อองเดร โอนาน่า, เมาโร อิการ์ดี้, เลรอย ซาเน่, อัลบาโร่ โมราต้า และนักเตะวัย 30+ อีกหลายคนที่คุณได้ยินชื่อก็ร้องอ๋อ พวกเขาทั้งหมดค้าแข้งในลีกตุรกี ณ เวลานี้
ในโลกที่สโมสรส่วนใหญ่เลือกซื้อนักเตะอายุน้อย เอามาพัฒนา และปั้นขายทำกำไร ทำไมสโมสรจากลีกตุรกียังชอบจ่ายค่าเหนื่อยเยอะ ๆ ชนิดที่มากกว่านักเตะท้องถิ่นถึง 2 เท่า เพื่อล่อใจนักเตะวัยเก๋าที่หลายคนอยู่ในขาลงมาร่วมทีม ขัดกับโมเดลที่ควรจะเป็น ?
นี่คือความจริงอีกด้าน ติดตามกับ Main Stand
กำไร...ใครจะสน ?
ทีมจากลีกโปรตุเกส เบลเยียม หรือ เนเธอร์แลนด์ แสดงให้เห็นว่าแม้พวกเขาจะมีเงินไม่เยอะมาก แต่การลงทุนแต่ละครั้งของพวกเขานั้นยอดเยี่ยมแค่ไหน โดยเฉพาะการคว้าเอานักเตะอายุน้อยมาปั้นจนได้ราคา ก็จะส่งต่อให้ทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปซื้อไปใช้งานต่อ ซึ่งบางเคส บางดีล มีการซื้อขายกันด้วยราคาเกิน 100 ล้านปอนด์ ให้เราได้เห็นอยู่เสมอ และกำไรเหล่านี้ทำให้สโมรจากลีกในประเทศที่กล่าวมาแข็งแกร่งขึ้นมากในปัจจุบัน
คำถามคือเมื่อเราย้อนกลับมาที่ลีกตุรกี ลีก ๆ นี้ทำไมจึงไม่ทำอะไรเหมือนกับลีกขนาดกลางในยุโรปอื่น ๆ ? ทั้ง ๆ ที่พวกเขาก็มีเงินมาก และอยู่ในอันดับที่ 8 ของลีกที่มีค่าจ้างนักเตะสูงที่สุดในยุโรป ทำไมพวกเขาจึงไม่ยึดแนวทางสร้างดาวรุ่ง ดันแข้งท้องถิ่น และทำกำไรในวันที่สุกงอมบ้าง ?
และในช่วง 3-4 ปีหลังสุด ลีกตุรกี ก็เป็นลีกที่ใช้เงินในการเสริมทัพมากกว่าทีมในลีกโปรตุเกส เบลเยียม หรือ เนเธอร์แลนด์ ด้วยซ้ำ แต่เมื่อเทียบกับผลงานในสนามมันนานจนจำไม่ได้แล้วที่ทีมจากตุรกี สามารถผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หรือแม้กระทั่งในรายการอย่าง ยูโรป้าลีก และ คอนเฟอเรนซ์ลีก ในรอบลึก ๆ ... เมื่อเป็นเช่นนั้นทำไมลีกตุรกีจึงไม่ใช้แนวทางใหม่ ๆ เพื่อนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเป็นเชิงบวกบ้าง ?
คำตอบคือคนดูฟุตบอลตุรกีนั้นชอบดูฟุตบอลที่มีซูเปอร์สตาร์ ยกตัวอย่างแบบชัดเจนที่สุดคือในฤดูกาล 2015-16 ที่ เบซิคตัส ได้แชมป์ลีกของประเทศ แต่พวกเขากลับเก็บค่าตั๋วได้น้อยกว่า เฟเนร์บาห์เช่ ทีมรองแชมป์เกือบครึ่ง ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเองก็มีฐานแฟนบอลพอฟัดพอเหวี่ยงกัน
แต่เมื่อมีการทำรีเสิร์ชข้อมูลกลับพบว่า สาเหตุที่แฟนบอล เฟเนร์บาห์เช่ เข้าสนามมาดูเกมมากกว่า เพราะปีนั้นทีมได้ซื้อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และ หลุยส์ นานี่ มาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งการมีสตาร์ดึงดูดทำให้พวกเขาเต็มใจจะง่ายเงิน ทำให้พวกเขารู้สึกว่าทีมได้พยายามลงทุนเพื่อคืนกำไรให้แฟนบอล
สิ่งที่ยืนยันได้อีกอย่างคือ คุณมักจะเห็นข่าวที่ว่าแฟนบอลของสโมสรในลีกตุรกี มักรวมตัวกันมาในงานเปิดตัวนักเตะใหม่ หรือโค้ชใหม่ระดับสตาร์ กันแบบเต็มความจุของสนาม ล้นออกมาจนเต็มสองข้างทางทั่วทั้งเมือง ล่าสุดคือการต้อนรับ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ย้ายไป เฟเนร์บาห์เช่ และ วิคเตอร์ โอซิเมน ที่ย้ายไป กาลาตาซาราย ... เอาง่าย ๆ แม้กระทั่งนักเตะที่ดูเป็นเกรดรองอย่า ชิโร่ อิมโมบิลเล่ ที่เล่นให้ เบซิคตัส เมื่อฤดูกาล 2024-25 แฟนบอลของพวกเขายังออกมาต้อนรับกันจนแน่นสนามบิน
การบ้าดาราหรือชอบดูสตาร์ คือเหตุผลที่สโมสรต้องซื้อนักเตะที่มีชื่อเสียง และยอมจ่ายค่าเหนื่อยแพง มากกว่าที่จะซื้อดาวรุ่งโนเนมที่มีแววจะเก่งกาจและทำเงินได้ในอนาคต
"ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ พลังความรักของแฟนบอลตุรกีที่มีต่อเหล่านักเตะระดับสตาร์ ... มีหลายประเทศที่เป็นแบบนี้ แต่ซูเปอร์ลีกของตุรกี ที่ถูกจัดอยู่คนละหมวดหมู่ของ 5 ลีกใหญ่ พวกเขาต้องพยายามทำให้ลีกนี้มีความน่าสนใจเสมอ ด้วยสตาร์เหล่านั้น" นิค มิลเลอร์ นักข่าวจาก The Athletic วิเคราะห์ไว้แบบนั้น
การซื้อสตาร์เรียกคนดูได้ก็จริง แต่ค่าจ้างที่แพงหูฉีก มันอาจจะสร้างค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลให้กับทีม และการทำเงินจากแค่ค่าตั๋วหรือการขายเสื้อก็ไม่น่าจะเทียบเท่าเงินส่วนนั้นได้ สิ่งเหล่านี้ย่อมไปสู่การ "ขาดทุน" ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกสโมสรพยายามลีกหนีจากมัน ทว่าสโมสรจากลีกตุรกีส่วนใหญ่กลับไม่กลัว มันเป็นเพราะอะไร ?
ไม่กลัวเจ๊ง
หลังมีการตามเก็บข้อมูลย้อนหลังของ 5 สโมสรที่ลงทุนมากที่สุดในการเสริมทัพอย่าง กาลาตาซาราย, เฟเนร์บาห์เช่, เบซิคตัส, แทร็บซอนสปอร์ และ อิสตันบูล บาซัคเซฮีร์ ตั้งแต่ปี 2013 พวกเขาต่างกันขาดทุนกันระนาวในแต่ละปี
ดังนั้นถ้าพวกเขาไม่กลัวเจ๊ง คำถามที่น่าสนใจจากนี้คือพวกเขาเอาเงินมาจากไหนกันล่ะ ?
แหล่งข่าวของ The Athletic อธิบายว่า เงินส่วนนี้ได้มาจากการกู้ยืมจากรัฐบาลตุรกีที่มีนโยบายผลักดันฟุตบอลในประเทศโดยตรง เพราะฟุตบอลในตุรกีก็เหมือนตัวแทนของพรรคการเมืองหรือนักกการเมืองที่มีอำนาจคนหนึ่ง
นับตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา รัฐบาลตุรกี มีการให้งบประมาณหลาย ๆ ด้านให้สโมสรฟุตบอลในประเทศ ทั้งการสร้างสนาม หรือสำหรับการเสริมทัพ และแน่นอน นักการเมืองผู้ทรงอำนาจในแต่ละท้องที่ จะมีผลอย่างมากในการผลักดันเรื่องงบประมาณที่สนับสนุนให้แต่ละสโมสรมีรายได้มากขึ้น
เหล่าผู้มีอำนาจมักแต่งตัวเต็มยศพร้อมด้วยผ้าพันคอประจำทีม เข้าไปเชียร์ในวันที่ทีมของพวกเขามีการแข่งขัน แน่นอนว่าจุดนี้ช่วยสร้างฐานเสียงที่ดี และเป็นสิ่งที่นักการเมืองหรือพรรคการเมืองทำตาม ๆ กันมา พูดง่าย ๆ ก็คือใช้ฟุตบอลเป็นซอฟต์เพาเวอร์ ที่ทำให้ประชาชนอินและรู้สึกผูกพันกับพรรคการเมืองมากขึ้นก็คงไม่ผิดนัก
คำถามแรกจบลงไป และนำไปสู่คำถามที่ 2 ในเมื่อเงินมาจากรัฐบาล และสโมสรก็ขาดทุน พวกเขาจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายคืนจากที่เคยกู้หนี้ยืมสินไป ?
เรื่องนี้ ยิลดิริม เดมิโรเรน อดีตประธานสหพันธ์ฟุตบอลตุรกี ตอบคำถามนี้ด้วยตัวเองว่า แรก ๆ รัฐบาล ก็เรียกเก็บหนี้จากเงินกู้ของสโมสรฟุตบอลในประเทศตามหลักเกณฑ์ปกตินี่แหละ ทว่าเมื่อสโมสรขาดทุน เงินไม่พอที่จะจ่ายหนี้บ่อย ๆ รัฐบาล จึงแก้ปัญหาด้วยการปรับรูปแบบการจ่ายเงินใหม่ ด้วยการคิดดอกเบี้ยต่ำที่สุด และจัดให้มีการผ่อนชำระยาว ๆ หลาย ๆ งวด เรียกได้ว่าเป็นการผลักดันกันถึงขีดสุดเลยทีเดียว
"เหมือนกับพ่อแม่ที่บอกให้ลูก ๆ ผ่อนค่ากระจกหน้าต่างที่พวกเขาทำแตกเป็นงวด ๆ ... สโมสรในตุรกีไม่สามารถดูแลสถานะการเงินของตัวเองได้โดยลำพังอีกต่อไป" เดมิโรเรน สรุปเรื่องนี้ได้อย่างเห็นภาพ
ดูแล้วเป็นระบบที่ไม่ยั่งยืน และสมควรแก้ไขให้ถูก ให้แต่ละสโมสรสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง ทว่าจนถึงตอนนี้ ทีมจากลีกตุรกียังคงช็อปนักเตะขาลงค่าจ้างแพงเข้ามาสู่ลีกอีกมากมายหลายคน ล่าสุดก็คือ โอนาน่า ที่แทบจะไม่เหลือความไว้วางใจที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จนแฟน ๆ เฮกันทั่วโลกเมื่อเขาถูก แทร็บซอนสปอร์ ยืมตัวไปใช้งานจนจบซีซั่น 2025-26
นั่นหมายความต่อให้ขาดทุนพวกเขาก็ไม่กลัวเจ๊ง และไม่ว่าโลกฟุตบอลจะหมุนไปแบบไหน แต่สไตล์การเสริมทัพด้วยนักเตะที่ "ชื่อดัง" ยังคงเป็นแนวทางที่ทีมจากลีกตุรกี ยังคงยึดมั่นไม่เปลี่ยนแปลง
เราเติบโตด้วยวิธีของเรา
คำถามนี้เราสืบค้นไปต่อและได้คำตอบที่น่าสนใจ เพราะดูเหมือนว่าต่อให้สโมสรในลีกตุรกีจะขาดทุนในแต่ละปี แต่พวกเขาจะยังคงได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนต่อไป เพราะเหตุผลที่ได้กล่าวไปในข้างต้นที่สรุปให้เข้าใจกันง่าย ๆ ว่า
"ซูเปอร์สตาร์สร้างฟุตบอล - ฟุตบอลสร้างฐานเสียงของประชาชนในแต่ละท้องที่ - ฐานเสียงสร้างอำนาจแก่ผู้ที่ลงทุน" กลไกนี้อธิบายได้ดีว่าการซื้อสตาร์จะยังคงดำเนินต่อไป เพราะมันสร้างกระแสและความนิยมได้เสมอ
ถ้าคุณถามว่าไม่กลัวหรือว่าสโมสรจะล้มละลาย ? คารีม อิสยาร์ อดีตประธานสโมสรฟุตบอลในตุรกี บอกว่า "ความนิยมที่มีต่อฟุตบอลของคนตุรกีนั้นมีเยอะมาก ๆ เชื่อเถอะว่าไม่มีใครในประเทศนี้จะยอมปล่อยให้ 3 ยักษ์ใหญ่ของลีก (กาลาตาซาราย, เฟเนร์บาห์เช่, เบซิคตัส) ต้องล้มละลายอย่างแน่นอน"
"สโมสรใหญ่เหล่านี้เป็นนิติบุคคลของรัฐที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ พวกเขาอัดเงินลงทุนได้เสมอ แตกต่างกับสโมสรเล็ก ๆ อื่น ๆ ในประเทศ ถ้าพวกเขาเจอสถานการณ์เดียวกันกับทีม 3 ยักษ์ใหญ่ (เรื่องการขาดทุน) พวกเขาล้มละลายไปนานแล้ว คนที่นี่รู้เรื่องนี้ดี"
"เหล่าทีมใหญ่ยังคงเดินหน้าสร้างความสำเร็จในประเทศและพยายามแผ่ขยายความยิ่งใหญ่ด้วยนักเตะสตาร์ต่อไป ... เหตุผลเพราะว่าพวกเขารู้ดีว่าต่อให้พวกเขาต้องเข้าตาจน รัฐบาลจะยื่นมือมาช่วยพวกเขาอยู่ดี"
อย่างไรก็ตาม 3 ทีมยักษ์ใหญ่ก็ไม่ใช่ทีมที่หลับหูหลับตาทำสิ่งผิด ๆ เพียงอย่างเดียว พวกเขารู้ดีว่าการซื้อสตาร์ตกรุ่นจากลีกอื่น ๆ นั้นทำได้แค่เรียกกระแส แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องทำ เพราะนี่เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของพวกเขาที่มีมาช้านานและเปลี่ยนแปลงได้ยาก
เพียงแต่ว่าหลายสโมสรตอนนี้ก็เริ่มเอาเงินมาลงทุนกับนักเตะดาวรุ่ง และให้ความสำคัญกับทีมเยาวชนมากขึ้น เราจึงได้เห็นนักเตะดี ๆ อายุน้อย ๆ เกิดขึ้นพร้อมกันหลาย ๆ คนในทีมชาติตุรกีชุดนี้ อาทิ อาร์ดา กือแลร์, เคนาน ยิลดิซ, ออร์คุน ก็อกชู และอีกหลาย ๆ คนที่โตมาจากระบบเยาวชนของพวกเขา และกำลังโลดแล่นในลีกต่างประเทศ
ซึ่งดูแล้วก็เป็นวิธีที่ไม่เลวนัก เพราะยอดดาวรุ่งเหล่านี้จะอยู่ในลีกตุรกีแค่ช่วงอายุวัยทีนเอจ จากนั้นพวกเขาค่อยไปเติบโตด้วยการย้ายไปเล่นในลีกที่แข็งแกร่งกว่า ซึ่งมันก็ช่วยพัฒนาทีมชาติได้เหมือนกัน เพราะตอนนี้ฟุตบอลในประเทศยังต้องการพื้นที่ให้กับเหล่าซูเปอร์สตาร์มากกว่านั้นเอง
แม้จะดูไม่มากมาย แต่เราก็ได้เห็นนักเตะตุรกีรุ่นใหม่ ๆ ที่ค้าแข้งใน 5 ลีกดังยุโรปมากขึ้น ซึ่งทีมที่ขายดาวรุ่งเหล่านี้ออกไปก็เป็นทีมดังในตุรกีนี่แหละ
อย่างน้อยพวกเขาก็ยังได้เริ่มต้น และจุดเล็ก ๆ นี้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนในอนาคต … ส่วนตอนนี้ สตาร์ ยังมาก่อนเป็นอันดับแรก แบบไม่มีอะไรเข้ามาสั่นคลอนแนวทางของพวกเขาได้
แหล่งอ้างอิง
https://www.nytimes.com/athletic/4852149/2023/09/14/turkey-galatasaray-fenerbahce-transfers/
https://pomeps.org/political-polarization-and-football-in-turkey
https://www.france24.com/en/live-news/20230916-turkish-clubs-take-financial-hit-to-attract-big-names-in-transfer-market
https://x.com/TifoFootball_/status/1708723485688902140
https://www.rfi.fr/en/business-and-tech/20230916-turkish-clubs-take-financial-hit-to-attract-big-names-in-transfer-market