Feature

โสมขาวไร้หางเสือ : ทีมชาติเกาหลีใต้ กับหลังบ้านที่แฟนบอลยังกังวล | Main Stand

ฟุตบอลทีมชาติเกาหลีใต้ ประสบปัญหาใหญ่ที่ตอนนี้ก็ยังหาทางออกไม่เจอ นั่นคือ การตามหากุนซือคนใหม่ที่จะเข้ามาทำงานเป็นหัวเรือสำคัญของทีม หลังจาก เยอร์เก้น คลินส์มันน์ ถูกปลดออกจากตำแหน่งกุนซือทีมชาติเกาหลีใต้ เซ่นผลงานที่ไม่สามารถพาทีมไปถึงแชมป์ เอเชียน คัพ 2023

 


พวกเขาเลือกที่จะแก้ขัดด้วยการแต่งตั้งกุนซือรักษาการที่เป็นชาวเกาหลีใต้ ขึ้นมาดูแลทีมชุดใหญ่เป็นการชั่วคราว แต่จนถึงปัจจุบัน ปัญหากุนซือคนใหม่ที่จะเข้ามาสานงานคุมทีมชุดใหญ่อย่างจริงจัง ก็ยังหาบทสรุปไม่ได้

ทำให้ตำแหน่งกุนซือทีมชุดใหญ่ของเกาหลีใต้นั้นว่างมาเป็นเวลากว่า 4 เดือนแล้ว จนสร้างความกังวลให้กับแฟนบอลว่า อนาคตของทีมจะเป็นอย่างไรต่อ ? ทำไมถึงยังไม่สามารถหากุนซือคนใหม่เข้ามาได้ ? 

พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของสมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ (KFA) ที่ยังไม่สามารถแสดงให้เห็นภาพอย่างชัดเจนว่า ต้องการจะพาวงการฟุตบอลเกาหลีใต้ ไปในทิศทางไหน ?

เกิดอะไรขึ้นกับหลังบ้านของฟุตบอลทีมชาติเกาหลีใต้ ติดตามได้ที่นี่ Main Stand

 

จากบอลโลกที่กาตาร์

ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย เกาหลีใต้ ที่ผ่านเข้ามาในฐานะทีมจากโซนเอเชีย ถูกจับให้ไปอยู่ในกลุ่ม H ของรอบแบ่งกลุ่ม ร่วมกับ กาน่า, อุรุกวัย และ โปรตุเกส ถือเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างหนักเลยทีเดีสำหรับพวกเขา ในการต้องเจอกับแชมป์ เวิลด์ คัพ 2 สมัย, รวมถึงทีมที่มีนักเตะที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ก่อนที่ทัพ "โสมขาว" จะสามารถจบอันดับ 2 ของตาราง ด้วยการเฉือนชนะ โปรตุเกส 2-1 ในเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม มี 4 คะแนน ลูกได้เสีย +0 พลิกสถานการณ์จากที่จะตกรอบ กลายเป็นผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ได้สำเร็จ 

ส่ง อุรุกวัย กลับบ้าน ที่ถึงแม้จะมี 4 คะแนน และลูกได้เสีย +0 เท่ากับเกาหลีใต้ แต่ตลอด 3 เกมในรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขายิงได้ 2 ประตู ขณะที่เกาหลีใต้ยิงได้ 4 ประตู ทำให้ อุรุกวัย ตกลงไปอยู่อันดับ 3 ของกลุ่ม H ตกรอบไปพร้อมกับกาน่า ที่จบอันดับสุดท้าย มี 3 คะแนน

เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย เกาหลีใต้ เจอกับงานหนักสุด ๆ เมื่อคู่แข่งของพวกเขาก็คือ บราซิล แชมป์ฟุตบอลโลก 5 สมัย ซึ่งผลการแข่งขันก็เป็นไปตามชื่อชั้น บราซิล ไล่ถล่ม เกาหลีใต้ 4-1 ขุนพลจากแดนกิมจิ ต้องยุดิเส้นทางในฟุตบอลโลก 2022 ไว้เพียงเท่านี้

เปาโล เบนโต้ กุนซือชาวโปรตุเกส ของทึมชาติเกาหลีใต้ในเวลานั้น ได้ประกาศลงจากตำแหน่งทันที หลังทัพ "โสมขาว" จอดป้ายที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ในศึกฟุตบอลโลก 2022 พร้อมกล่าวว่า

"ผมเพิ่งจะบอกเรื่องนี้ให้กับนักเตะและทางสมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ไป ผมตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้แล้วตั้งแต่เดือนกันยายน"

"และวันนี้ผมก็ขอยืนยันสำหรับเรื่องนั้น ผมต้องขอบคุณพวกเขาสำหรับทุกสิ่งที่พวกเขามอบให้กับผม พวกเขามอบสิ่งที่ดีที่สุดของพวกเขา และผมก็ยินดีและภูมิใจที่ได้เป็นโค้ชของพวกเขา"

หลังผ่านช่วงฟุตบอลโลก 2022 เก้าอี้กุนซือของทีมชาติเกาหลีใต้ ก็ว่างมาจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ทางสมาคมก็ได้ประกาศแต่งตั้งแม่ทัพคนใหม่ ซึ่งชื่อของกุนซือรายนี้ก็ถือว่าเป็นชื่อที่เซอร์ไพรส์ไม่น้อยเลยทีเดียว ในช่วงเวลานั้น

แต่หากกลับมามองที่ปัจจุบัน นี่อาจจะเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ทำให้สมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ ต้องเจอกับแรงกระแทกจากแฟนบอล อย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้

 

กุนซือชวนฉงนใจ

ทีมชาติเกาหลีใต้ เลือก เยอร์เก้น คลินส์มันน์ ตำนานกองหน้าทีมชาติเยอรมนี ชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1990 และแชมป์ยูโร 1996 ให้เป็นกุนซือคนใหม่ของทัพ "โสมขาว" เซ็นสัญญาคุมทีมยาว 3 ปี จนถึงฟุตบอลโลก 2026

พร้อมกับภารกิจแรกนั่นคือการพาทีมลุยทัวร์นาเมนต์ เอเชียน คัพ 2023 ที่จะแข่งกันในช่วงต้นปี 2024 และคว้าแชมป์มาครองให้ได้

"เป้าหมายของเรา คือการคว้าแชมป์ เอเชียน คัพ" เยอร์เก้น คลินส์มันน์ เอ่ยประโยคแรก หลังเข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ของทีมชาติเกาหลีใต้

"ผมรู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติที่พวกเขา (ทีมชาติเกาหลีใต้) ยอมรับในตัวผม ผมเคยมาเที่ยวที่นี่หลายครั้ง เกาหลีใต้คือประเทศที่ดี มีผู้คนที่อัธยาศัยดี และมีทีมฟุตบอลที่ดี"

"เกาหลีใต้ ทำผลงานได้ดีในฟุตบอลโลก 2022 ที่ กาตาร์ และผมอยากจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อต่อยอดความสำเร็จนี้ โค้ชที่ผ่าน ๆ มาทั้ง กุส ฮิดดิงก์ หรือ เปาโล เบนโต้ พวกเขาได้สร้างทีมที่ดีขึ้นมา และสามารถเอาชนะทีมที่แข็งแกร่งอย่าง โปรตุเกส และ เยอรมนี ได้"

อย่างไรก็ตาม การมาของ เยอร์เก้น คลินส์มันน์ ในฐานะกุนซือทีมชาติเกาหลีใต้ ก็ถูกตั้งคำถามเรื่องฝีมือความสามารถทันที เพราะหนล่าสุดที่เขาทำหน้าที่กุนซือ ยืนคุมทีมข้างสนามนั้น ต้องย้อนกลับไปถึงฤดูกาล 2019/20 กับทาง แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ซึ่งเป็นการคุมทีมช่วงสั้น ๆ 10 สัปดาห์ ก่อนจะลาออกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2020 แล้วห่างหายจากการคุมทีมไปนานกว่า 3 ปี

แต่กระนั้น ผลงานที่ผ่าน ๆ มาของ เยอร์เก้น คลินส์มันน์ ก็อาจจะทำให้สมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ มองว่าเขาคือคนที่ใช่ ทั้งเคยพา เยอรมนี คว้าอันดับ 3 ในฟุตบอลโลก 2006 พา สหรัฐอเมริกา คว้าแชมป์ระดับทวีปอเมริกาเหนือ เมื่อปี 2013 และช่วยให้ทัพ "ลุงแซม" ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ในฟุตบอลโลก 2014

อดีตกองหน้าเจ้าฉายา "ฉลามขาว" ประเดิมนำลูกทีม ทีมชาติเกาหลีใต้ ลงเล่นเกมการแข่งขันเป็นครั้งแรก ในแมตช์อุ่นเครื่องกับ โคลอมเบีย และ อุรุกวัย ช่วงเดือนมีนาคม 2023 ซึ่งผลงานที่ออกมาก็ยังไม่เข้าตาแฟนบอลเท่าไร เสมอ โคลอมเบีย 2-2 และแพ้ อุรุกวัย 1-2

ต่อมา ผลงานของทีมชาติเกาหลีใต้ก็ยังไม่กระเตื้อง อุ่นเครื่องแพ้ เปรู 0-1 และเสมอ เอลซัลวาดอร์ 1-1 ช่วงเดือนมิถุนายน 2023 กลายเป็นว่า 4 นัดแรก คลินส์มันน์ ไม่สามารถพาทีมชาติเกาหลีใต้ เก็บชัยชนะได้เลย

นำไปสู่การถูกโจมตีและตั้งคำถามจากแฟนบอล รวมถึงสื่อต่าง ๆ ในหลายแง่มุม แต่ที่เป็นประเด็นหนักสุดก็คือ การมีรายงานว่า เยอร์เก้น คลินส์มันน์ แทบจะไม่ได้ใช้เวลาอยู๋ในประเทศเกาหลีใต้เลย เขามักจะทำงานในรูปแบบของการทำงานทางไกล หรือ Remote Work อยู่ที่บ้านของเขาในสหรัฐอเมริกา ซึ่งประเด็นนี้ก็สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอลเกาหลีใต้เป็นอย่างมาก เพราะมันขัดกับวัฒนธรรมการทำงานของชาวเกาหลีใต้ ที่ให้ความสำคัญกับการใช้เวลาทำงานอยู่ในสถานประกอบการ หรือออฟฟิศมาโดยตลอด 

ด้าน เยอร์เก้น คลินส์มันน์ ก็ได้จัดแถลงข่าวกับสื่อผ่านรูปแบบออนไลน์ เพื่อคลี่คลายประเด็นเหล่านี้ โดยยืนยันว่าเขาตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ให้กับทีมชาติเกาหลีใต้ ต่อให้รูปแบบการทำงานของเขา มันจะไม่เป็นที่น่าพอใจนักสำหรับแฟนบอล

หลังผ่านไป 7 เดือน นับตั้งแต่ก้าวเข้ามาเป็นกุนซือทีมชาติเกาหลีใต้ กระแสเชิงลบที่มีต่อ เยอร์เก้น คลินส์มันน์ เริ่มเบาลงไปบ้าง หลังทัพ "โสมขาว" เริ่มกลับมาเก็บชัยชนะได้ต่อเนื่อง เริ่มจากเกมอุ่นเครื่องชนะ ซาอุดีอาระเบีย 1-0 ช่วงเดือนกันยายน 2023, ชนะ ตูนิเซีย 4-0, ชนะ เวียดนาม 6-0 ช่วงเดือนตุลาคม 2023

และโปรแกรมสำค้ญอย่างฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กับการเปิดบ้านถล่ม สิงคโปร์ 5-0 และบุกไปจัดการ จีน ถึงถิ่น 3-0 ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2023

ก่อนถึงคราวที่จะต้องไปลุยทัวร์นาเมนต์ใหญ่อย่าง เอเชียน คัพ 2023 ช่วงเดือนมกราคม 2024 และศึกฟุตบอลถ้วยรายการนี้ ก็กลายเป็นจุดจบของ เยอร์เก้น คลินส์มันน์ ในบทบาทกุนซือของทีมชาติเกาหลีใต้

ด้วยผลงานที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายอย่างการคว้าแชมป์ หลังแพ้ให้กับ จอร์แดน ในรอบรองชนะเลิศ 0-2 พร้อมฟอร์มการเล่นที่ดูคาดหวังและพึ่งพาอะไรไม่ได้ 

บวกกับปัญหาที่เกิดขึ้นภายในแคมป์ทีมชาติ เมื่อมีรายงานออกมาว่า ซน ฮึง-มิน และ อี คัง-อิน สองแข้งกำลังหลักของทีม มีปัญหาทะเลาะวิวาทกัน จนมันอาจกลายเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ความสามัคคีของนักเตะทีมชาติเกาหลีใต้ เกิดรอยร้าว และนำไปสู่ความล้มเหลวใน เอเชียน คัพ

 

หลังบ้านมีปัญหา

KFA สั่งปลด เยอร์เก้น คลินส์มันน์ ออกจากตำแหน่งกุนซือทีมชาติเกาหลีใต้ ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2024 โดยให้เหตุผลในเรื่องแท็กติกที่ไม่ตอบโจทย์สำหรับทีม, ความล้มเหลวใน เอเชียน คัพ และที่สำคัญที่สุดก็คือ การใช้จิตวิทยาในการดูแลจัดการนักเตะ จากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกันของ ซน ฮึง-มิน กับ อี คัง-อิน แล้วไม่มีการเข้าไปเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น

หรือการยิ้มให้กับทุกสถานการณ์ แม้แต่ตอนที่เกาหลีใต้ ตกรอบ เอเชียน คัพ เขาเองก็ยังมีรอยยิ้มออกมาให้เห็น ขณะที่นักเตะลูกทีมต่างอยู่ในความรู้สึกเศร้าและผิดหวังจากความพ่ายแพ้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คลินส์มันน์ ไม่มีความเป็นผู้นำให้กับทีม และการรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ

"ด้วยเหตุผลหลายประการ ทำให้มีข้อสรุปออกมาว่า เยอร์เก้น คลินส์มันน์ ไม่มีความเป็นผู้นำในฐานะกุนซือของทีมชาติ และจำเป็นที่จะต้องถูกแทนที่ด้วยคนอื่น" ฮวัง โบ-ควัน ผู้อำนวยการด้านเทคนิคของ KFA กล่าว

ขณะที่ ชอง มอง-กยู ประธานของ KFA บอกว่าผลงานและความเป็นผู้นำของ เยอร์เก้น คลินส์มันน์ ในบทบาทกุนซือของทีมชาติเกาหลีใต้ ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง 

"คลินส์มันน์ ล้มเหลวในการแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นํา ตามที่เราคาดหวังจากกุนซือทีมชาติ รวมถึงแนวทางการเล่นของทีม การจัดการนักเตะ และทัศนคติในการทํางาน ที่จะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของทีมชาติ"

เมื่อเกิดความล้มเหลวขึ้น จากการที่ทีมไม่สามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ในการแข่งขันต่าง ๆ แน่นอนว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนบอล ย่อมมุ่งตรงไปที่กุนซือก่อนเป็นลำดับแรก ในฐานะที่เป็นคนคอยดูแลจัดการภาพรวมของทีม 

แต่เสียงวิพากษ์วิจารณ์มันก็ไม่ได้ไปอยู่ที่กุนซือเพียงคนเดียว เหล่าแฟนบอลต่างก็เล็งไปที่ ชอง มอง-กยู ประธานของ KFA ด้วยเช่นกัน เพราะจากการรายงานของ Korea JoongAng Daily ระบุว่า เขาเป็นคนที่ตัดสินใจเอาเอง ในการเลือก เยอร์เก้น คลินส์มันน์ เข้ามาทำงานคุมทีมชาติเกาหลีใต้ โดยไม่ได้ผ่านประชุมหารือกับทางคณะกรรมการ KFA เลยแม้แต่น้อย

รวมถึงประเด็นที่เกิดขึ้นเมื่อเดือน เมษายน 2023 เกี่ยวกับการที่ KFA ถูกแฟนบอลวิจารณ์อย่างรุนแรง หลังประกาศยกเลิกโทษแบนให้กับนักเตะที่เคยมีประวัติล้มบอล ในเกมการแข่งขันของ เคลีก ฤดูกาล 2011 ก่อนจะต้องยอมถอยการยกเลิกโทษแบนครั้งนี้ เพราะเจอกระแสต่อต้านจากสังคมแบบหนักหน่วง 

และรองประธานของ KFA พ่วงกับคณะกรรมการอีก 100 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยกเลิกโทษแบน ก็ได้ประกาศขอลาออกยกชุด เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น มีเพียงแค่ ชอง มอง-กยู เท่านั้น ที่ยังคงนั่งตำแหน่งประธาน KFA ต่อ

ทำให้แฟนบอลบางคน ถึงกับยืนประท้วงที่หน้า KFA House ที่ทำการของสมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ ใจกลางกรุงโซล เพื่อเรียกร้องให้มีการไล่ ชอง มอง-กยู ออกไปด้วยอีกคน ต่อจาก เยอร์เก้น คลินส์มันน์

"ปัญหาหลายอย่างเกิดขึ้นจาก ชอง มอง-กยู จนกว่า ชอง มอง-กยู จะลาออก ปัญหาต่าง ๆ ก็จะยังไม่ได้รับการแก้ไข" แฟนบอลผู้ใช้บัญชี YouTube ชื่อ zeuspark4408 ได้กล่าวไว้

ภายหลังการปลด เยอร์เก้น คลินส์มันน์ ทีมชาติเกาหลีใต้ก็ยังไม่สามารถตามหากุนซือคนใหม่ที่จะเข้ามาคุมทีมต่อได้ ขณะที่โปรแกรมการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก ก็กำลังใกล้เข้ามาอีกครั้ง ทำให้สุดท้าย พวกเขาเลือกที่จะใช้งานกุนซือขัดตาทัพไปก่อน

 

คนที่ใช่อยู่ไหนกัน

ทีมชาติเกาหลีใต้ ขยับ ฮวาง ซุน-ฮง กุนซือชุด U23 ขึ้นมาเป็นคุมทีมชุดใหญ่เป็นการชั่วคราว ในเกมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง จำนวน 2 นัด ที่จะต้องเปิดบ้านพบ ทีมชาติไทย และบุกไปเยือน ทีมชาติไทย ช่วงเดือนมีนาคม 2024 เพื่อขยายเวลาในการเฟ้นหากุนซือคนใหม่ให้มากขึ้น

ซึ่งผลงานที่ออกมา มันก็มีจุดด่างพร้อยเกิดขึ้น เมื่อ "โสมขาว" ภายใต้การคุมทีมของ ฮวาง ซุน-ฮง ทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอกับ ทีมชาติไทย 1-1 ถือเป็นผลงานที่ต่ำกว่ามาตรฐานของทีมชาติเกาหลีใต้ เมื่อเทียบชื่อชั้นกับคู่แข่ง

และถึงแม้จะแก้ตัวด้วยการบุกไปเอาชนะ "ช้างศึก" 3-0 ในเกมต่อมา แต่มันก็สายเกินไปแล้วที่ ฮวาง ซุน-ฮง จะได้รับเสียงชื่นชมและการยอมรับจากแฟนบอล ด้วยผลการแข่งขันที่ไม่ควรจะปล่อยให้มันเกิดขึ้น

ความสงสัยของแฟนบอล ที่มีต่อ ฮวาง ซุน-ฮง เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น เมื่อกุนซือรายนี้ พาทีมชาติเกาหลีใต้ ชุด U23 แพ้ในการดวลจุดโทษกับ อินโดนีเซีย 10-11 จบเพียงแค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ของศึก เอเชียน คัพ U23 และทำให้กีฬาฟุตบอลชาย ของศึก โอลิมปิก 2024 ที่ฝรั่งเศส จะไม่มีชื่อของ เกาหลีใต้ อยู่ในการแข่งขัน

ขณะที่การหากุนซือคนใหม่ให้ทีมชุดใหญ่ของเกาหลีใต้ ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยตอนแรก พวกเขาได้เจรจากับทาง เจสซี่ มาร์ช อดีตกุนซือ ลีดส์ ยูไนเต็ด แต่สุดท้ายตกลงเรื่องเงินค้าจ้างกันไม่ได้ ทำให้ทุกอย่างต้องล่มไป

ทัพ "โสมขาว" ที่ยังไม่สามารถหากุนซือคนใหม่เข้ามาคุมทีมชุดใหญ่ได้ ต้องกลับมาแผนเดิมเหมือนกับตอนปลด เยอร์เก้น คลินส์มันน์ นั่นคือการแต่งตั้งกุนซือรักษาการขึ้นอีกครั้ง โดยรอบนี้หวยไปออกที่ คิม โด-ฮุน อดีตกุนซือ อุลซาน ฮุนได ในการคุมทีมชาติเกาหลีใต้ ลุยโปรแกรมสองนัดสุดท้าย ของศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง บุกเยือน สิงคโปร์ 6 มิถุนายน 2024 และเปิดบ้านต้อนรับ จีน 11 มิถุนายน

"การแต่งตั้งกุนซือคนใหม่ จะยังไม่เสร็จสิ้นก่อนการแข่งขันระดับ A Match ในเดือนมิถุนายน การสรรหากุนซือทีมชาติคนใหม่จะยังคงดำเนินต่อไป และด้วยเหตุนี้ เราจึงแต่งตั้ง คิม โด-ฮุน เป็นกุนซือชั่วคราว เพื่อดูแลทั้งสองเกมที่จะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน" สมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ กล่าว

ด้าน คิม โด-ฮุน เองก็รับรู้ได้ถึงความกังวลของแฟนบอล เกี่ยวกับสถานะที่ไร้หางเสือของทีมชาติ โดยกล่าวว่า "เราจะต้องทำให้แฟนบอลของเรา ได้เห็นทิศทางที่เราต้องการจะไป และเราต้องแสดงให้เห็นผ่านผลงานในสนาม มากกว่าแสดงให้เห็นเพียงแค่คำพูด"

อย่างไรก็ตาม ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง เกาหลีใต้ ต้องการอีกเพียงแต้มเดียวเท่านั้น เพื่อผ่านเข้าสู่รอบต่อไป นั่นคือ ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม ที่จะเริ่มฟาดแข้งกันในวันที่ 5 กันยายน 2024 ซึ่งมันก็ไม่น่าจะเป็นงานที่ยากนัก 

แต่ก่อนจะถึงเวลาดังกล่าว พวกเขาจะต้องเฟ้นหากุนซือที่ใช่ และร่วมงานกันให้ได้โดยเร็ว เพราะคู่แข่งในการแข่งขันรอบต่อไป เสือสิงห์กระทิงแรดเต็มไปหมด ทั้ง ญี่ปุ่น, อิหร่าน, ซาอุดีอาระเบีย, ออสเตรเลีย หรือทีมที่พัฒนาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอย่าง กาตาร์ และ อุซเบกิสถาน

ไม่เช่นนั้น วงการฟุตบอลเกาหลีใต้ อาจจะต้องพบเจอกับสถานการณ์ หรือช่วงเวลาที่ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น…

 

แหล่งอ้างอิง :

https://www.bbc.com/sport/football/63868068
https://apnews.com/article/klinsmann-south-korea-coach-asian-cup-fifa-world-cup-3c07b1f07b2747b216a333f8e715f15c
https://www.theguardian.com/football/2024/feb/16/south-korea-sack-jurgen-klinsmann-leadership-failure
https://koreajoongangdaily.joins.com/news/2024-05-15/sports/football/KFA-nearing-selfimposed-deadline-to-hire-national-team-manager/2047291
https://koreajoongangdaily.joins.com/news/2024-02-14/sports/football/KFA-head-Chung-Monggyu-has-history-of-controversial-football-calls/1980681
https://www.ajupress.com/view/20240216175806656
https://www.koreatimes.co.kr/www/sports/2024/05/600_374568.html
https://www.koreatimes.co.kr/www/sports/2024/06/600_375829.html
https://www.mk.co.kr/en/sports/11019755
https://en.yna.co.kr/view/AEN20240527002851315

Author

อิสรา อิ่มเจริญ

ชายผู้สนใจญี่ปุ่นเพียงเพราะได้ดูฟุตบอลเจลีก โปรดปรานข้าวไข่เจียวเป็นที่สุด

Graphic

อภิสิทธิ์ โชติพิบูลย์ทรัพย์

Art Director ผู้รับเหมางานภาพกราฟิกหน้าปกบทความทุกชิ้น