Feature

เคารพทุกคน ไม่กลัวแพ้ และไม่กลัวใคร : ปรัชญา สกอตแลนด์ เมื่อทัวร์นาเมนต์ใหญ่มาถึง | Main Stand

สกอตแลนด์ คือชาติที่แฟนบอลอังกฤษชอบล้อว่าเป็นพวกแข่งทัวร์นาเมนต์ไหนก็กลับบ้านไวตลอด เพราะ 11 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะในยูโร หรือฟุตบอลโลกที่พวกเขาลงเล่น สกอตแลนด์ "ตกรอบแรก 100%"

 

จริง ๆ แล้วเรื่องนี้มันควรเป็นความแค้นที่รอวันจะเอาแชมป์หรือเข้ารอบลึก ๆ ตบปากกระแสวิจารณ์ แต่ในความเป็นจริง แฟนบอลสกอตแลนด์กลับไม่โกรธแค้น หรือขุ่นเคืองอะไร 

พวกเขามีแนวคิดที่ "ไม่กลัวที่จะเป็นฝ่ายแพ้ ... แต่ไม่กลัวใคร" และนี่คือเรื่องราวการประมาณตนที่คลาสสิกที่สุดเรื่องหนึ่งของทีมชาติสกอตแลนด์ ที่คุณกำลังจะเห็นฟอร์มของพวกเขาในคืนนี้ ในยูโร 2024 นัดเปิดสนามกับ เยอรมัน 

 

เขาว่ากันว่า สกอตแลนด์ เป็นลูกไล่ของอังกฤษ ?

เขาว่ากันว่า สก็อตแลนด์ เป็นลูกไล่ของอังกฤษ ? การจะบอกว่าลูกไล่ก็เกินเลยไปสักหน่อย แต่ที่แน่ ๆ เรื่องราวความบาดหมางของสก็อตแลนด์และอังกฤษนั้นใหญ่กว่าแค่เรื่องของฟุตบอล ... มันลงลึกไปถึงเรื่องราวในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว 

สกอตแลนด์ เป็นประเทศที่มีเรื่องราวบาดหมางกับอังกฤษมาเป็นพัน ๆ ปี แม้ตอนนี้พวกเขาจะอยู่ภายใต้ธงชาติเดียวกัน และกษัตริย์องค์เดียวกันมานานกว่า 300 ปี แต่ความชิงชังไม่เคยหายไป เช่นเดียวกับเรื่องฟุตบอล ... ฟุตบอลสกอตแลนด์ ไม่เคยดีเทียบเท่ากับฟุตบอลอังกฤษ และนั่นจึงเป็นประเด็นให้พวกเขาโดนคนอังกฤษล้อเลียนอยู่เสมอ  และสื่ออังกฤษแทบทุกเจ้าก็มักจะมีคอนเทนท์มาตอกย้ำเสมอในเวลาที่ สก็อตแลนด์ ต้องตกรอบแรกหรือแพ้ในศึกสำคัญ ๆ ต่าง ๆ 

สกอตแลนด์ เป็นเหมือนทีมประเภทครึ่งบกครึ่งน้ำ จะว่ามีคุณภาพก็ไม่ถึงขั้นจะใช้คำนั้น แต่จะใช้คำว่าห่วยก็ดูเกินจริงไปอีก กล่าวคือ ในช่วงปี 1974-1998 พวกได้เข้าแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาทั้งหมด 6 จาก 7 ครั้ง เรียกได้ว่าตีตั๋วมาแข่งแทบจะตลอด ผลงานดีกว่าอังกฤษเสียด้วยซ้ำ (ทีมสิงโตคำรามตกรอบคัดเลือกในช่วงเดียวกันถึง 3 ครั้ง คือ 1974, 1978, 1994) สิริรวมพวกเขาเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกถึง 8 ครั้ง

แต่เมื่อทัวร์นาเมนต์เริ่มขึ้น พวกเขาก็มีคุณภาพไม่พอ และส่งผลให้ตกรอบแรกทุกครั้ง แถมเป็นการตกรอบแบบไม่ได้ลุ้นอีกต่างหาก ส่วนฟุตบอลยูโร ก่อนหน้ายูโร 2024 พวกเขาเข้ารอบสุดท้ายมา 3 ครั้ง ในปี 1992, 1996 และ 2020 (ที่แข่งในปี 2021) แน่นอน จั่วมาแบบนี้คงเดาบทสรุปได้ไม่ยาก ... ตกรอบแรกตลอดอย่างไม่ต้องสืบ

ทุกครั้งที่ฟุตบอลล้มเหลว สื่ออังกฤษจัดเต็มใส่สกอตแลนด์ทุกครั้ง พวกเขาเหมือนเป็นที่ระบายของแฟนบอลสิงโตคำราม เพราะบางครั้งที่อังกฤษทำผลงานได้แย่แล้ว สกอตแลนด์ก็ยังทำได้แย่กว่าอยู่เสมอ

ความผิดหวังและรู้สึกด้อยค่าถือเป็นสิ่งที่อยู่ภายในใจของพวกเขา ครั้งหนึ่งมันถูกสะท้อนผ่านภาพยนตร์เรื่อง Trainspotting ในปี 1996 ว่าด้วยวัยรุ่นชาวสกอตที่ตัดพ้อกับการเกิดเป็นชาวสกอตแลนด์ว่า 

"การเป็นชาวสกอตนี่แม่งแย่ที่สุด เราอยู่ในจุดต่ำสุดของต่ำสุด เราเป็นพวกอัปยศที่สุด ทุกข์ทรมานที่สุด อดสูที่สุด น่าสมเพชที่สุด เท่าที่เคยมีมาในอารยธรรมของมนุษยชาติ" ตัวละคร มาร์ค เรนตัน ที่แสดงโดย ยวน แม็คเกรเกอร์ (แน่นอน เป็นชาวสกอต) กล่าว

หากจะบอกว่ามันก็แค่ข้อมูลอ้างอิงที่มาจากหนังเท่านั้น แล้วเรื่องจริงล่ะเป็นอย่างนั้นหรือ ?

 

ความประมาณตนในแบบสกอตติช 

แน่นอนว่าเราจะบอกว่าชาวสกอตแลนด์ ยอมรับสถานะและยอมแพ้ในการไปถึงตำแหน่งแชมป์หรือเข้ารอบลึก ๆ มันก็คงเป็นเรื่องที่เกินเลยไป และจะเป็นการเหมารวมกันไปหน่อย

อย่างไรก็ตาม ชาวสก็อตต์จำนวนไม่น้อยยอมรับในสิ่งนี้ ไม่ใช่เพราะพวกเขาเป็นพวกขี้แพ้ แต่ชาวสก็อตต์มองฟุตบอลของพวกเขาในรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากชาติอื่น ๆ และถ้าจะให้เทียบแล้วเห็นภาพชัดที่สุด ก็คือความแตกต่างกับอังกฤษ ประเทศเพื่อนบ้านของพวกเขา

ยกตัวอย่าง เช่นอังกฤษมีเพลงประจำทัวร์นาเม้นต์ในการเชียร์ทีมชาติของพวกเขาในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ คือ Three Lions (It's Coming Home) ที่ถอดความเนื้อเพลงได้ว่า "แชมป์จะกลับสู่อ้อมอกของพวกเขา"  

ขณะที่ สก็อตแลนด์ กลับมีเพลงเชียร์ที่คล้าย ๆ ในส่วนของชื่อเพลง แต่เนื้อหาใจความนั้นแตกต่างกันมหาศาล นั่นคือเพลงที่ชื่อว่า Don't Come Home Too Soobn ที่แปลเนื้อเพลงรวม ๆ ออกมาว่า "ได้โปรด อย่าเพิ่งรีบกลับบ้าน" ... ต่อให้รู้ว่าเป็นรองทีมอื่น ๆ แต่ก็ช่วยยืดเวลาอยู่ในทัวร์นาเมนต์ให้นานที่สุด แม้จะตกรอบแบ่งกลุ่ม อย่างน้อยที่สุดก็ขอให้ได้ลุ้นเข้ารอบจนถึงเกมสุดท้าย

แม้เนื้อเพลงจะชวนหดหู่อยู่บ้าง แต่เชื่อหรือไม่ว่าเพลงนี้เป็นเหมือนเพลงเชียร์ประจำของทีมชาติสก็อตแลนด์ไปแล้ว นับตั้งแต่มันถูกแต่งขึ้นในปี 1998 และใช้ครั้งแรกในฟุตบอลโลกปีเดียวกัน

โดยผู้แต่งเพลงนี้คือ จัสติน เคอร์รี่ นักร้องนำ Del Amitri วงดนตรีสัญชาติสกอตแลนด์ ซึ่ง จัสติน เคอร์รี่ อธิบายว่าทำไมเขาจึงแต่งเพลงนี้ขึ้นมา และทำไมแฟนบอลชาวสก็อตแลนด์จึงชอบเพลงนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่เนื้อหามันดูไม่ปลุกใจ ไม่ฝันไกลถึงขั้นการเป็นแชมป์ ? ซึ่งคำตอบของเขานั้นถือว่าคลาสสิกมาก ๆ ที่สุดนั่นคือ... 

"ผมไม่เคยเสียใจที่แต่งเพลงนี้ สิ่งเดียวที่น่าผิดหวังคือ เราไม่น่าทำให้มันเป็น 1 ในเพลงที่อยู่ในอัลบั้มเพลงเชียร์ฟุตบอลโลก 1998 อย่างเป็นทางการเลย มันควรจะเป็นเพลงเฉพาะของชาวสกอตมากกว่า ผมแต่งเพลงนี้ด้วยอารมณ์ที่พุ่งพล่านถึงที่สุด ผมสะท้อนตัวตนของชาวสกอตออกมา จึงได้แต่งเพลงที่ไม่ใช่เพลงสำหรับผู้ชนะ ... และหลายคนคงบอกว่ามันน่าสมเพช" เคอร์รี่ กล่าว

"แต่คุณจงเชื่อเถอะนะ ว่าผมใส่ความจริงลงไปในเพลงนี้ ความจริงก็คือ เราไม่เคยคิดว่าเราจะไปแข่งเพื่อก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์โลกเลย"

"นี่คือเพลงที่บอกถึงตัวตนของชาวสกอตแลนด์ พวกเราเป็นประเทศที่เหนียมอาย เราไม่อินกับเรื่องเพ้อฝันสุดโรแมนติกเกินจริง เราแค่อยากจะเชื่อมั่นในความยิ่งใหญ่ที่พวกเราจำกัดความมันขึ้นมาเอง ... เพลงขี้แพ้เพลงนี้มันมีความหมายอีกนัยซ่อนอยู่" เขากล่าวทิ้งท้ายด้วยการสะท้อนความจริงผ่านเรื่องราวในฐานะแฟนบอลสก็อตแลนด์คนหนึ่ง 

 

เราไม่กล้วแพ้ และเราไม่กลัวใคร 

แม้จะยอมรับกลาย ๆ ว่าจะไม่ได้เป็นแชมป์ แต่พวกเขาก็มีอีกด้านหนึ่งที่แสดงออกถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญ ภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองมีและเป็นอยู่เสมอ นั่นคือพวกเขาไม่ยอมแพ้ใครง่าย ๆ และจะสู้ด้วยทั้งหมดที่ตัวเองมี ... ว่าง่าย ๆ คือที่สุดแล้วพวกเขาจะแพ้ แต่ก็อย่าให้ใครได้มาเอาชนะพวกเขาง่าย ๆ 

สตีฟ คลาร์ก กุนซือของทีมชุด ยูโร 2024 ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมนัดเปิดสนาม ด้วยประโยคหนึ่งที่สะท้อนถึงบทความที่ได้เขียนมาใน 2 พารากราฟก่อนหน้านี้ว่า "พวกเราคือทีมชาติสกอตแลนด์, เราเคารพทุก ๆ ทีม เราไม่กล้วแพ้ และแน่นอนว่าพวกเราไม่กลัวใคร" 

คลาร์ก ได้ให้สัมภาษณ์ถึงแฟน ๆ ทัพตาร์ตัน ที่กำลังเดินทางหลั่งไหลเข้ามายังประเทศเยอรมันที่เป็นเจ้าภาพฟุตบอลยูโร 2024 หนนี้ว่า ทีมของพวกเขาจะพยายามทุ่มทุกสิ่งที่มี และทำในสิ่งที่แฟน ๆ ต้องภาคภูมิใจ รวมถึงเป็นประวัติศาสตร์ของชาตินั่นคือ "การเข้ารอบน็อกเอาต์ให้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์" 

"พวกเราจะให้ความเคารพเยอรมันในฐานะเจ้าภาพ เรารู้แน่ชัดว่าพวกเขาเป็นทีมที่ดี แต่เราเองก็ 'หวัง' ว่าเราจะสามารถแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าเราเป็นทีมที่ดีเช่นกัน" 

"ผมและลูกทีมจะสนุกกับการลงแข่งขันทัวร์นาเมนต์นี้ และผมให้สัญญาว่าเราจะทำเหมือนทุก ๆ เป็นเกมนัดชิงชนะเลิศ"

"ยูโรหนที่แล้ว เราเคยตกรอบมาแล้ว แต่ก็ยังดีที่เราได้มีส่วนร่วม อย่างน้อยมันทำให้เรามีประสบการณ์ คราวนี้แหละที่เราจะสนุกกับความท้าทายที่เกิดขึ้น และผมเชื่อว่าทุก ๆ คนจะได้สนุกยิ่งกว่านี้หากเราคว้าได้สัก 4 แต้มในรอบแบ่งกลุ่ม" 

"พวกเราทุกคนมาที่นี่ด้วยความภาคภูมิใจ ปกติแล้วเราไม่เคยเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่นอกประเทศเลยนับตั้งแต่ฟุตบอลโลกปี 1998 วันนี้เราจะปรากฏตัว และสร้างความภาคภูมิใจ เราจะทำให้ทุกคนในประเทศนี้ภูมิใจ เราจะดีกว่าเดิมที่เคยเป็นมา แฟนบอลจะอยู่ข้างหลังเราทุกเกม ผมรู้สึกถึงสิ่งนี้ได้ เราจะได้เห็นว่าทัพตาร์ตันสนุกสนาน อ้อ แล้วอย่าลืมทำตัวดี ๆ อย่าให้โดนตำรวจซิวด้วยล่ะ" คลาร์ก ปิดท้าย 

แน่นอนว่า สก็อตแลนด์ เองก็มีดี นักเตะหลายคนกำลังอยู่ในช่วงที่ดีที่สุด มีการผสมผสานกันระหว่างดาวรุ่ง ตัวเก๋า และตัวพีก มี แอนดี้ โรเบิร์ตสัน เป็นแม่ทัพใหญ่ มีนักเตะในวัยกำลังสมบูรณ์อย่าง จอน แม็คกินน์, สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ เจ้าของดาวซัลโวรอบคัดเลือก, แองกัส กันน์ และ เคียแรน เทียร์นี่ย์ รวมถึงตัวดาวรุ่งที่กำลังขึ้นมาอย่าง บิลลี่ กิลมอร์ และ ทอมมี่ คอนเวย์ จาก บริสตอล ซิตี้ 

พวกเขาทั้งหมดกำลังจะเดินลงสนามเจอกับ เยอรมนี หนึ่งในตัวเต็งของทัวร์นาเม้นต์ และพี่ใหญ่ของพวกเขาอย่าง โรเบิร์ตสัน ได้ประกาศก่อนเกมและทำให้นักเตะและแฟนบอลทุก ๆ คนฮึกเหิมแล้ว 

"เราไม่อยากทำให้ตัวเองเสียใจอีกแล้ว แต่อะไรคือเรื่องแย่สุดที่เกิดขึ้นได้ล่ะ ? เรื่องแย่สุดที่เกิดขึ้นได้แค่เราตามรอยรุ่นพี่ทีมชาติสกอตแลนด์อีกหลายชุดในการตกรอบแรกอีกครั้ง แต่เราเชื่อว่า ทีมชุดนี้จะสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ได้"

ตี 2 คืนนี้มาดูกันว่า สกอตแลนด์ จะเปิดหัวทัวร์นาเมนต์แบบที่ทำให้ทุกคนจำพวกเขาขึ้นใจได้หรือไม่ ? 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง : 

Don't Come Home Too Soon : เพลงเชียร์บอลยอดแย่ที่ชาวสกอตแลนด์รักสุดใจ
https://mainstand.co.th/features/5/article/2098

 

แหล่งอ้างอิง : 

https://www.theguardian.com/sport/blog/2010/apr/30/joy-of-six-awful-world-cup-songs
https://www.dailyrecord.co.uk/entertainment/celebrity-interviews/del-amitri-well-play-hometown-3008628
https://www.reddit.com/r/Scotland/comments/anvoiw/unpopular_opinion_i_actually_love_the_song_dont/
https://sport.optus.com.au/news/uefa-euro-2024/os75732/scotland-fear-no-one-euro-2024-opener-germany-steve-clarke
https://www.nytimes.com/athletic/2118196/2020/10/14/the-complex-relationship-of-the-rangers-support-and-the-scotland-national-team/
https://www.bbc.com/news/articles/cv228ew9vvpo

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว

หนุ่มน้อยผู้คลั่งรัก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดหัวใจ

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ