ถ้าเราบอกว่า อูไน เอเมรี่ ฝันที่จะเป็น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หรือ อาร์แซน เวนเกอร์ ของ แอสตัน วิลล่า คุณจะเชื่อไหม ? และคุณคิดว่ามันจะเป็นจริงได้หรือไม่ ?
ณ เวลานี้ อูไน เอเมรี่ พา แอสตัน วิลล่า ไปเล่นฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรปเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1982 แต่นี่แค่น้ำจิ้ม พวกเขามีโปรเจ็กต์ระยะยาวที่ชื่อว่า “เอเมรี่ โปรเจ็กต์”
สิ่งที่เกิดขึ้นจากผลงานในสนามว่าน่าตื่นเต้นแล้ว แต่หลังบ้านของ แอสตัน วิลล่า มีสิ่งเซอร์ไพรส์คุณยิ่งกว่านั้น
ติดตามที่ Main Stand
ตัวตนของคนชื่อ อูไน
อูไน เอเมรี่ คือโค้ชที่เป็นหนอนหนังสือ บ้าและคลั่งไคล้กับสิ่งที่ทำเป็นอย่างมาก ในช่วงวัยเด็ก มันเป็นช่วงเวลาที่เขาได้รู้จักฟุตบอล ปู่และพ่อของเขาเป็นนักฟุตบอลระดับ ลา ลีกา ลงเล่นให้กับ เรอัล โซเซียดาด และทุกคนหวังว่า "รุ่น 3" อย่าง อูไน จะตามรอยเท้านั้น ... แต่ก็ไม่
อูไน เดินทางไปถึงระดับนักเตะอาชีพแล้ว โดยเคยลงเล่นให้ โซเซียดาด 5 นัด ในฤดูกาล 1995-96 เขาไม่ได้โดดเด่นอะไร สุดท้ายก็ล่องลอยหายไปตามระบบพีระมิดฟุตบอล นั่นอาจจะดูน่าเสียดาย แต่สำหรับ อูไน กลับโล่งใจ เพราะจริง ๆ แล้วเขารู้ตั้งแต่แรกว่า เขาไม่ใช่นักฟุตบอลที่ดี เขาจำคำหนึ่งของ จอน โตแช็ค กุนซือชาวเวลส์ ที่เคยเป็นนักเตะ ลิเวอร์พูล และ กุนซือ เรอัล มาดริด ก่อนที่จะมาคุม โซเซียดาด ได้ขึ้นใจ
โตแช็ค บอกกับ อูไน ว่า "โค้ชที่ดี จะต้องทำตรงข้ามกับสิ่งที่พวกเขาทำตอนเป็นนักเตะ" มันทำให้เขาตระหนักได้ว่า "โค้ชที่ดีคือโค้ชที่เข้าใจนักเตะในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง และแก้ไขข้อบกพร่องในฐานะนักฟุตบอลของลูกทีมให้ได้" เขาคิดว่านั่นคือสิ่งที่เหมาะกับเขามากกว่า
ชีวิตค้าแข้งถดถอย แต่เส้นทางใหม่เริ่มขึ้น อูไน เริ่มกลายเป็นนักเตะกึ่ง ๆ โค้ชในช่วงที่เล่นในลีกล่าง เขาช่วยโค้ชจัดวิธีการฝึกซ้อม มีส่วนยกมือในห้องวิเคราะห์แท็คติกเสมอ ก่อนที่เขาจะได้งานแรกกับทีม ยอร์ก้า (Lorca Deportiva) ทีมสุดท้ายที่เขาเป็นนักเตะ เรื่องมันเกิดขึ้นก่อนคริสต์มาสปี 2004 เมื่อผู้จัดการทีมคนเก่าโดนไล่ออก ประธานเทคนิคของทีมได้เลือก อูไน ให้ขยับจากนักเตะตำแหน่งกองกลาง ขึ้นมาเป็นเฮดโค้ชเต็มตัวครั้งแรก หลังจากนั้นเส้นทางโค้ชของเขาเริ่มขึ้นตั้งแต่วันนั้น
จุดเด่นของอูไน คือโค้ชที่ใส่ใจเรื่องโปรแกรมฝึกซ้อมมาก ทุก ๆ เซสซั่น เขาจะไม่ปล่อยให้มือขวาออกแบบวิธีการฝึก เขาจะเป็นคนให้ไอเดีย คิดวิธีการ และจากนั้นเฝ้าดูการซ้อมของลูกทีมอย่างตั้งใจ เพื่อให้ได้เห็นว่าใครคือคนที่ยังไม่เข้าใจ ขณะที่ในการแข่งแต่ละเกม อูไน จะมานั่งดูเทปและหาจุดบกพร่องเสมอ เรียกนักเตะมาเคลียร์แบบชัด ๆ ว่าเขาผิดพลาดตรงไหนแบบไม่ต้องเกรงอกเกรงใจกัน
"สิ่งที่น่ากลัวที่ต้องเผชิญหน้าในฐานะนักฟุตบอล คือตัวคุณเองนี่แหละ การทำงานกับ อูไน เขาจะฉายความผิดพลาดของคุณซ้ำ ๆ ต่อหน้าคุณ แต่มันไม่ใช่การตบหน้ากลางสี่แยก เพราะหลังจากนั้น เขาจะบอกวิธีที่คุณจะปรับปรุงสิ่งที่เกิดขึ้นในวีดีโอ แบบที่เขาคิดมาแล้ว" มิเกล อังเคล โคโรนา ลูกทีมเขาสมัยคุมทีม อัลเมเรีย กล่าว
อูไน เติบโตในหน้าที่การงานมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งรับงานกับทีมใหญ่ขึ้น มีความสำเร็จมากขึ้น จนกระทั่งมาถึงปัจจุบันกับ แอสตัน วิลล่า ที่ที่เขากำลังได้ทำในสิ่งที่อยากทำที่สุดนั่นคือ "การสร้างอาณาจักร" กล่าวคือ อูไน เป็นกุนซือประเภทที่ไมได้ทำงานอยู่ที่ไหนยาว ๆ เต็มทีก็คือ 2 ปี และในช่วงเวลา 2 ปี เขาทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าพยายามแก้ปัญหาให้ทีมไปข้างหน้า อาณาจักรของเขาไม่ใช่แบบนั้น เขาคือคนที่อยากจะมีส่วนในทุก ๆ ด้านเรื่องฟุตบอล ชนะใจนักเตะทุกคนในทีมได้ ได้เลือกนักเตะที่ตัวเองต้องการ พูดง่าย ๆ คือเขาอยากเป็นโค้ชผู้ยิ่งใหญ่ สร้างมรดกให้กับทีม ๆ หนึ่งแบบที่ตำนานโค้ชรุ่นก่อน ๆ เคยสร้างเอาไว้
แอสตัน วิลล่า ฉบับ อูไน
ฟุตบอลของ อูไน เอเมรี่ แสดงให้ทุกคนเห็นแล้วที่ แอสตัน วิลล่า เกมรับที่เหนียวแน่น ผ่านระบบการเล่น 4-4-2 ที่ทุกคนจะช่วยไล่บอลและบีบพื้นที่ไม่เว้นแม้แต่กองหน้าตัวเป้า ระเบียบวินัยจัดเต็ม เสียประตูยาก และเมื่อมีโอกาสจะบุก ผู้เล่นคนอื่น ๆ ที่อยู่ด้านหลังจากเข้ามาเป็นตัวเลือกให้คนที่มีบอลได้มีวิธีเลือกเล่นเพิ่มขึ้น คำถามต่อมาคือ ในระบบ 4-4-2 ที่แทบไม่เหลือทีมไหนใช้ เขาทำออกมาให้ดีขนาดนี้ได้ยังไง ? คำตอบไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือเขาตามเก็บรายละเอียดทุกนัดที่ลงเล่น และค่อย ๆ ลบจุดอ่อนจนเป็น วิลล่า แบบทุกวันนี้
ว่ากันว่า เอเมอรี่ ดูเกมการแข่งของทีมตัวเองทุกนัด นัดละสี่ครั้ง หลังจากคุมทีมข้างสนามเสร็จ ครั้งที่หนึ่งถ่ายทอดสดที่ข้างสนามระหว่างแข่ง จบเกมเขาจะกลับมาดูไฮไลต์แบบฟูลแมตช์อีกครั้ง จากนั้นจะเริ่มไล่เก็บรายละเอียดไฮไลท์เล็กๆ น้อยๆ และครั้งสุดท้ายคือในตอนประชุมกับผู้เล่นของเขา ซึ่งแต่ละคนนำตัวอย่างของตัวเองมาไว้บนโต๊ะ
ทำไมต้องทำแบบนั้น ? อูไน เชื่อว่าข้อมูลที่ประจักษ์และทำให้ลูกทีมเข้าใจทันทีที่เห็นภาพ คือสิ่งที่แสดงถึงพลังอำนาจของเฮดโค้ช นักเตะจะเชื่อคุณ เพราะพวกเขาเห็นด้วยตาตัวเอง ดังนั้นแม้จะเป็นวันหยุดที่หาได้ยากยิ่งในอาชีพของคนในวงการฟุตบอล เขาจะดูฟุตบอลเสมอ เหล่านี้มาสู่การเล่นที่ถูกเรียกว่า 4-4-2 "มิดบล็อก" (Mid Block) ที่เขาแสนภูมิใจ
การเล่นแบบนี้ยากที่จะต่อกร โดยเฉพาะเมื่อคุณจะต้องบุกใส่ทีมอย่างเขา พื้นที่ในแดนกลางจะถูกปิด นักเตะตัวรุกของคุณจะถูกลูกทีมของ อูไน รุมทึ้งตั้งแต่ผ่านเส้นกลางสนาม และถ้าคุณมีความอดทนไม่พอ มีวินัยไม่พอ คุณจะตกหลุมพรางที่เขาคิดขึ้นมาหลุมนี้
"ผมคิดว่าคุณต้องยกเครดิตให้กับพวกเขา และ อูไน รวมทั้งทีมสตาฟโค้ช พวกเขาเป็นคู่แข่งที่สุดหิน และนี่คือหนึ่งในสนามที่ผมชื่นชม ไม่มีอะไรต้องแปลกใจ ผมติดตามเขามาตลอดนับตั้งแต่ที่เขาเป็นโค้ชให้ อัลเมเรีย และสิ่งที่เขาทำกับทุกทีมมันน่าทึ่งมาก ๆ เขาพัฒนานักเตะ, ทีม และสโมสรได้เสมอ" มิเกล อาร์เตต้า กุนซือของ อาร์เซน่อล กล่าวชม อูไน ที่พา แอสตัน วิลล่า เอาชนะทั้งแชมป์อย่าง แมนฯ ซิตี้ และ รองแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่าง อาร์เซน่อล ได้ในซีซั่นนี้ และรางวัลของพวกเขาคือการไปเล่นฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรปครั้งแรกในรอบ 42 ปี
ไม่ใช่แค่เป็นตัวแสบในตอนเล่นกับทีมใหญ่เท่านั้น วิลล่า ของ อูไน ยังเป็นทีมจอมโหดเวลาเจอกับทีมเล็กได้อีกด้วย ความยอดเยี่ยมตรงนี้คือเรื่องของความยืดหยุ่นภายใต้ตัวเลขระบบ 4-4-2 ของเขา ที่มันสามารถปรับให้เล่นได้ทั้ง 2 แบบ ทั้งในตอนที่เป็นทีมต่อ และในยามที่เป็นทีมรอง
พวกเขาสามารถอัดกองหลัง และกองกลางแน่น ๆ เพื่อเล่นโต้กลับแบบที่ เอเมรี่ เคยทำได้ รวมถึงผู้เล่นเกมรุกสไตล์ก็ใกล้เคียงกันมาก ๆ นั่นอาจทำให้งานของเอเมรี่ง่ายขึ้นเยอะ เมื่อสภาพทีมนั้นมีรูปแบบผู้เล่นที่ใกล้เคียงกัน
ชนะ 20 เสมอ 8 แพ้ 10 ยิงได้ถึง 76 ลูก มากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของพรีเมียร์ลีก แสดงให้เห็นว่าถึงเวลาต้องยิงประตู ลูกทีมของ อูไน ก็สามารถทำได้เหมือนกัน นี่คือเป็นสิ่งใหม่ เพราะในตอนที่เขาเคยคุม อาร์เซน่อล เมื่อ 6 ปีก่อน เขาเองมักมีปัญหายามเล่นกับทีมเล็กเป็นประจำ
อูไน และ แอสตัน วิลล่า ของเขาขาขึ้นสุด ๆ ไม่ใช่แค่ได้ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ตัวของเขายังได้รับการติดต่อจาก บาเยิร์น มิวนิค ทีมดังจาก เยอรมนี ซึ่งถ้าเขาตัดสินใจรับงานนี้ นี่จะเป็นงานใหญ่ที่สุดในอาชีพโค้ชของเขา
แต่สุดท้าย อูไน เอเมรี่ เห็นบางสิ่งที่ วิลล่า กำลังจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เขาหลับตาและเริ่มเห็นภาพอาณาจักรฟุตบอลของเขา แบบที่เขาฝันไว้มาตลอดขึ้นมาลาง ๆ ที่นี่ สุดท้ายเขาปฏิเสธงานใหญ่ที่ บาเยิร์น มิวนิค แบบเซอร์ไพรส์
หลังจากปฏิเสธได้ไม่นานนัก แอสตัน วิลล่า ก็มอบสัญญาฉบับใหม่ให้เขาไปถึงปี 2027 อูไน ตกปากรับคำ เพราะเขามีแนวคิดและมุมมองที่ตรงกับนโยบายของสโมสร อีกอย่าง เขาได้รับการปฏิบัติและให้ความร่วมมือจากภาคส่วนต่าง ๆ ของทีมมาอย่างดีโดยตลอด เจ้าหน้าที่แผนกต่าง ๆ ผู้มีอำนาจในการบริหาร หรือแม้แต่เจ้าของทีม ดูแลเขาอย่างดี ว่ากันว่าทุกครั้งที่เขาอยากจะกลับสเปน สโมสร จะจัดเที่ยวบินแบบเหมาลำให้เขาบินตรงจากเบอร์มิงแฮมไปยังสเปนเพื่ออำนวยความสะดวกอย่างดี
รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจ อูไน เอเมรี่ กำลังจะสร้างอาณาจักรของเขาที่มิดแลนด์ ... คำถามคือจากการได้เตะฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขาคิดจะทำอะไรต่อไปอีก ?
เริ่มสร้างอาณาจักรของ "อูไน"
โปรเจ็กต์นี้เดินทางมาถึงไหนแล้ว ? คำตอบคือมันเริ่มรันไปแล้ว และตอนนี้นักเตะในทีมของ แอสตัน วิลล่า กำลังเป็นนักเตะที่ดีขึ้นภายใต้การทำทีมของเขา ส่วนคนที่ไม่ใช่จะเริ่มค่อย ๆ ถูกคัดออก และคนที่เขามาใหม่จะต้องเป็นคนที่ตอบโจทย์ทั้งในสนามและในห้องแต่งตัว
ใครบ้างที่ดีขึ้น ? โอลลี่ วัตกินส์ ในตำแหน่งกองหน้า, จอห์น แม็คกินน์ กัปตันทีม และ กองหลังอย่าง เอซรี่ คอนซา ถูก อูไน ปรับจูนจนเจอกับตำแหน่งและวิธีเล่นที่เหมาะกับพวกเขาที่สุด
The Athletic บอกว่า นักเตะในทีม วิลล่า ตอนนี้มอบใจให้ อูไน เอเมรี่ และพร้อมจะทำตามโดยไร้เงื่อนไขแล้ว ดังนั้นสิ่งที่เคยเป็นปัญหาจากที่อื่น เช่นการโดนนักเตะบ่นเรื่องการประชุมทีมที่ยาวนานหลายชั่วโมง หรือการเข้มเรื่องวินัย เช่นการห้ามกินอาหารมื้อสายทั้งในวันที่ซ้อมและวันแข่ง ไม่เคยเกิดขึ้นที่ แอสตัน วิลล่า
ขณะที่ในส่วนของนักเตะอายุน้อย พวกเขาจะต้องเข้าคอร์สการฝึกพิเศษที่ อูไน เตรียมไว้ให้ ซึ่งทุกคนหมดข้อสงสัยไปแล้ว เพราะตัวนักเตะเองก็มองว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำงานพิเศษกับกุนซือที่เคยคุมทีมอย่าง เซบีย่า, เปแอสเช, บียาร์เรอัล และ อาร์เซน่อล
เอเมรี่ตั้งใจที่จะสร้างโครงสร้างที่แข็งแกร่ง เขาได้รับใบอนุญาตอย่างรวดเร็วจากบอร์ดบริหารในการเดินหน้าจัดระเบียบสโมสรใหม่ตามภาพลักษณ์ของเขาที่วางไว้ โดยเชื่อว่าสภาพแวดล้อมที่มั่นคงและยั่งยืน มีความสำคัญมากกว่าการมีเงินใช้ในตลาดซื้อขายนักเตะ ส่วนเรื่องของการจัดการด้านแผนกฟุตบอล วิลล่า ให้สิทธิ์เอเมรี่เพิ่มอิสระในการกำหนดแผนกฟุตบอลเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว
ตอนนี้ทีมงานต่าง ๆ ทั้งในทีมชุดใหญ่และทีมสำรอง เป็นคนที่ อูไน คัดและวิเคราะห์มาด้วยตัวเองทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น สตาฟ, นักวิเคราะห์เกม, แพทย์ รวมถึงการตั้งที่คนรู้มือสนิทสนมกันอย่าง ดาเมี่ยน วิดกานี่ มาเป็น ผู้อำนวยการปฏิบัติการฟุตบอล และจ้าง มอนชี่ ที่เคยทำงานกับ อูไน มาตั้งแต่ตอนคุม เซบีย่า มาทำงานร่วมกันในฐานะ ประธานปฏิบัติการฟุตบอล และ ณ ตอนนี้ต้องบอกว่าทุกคนเข้าขากันเป็นอย่างดี
“สิ่งที่เราต้องทำที่นี่คือปล่อยให้ อูไน ตัดสินใจด้านฟุตบอล ให้ มอนชี่ เลือกผู้เล่นที่ดีและเหมาะสมให้ อูไน และเราทุกคนก็จัดเตรียมโครงสร้างทุกส่วนของสโมสรให้แข็งแกร่ง เป็นเหมือนป้อมปราการเพื่อให้พวกเขามีเวลาในการพัฒนาโครงการ เอเมรี่ โปรเจ็กต์ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ความแตกต่างระหว่างความสำเร็จและความล้มเหลวคือเวลานี่แหละ" วิดกานี่ กล่าว
“พวกเราทุกคนโชคดีที่ได้ทำงานให้กับสโมสร แอสตัน วิลล่า คุณไม่รู้หรอกว่า แอสตัน วิลล่า โชคดีแค่ไหนที่มีเจ้าของที่สนับสนุนทีมขนาดนี้ สิ่งที่เราพบที่นี่ คือเจ้าของที่มีความมุ่งมั่นทางการเงินและการสร้างเลกาซี่ (มรดก) ให้เป็นสิ่งที่ส่งต่อไปยังยุคสมัยหลังจากนี้ด้วย"
นี่คือเรื่องราวคร่าว ๆ ของ อูไน เอเมรี่ และ แอสตัน วิลล่า ในปีนี้ ฟุตบอลยุโรปเป็นบันไดขั้นแรกของพวกเขาเท่านั้น ณ ตอนนี้ พวกเขาฝันใหญ่ไปขนาดที่ว่าจะทำให้ทีมยิ่งใหญ่ระยะยาว และให้ อูไน เอเมรี่ เป็นไอคอนของทีมเหมือนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด และ อาร์แซน เวนเกอร์ เป็นให้ อาร์เซน่อล ในอดีต
คุณอาจจะขำและตลกกับการเปรียบเทียบแบบนี้ แต่อย่างที่บอก นี่แค่พวกเขาก้าวผ่านก้าวแรกเท่านั้น พวกเขายังมาได้ไกลขนาดนี้ ไม่แน่ "เอเมรี่ โปเจ็คต์" อาจจะยิ่งใหญ่กว่าที่ใครหลายคนคาดฝันก็เป็นได้
แหล่งอ้างอิง
https://www.nytimes.com/athletic/5438265/2024/04/24/unai-emery-aston-villa-contract-dynasty/
https://www.nytimes.com/athletic/5433092/2024/04/22/aston-villa-finish-line-fans/
https://www.fourfourtwo.com/features/long-way-round-how-unai-emery-became-a-self-made-obsessive-and-arsenals-chosen-one
https://www.nytimes.com/athletic/5484252/2024/05/20/aston-villa-season-review-emery-ball-pays-off-champions-league-beckons-confused-cash/
