Feature

มุมมองความรักจาก ซน ฮึง มิน : ยอดนักเตะผู้ไม่เคยมีวันวาเลนไทน์ | Main Stand

ตั้งแต่ฮอร์โมนพุ่งพล่านเรื่องของความรัก ความชอบ ก็กลายเป็นเรื่องของวัยรุ่นเสมอ ไม่ว่าจะคุณจะเกิดที่ไหนคุณไม่สามารถต่อต้านเรื่องนี้ได้ เพราะมันคือธรรมชาติของมนุษย์อย่างแท้จริง

 


อย่างไรก็ตาม การที่ใครสักคนจะ "กด" ความรู้สึกเหล่านี้เอาไว้ได้ นั่นก็หมายความว่าเขาต้องมีเป้าหมายที่ใหญ่มาก ๆ รออยู่ในอนาคต และมันจะเป็นเป้าหมายที่ใหญ่มาก ๆ เกินกว่าที่คนอื่นจะจินตนาการถึง และไม่แคล้วจะถูกมองว่า "บ้า"

นี่คือเรื่องราวของความรู้สึกพื้นฐานของมนุษย์นั่นคือ "ความรัก" ของ ซน ฮึง มิน นักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ทวีปเอเชีย ... ชายผู้ไม่เคยรู้จักวันวาเลนไทน์

ติดตามเรื่องราวของเขาที่นี่

 

ผู้ไม่มีเวลาให้ความรัก

"เมื่อคุณมีฝันที่ใหญ่กว่าคนทั่วไป .. คุณต้องทุ่มมากกว่าพวกเขา และทำในสิ่งที่พวกเขาจิตนาการไม่ถึง ยิ่งคุณทำตัวให้เป็นสุดยอดและดูจริงสำหรับแฟน ๆ เมื่อไหร่ คุณจะเป็นคนที่เหนือความจริงกับพวกเขามากเท่านั้น" สมาชิกของ เดอะ บีทเทิล พูดประโยคนี้กับ มูฮัมหมัด อาลี ตำนานนักชกเฮฟวี่เวทเจ้าของฉายา "แชมป์มหาชน" ผู้ล่วงลับ กล่าวไว้แบบนั้น

ประโยคนี้แสดงให้เห็นถึงการเสียสละในสิ่งที่ยากยิ่ง แม้กระทั่งเรื่องของความรัก ซึ่งเรื่องนี้ ซน ฮึง มิน รู้ดียิ่งกว่าใคร

การเป็นชาวตะวันออกที่เป็นสุดยอดผู้เล่นอันเอกอุภายใต้กีฬาที่ชาติตะวันตกเป็นมหาอำนาจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ... ด้วยเหตุนี้ ซน ฮึง มิน จึงต้องทุ่มทั้งชีวิต โดยการเริ่มต้นของเขาเริ่มต้นแบบไม่เต็มใจด้วยซ้ำ

อย่างที่ทุกคนรู้กัน ซน อึง จอง พ่อของเขาเอาความฝันตัวเองมาใส่ให้กับลูกชาย 2 คน ฝันที่ว่าคือการเป็นนักเตะอาชีพที่ได้ค้าแข้งในยุโรป ซึ่งแน่นอนว่าการฝึกสอนแบบเกาหลีใต้ หลายคนน่าจะเคยได้เห็นกันในหนังหรือ ซีรี่ส์เกาหลีมาไม่มากก็น้อย อารมณ์ประมาณว่าปากว่า มือถึง เถียงตบ สลบก็เอาน้ำสาดลุกขึ้นมาสอนใหม่ ซึ่ง ซน ฮึง มิน ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยตัวเองบ่อยครั้งว่าพ่อของเขาโหดขนาดไหน

อย่างไรก็ตามสิ่งที่หลายคนไม่รู้คือเรื่องนี้ "ตบมือข้างเดียวไม่มีทางดัง" ซน อึง จอง ได้สอนบทเรียนทั้งหมดแก่ ซน ฮึง มิน คนเดียว แต่มีการสอนลูกชายของเขาอีกคนที่เป็นคนโตที่ชื่อ ซน ฮึง ยุน ด้วย ซึ่งตัวของคนพี่นั้นยอมแพ้สำหรับเรื่องนี้ เพราะไม่สามารถรับมือกับความหนักหน่วงและเหนื่อยแบบน้ำตาเป็นเลือดแบบนี้ ด้วยความเป็นพี่เขาโดนดุมากกว่าเป็นพิเศษ

"ผมมักจะเถียงกับพ่อบ่อย ๆ เลยโดนดุบ่อยกว่าใคร แต่ ฮึงมิน มันร้าย หมอนี่ชอบแกล้งป่วยบ้างอ้างอะไรไปเรื่อยบ้าง เลยไม่ค่อยโดนดุ ผมมันลูกทุ่งไม่มีมารยา ผมนี่แหละเลยรับมือรับแข้งเป็นส่วนใหญ่" ฮึง ยุน เล่าย้อนความหลังจากที่น้องชายเขาประสบความสำเร็จแล้ว

ฮึง ยุน เล่าแบบเป็นเรื่องตลก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เขายอมแพ้กับการสอนของพ่อ ขอเลือกใช้ชีวิตธรรมดา โดยมีฟุตบอลเป็นส่วนประกอบหนึ่งเท่านั้น แต่สำหรับน้องชายอย่าง ซน ฮึง มิน ที่บอกว่าแกล้งป่วย แกล้งไม่สบาย กลับเป็นคนที่แน่วแน่ พร้อมลุยงานหนักต่อแม้พ่อจะดุแค่ไหนก็ตาม จะโดนหนักแค่ไหนก็ไม่ยอมล้มเลิก นั่นคือความแน่วแน่ที่เหลือเชื่อ ซน ฮึง มิน ไม่ใช่มีฟุตบอลเป็นส่วนประกอบของชีวิต แต่มีชีวิตเพื่อฟุตบอล และนั่นเท่ากับว่าเขาได้หันหลังให้กับทุกอย่าง

ในวัยเด็กเขาหันหลังให้กับการเล่นสนุกกับเพื่อน การนอนโซฟากินน้ำอัดลมและเล่นวีดีโอเกม และเมื่อเขาเป็นวัยรุ่น... ความรักก็ไม่ใช่ข้อแม้ เขาพร้อมเต็มใจหันหลังให้กับมันเช่นกัน

 

เพราะความรักอยู่ที่การตีความ

ซน ฮึง มิน ผ่านเรื่องราวบททอดสอบหนัก ๆ มาเยอะกว่าจะถึงวันนี้ ไม่เคยมีนักเตะเอเชียคนไหนสร้างแรงกระเพื่อมให้โลกฟุตบอลมากกว่าเขาอีกแล้ว แน่นอนว่าความรักเชิงรัก ๆ ใคร่ ๆ เป็นเรื่องที่ต้องเสียสละ แต่ที่น่าซูฮกหัวใจของเขาเขา ซน ผ่านช่วงเวลาในการต่อสู้กับฮอร์โมนที่พุ่งพล่านของตัวเองได้อย่างเหลือเชื่อ ... เขาแน่วแน่จนคนธรรมดา มองว่ามีเส้นบาง ๆ กั้นอยู่เส้นเดียว ถ้าเกินเส้นนี้ไป จะใช้คำว่าบ้าก็คงไม่ผิดนัก

ซน ฮึง มิน โดนพ่อประกบติดตั้งแต่จำความได้ พ่อของเขาทำถึงขั้นเข้ามาเป็นโค้ชให้กับทีมโรงเรียนสมัยที่เขายังเป็นนักเรียน และมอบบทเรียนที่จำฝังใจมากมายสารพัด แต่อย่างที่บอก ซน ฮึง มิน คือคนประสานมือกับพ่อของเขาให้การตบมือครั้งนี้มีเสียงดังขึ้นมา ไม่ว่าพ่อจะพูดอะไร เขารับฟังและปฎิบัติตาม เรียกได้ว่าเป็นโรลโมเดลการเลี้ยงดูของชาว เอเชีย ที่ถูกสอนให้เชื่อ มากกว่าสอนให้ตั้งคำถาม จะดีหรือแย่ไม่สามารถตัดสินได้ แต่ถ้าถามคน
ที่รับบทโดนเข้มงวด ฮึง มิน บอกว่า "เขาเต็มใจยอมรับโดยดี"

"พ่อคือโค้ชที่เข้มงวดและน่ากลัว ในสังคมเกาหลีมีประโยคหนึ่งที่บอกว่าคำพูดของพ่อนั้นศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่ากฎหมาย หน้าที่ของลูกชายคือต้องปฏิบัติตาม ... ผมรับได้ เพราะผมรู้ว่าพ่อทำทุกอย่างก็เพื่อผม ถ้าไม่มีพ่อผมคงมาถึงจุดนี้ไม่ได้" ซน ว่าแบบนั้น

เมื่อ ซน เติบโตเป็นวัยรุ่น เขาเองก็ไม่ได้ใช้ช่วงเวลาวัยรุ่นเหมือนกับเด็กทั่วไป ในช่วงเวลาทีนเอจ เขาเดินสายลงแข่งขัน และคัดตัวต่าง ๆ หลายที่ จนกระทั่งได้ทุนจากสมาคมฟุตบอลเยอรมัน ที่เลือกนักเตะเกาหลีใต้ 3 คนไปฝึกวิชาลูกหนังที่เยอรมัน ซึ่งการออกประเทศครั้งนั้น ซน ฮึง มิน ไม่ได้ถอยหลังกลับมาเล่นในเอเชียอีกเลย

ความรักแบบปั๊ปปี้เลิฟโดนเขี่ยทิ้งจากสารระบบ ยิ่งการคิดจะมีครอบครัวยิ่งโดนตัดทิ้งทันทีที่แวบเข้ามาในสมอง ... ความรักของเขาแสดงออกผ่านความทุ่มเทกับฟุตบอลเท่านั้น ไม่มีฝันใดที่จะแทรกแซงความจริงข้อนี้ได้

"พ่อพูดแบบนี้เสมอ และผมเองก็เห็นด้วย ... เมื่อคุณแต่งงานความสำคัญอันดับ 1 คือครอบครัว ภรรยา และลูก ๆ ฟุตบอลจะถูกจัดเรียงมาเป็นอันดับสุดท้ายโดยอัตโนมัติ"

"ผมไม่คิดจะแต่งงาน เพราะผมอยากแน่ใจว่าผมเล่นฟุตบอลอยู่ในระดับสูงสุดเสมอ มันคือการเสียสละ เพราะอาชีพนักฟุตบอลไม่เกิน 34 ปี ทุกอย่างก็จะกลายเป็นอดีตเมื่อคุณแขวนสตั๊ด นั่นเท่ากับว่าคุณยังมีชีวิตที่ยืนยาวมากพอที่จะสร้างครอบครัวของตัวเองได้" ซน กล่าว

การถูกเลี้ยงดูมาด้วยวิธีที่แตกต่างทำให้แนวคิดของ ซน ฮึง มิน แน่วแน่ และไม่เหมือนกับนักเตะระดับโลกคนไหน ๆ เพราะปกติแล้วโค้ชยุโรป มักจะอยากให้ลูกทีมของเขาแต่งงานมีครอบครัวเร็ว ๆ เพื่อให้มีความรับผิดชอบ เอาเวลาไปใช้กับอะไรที่เกิดประโยชน์มากกว่าการออกไปปาร์ตี้แบบชายโสด แต่สำหรับ ซน เขาคิดว่ามันไม่จำเป็น เพราะเขาไม่ใช่คนที่ชอบออกไปปาร์ตี้และใช้ชีวิตนอกกรอบของความเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องให้ครอบครัวมาช่วยสร้างวินัย ในแบบที่นักเตะยุโรปส่วนใหญ่เป็น

อ่านมาถึงตรงนี้ ซน ฮึง มิน เหมือนกับหุ่นยนต์ ที่ถูกป้อนโปรเเกรมการเป็นยอดนักเตะเอาไว้ ถ้าภารกิจนี้ไม่สำเร็จ เขาไม่มีสิทธิ์จะมีความรู้สึกและเรื่องอื่น ๆ นอกสนามมาเกี่ยวข้องได้ ... อย่างไรก็ตามแม้ไม่เคยมีแฟน หรือมีความรักฉันชู้สาว แต่ซน ฮึง มิน บอกว่าเขาเป็นคนรู้จักความรักดีกว่าใคร

 

รักคือความใส่ใจ

ไม่ใช่ว่าไม่เคยรักใคร ซน ฮึง มิน เคยมีข่าวว่าแอบคบกับ ยู โซ ยอง (Yoo So-young) นักแสดงชาวเกาหลีใต้ ที่เป็นรุ่นพี่เขา 5 ปี แต่ไม่เคยมีรูปหลุดแบบจะ ๆ จัง ๆ ออกมาเลยสักครั้ง ว่ากันว่าเป็นความลับที่ถูกปกปิดตามความปรารถนาของ ฮึง มิน

ความรักแบบนี้ดูเหมือนว่าจะสร้างความลำบากให้ให้ทั้งสองฝ่าย สุดท้ายไม่นานนักทั้งคู่ก็เลิกกัน สำนักข่าวกอสซิปหลายเจ้าของเกาหลีใต้ระบุว่า "ซน ฮึง มิน มีชื่อเสียงในเรื่องการปฎิบัติตัวตามความปรารถนาของพ่อ เขาจะไม่ออกเดตถ้าพ่อของเขาไม่อนุญาต ซึ่งพ่อของเขามุ่งเน้นไปที่การเป็นยอดนักเตะมากกว่า"

หลังมีข่าวว่าไม่ได้ไปต่อกับ ยู โซ ยอง เขามีข่าวกอสซิปเล็ก ๆ กับ บัง มิน อาห์ (Bang Min-ah) แต่ก็ไม่มีอะไรมากกว่าพาดหัวในหน้าข่าวบันเทิง

กับเรื่องพวกนี้ ซน ฮึง มิน พูดคำว่ารักได้ไม่เต็มปาก และเเทบไม่มีคำ ๆ นี้หลุดจากปากเขา แต่กับเรื่องฟุตบอลนั้น คุณจะได้ยินคำว่ารักจากเขาแทบทุกครั้งที่ไมค์จ่อปากสัมภาษณ์ ซน มักจะพูดถึงเรื่องความรักในฟุตบอล ความภูมิใจที่เล่นฟุตบอล เป็นตัวแทนของประเทศ ชาวเอเชีย และเป็นตัวแทนของแฟนของสโมสรที่เขารับใช้

คุณมักจะได้ยินเรื่องราวความรักของเขาที่มีต่อฟุตบอลเสมอ ซน ฮึง มิน จริงจังกับเรื่องฟุตบอล และใส่ใจในการทำงานกับคนรอบข้าง เขาเป็นไนซ์กาย เพราะเขาต้องการสร้างบรรยากาศดี ๆ ในการทำงานซึ่งสิ่งเหล่านี้มีผลต่อชัยชนะในแต่ละเกม กลุ่มนักเตะสเปอร์ส ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ซน ฮึง มิน คือคนที่เอาใจเขามาใส่ใจเราเสมอ โดยเฉพาะวันที่เขาเป็นกัปตันทีม เขาเข้าถึงทุกคน ไถ่ถามปัญหา สารทุกข์สุกดิบ รู้จักครอบครัวของเพื่อน ๆ ร่วมทีม ... ดูเหมือนว่าฟุตบอลจะเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่มากพอที่จะทำให้เขาเสียสละได้แม้กระทั่งเวลาอันมีค่าของนักเตะที่เวลาเป็นเงินเป็นทองอย่างเขา

คุณจะเปลี่ยนเขาได้อย่างไร ในเมื่อเขารู้จักฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก และรักมันมาตั้งแต่วันนั้น คนที่ประเภทหลับตาก็ยังฝันถึงการยิงประตู ... นี่คือมนุษย์แปลกที่คนธรรมดาไม่มีทางจินตนาการถึง แต่นั่นแหละ นั่นคือความรักในแบบที่ ซน ฮึง มิน เลือกด้วยตัวเอง

"ผมเกิดมาและตกหลุมรักฟุตบอล ... และยังคงรักจนถึงตอนนี้" ซน ฮึง มิน กล่าวถึงมุมมองเรื่องความรักของเขา

"ผมคิดถึงเเต่เรื่องของฟุตบอล ถ้าความรักหมายถึงความสุข ผมจะบอกว่าผมเป็นนักเตะตำแหน่งตัวรุ ที่มีความสุขจากการยิงประตู ผมมีความสุขในการสร้างโอกาสยิงให้กับทีม ผมมีความสุขที่ทีมเอาชนะนะ บอกตามตรงถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ผมมีความสุข ผมคงมาอยู่จุดนี้ไม่ได้แน่"

"ผมรักฟุตบอลแม้ฟุตบอลอาจจะเคยสร้างเวลาที่ยากลำบากให้กับผมบ้าง ... แต่ที่แหละความรัก มันคือเหตุผลที่ผมยังอยู่กับมัน ณ จุดนี้" เขากล่าวทิ้งท้าย

เราย้อนสถิติการอัพเดตสเตตัสต่าง ๆ ในโซเชี่ยลมีเดียของเขาในช่วงเทศกาลแห่งความรัก "วาเลนไทน์" ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่มีปีไหนที่เขาฉลองบนโต๊ะดินเนอร์สุดหรู หรือกุหลาบก้อนโต มีเพียงแค่รูปครอบครัว รูปของเขาในสนามฟุตบอลไม่ว่าจะสนามซ้อมหรือสนามจริงเท่านั้น

หากวาเลนไทน์คือวันแห่งความรัก ซน ฮึง มิน ได้ใช้ชีวิตทุกวันเหมือนกับวันวาเลนไทน์มาเสมอ ... เครื่องจักรนักฟุตบอลทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มใจและภูมิใจ โดยมีเชื้อเพลิงเป็นความรัก ... นี่คือวาเลนไทน์ในแบบของเขา ที่สอนให้เรารู้ว่าความรักมีหลายรูปแบบ... ใส่ใจสิ่งไหน จงทุ่มเท ใช้เวลาและจริงใจกับสิ่งนั้น ปลายทางจะออกมาดีอย่างแน่นอน"

 

แหล่งอ้างอิง : 

https://www.sportskeeda.com/football/son-heung-min-girlfriend
https://www.telegraph.co.uk/football/2019/02/14/valentine-son-heung-min-tottenham-forward-radiates-joy/
https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-11225297/Explosion-relief-spoke-deep-love-Son-Heung-min-Tottenham.html
https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-11020919/Son-Heung-min-admits-Tottenham-feeling-love-fans-South-Korea.html
https://www.theguardian.com/football/2019/mar/08/son-heung-min-tottenham-spurs-interview-marriage-wait

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ