“การเป็นแชมป์ว่ายากแล้ว แต่การรักษาแชมป์นั้นยากยิ่งกว่า” วลีที่อยู่เคียงคู่วงการกีฬามายาวนาน ซึ่งบ่งบอกถึงความยากลำบากที่เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณเมื่อคุณนั่งอยู่บนจุดสูงสุด
หนึ่งในคนที่กำลังเผชิญสภาวะนี้อยู่คงหนีไม่พ้น “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดหญิงประวัติศาสตร์ ที่เตรียมลงป้องกันเหรียญทองในศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ณ กรุงปารีส
จอมเตะสาววัย 26 ปี ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าโอลิมปิกครั้งนี้จะเป็นโอลิมปิกครั้งสุดท้ายของเธอ พร้อมหมายมั่นปั้นมือที่จะคว้าเหรียญทองเหรียญที่ 2 มาครอบครอง
ทว่าเสันทางที่ต้องเดินนั้นไม่ง่าย เมื่อเธอตัองเผชิญปัจจัยต่าง ๆ ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของตัวเอง ไปจนถึงคู่แข่งระดับท็อปที่หมายมั่นปั่นมือจะโค่นบัลลังก์ … ปัจจัยเหล่านี้เป็นอย่างไรและจะส่งผลมากน้อยแค่ไหน ติดตามได้ที่ Main Stand
ความคาดหวังที่ถาโถม
หากถามแฟนกีฬาทุกคนว่านักกีฬาไทยคนไหนมีโอกาสคว้าเหรียญทองมากที่สุดในโอลิมปิกครั้งนี้ เชื่อว่าแทบร้อยเปอร์เซ็นต์จะพูดเป็นเสียงเดียวกันคือ “เทนนิส-พาณิภัค”
เธอเป็นแชมป์เก่า … เธอเป็นมือ 1 ของโลก … และด้วยผลงานอีกมากมายที่โชว์ให้เห็นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้เธอกลายเป็นความหวังของคนทั้งประเทศ เวลาเดินทางไปไหนก็จะมีแต่คนร่วมยินดีร่วมอวยพรให้ประสบความสำเร็จ หรือยามที่ลงแข่งคราใดก็มักจะถูกทุกสายตาจับจ้องเป็นพิเศษ
ความคาดหวังจากคนรอบข้างที่ถาโถมเข้ามา ในมุมหนึ่งคือสิ่งดีที่ช่วยสร้างกำลังใจและแรงผลักดันให้กับนักกีฬา ทว่าในอีกมุมหากมีมากเกินไปอาจจะแปรเปลี่ยนเป็นแรงกดดันแทนได้เช่นกัน
เทนนิสรับรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี เธอจึงตั้งสมาธิและโฟกัสไปที่การฝึกซ้อมเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนทัวร์นาเมนท์ ที่เธอแทบจะไม่ออกงานหรือให้สัมภาษณ์ช่องทางไหนเลย
การเข้าพบนายกรัฐมนตรีในงานเปิดทำเนียบให้โอวาทก่อนเดินทาง การพบสปอนเซอร์ผู้สนับสนุน หรือแม้แต่การสัมภาษณ์ให้ข่าวกับสื่อมวลชน เธอปฏิเสธหมด เพื่อมุ่งสมาธิกับการซ้อมอย่างเต็มที่
แน่นอนว่าทุกคนเข้าใจและรู้สึกได้ถึงความตั้งใจของเธอเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับทางสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ที่ประคบประหงมให้เธอได้มีสมาธิเต็มที่ ถึงขนาดที่ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมฯ ออกโรงปกป้องด้วยตัวเอง
“นักกีฬามีบางคนที่เครียดบ้างเพราะเป็นแมตช์ใหญ่ คราวก่อนเราได้เหรียญทองมาจึงเป็นธรรมดาที่จะรู้สึกกดดัน แต่อยากจะบอกกับนักกีฬารวมถึงแฟนกีฬา ให้โยนความกดดันและความเครียดมาที่ผมคนเดียวได้เลย ขอรับไว้คนเดียว เพื่อเวลานักกีฬาลงแข่งจะได้ไม่เครียด” ผศ.พิมล ระบุ
ขณะที่ตัวเทนนิสเองก็มุ่งมั่นกับการฝึกซ้อมได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลว่าใครจะพูดถึงเธอหรือตั้งความหวังกับเธอยังไง พร้อมหาวิธีผ่อนคลายอารมณ์ในรูปแบบของตัวเอง ซึ่งแฟน ๆ จะเห็นได้จากคลิปสนุกสนานเรียกรอยยิ้มในช่อง TikTok ของเธอ
ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมมากที่สุดสำหรับการต่อสู่ครั้งสำคัญที่กำลังจะมาเยือน เพราะไม่เพียงแค่จัดการกับตัวเองให้ดีที่สุด แต่ยังมีคู่แข่งอีกมากมายที่หวังจะขย้ำล้มเธอจากบัลลังก์
คู่แข่งจ้องจะเล่นคุณ
“มันยากที่จะเป็นแชมป์ แต่มันยากกว่าที่จะรักษาแชมป์ไว้ให้ได้ เพราะคุณคือเป้าหมาย ทุกคนก็มองมาที่คุณ และพวกเขาอยากได้สิ่งที่คุณมี” จอร์จ เซนต์-ปิแอร์ แชมป์โลก MMA 13 สมัย เคยให้สัมภาษณ์ไว้ในช่วงรุ่งโรจน์
ปัจจัยสำคัญก็คือ เมื่อคุณขึ้นมายืนอยู่บนจุดสูงสุดจะทำให้คู่ต่อสู้สามารถศึกษาคุณได้อย่างละเอียดมากขึ้นในหลายแง่มุม ทั้งจากคลิปการแข่งขัน คลิปการฝึกซ้อม ไปจนถึงสถานที่เก็บตัวและอุปนิสัยใจคอ เพื่อนำไปวางแผนหาจุดแข็งจุดอ่อน ซึ่งฝั่งที่เป็นแชมป์อาจมีข้อมูลของผู้ท้าชิงที่น้อยกว่า
สิ่งเหล่านี้คือข้อเท็จจริง และเกิดขึ้นกับตัวเทนนิสด้วยเช่นกัน … นับจากคว้าเหรียญทองโอลิมปิกและกวาดมาแล้วทุกแชมป์ที่ลงแข่ง เทนนิสได้สถาปนาขึ้นเป็นจอมเตะมือ 1 ของโลกในรุ่น 49 กิโลกรัมอย่างแท้จริง
ตัวเธอจึงกลายเป็นเป้าหมายที่นักกีฬาทุกชาติอยากเอาชนะ ก่อนที่สุดท้ายจะเกิดขึ้นจริง เมื่อเธอต้องพ่ายแพ้ให้กับ ดาเนียลา ซูซ่า เปาโล จอมเตะเจ้าถิ่น 1-2 ยก ในรอบรองชนะเลิศ ศึกชิงแชมป์โลก 2022 ที่เม็กซิโก
นอกจากจะไม่สามารถป้องกันแชมป์โลกไว้ได้แล้วยังถูกหยุดสถิติไร้พ่ายในรุ่น 49 กิโลกรัมไว้ที่ 3 ปี 11 เดือน 24 วันด้วยเช่นกัน
ก่อนที่ปีถัดมาจะปราชัยให้กับ ดินเซล เมอร์เว จากตุรกี ในรอบชิงฯ ศึกชิงแชมป์โลก 2023 ที่อาเซอร์ไบจาน คว้าเพียงเหรียญเงิน และล่าสุดพลิกล็อกแพ้ เสี่ยว ลู่ หวัง จากจีน ในรองชิงฯ ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่เวียดนาม
สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นแล้วว่า เธอก็แพ้ได้ ! และคู่แข่งเริ่มที่จะหาวิธีการมาปราบเธอได้แล้ว
โดยใน “ปารีสเกมส์” ทั้ง ดาเนียลา ซูซ่า เปาโล และดินเซล เมอร์เว ที่เคยชนะเทนนิสมาแล้วก็พร้อมลงชิงชัย เช่นเดียวกับ อาเดรียน่า เซเรโซ่ อิเกลเซียส เหรียญเงินที่แพ้เจ้าตัวมาเฉียดฉิวครั้งที่แล้วด้วยเช่นกัน
ที่สำคัญคู่แข่งข้างต้นยังมีอายุน้อยกว่าพร้อมมีทั้งความสดและประสบการณ์ โดยจากนักกีฬาที่ผ่านเข้ามาทั้งหมด 16 คน เทนนิสนับเป็นนักกีฬาที่อยู่ในกลุ่มอายุมากสุดของรุ่นนี้คือ 26-27 ปี
ไม่นับรวมเรื่องสภาพร่างกายที่ผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชน รวมถึงยังมีอาการเจ็บข้อเท้าที่กำลังเร่งรักษาให้หายทันเวลาติดตัวอยู่ เส้นทางในโอลิมปิกครั้งนี้ซึ่งจะเป็นครั้งสุดท้ายของเธอจึงยากลำบากไม่น้อย
The Last Dance
“ร่างกายมันพังไปทั้งตัวแล้ว เอ็นไขว้หน้าขาขาด ลูกสะบ้าพังหมดแล้ว สะโพกก็หลวม สมมุติว่าถ้าหนูฉีกขาเยอะ ๆ ต้องใช้เวลาเป็น 10 นาทีกว่าจะหุบขาได้ คือมันเสียสละร่างกายอันนี้ไปหมดแล้ว และหนูคิดว่าโอลิมปิกครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่หนูจะยอมแลก"
คำพูดที่เทนนิสให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อเดือนมีนาคม ในรายการ Made My Day วันนี้ดีที่สุด ทางช่อง Thai PBS บ่งบอกถึงสภาพร่างกายที่ถูกใช้งานมาอย่างโชกโชน
เธอเล่นเทควันโดมาตั้งแต่ 9 ขวบ จวบจนวันนี้ก็ก้าวสู่ปีที่ 18 เข้าไปแล้ว และเธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าโอลิมปิกครั้งนี้ซึ่งเป็นสมัยที่ 3 จะเป็นโอลิมปิกครั้งสุดท้าย
แน่นอนว่าไม่มีใครปฏิเสธเรื่องหัวจิตหัวใจความเป็นนักสู้และประสบการณ์ที่ล้นเหลือของเจ้าตัว เธอผ่านวินาทีชี้เป็นชี้ตายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่คำถามสำคัญก็คือสภาพร่างกายตอนนี้สมบูรณ์มากน้อยขนาดไหน
โอลิมปิกครั้งนี้เทนนิสไม่ได้ลงแข่งในฐานะสาวน้อยฟอร์มแรงเหมือนในอดีตแล้ว แต่จะลงแข่งในฐานะนักกีฬาตัวเก๋ามากประสบการณ์ที่ต้องต่อสู้กับสภาพร่างกายที่โรยไปตามวัย
ทางทีมงานและสตาฟฟ์โค้ชจึงพยายามปรับแผนการซ้อมให้เหมาะสม มีสลับหนักเบาตามแต่ช่วงเวลา ซึ่งตัวเทนนิสเองก็พยายามอย่างหนักที่จะฟิตร่างกายให้พร้อมมากที่สุด
อย่างไรก็ตามไม่ว่าเส้นทางครั้งนี้จะขรุขระขนาดไหน แต่แฟนกีฬาชาวไทยทุกคนยังเอาใจช่วยพร้อมส่งใจเชียร์ให้สาวน้อยมหัศจรรย์คนนี้ประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้
ที่สำคัญหากเธอทำสำเร็จจะถูกจารึกชื่อเป็นนักกีฬาประวัติศาสตร์ที่คว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกมากที่สุดของไทยในทันที
แล้วมาร่วมลุ้นร่วมเชียร์กันว่าท้ายที่สุดแล้วการร่ายรำบนสังเวียนครั้งสุดท้ายของเธอผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งตัวเทนนิสยืนยันหนักแน่นมาเสมอ “หัวใจต้องแกร่ง โอลิมปิก ปารีส 2024 ต้องเป็นสีทองเท่านั้น”