Feature

ถอดรหัสจากแชมป์ยูโรป้า : จงอย่าปล่อยให้ทีมจาก อิตาลี เข้ารอบชิง ? | Main Stand

ชัยชนะ 3-0 เหนือเจ้าของสถิติไร้พ่ายนานที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลยุโรปอย่าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น คือ ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ที่ อตาลันต้า ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ 

 


ทีมจาก อิตาลี หรือแม้กระทั่งทีมชาติของพวกเขามักจะเป็นแบบนี้เสมอ มาแบบเงียบ ๆ ในรอบต้น ๆ เอาตัวรอดในช่วงม้าตีนปลาย และสร้างเซอร์ไพรส์ในนัดชิงชนะเลิศแบบหักปากกาเซียน 

ติดตามเรื่องราวเหล่านี้ที่ Main Stand 

 

นักฉกฉวยโอกาสขั้นเทพ 

ประการแรก ก่อนเกมระหวาง เลเวอร์คูเซ่น กับ อตาลันตา ทุกสำนักแทบจะฟันธงเหมือนกันว่า เลเวอร์คูเซ่น ผู้ทำสถิติไม่แพ้ใครติดต่อกัน 51 นัด จะเข้าป้ายเป็นแชมป์ แม้จะต้องออกแรงมากสักหน่อย 

เหตุผลหลัก ๆ มันเป็นเรื่องของกระแสที่ เลเวอร์คูเซ่น ได้สร้างขึ้น ฟุตบอลของ ชาบี อลอนโซ่ มีความดุดัน เล่นเป็นทีม ขยับเคลื่อนที่ในยามไม่มีบอลกันอย่างแข็งขัน และเหนือสิ่งอื่นใดคือหัวจิตหัวใจเป็นหนึ่ง ถึงท้ายเกมด้วยสกอร์เสมอ หรือตามหลังทีไร พวกเขามักจะเปลี่ยนผลการแข่งขันจาก แพ้เป็นเสมอ จากเสมอเป็นชนะได้ประจำ 

ขณะที่ อตาลันต้า แม้จะผ่าน ลิเวอร์พูล และทีมแกร่งจากโปรตุเกสอย่าง สปอร์ติ้ง ลิสบอน มา แต่ดูเหมือนว่าทุกคนจะไม่ได้สนใจพวกเขานัก จนกระทั่งเสียงนกหวีดดังขึ้น แฟนบอลจึงได้เห็นและเข้าใจว่า "เป็นอีกครั้งที่ทีมอิตาลีร่างทองในนัดชิงชนะเลิศ" 

หากดูจากสกอร์ 3-0 หลายคนอาจจะคิดว่า อตาลันต้า เล่นเกมบู๊ไล่ทุบ เลเวอร์คูเซ่น สนุกมือ แต่ความจริง พวกเขาทำในสิ่งที่ฟุตบอลอิตาลีเชี่ยวชาญที่สุดนั่นคือ "การยิงประตูให้ได้มากกว่า" ในเกมนัดชิงดำแบบนี้ มันคือความเฉียบขาดชนิด "เปรี้ยงหาย" เพราะสถิติค่า xG ของ อตาลันต้า ในเกมนี้มีแค่ 0.65 เท่านั้น ขณะที่ เลเวอร์คูเซ่น มี 0.88 มากกว่า อตาลันต้า ด้วยซ้ำ 

แต่ อตาลันต้า เปลี่ยนโอกาสที่เลยครึ่งประตูมานิด ๆ ให้เป็นแฮตทริกของ อเดโมล่า ลุคแมน ... ลูกทีมของ ชาบี อลอนโซ่ เล่นเหมือนกับทุก ๆ เกมที่พวกเขาเล่นมาโดยไม่แพ้ใครทั้งซีซั่น ถ่ายบอลอย่างรวดเร็ว ขยับไปทั่วสนาม และเล่นเกมรับ-เกมรุกทั้งทีม แต่ทีมที่พวกเขาเจอดันเป็นทีมจาก อิตาลี อย่าง อตาลันต้า ซึ่งชาวอิตาเลียนรู้ดีว่าจะต้องเล่นเกมที่กดดันแบบนี้ยังไง 

พวกเขาไม่ยึดติดกับระบบการเล่นเดิม ๆ แม้ปกติเวลาเล่นในลีก อตาลันต้า จะเป็นทีมที่ชอบเน้นการครองบอลและเล่นเกมบุก โดยพวกเขาถือเป็นทีมที่มีอัตราครองบอลเฉลี่ยในเซเรีย อา มากถึง 58% ทั้งฤดูกาล แต่เมือมาถึงการเล่นในบอลยุโรป พวกเขาก็เปลี่ยนแนวทางเล่นได้อย่างลงตัว  

ขณะที่ทีมจากลีกอื่น ๆ มักจะมี DNA ฟุตบอลของตัวเอง เล่นแบบไหนก็จะเล่นในแนวทางนั้นตลอด เพราะพวกเขามีนักเตะที่ดี คุณภาพสูง และมีตัวหมุนเวียนที่ไว้ใจได้ แต่กับทีมอย่าง อตาลันต้า ในเมื่อหากวัดกันตัวต่อตัว นักเตะพวกเขาอาจจะเป็นรอง พวกเขาจึงเอาแท็คติกแบบนัดต่อนัดมาใช้เป็นตัวชูโรง  พวกเขาเหมือนกับกิ้งก่าที่เปลี่ยนสีตามคู่แข่ง ถ้าเจอทีมโหมบุกก็สามารถไปยืนโซนเกมรับต่ำได้ และถ้าพวกเขาเจอทีมที่ชอบต่อบอลอย่าง เลเวอร์คูเซ่น พวกเขาก็ปรับวิธีการเล่นใหม่ได้  

พวกเขาเลือกวิธีไล่ล่าบอล ประกบแบบ 1-1 หรือที่เรียกว่า แมนมาร์ก ตั้งแต่ในแดนของ เลเวอร์คูเซ่น เพื่อให้ เลเวอร์คูเซ่น เคลื่อนบอลได้ช้าลง และทำให้นักเตะของทีมห้างยามีความผิดพลาดมากขึ้น โดยที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายครองบอลเลย พวกเขาแค่ตัดบอล และเปลี่ยนจากรับเป็นรุกให้เร็วที่สุด ก่อนจะจบสกอร์อย่างเฉียบขาด 

พวกเขาครองบอลแค่ 42% เท่านั้นในเกมนี้ และในเกมกับ ลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์ พวกเขาก็ได้ครองบอลแค่ 24% แต่กลับชนะได้ด้วยสกอร์เดียวกัน (3-0) ... หลายครั้งที่ทีมจากอิตาลี หรือแม้กระทังทีมชาติ อิตาลี เป็นแบบนี้ พวกเขาจะปรับแท็คติกให้เหมาะกับแต่ละเกม พวกเขาอาจจะไม่มีวิธีการเข้าทำแบบซิกเนเจอร์ แต่นั่นไม่สำคัญมากไปกว่าสิ่งที่พวกเขาทำได้นั่นคือการส่งบอลเข้าประตู ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม  

"เรากำลังเจอกับทีมที่เก่งที่สุด แข็งแกร่งมาก ๆ มีรูปแบบการเล่นที่คอมแพ็คต์ (อัดแน่นในทุกพื้นที่) ซึ่งทำให้ผ่านพวกเขาได้ยาก และเราแทบจะไม่มีพื้นที่เล่นเลย พวกเขามีครบทุกอย่างทั้งความเร็ว เทคนิค และการสร้างโอกาสโจมตี ... แต่เราเองก็มีคุณสมบัติบางอย่าง และเราก็ฉกฉวยโอกาสจากพวกเขาได้" จานปิเอโร กัสเปรินี่ กุนซือของ อตาลันต้า ว่าแบบนั้น 

 

DNA แบบ อิตาเลียน 

ความโดดเด่นของทีมจากอิตาลี คือความเชี่ยวชาญในเชิงแท็คติก พวกเขายืดหยุ่น ปรับตัว และเล่นแบบโฟกัสนัดต่อนัดเก่งมาแต่ไหนแต่ไร เหมือนกับที่ ดร. วิทย์ สิทธิเวคิณ เคยให้สัมภาษณ์กับ Main Stand ว่า เรื่องการด้นสด เล่นในเกมที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายความกดดันระดับ 10 เต็ม 10 นั้นไม่มีใครเกินชาว อิตาลี อีกแล้ว 

"ฟุตบอลคือแบบฝึกหัดจิตวิทยา ฟุตบอลสามารถถ่ายทอดเอกลักษณ์ของแต่ละชาติออกมา ผ่านทีมฟุตบอลของชาตินั้น จนทีมบอลแต่ละชาติมีเอกลักษณ์ของตัวเอง แสดงผ่านตัวตนของคนในแต่ละชาติ ดูฟุตบอลมันเหมือนดูพิพิธภัณฑ์ชีวิตมนุษย์เลยนะ

"ทีมฟุตบอลบางชาติหลับตา เรายังนึกภาพออก เรื่องพวกนี้มันขึ้นมาในหัวของเรา โดยที่ไม่มีการเขียนตำรามาบอกเล่า ว่าฟุตบอลประเทศนี้ต้องเป็นแบบนี้ ฟุตบอลอิตาลีใช้ความคิดสร้างสรรค์ เน้นจินตนาการ การสร้างแทคติคฟุตบอลของอิตาลี สร้างมาจากการเอาจุดเด่นของนักเตะในทีมมารวมกัน จุดเด่นของคนอิตาลีคือ มีจินตนาการที่ดี และแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าเก่ง"

"ในฟุตบอลโลก 2006 คือตัวอย่างที่ดีมาก ทีมชาติ อิตาลี ต้องเล่นกับเยอรมันที่เก่งที่สุด แข็งแกร่งที่สุด และเป็นเจ้าภาพในครั้งนั้น แต่สุดท้ายทีมจาก อิตาลี เอาชนะ เยอรมัน ได้ ด้วยลูกยิงแบบผีจัดยัด"

"ประตูปลดล็อคที่อิตาลีได้ในวันนั้น มาจากการยิงเปรี้ยงเดียวหาย ในนาทีที่ 119 จะหมดเวลาอยู่แล้ว มันสะท้อนถึงจินตนาการและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ดีมาก ของชาวอิตาลี" 

ลูกยิงแบบเปรี้ยงเดียวหาย แบบโอกาสไม่ได้จะแจ้งของของ อเดโมล่า ลุคแมน ก็ไม่ต่างกัน อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า ค่า xG แค่ 0.65 แต่ได้ 3 ประตู ยืนยันให้เห็นแล้วว่า ฟุตบอล อิตาลี นั้นเล่นด้วยยากขนาดไหน พวกเขาเด็ดขาดหากคุณพลาด และคุณมีโอกาสจะพลาดสูงด้วย เพราะพวกเขาวางแท็คติกมาเพื่อทำให้คุณได้เจอสิ่งนั้น 

"อตาลันต้า ใช้ความแข็งแรง ใช้กลอุบายในการดึงนักเตะสำคัญของ เลเวอร์คูเซ่น ออกจากเกม พวกเขาทำให้ลูกทีมของ ชาบี อลอนโซ่ หลุดจากโมเมนตั้มของเกมแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้าคุณบอกว่านี่คือความเซอร์ไพรส์ นั่นแสดงว่าคุณไม่ได้เห็นพวกเขาจัดการกับลิเวอร์พูล และอีกหลาย ๆ ทีมก่อนหน้านี้" มัทธิอัส ร็อตเตอร์ส นักข่าวชาวเยอรมัน วิเคราะห์หลังเกมนี้ 

แม้แต่ ชาบี อลอนโซ่ เองก็ยังบอกว่า เขาเองไม่เคยเจอทีมไหนที่ท้าดวลกับลูกทีมเขาแบบตัวต่อตัว (เล่นแบบแมนมาร์ก) แต่ กัสเปรินี่ ไม่กลัวที่จะสั่งให้ลูกทีมของเขาทำแบบนั้น ความแข็งแรง ความเข้าใจในแท็คติก และนิสัยที่เชี่ยวชาญกับสถานการณ์กดดัน ทำให้ อตาลันต้า ฉีกการขึ้นเกมของ เลเวอร์คูเซ่น ออกเป็นชิ้น ๆ 

"กัสเปรินี่ ทำอตาลันต้าให้เล่นแบบมีความกล้าหาญมาก พวกเขาไม่กลัวและพร้อมจะท้าดวลทุกครั้งที่จะอยู่ในสถานการณ์แบบตัวต่อตัว เมื่อเรามีช่องเล็กน้อยพอจะเล่นเกมบุก พวกเขาก็ปรับมาเล่นเกมรับได้ดีมาก ๆ นี่คือสิ่งที่ทีมจากอิตาลีทำให้เราเห็นมาแล้วหลายปี ปกติแล้วเราจะอยู่ในสถานการณ์ที่เหนือคู่แข่งมาตลอด แต่ไม่ใช่วันนี้ เราทำแบบที่เราเคยทำมาตลอดกับ อตาลันต้า ไม่ได้เลย" อลอนโซ่ กล่าวส่งท้ายแบบยอมรับความพ่ายแพ้ 

 

จากอตาลันต้า ถึงทีมจาก อิตาลี ทีมอื่น ๆ 

แน่นอนว่ามันอาศัยความด้นสดอย่างเดียวไม่แน่ ถ้าคุณไม่มีนักเตะที่มีคุณภาพ ในช่วงหลังปี 2010 ฟุตบอล อิตาลี ตกต่ำลงจากผลพวงที่คดี กัลโช่โปลี ทิ้งไว้เมื่อกลางยุค 2000s และต่อช่วงโรคระบาด โควิด-19 ทำให้สโมสรใน อิตาลี ประสบปัญหาเรื่องการเงิน และทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนโมเดลการทำทีมแบบใหม่ 

พวกเขาไม่ซื้อนักเตะแพงในราคาระดับโลกเหมือนกับช่วงยุคทองบอล เซเรีย อา อีกแล้ว ทีมจาก อิตาลี ทุกทีม เน้นสร้างทีมในงบประมาณที่จำกัด แม้จะไม่ได้นักเตะตัวท็อป แต่ก็ได้นักเตะที่ลงล็อคเข้ากับแท็คติก ตรงกับสเป็กการใช้งาน โดยนับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมามีนักเตะเพียง 2 คนเท่านั้นที่ทีมจาก เซเรีย อา ซื้อนักเตะด้วยราคาแพงกว่า 40 ล้านยูโร ได้แก่ มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์  (จาก อาแจ็กซ์ มา ยูเวนตุส 75 ล้านยูโร) และ เบรเมอร์ (จาก โตริโน่ มา ยูเวนตุส 41 ล้านยูโร) 

นักเตะค่าตัวฟรี, นักเตะแบบยืมตัว และนักเตะราคาถูกที่เป็นตัวสำรองของทีมใหญ่ในลีกอื่น ๆ กลายเป็นเป้าหมายของทีมจาก อิตาลี โดยในวงเล็บที่ว่า นักเตะเหล่านี้ต้องหยิบและเอาวางใส่ระบบของทีมได้ ซึ่งบางครั้งไม่จำเป็ยต้องซื้อใครแพงมากมาย นักเตะแบบนี้กลับสามารถตอบโจทย์ได้ดีมากกว่า และทำให้ความเข้มเรื่องแท็คติกถูกยกขึ้นมาเป็นให้มีความสำคัญเท่า ๆ กันกับคุณภาพของนักเตะ ไม่เหมือนยุค 1990s ที่ทีมอิตาลี ครองยุโรป ด้วยนักเตะสตาร์ระดับโลก

ซิโมเน่ อินซากี้ และ อินเตอร์ มิลาน คือทีมที่ทำให้เห็นภาพนี้ชัดที่สุด พวกเขาคว้าตัวนักเตะค่าตัวฟรีมามากมาย บางคนดูท่าจะเล่นไม่ไหวแล้วด้วยซ้ำ แต่พอหยิบมาใส่ระบบแล้วกับไหลลื่นจนพาทีมเข้าชิงแชมป์ยุโรปถ้วยใหญ่เมื่อปี 2023 ชนิดบดกับ แมนฯ ซิตี้้ แบบเจียนอยู่เจียนไปได้อย่างอย่างสนุก รวมถึงการคว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อาในซีซั่น 2023-24 นักเตะอย่าง เฮนริค มคิตาร์ยาน, ฮาคาน ชาลาโนกลู, สเตฟาน เดอ ฟราย, มาร์คุส ตูราม นักเตะเหล่านี้ฟรีหมด แต่เล่นเหมือนของแพงเวลาพวกเขาลงสนามพร้อมกัน 

เมื่อทุกทีมเน้นที่เรื่องแท็คติกมากกว่าสตาร์ ฟุตบอลของทีมจาก อิตาลี จึงมีผลงานที่ดีขึ้นในยุคหลัง โดยเฉพาะในบอลถ้วยยุโรป เรียกได้ว่าถ้าคุณจะต้องเจอทีมจาก อิตาลี รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องปวดหัว และไม่มีคำว่าง่ายอย่างแน่นอน 

ในช่วง 2-3 ปีหลังทีมจาก อิตาลี ตบเท้าเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในรายการต่าง ๆ ทั้ง ยูโรป้า ลีก, ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว  ระบบการเล่นที่แน่นอน แท็คติกที่เฉพาะตัวไหลไปตามคู่แข่งที่เจอได้อย่างยอดเยี่ยม และเหนือสิ่งอื่นใดคือการเป็นจอมหักปากกาเซียนจากนิสัยและ DNA ที่ฝังอยู่ในตัวพวกเขา

จากนี้ทีมจาก อิตาลี กำลังพัฒนาขุมกำลังและแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนมากขึ้นเรื่อย ๆ .. ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเก่งมาจากไหน คุณต้องอย่าประมาททีมจาก อิตาลี เด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นทีมใดก็ตาม 

 

แหล่งอ้างอิง

https://tribuna.com/en/news/football-2024-01-23-how-will-the-end-of-italian-secret-advantage-influence-football-in-the-country/
https://football-italia.net/what-happened-the-last-time-italy-had-three-teams-in-european-finals/
https://www.quora.com/Why-is-Italy-so-successful-at-football-despite-players-often-facing-a-lack-of-facilities-compared-to-other-European-countries-poor-financial-situation-outdated-and-poorly-maintained-stadiums-training-grounds-etc
https://www.nytimes.com/athletic/4547793/2023/05/25/serie-a-european-finals/
https://www.uefa.com/uefaeuropaleague/news/028d-1af3bf5e7e68-7d9202792002-1000--atalanta-3-0-leverkusen-lookman-treble-brings-uefa-europ/
https://www.nytimes.com/athletic/5514430/2024/05/23/atalanta-lookman-europa-league-final/
https://www.uefa.com/uefaeuropaleague/news/028d-1aeebc65fef0-7f581ddc537b-1000--atalanta-coach-gian-piero-gasperini-on-his-playing-philoso/

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ