หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินชื่อของ นอสตราเดมัส หรือที่คนไทยมักเรียก นอสตราดามุส (มิเชล เดอ นอสเตรดาม) แพทย์ เภสัชกร และผู้เผยพระวจนะ ชาวฝรั่งเศส เพราะเขาได้ทำการทำนายสิ่งต่าง ๆ ไว้อยู่ในหนังสือชื่อ Les Prophéties ประกอบด้วยบทกวี 942 บท และเหตุการณ์นั้น ๆ ดันเกิดขึ้นจริง อาทิ การขึ้นเป็นใหญ่ของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์, สงครามโลกครั้งที่ 2 หรือแม้กระทั่งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 แม้หลายคนมองว่า บางครั้งก็เป็นเรื่องบังเอิญไปหน่อย
อย่างไรก็ตาม ในวงการฟุตบอลก็มีผู้ที่ทำนายเหตุการณ์ต่าง ๆ ไว้และเกิดขึ้นจริง ๆ เฉกเช่น นอสตราดามุส โดยเขาคนนั้นคือ "เดอะ สเปเชียล วัน" โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือชาวโปรตุเกส ที่ออกมาคาดการณ์อนาคตของแข้งชื่อดังหลายราย ไม่ว่าจะเป็น ปอล ป็อกบา, เดเล่ อัลลี่, ชาบี อลอนโซ่ รวมถึงบทสรุปของพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2023-24 ที่เพิ่งจบ
Main Stand จะพาทุกคนย้อนกลับไปดูคำทำนายในอดีตของ โชเซ่ มูรินโญ่ แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นจริง
[แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสคว้าแชมป์ 51% ส่วน อาร์เซน่อล ไม่มี]
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนเมษายน 2024 ตอนนั้น อาร์เซน่อล รั้งจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ แต่ดันมาแพ้ แอสตัน วิลล่า คาบ้าน 0-2 ทำให้พวกเขาถูก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แซงมาเป็นอันดับที่ 1 แทน
ซึ่ง โชเซ่ มูรินโญ่ ได้ทำนายโอกาสคว้าแชมป์ของทีมต่าง ๆ ณ เวลานั้น ไว้ว่า "แมนฯ ซิตี้ 51 เปอร์เซ็นต์ และ ลิเวอร์พูล 49 เปอร์เซ็นต์ ส่วน อาร์เซน่อล ไม่ !”
และคำพูดของ โชเซ่ มูรินโญ่ ข้างต้นก็กลายเป็นจริงขึ้นมา เพราะบทสรุป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 4 สมัยติดต่อกัน เก็บได้ 91 คะแนน มีคะแนนเยอะกว่า อาร์เซน่อล อันดับ 2 เพียง 2 คะแนน
[ปอล ป็อกบา คือ ไวรัส]
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมควักเงินราว 89.3 ล้านปอนด์ เป็นสถิติโลก ณ เวลานั้น เพื่อดึงตัว ปอล ป็อกบา เด็กเก่าที่กำลังทำผลงานได้ดีกับ ยูเวนตุส กลับมายังสโมสร เพื่อหวังที่จะให้เป็นแกนหลักในแดนกลางของ "ปีศาจแดง"
แต่พอเล่นไปเล่นมา ปอล ป็อกบา กลับกลายเป็นหนึ่งในแข้งที่ถูกแฟนบอลโจมตีมากที่สุด ไม่ว่าจะด้วยฟอร์มการเล่นในสนาม, มักไม่ค่อยพร้อมลงเล่น โดยเฉพาะทรงผมที่เปลี่ยนแทบทุกสัปดาห์ จนได้รับฉายา "กองกลางตัวตัดผม"
กระทั่งในปี 2018 หลังเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอกับ เซาแธมป์ตัน 2-2 มีการเปิดเผยว่าในห้องแต่งตัว โชเซ่ มูรินโญ่ เรียกแข้งเลือดฝรั่งเศสว่า 'ไวรัส' ก่อนจะจวกต่อว่า "นายไม่ได้เล่นอย่างเต็มที่ นายไม่มีความเคารพต่อเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลที่สนับสนุนเรา นายทำลายทัศนคติดี ๆ ของคนอื่น ๆ รวมถึงความซื่อสัตย์และความน่าเชื่อถือที่อยู่รอบตัวนาย"
เส้นทางของ ปอล ป็อกบา กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สิ้นสุดลงในปี 2022 เขาย้ายกลับ ยูเว่ แบบไร้ค่าตัว อย่างไรก็ตาม ผลงานภาคสองกับทีมที่แจ้งเกิดของเขาไม่ดีเหมือนภาคแรก ฤดูกาล 2022-23 เขามีอาการบาดเจ็บรบกวนแทบทั้งซีซัน ได้ลงสนามให้ "ม้าลาย" เพียง 10 เกมรวมทุกรายการ
แถมฤดูกาล 2023-24 ปอล ป็อกบา โดนแบนห้ามยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมฟุตบอลเป็นเวลา 4 ปี ต้นเหตุจากตรวจสารกระตุ้นต้องห้ามไม่ผ่านหลังเกมที่ทัพ "ม้าลาย" บุกไปเอาชนะ อูดิเนเซ่ 3-0 เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2023 ปัจจุบันมีการเปิดเผยว่าเขาใช้ช่วงเวลาที่โดนแบนไปกับบทบาทนักแสดงในภาพยนตร์เรื่อง "4 Zeros" ที่จะออกฉายในปี 2025
[ชาบี อลอนโซ่ จะกลายเป็นยอดโค้ช]
ในการสัมมนาของเกม Top Eleven เมื่อปี 2019 โชเซ่ มูรินโญ่ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์และคาดการณ์ล่วงหน้าเกี่ยวกับ ชาบี อลอนโซ่ อดีตกองกลางระดับท็อปของ เรอัล มาดริด รวมถึง ลิเวอร์พูล ว่าจะกลายเป็นสุดยอดผู้จัดการทีมในอนาคตอันใกล้
โดยกล่าวว่า "พ่อของ ชาบี อลอนโซ่ (เปริโก อลอนโซ่) เป็นผู้จัดการทีม ดังนั้นเขาจึงเติบโตขึ้นมาด้วยสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับผม ชาบี อลอนโซ่ เกิดมาโดยผ่านการคลุกคลีกับพ่อของเขาตอนทั้งเป็นผู้เล่นและผู้จัดการทีม จากนั้นเขาก็กลายเป็นนักเตะ แน่นอนว่าดีกว่าผมมาก"
"แล้วเขาก็กลายเป็นผู้เล่นระดับท็อป ตำแหน่งในสนามและความรู้ในเกมของ ชาบี อลอนโซ่ สูงมาก ต่อมาเขาได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งใน สเปน อังกฤษ และ เยอรมนี ผ่านการเทรนของ ราฟาเอล เบนิเตซ ที่ ลิเวอร์พูล, จากผม รวมถึง คาร์โล อันเชล็อตติ ที่ เรอัล มาดริด และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ บาเยิร์น มิวนิค"
"ดังนั้นผมคิดว่าถ้าคุณรวมทั้งหมดนี้เข้าด้วยกัน ผมคิดว่า ชาบี อลอนโซ่ มีเงื่อนไขและคุณสมบัติในการเป็นโค้ชที่ดีมาก"
ปัจจุบัน ชาบี อลอนโซ่ กลายเป็นผู้จัดการทีมแห่งประวัติศาสตร์ของ เลเวอร์คูเซ่น พา "ห้างยา" คว้าแชมป์บุนเดสลีกา ฤดูกาล 2023-24 แบบไร้พ่าย แม้จะอดได้แชมป์ยูฟ่า ยูโรปา ลีก แพ้ อตาลันต้า ในรอบชิงฯ 0-3 เมื่อคืนนี้
[อาร์เตต้า มาถูกทางแล้ว]
ในเกมลอนดอนดาร์บี้ วันที่ 6 ธันวาคม 2020 สเปอร์ส ของ โชเซ่ มูรินโญ่ สามารถเอาชนะ อาร์เซน่อล ภายใต้การทำทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ด้วยสกอร์ 2-0 ส่งผลให้ "ปืนใหญ่" จมอยู่ครึ่งล่างของตารางอันดับ 15 พร้อม ๆ กับที่มีความกดดันเข้ามาเล่นงานกุนซือชาวสเปน มากขึ้น
แต่หลังจบเกม โชเซ่ มูรินโญ่ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ชื่นชมแนวทางการทำทีมของ มิเกล อาร์เตต้า แถมยังบอกอีกว่า อาร์เตต้า คือคนที่เป็นผู้นำทีม โดยกล่าวว่า
"ผมอยากจะมอบคำชมดี ๆ ให้ มิเกล อาร์เตต้า เพราะเขาทำให้ สเปอร์ส ของผมมีเกมที่ยากลำบาก ในด้านแท็คติกพวกเขาเก่งมาก พวกเขาสร้างปัญหาให้กับเรา"
"ผมเดาได้เลยว่าพรุ่งนี้จะมีพาดหัวข่าวเกี่ยวกับ อาร์เซน่อล ที่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ดีในตาราง แต่ผมเชื่อว่าด้วยนักเตะเหล่านี้ ด้วย มิเกล อาร์เตต้า อาร์เซน่อล จะกลับมาเป็น อาร์เซน่อล อีกครั้ง"
ปัจจุบัน มิเกล อาร์เตต้า ช่วยยกระดับฟอร์มการเล่นและผลงานของ "ปืนใหญ่" อย่างเห็นได้ชัด พาทีมจบตำแหน่งพระรองของพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2023-24 มีคะแนนน้อยกว่าแชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แค่ 2 คะแนน
[อนาคตอันมืดมนของ เดเล่ อัลลี่]
ในตอนที่ เดเล่ อัลลี่ ยังเล่นอยู่กับ สเปอร์ส ภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เขาถือเป็นกำลังหลักของ "ไก่เดือยทอง" ถึงขนาดที่มีชื่อติดทีมชาติอังกฤษ ชุดใหญ่ มาแล้ว แต่พอ โปเช็ตติโน่ โดนปลดจากเก้าอี้ และ โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาสานต่องาน เขาก็มีปัญหาด้านทัศนคติกับ "เดอะ สเปเชียล วัน" จนไม่สามารถเอาฟอร์มเดิมกลับมาได้ ไม่ว่าหลังจากนั้นจะเปลี่ยนผู้จัดการทีมเป็น ไรอัน เมสัน, นูโน่ เอสพิริโต้ ซานโต้, หรือ อันโตนิโอ คอนเต้ ก็ตาม จนถูกปล่อยให้ เอฟเวอร์ตัน ในเดือนมกราคม 2022
หลังจากย้ายมาสวมยูนิฟอร์ม "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เดเล่ อัลลี่ ก็ยังไม่สามารถเล่นได้ดีเหมือนตอนที่อยู่ สเปอร์ส และมี พอช เป็นผู้จัดการทีม ได้ลงเล่นไปเพียง 13 เกม ก่อนจะต้องโยกย้ายอีกครั้งไปเล่นกับ เบซิคตัส จาก ตุรกี แบบยืมตัวพ่วงเงื่อนไขซื้อขาด
กระนั้น เบซิคตัส ก็ไม่ได้ใช้ออปชันดังกล่าว พร้อมปล่อยตัว เดเล่ อัลลี่ กลับอังกฤษ กระทั่งตอนนี้สัญญาของเขากับ เอฟเวอร์ตัน ใกล้จะสิ้นสุดลง และแทบไม่มีข่าวว่ามีทีมใดสนใจในตัวเขา ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้ โชเซ่ มูรินโญ่ ได้เคยเตือน เดเล่ อัลลี่ แล้ว ผ่านสารคดี All or Nothing: Tottenham Hotspur ที่ออกฉายทาง Amazon Prime Video ในเดือนกันยายน 2020 ดังนี้
"ฉันต้องบอกความคิดของฉันให้นายรู้เสมอ บางครั้งในจิตใจของนายอาจต้องการให้ฉันเลิกยุ่งเสียที แต่ผมต้องบอกนายตรง ๆ เลยว่าฉันคิดอย่างไร ตั้งแต่แรกเริ่มฉันไม่สงสัยในศักยภาพของนายเลย"
"ฉันเคยเห็นนายเล่นเกมที่น่าทึ่งและทำสิ่งที่น่าทึ่ง แต่ฉันสังเกตเห็นเสมอว่า นายมีทั้งช่วงฟอร์มขึ้นและลง มีความแตกต่างระหว่างผู้เล่นระดับท็อปและผู้เล่นที่มีศักยภาพสูง"
"มันเป็นสิ่งที่นายไม่ต้องแชร์กับฉันก็ได้ แต่มันเป็นสิ่งที่ให้คุณวิเคราะห์ตัวเองและตะหนักว่าทำไมอาชีพของคุณถึงดี … โอเค ตั้งแต่ เอ็มเค ดอนส์ ไปจนถึงทีมชาติ ปัง ! คุณไปถึงจุดนั้นแล้ว"
"แล้วทำไมนายถึงมีช่วงขึ้น ๆ ลง ๆ ในอาชีพการงาน ซึ่งผมก็ไม่รู้ ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะไลฟ์สไตล์ของนายหรือเปล่า ในช่วงเวลาหนึ่งคุณเป็นมืออาชีพที่ยอดเยี่ยม ทว่าอีกช่วงหนึ่งคุณเป็นคนชอบสังสรรค์ ฉันไม่รู้ มีเพียงคุณเท่านั้นที่รู้
"ตอนนี้ฉันอายุ 56 ปีและเมื่อวาน - เมื่อวาน ! เมื่อวาน ! ฉันอายุ 20 ปี เดเล่ อัลลี่ วันเวลามันผ่านไปรวดเร็วมากนะ และวันหนึ่งนายจะต้องเสียใจ ถ้านายไม่สามารถไปถึงจุดที่ฉันคิดว่าคุณสามารถไปถึงได้”
