรือไม่ ? คาเซมิโร่ จะอยู่ถึงวันที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มีทีมที่ดีสุดสำหรับนักเตะในวัยอย่างเขาหรือไม่ ? เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ และจากข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ ดูเหมือนว่าเวลาของเขาที่จะกอบกู้ชื่อเสียงในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เหลือน้อยลงไปทุกทีแล้ว 

 

แหล่งอ้างอิง

https://m.allfootballapp.com/news/EPL/Real-Madrid-superstar-Modric-reveals-%E2%80%98secret%E2%80%99-behind-getting-better-with-age/2904361
https://m.allfootballapp.com/news/Headline/Real-Madrids-Bermuda-Triangle-is-still-challenging-opponents-and-the-next-generation/2874726
https://www.foxsports.com/stories/soccer/cristiano-ronaldo-luka-modric-showing-age-boundary-euro-2024
https://m.allfootballapp.com/news/EPL/Real-Madrid-superstar-Modric-reveals-%E2%80%98secret%E2%80%99-behind-getting-better-with-age/2904361
https://www.independent.co.uk/sport/football/luka-modric-croatia-spain-euro-2024-b2563336.html
https://www.reddit.com/r/soccer/comments/xv5nu4/as_shakhtars_coach_jovicevic_what_modric_is_doing/
https://www.unitedinfocus.com/opinion/casemiro-decline-in-2023-24-why-midfielder-struggled-and-what-next-at-manchester-united/
https://medium.com/@ramanhan.cp190105/kroos-casemiro-and-modric-9f69c3f1b875

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ