Feature

คอเนอร์ กัลลาเกอร์ : แข้งตัวหลักเชลซี ที่อนาคตกับสโมสรยังไม่ชัดเจน | Main Stand

ถ้าให้แฟนฟุตบอลสโมสร เชลซี เลือกนักเตะที่อยู่ในข่ายผลงานดีสวนทางกับอันดับของสโมสรมาสัก 2-3 คน เป็นไปได้ว่าชื่อหนึ่งที่ใครหลายคนนึกถึง ก็คือ "คอเนอร์ กัลลาเกอร์"

 

เพราะความขยัน วิ่งไม่มีหมด เล่นได้ทั้งเกมรุกและเกมรับ ตลอดจนการเป็นตัวเลือกแรกของสิงห์บลูส์ในยุค เมาริซิโอ โปเชตติโน่ ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่บ่งบอกให้รู้ว่า กัลลาเกอร์ กำลังอยู่ในช่วงทำผลงานดีที่สุดครั้งหนึ่งในอาชีพค้าแข้ง

อย่างไรเสีย ต่อให้เป็นนักเตะกำลังหลักของทีมมากแค่ไหน ถึงตอนนี้ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ก็ยังไม่ได้รับการขยายสัญญาฉบับใหม่ร่วมกับทีมที่ปลุกปั้นเขามาตั้งแต่เด็ก โดยสัญญาของเขาจะหมดลงหลังจบซีซั่น 2024/25 

มิหนำซ้ำ ยังมีข่าวมากมายว่าสิงห์บลูส์ก็พร้อมจะขายแข้งในคาถาผู้นี้ออกไปในทุก ๆ รอบตลาดที่ผ่านมา รวมถึงอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นเช่นกัน

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น และถึงตอนนี้โอกาสต่อสัญญามีความเป็นไปได้มากแค่ไหน ร่วมติดตามไปพร้อม ๆ กันที่ Main Stand

 

โดนปล่อยยืมจนสุกงอม

คอเนอร์ กัลลาเกอร์ เกิดและเติบโตขึ้นมาพร้อม ๆ กันกับการเป็นแฟนตัวยงของสโมสร เชลซี บ้านของเขาอยู่ห่างจากสนามซ้อม ค็อบแฮม ด้วยการขับรถเพียง 10 นาทีเท่านั้น ก่อนเจ้าตัวได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบ 

ชีวิตฟุตบอลของเจ้าหนูคอเนอร์ในเวลานั้น เรียกได้ว่าทุกอย่างเป็นไปตามกลไกของระบบฟุตบอลอาชีพ เขาค่อย ๆ ก้าวขึ้นมาเล่นให้สิงห์บลูส์ชุดเยาวชนในระดับที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ 

โดยจุดที่พาให้ตัวเขาเฉิดฉายในเส้นทางนี้ เกิดขึ้นแบบจริงจังในซีซั่น 2018/19 เมื่อเขาคว้ารางวัลแข้งอคาเดมี่ยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร และในช่วงเวลาเดียวกันนี้ สโมสรจับเขาต่อสัญญายาวไปจนถึงปี 2021 อีกด้วย

เพราะการแข่งขันในระดับเยาวชนและระดับอาชีพมีความแตกต่างกันพอสมควร เป็นเหตุให้ เชลซี ในฐานะสโมสรแม่ ตัดสินใจให้ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ฟุตบอลกับทีมน้อยใหญ่ร่วมเกาะอังกฤษมากมาย ไล่ตั้งแต่ ชาร์ลตัน แอธเลติก และ สวอนซี ซิตี้ ในระดับแชมเปี้ยนชิพ รวมถึง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน และ คริสตัล พาเลซ ในระดับพรีเมียร์ลีก

และไม่ว่าจะย้ายไปเล่นให้ทีมใด กัลลาเกอร์มักจะพาตัวเองให้กลายเป็นที่รักของแฟน ๆ ทีมนั้นได้ตลอด ไล่ตั้งแต่สมัยลงเล่นในเลกแรกของซีซั่น 2019/20 ร่วมกับ "ดาบอัศวิน" ชาร์ลตัน แอธเลติก คอเนอร์กระทุ้งไปถึง 6 ประตูจากการลงเตะ 26 เกม ตามด้วยการลงเล่นให้ สวอนซี ซิตี้ เขาหวิดจะช่วยทีมฉายา หงส์ขาว เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง แต่มาพลาดในเกมเพลย์ออฟ รอบรองชนะเลิศ ต่อ เบรนท์ฟอร์ด ไปเสียก่อน (แพ้สกอร์รวม 2-3)

หลังโดดเด่นในระดับลีกรอง เชลซี ยังคงเห็นถึงความสำคัญของเม็ดเพชรงามรายนี้ นำมาซึ่งการยืดสัญญาฉบับใหม่ให้กับ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ออกไปอีก 5 ปี ยาวไปจนถึงซีซั่น 2024/25

จากนั้นเวทีลีกสูงสุดได้เข้ามาเป็นบททดสอบใหญ่แก่ตัวของ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ บ้าง เมื่อ เดอะ บลูส์ ตัดสินใจปล่อยให้ทีม เดอะ แบ็กกี้ส์ ยืมใช้งาน 1 ซีซั่น ซึ่งแข้งผู้นี้ก็มาจารึกประตูแรกในพรีเมียร์ลีกได้กับเวสต์บรอมฯ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่อาจพาทีมอยู่รอดปลอดภัยในลีกบนได้

2021/22 เกือบเป็นปีที่กัลลาเกอร์จะได้ลงเล่นให้สิงห์บลูส์ชุดใหญ่ หลังความสำเร็จผ่านแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อยู่แล้ว ทว่าในเสี้ยววินาทีของการตัดสินใจ สโมสรเลือกให้เขาเก็บเลเวลในพรีเมียร์ลีกต่อกับ คริสตัล พาเลซ ภายใต้การคุมทีมของอดีตยอดกลางระดับแถวหน้าอย่าง ปาทริค วิเอร่า

ดูเหมือนว่าการตัดสินใจมาเล่นแบบยืมตัวที่ลอนดอนใต้ของคอเนอร์ จะให้ความรู้สึกเหมาะเหม็งอย่างไรอย่างนั้น เพราะที่ เซลเฮิร์สต์ พาร์ค เขาพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นกองกลางระดับแถวหน้าคนหนึ่งของลีก เป็นตัวหลักของทัพ ดิ อีเกิลส์ ดังคำชื่นชมของสื่ออย่าง The Telegraph ยกย่องว่ากัลลาเกอร์เป็นทั้ง "หนึ่งในแข้งพรสวรรค์ที่มีชีวิตชีวาที่สุดของพรีเมียร์ลีก" "เป็นผู้เล่นคนสำคัญของ ปาทริค วิเอรา" และ "โดดเด่นสุด ๆ กับบทบาทบ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์"

8 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์ จากการลงเล่นรวมทุกรายการ 39 เกม ในฐานะมิดฟิลด์ พ่วงด้วยสถิติมีส่วนกับประตูของพาเลซในพรีเมียร์ลีกถึง 22 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังช่วยทีมไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศของรายการเอฟเอ คัพ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ดาวเด่นผู้นี้ กลายเป็นแข้งยอดเยี่ยมแห่งปีของ คริสตัล พาเลซ

ยิ่งไปกว่านั้น นี่คือสัญญาณอันดีที่ได้ส่งให้เขา กลายมาเป็นสมาชิกสิงห์บลูส์ชุดใหญ่เต็มตัว ในซีซั่น 2022/23

 

2022-23 กับฤดูกาลที่ยุ่งเหยิง

"ผมเป็นแฟนบอลเชลซีมาทั้งชีวิต ครอบครัวของผมก็เช่นกัน เป็นฝันของผมที่จะได้เล่น (ให้เชลซี) ผมจะพยายามและประสบความสำเร็จในการเล่นฟุตบอลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และสร้างผลกระทบต่อเกมการแข่งขันยามที่ตัวเองได้โอกาสลงสนาม" คอเนอร์ กัลลาเกอร์ เปิดใจผ่านเว็บไซต์ทางการของสโมสร หลัง โธมัส ทูเคิ่ล ให้โอกาสเขามาสู่ทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัวในซีซั่น 2022/23

"ทุกคนล้วนแต่อยากลงเล่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และผมเองก็ยินดีที่จะทำงานหนักเพื่อให้ได้อยู่ในสนามให้มากที่สุด (เชลซี) มีนักเตะระดับโลกอยู่ในทีม มันชัดเจนว่าการเข้ามาเป็นตัวจริงเลยนั้นยาก แต่ผมรู้สึกได้ถึงความท้าทายที่รออยู่"

ฤดูกาล 2022-23 คือจุดออกสตาร์ตของ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ร่วมกับทีมเชลซีชุดใหญ่ในยุค โธมัส ทูเคิ่ล อย่างไรก็ตาม เพราะในขวบปีดังกล่าว สิงโตน้ำเงินครามมีการเปลี่ยนแปลงทีมขนานใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเข้ามาของกลุ่มทุนใหม่จากประเทศสหรัฐอเมริกา นำโดย ท็อดด์ โบห์ลี่ ที่เข้ามาบริหารงานฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเป็นหนแรก

การที่สิงห์บลูส์มีการปรับเปลี่ยนโฉมตั้งแต่เรื่องในสนามยันนอกสนาม ที่สุดแล้วก็ได้กลายเป็นจุดร่วมที่สโมสรเผชิญสถานการณ์ลองผิดลองถูกไปตลอดทั้งฤดูกาล 

ไม่ว่าจะทั้งการเปลี่ยนแปลงเก้าอี้กุนซือจากทูเคิ่ล สู่ แกรห์ม พอตเตอร์, บรูโน่ ซัลตอร์ และไปจบที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด ไปจนถึงเรื่องการบริหารจัดการภายในองค์กรเองที่ดูใหม่ไปเสียทั้งหมด ดังตัวอย่างการเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยกีฬาชั่วคราวของโบห์ลี่ร่วมหลายเดือน กว่าจะทำการแต่งตั้งคนทำงานในด้านนี้จริง ๆ อย่าง พอล วินสแตนลี่ย์ และ ลอเรนซ์ สจ็วร์ต เข้ามาในภายหลัง 

ตลอดจนการปรับกลยุทธ์ด้านการซื้อตัวนักเตะ โดยทุ่มเงินพร้อมมอบสัญญาระยะยาวเกินกว่าปกติให้กับแข้งอนาคตไกลหลายคน ดั่งสไตล์การซื้อตัวผู้เล่นแบบอเมริกันเกมส์ เช่น มิไคโล มูดริก เซ็นสัญญากินเวลาร่วม 8 ปี พร้อมค่าตัว 88 ล้านปอนด์ จนแนวทางนี้ได้เข้ามาท้าทายตลาดซื้อขายนักเตะโลก ก่อนที่สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า จะเข้ามาแก้ลำด้วยการออกกฎบังคับให้สามารถลงบัญชีแบ่งจ่ายการซื้อนักเตะได้สูงสุดเพียง 5 ปีเท่านั้น

แน่นอนว่าประเด็นทั้งหมดนี้เกี่ยวโยงกับปัจเจกบุคคลอย่าง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ เข้าเต็มเปา 

จริงอยู่ที่กัลลาเกอร์ได้ลงเล่นให้ทีมรวมทุกรายการถึง 45 เกม ทว่าเขายังไม่อาจเค้นฟอร์มการเล่นเหมือนสมัยที่เคยทำได้ดีในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ได้มากเท่าที่ควร หรือแม้แต่ความขยันที่มีในตัวเองเป็นทุนเดิม กัลลาเกอร์ก็ไม่อาจใช้จุดเด่นตรงนี้พลิกสถานการณ์สโมสรให้ดีขึ้นมาได้ 

เหตุผลสำคัญที่ทำให้กัลลาเกอร์เผชิญช่วงเวลาปีแรกที่เชลซีแบบไม่ชวนให้ประทับใจ คือการที่สโมสรเปลี่ยนแปลงกุนซือเป็นว่าเล่น เมื่อแท็คติกและแนวทางของหัวหน้าผู้ฝึกสอนแต่ละคนไม่เหมือนกัน เขาไม่มีเวลามากพอที่จะได้ซึมซับแนวทางของกุนซือทั้งสามคนแบบถนัดถนี่ ลงสนามในแต่ละเกมชนิดไปตามหน้าที่ ไม่ได้มีตำแหน่งการยืน กอปรกับจุดเด่นที่ชัดเจนภายใต้ระยะเวลาที่จำกัด 

กลายเป็นว่า ซีซั่นแรกในฐานะแข้งเชลซีชุดใหญ่ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ยังไม่อาจสร้างความแตกต่างใด ๆ ให้ทีมได้ ไม่ได้เป็นนักเตะตัวเลือกแรกของสโมสร ความขยันที่มีเป็นทุนเดิมยังไม่อาจชนะใจแฟน ๆ 

เช่นเดียวกัน ความโดดเด่นในฐานะแข้งสไตล์บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ ก็ยังไม่ได้ถูกขุดขึ้นมาเหมือนสมัยที่เคยทำได้ดีกับ คริสตัล พาเลซ

 

ของแท้ในยุคพอช

ก่อนเข้าฤดูกาล 2023/24 เชลซีทำการ "เปลี่ยนแปลง" โฉมทีมขนานใหญ่เพื่อกู้สถานการณ์หลังจบอันดับที่ 12 ในซีซั่นก่อน เป็นสถิติไม่น่าจำ เพราะทีมไม่อาจจบอันดับท็อป 10 ของตารางลีกเป็นฤดูกาลแรก นับแต่ซีซั่น 1995/96 เริ่มตั้งแต่การแต่งตั้ง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่มาคุมทัพ พร้อม ๆ กับทุ่มเงินคว้านักเตะหน้าใหม่มาทดแทนหน้าเก่าหลายคน 

หากมองภาพรวมในตลาดนักเตะรอบซัมเมอร์ 2023 ปรากฏว่าสโมสรใช้จ่ายเงินมากกว่า 434.5 ล้านปอนด์ เป็นทีมที่ใช้จ่ายเงินในการเสริมทัพนักเตะมากที่สุดในตลาดรอบดังกล่าว

ด้วยเม็ดเงินที่อัดแน่นกับการทุ่มเพื่อความสำเร็จครั้งใหม่นี้ ซึ่งรวมถึงการอิมพอร์ตเหล่านักเตะตำแหน่งกองกลางมาทดแทนการขาดหายไปของนักเตะชุดเดิมหลายคน นักเตะอย่าง เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช, รูเบน ลอฟตัส-ชีค ไปจนถึง เมสัน เมาท์ ถูกแทนที่ด้วย มอยเซส ไคเซโด้ นักเตะเจ้าของค่าตัวสถิติพรีเมียร์ลีก 115 ล้านปอนด์, อันเดรย์ ซานโตส, โรเมโอ ลาเวีย รวมไปถึงเลสลีย์ อูโกชุควู ฯลฯ

นอกจากนี้ เชลซียังมี เอนโซ่ เฟร์นานเดซ กองกลางดีกรีแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ที่เปลี่ยนมาสวมเสื้อเบอร์ 8 และได้รับการคาดเดาว่าจะเป็นหัวใจสำคัญของเชลซีไปอีกนาน 

แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ล้วนแต่ให้ภาพที่สดใหม่ ดูอนาคตไกลจากดีกรีที่แต่ละคนมีติดตัว ที่สำคัญ แฟน ๆ ล้วนแต่ตื่นเต้นไปกับแข้งหน้าใหม่มากกว่าของที่มีอยู่เดิม 

และหนึ่งในแข้งที่ไม่ได้ถูกคาดหวังมากเหมือนใคร ๆ ในแผงกลาง ก็คือเด็กสร้างสโมสรอย่าง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ 

อย่างไรก็ตาม แทนที่กัลลาเกอร์จะกลายเป็นมิดฟิลด์ตัวเลือกรองของสโมสรหากมองไปตามเนื้อผ้า แต่เขากลับพาตัวเองมาเป็นขุมกำลังหลักของทีมเสียอย่างนั้น เนื่องด้วยนักเตะป้ายแดงหลาย ๆ คนยังพลาดโอกาสกับ เดอะ บลูส์ ยังไม่อาจเก็บเกี่ยวโอกาสได้ทันที เช่น โรเมโอ ลาเวีย แข้งเจ้าของค่าตัว 58 ล้านปอนด์ มาพร้อมอาการบาดเจ็บติดตัว, อันเดรย์ ซานโตส ถูกปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวเพื่อเก็บเลเวล ส่วน เลสลีย์ อูโกชุควู ยังต้องใช้เวลาอีกช่วงหนึ่งกับการปรับตัวในลีกอังกฤษ 

ดังนั้น หวยจึงมาออกที่ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ กับการคว้าโอกาสเป็นผู้เล่นแผงมิดฟิลด์ในยุคพอช อยู่ผนึกกำลังกับเอนโซและไคเซโด้ ซึ่งผลลัพธ์กลับออกมาได้ดีเกินกว่าที่หลายคนคาดคิด

โปเช็ตติโน่ ใช้ความสามารถอันโดดเด่นของกัลลาเกอร์ โดยเฉพาะเรื่องการแย่งบอล ความขยันวิ่งไม่มีหมด มาใช้กับระบบเพรสซิ่งที่เชลซี กุนซืออาร์เจนไตน์มักจะวางให้ดาวเตะดีกรีทีมชาติอังกฤษลงเล่นเป็นสามประสานแดนกลางพร้อม ๆ เอนโซ่และ ไคเซโด้ โดยกัลลาเกอร์จะยืนอยู่หลังกองหน้า คอยผนึกเกมรุก เช่นเดียวกับใช้ความขยันช่วยสองคู่กลางให้ทำงานง่ายขึ้น

มากกว่านั้น เขายังได้รับเกียรติยศสำคัญร่วมกับทีมที่ให้โอกาสมาตั้งแต่สมัยเป็นดาวรุ่ง เมื่อโปเช็ตติโน่วางใจให้เขาเป็นกัปตันทีมเบอร์สาม ต่อจาก รีซ เจมส์ และ เบน ชิลเวลล์ แน่นอนว่าในช่วงเวลาที่สองฟูลแบ็กไม่ได้ลงเล่น หากไม่เจ็บไม่แบน คอเนอร์ กัลลาเกอร์ คือแข้งที่มักจะเดินนำเพื่อนร่วมทีมลงสู่สนามอยู่เสมอ

ผลลัพธ์ของการได้ลงเล่นในตำแหน่งที่เหมาะเหม็ง กอปรกับการได้รับความรับผิดชอบในฐานะกัปตันเชลซี ทั้งหมดหล่อหลอมให้เจ้าตัวกลายเป็นแข้งที่ทำผลงานประทับใจแฟนบอลมากที่สุดคนหนึ่งในฤดูกาลนี้ 

นอกจากนี้แล้ว ผลงานของเขายังตอกกลับนักวิจารณ์หลาย ๆ คนได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวไม่ได้มีดีแค่ลูกขยัน ยกตัวอย่างภาพรวมเรื่องสถิติการครอบครองบอล นับเฉพาะในพรีเมียร์ลีก หลังเกมที่ เชลซี อัด คริสตัล พาเลซ 3-1 ซึ่งเขาทำสองประตูในนัดดังกล่าว ปรากฏว่ากัลลาเกอร์มีสถิติจ่ายบอลสูงสุดถึง 61.1 ครั้งต่อ 90 นาที คิดเป็นอัตราการสำเร็จถึง 88.9 เปอร์เซ็นต์

"ใช่ ผมชอบสิ่งนี้ (ความท้าทายในอาชีพค้าแข้ง)" Goal.com เผยบทสัมภาษณ์ของกัลลาเกอร์ "ผมคิดว่าส่วนใหญ่ในอาชีพของผม ผมมีจุดที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง และผมชอบความท้าทาย ผมต้องการความท้าทายและเป้าหมายใหม่ ๆ อยู่เสมอ" 

"ดังนั้นผมแค่อยากสานต่อสิ่งที่ผมทำอยู่ตอนนี้และช่วยให้เชลซีทะยานขึ้นไป ผู้จัดการทีมเลือกทีมของเขาเองและเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เขาเข้าใจเกมการเล่นของผม เขาเข้าใจสิ่งที่ผมพร้อมจะนำมาสู่ทีมได้ และตอนนี้ผมคิดว่ามันได้ผลจริง ๆ ก็หวังว่าเราจะทำผลงานให้ดีขึ้น เท่านั้นเลย"

อนึ่ง ต่อให้ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ จะกลายเป็นตัวหลักของทีมในช่วงเวลานี้มากเพียงใด ทว่าเรื่องสัญญาฉบับปัจจุบันที่เขาได้เซ็นกับสโมสร ยังคงอยู่ในสถานะแช่แข็ง มันยังคงเป็นอายุสัญญาเดิมที่เขาเซ็นไว้ตั้งแต่สมัยเสร็จสิ้นภารกิจยืมตัวที่สวอนซี ซึ่งจะหมดอายุลงหลังจบฤดูกาล 2024/25

 

สัญญาเมื่อสายันห์ ?

ต่อให้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จะให้โอกาสและวางใจในการส่ง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ เป็นกำลังสำคัญของเชลซีในยุคการทำทีมของเขามากเพียงใด แต่อนาคตเรื่องสัญญาของสตาร์เบอร์ 23 ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถาม 

แม้ว่าพอชจะยืนยันมาโดยตลอดว่าเชลซีจำเป็นต้องมีนักเตะประเภท คอเนอร์ กัลลาเกอร์ อยู่ในทีม หากไม่นับจุดดีที่ทั้งสองหากันจนเจอในสนามแล้ว เหตุผลสำคัญอีกข้อก็เพราะ กัลลาเกอร์ คือนักเตะผลผลิตขนานแท้ของสโมสร แต่ในอีกแง่หนึ่ง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็ยอมรับว่าการจะพิจารณาใด ๆ ถึงเรื่องอนาคต มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจจากบอร์ดบริหารเป็นสำคัญ 

เรื่องนี้มีประเด็นเชื่อมโยงถึง "ความล่าช้า" ในการต่อสัญญาอยู่หลายประการ เช่น ในฐานะแข้งผลผลิตจากศูนย์ฝึกเยาวชน หากเชลซีตัดสินใจขายกัลลาเกอร์ไปในราคาที่เหมาะสมที่สุด สโมสรอาจทำกำไรเข้ากระเป๋าไปเต็ม ๆ ไปจนถึงความเข้มงวดของกฎการเงินของหน่วยงานลูกหนังหลาย ๆ หน่วย ซึ่งอาจทำให้เชลซีต้องพิจารณาทุก ๆ การซื้อขายนักเตะให้ถี่ถ้วนขึ้น มิเช่นนั้นอาจโดนปรับเงิน, ตัดแต้ม หรือถูกแบนจากการแข่งขันได้

"มันเป็นการตัดสินใจระหว่างผู้เล่นและสโมสรว่าจะออกมาในทิศทางไหน" โปเช็ตติโน่ ยอมรับในช่วงก่อนตลาดนักเตะเดือนมกราคม 2024 จะอุบัติขึ้น

"เขาอยู่ในช่วงได้ลงเป็นตัวจริงเกือบจะทุกเกม และเป็นหนึ่งในกัปตันของผม สำหรับผมนะ เขาเป็นนักเตะประเภทที่สโมสรควรมีสักคนในทีม เขาสำคัญมาก ๆ เพราะค่านิยมของเชลซีด้วย เขามาจากอคาเดมี่ เขารักสโมสรแห่งนี้ และเขามีความมุ่งมั่นที่จะทำให้คุณได้เห็นในสนาม - เขาวิ่ง ลงเล่น และต่อสู้ ทำทุกวิถีทางเพื่อชัยชนะ เขาเป็นนักเตะคนสำคัญที่โค้ชอยากให้มีอยู่ในทีม"

"เขาเป็นผู้เล่นที่มีความมุ่งมั่นต่อทีมเป็นอย่างมาก พยายามชดเชยส่วนที่หายไปในทุก ๆ สถานการณ์ ทั้งในสถานการณ์รุกและเกมรับ" กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ ย้ำต่อหลังสิ้นสุดตลาดนักเตะเดือนมกราคม 2024 หลังถูกถามถึงความสำคัญของคอนอร์ กัลลาเกอร์ที่มีต่อเชลซี 

"มันประเมินค่าไม่ได้เลย กับการที่เรามีนักเตะแบบเขา"

อนึ่ง ในระหว่างเริ่มต้นฤดูกาล 2023/24 ตลอดจนช่วงตลาดนักเตะรอบฤดูหนาว (มกราคม 2024) คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ตกเป็นข่าวน้อยใหญ่ว่ามีหลาย ๆ ทีมในพรีเมียร์ลีกแสดงความสนใจดึงไปร่วมทัพ ไล่ตั้งแต่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่สนใจมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2023 

ในรายของทีมขุนค้อน มีการยื่นข้อเสนอ 40 ล้านปอนด์ แต่โดนปฏิเสธไป ส่วนไก่เดือยทอง ว่ากันว่าที่เชลซีบอกปัด เพราะพวกเขายื่นข้อเสนอมาน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

เช่นเดียวกับ เอฟเวอร์ตัน ที่พร้อมควักเงินถึง 45 ล้านปอนด์ในเดือนมกราคม 2024 แต่รายงานจากสื่อหลาย ๆ แห่งว่านอกจากค่าตัวจะไม่สอดรับกับที่เชลซีตั้งไว้ที่ราว 50 ล้านปอนด์แล้ว ยังมีรายงานเป็นเสียงเดียวกันว่ากัลลาเกอร์ไม่ได้มีแพชชั่นในการย้ายไปเล่นให้ทีมที่ต้องมาลุ้นหนีตกชั้น

แม้จะเป็นสถานการณ์ที่เสมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย เชลซียังไม่ตกลงที่จะขายกัลลาเกอร์ออกไป ขณะที่เรื่องสัญญาใหม่ของห้องเครื่องชาวอังกฤษกับทีมก็ยังคงถูกแช่แข็ง 

กระนั้น แฟนคลับ เดอะ บลูส์ ที่สนับสนุนและอยากเห็นกัลลาเกอร์ได้สัญญาใหม่กับสโมสรคงเบาใจกันได้ไม่น้อย เพราะเจ้าตัวยืนกรานอยู่เสมอว่าอยากจะอยู่สวมเสื้อสีน้ำเงินต่อหน้าแฟนบอลที่เดอะ บริดจ์ ต่อไป

"ผมมั่นใจว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ทุกคนรู้ว่าเชลซีคือสโมสรของผม และผมก็ชอบลงเล่นเพื่อพวกเขา" คอเนอร์ กัลลาเกอร์ เผยกับ The Telegraph

เช่นเดียวกับสื่อสายวิเคราะห์หลากสำนักก็บอกเป็นทางเดียวกันด้วยว่าการเจรจากันระหว่างนักเตะกับสโมสร เป็นไปในลักษณะ "เปิดกว้างและจริงใจ" ดังตัวอย่างบทวิเคราะห์จาก เลียม ทูว์เมย์ นักข่าวของ The Athletic

"บทสนทนาระหว่างตัวแทนของนักเตะวัย 24 ปีกับผู้อำนวยการร่วมกีฬาของเชลซี พอล วินสแตนลี่ย์ ยังคงเปิดกว้างและจริงใจ ไม่มีความขมขื่นดั่งเมฆดำที่ลอยอยู่บนฟ้าเหมือนอดีตเพื่อนร่วมทีมทั้งชุดใหญ่และอคาเดมี่ อย่าง เมสัน เมาท์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว" 

"และตราบใดที่ยังคงเป็นกรณีนี้ ก็ยังมีโอกาสสำคัญที่สโมสรจะบรรลุข้อตกลงกับกัลลาเกอร์เพื่อขยายสัญญาของเขา เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวไปสู่ผลลัพธ์นั้น และยังไม่มีข้อเสนอใหม่บนโต๊ะให้เขาพิจารณา" 

อาจกล่าวได้ว่า คอเนอร์ กัลลาเกอร์ อาศัยความมุ่งมั่นและความสามารถจนพาตัวเองให้กลายเป็นนักเตะแกนหลักของเชลซีในยุคของกุนซือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และพิชิตในแฟนบอลเดอะ บลูส์ไปแล้ว

และสำหรับตัวเขาเอง มันคงจะดียิ่งกว่านี้ หากได้บรรลุความตั้งใจในอีกทางหนึ่ง นั่นคือสัญญาใหม่ร่วมกับสโมสรที่เขารักและเชียร์มาตั้งแต่เด็ก 

 

แหล่งอ้างอิง

https://theathletic.com/5274206/2024/02/15/conor-gallagher-chelsea-contract/ 
https://www.telegraph.co.uk/football/2024/01/08/mauricio-pochettino-conor-gallagher-chelsea-transfer-news/ 
https://www.telegraph.co.uk/football/2023/11/14/conor-gallagher-chelsea-england-euro-2024-pochettino/ 
https://www.bbc.co.uk/sport/football/62158217 
https://www.espn.com/soccer/story/_/id/39160121/why-chelsea-afford-keep-conor-gallagher-let-go 
https://www.goal.com/en-ke/news/conor-gallagher-chelsea-sell-battling-place-stamford-bridge-transfer/bltde4898331a21b25a 

Author

พชรพล เกตุจินากูล

แฟนคลับเชลซี ติดตามฟุตบอลเอเชีย ไก่ทอดและกิมจิเลิฟเวอร์

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

อภิสิทธิ์ โชติพิบูลย์ทรัพย์

Art Director ผู้รับเหมางานภาพกราฟิกหน้าปกบทความทุกชิ้น