Feature

หมดยุคร็อกแอนด์โรล ? ทำไม NFL ไม่เลือกศิลปินเพลงร็อก มาขย่มเวทีฮาล์ฟไทม์โชว์ในยุคหลัง | Main Stand

“ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์” คือการแสดงช่วงพักครึ่งครั้งสำคัญของศึกอเมริกันฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศ “ซูเปอร์ โบวล์” ที่ NFL จะเชิญศิลปินชื่อดังระดับโลก ขึ้นเวทีมามอบความบันเทิงให้กับท่านผู้ชม โดยเวทีแห่งนี้ ต้อนรับศิลปินบิ๊กเนมมาแล้วมากมายทั้ง ไมเคิล แจ็คสัน, มาดอนน่า, บรูโน่ มาร์ส, เจนนิเฟอร์ โลเปซ, บียอนเซ่, เคที่ เพอร์รี่, เลดี้ กาก้า, จัสติน ทิมเบอร์เลค, Coldplay ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นศิลปินเพลงป๊อป ที่มีเพลงฮิตติดชาร์ต และเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

 


ทว่าการที่ศิลปินเพลงป๊อป หรือฮิปฮอป ได้เป็นเฮดไลน์ ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์ บ่อยครั้งในยุคหลัง ทำให้ฝั่งคนฟังเพลงร็อก เกิดอาการน้อยใจอยู่เสมอ พลางตั้งคำถามว่าทำไมศิลปินร็อกที่พวกเขาชื่นชอบ ถึงไม่ถูกเลือกให้ขึ้นแสดงช่วงพักครึ่งของการแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองลุงแซมบ้าง ทั้งที่แต่ละวงก็มีศักดิ์ศรี ชื่อเสียง และเพลงฮิตคับคั่งไม่แพ้ศิลปินเพลงป๊อป บางวงเป็นถึงศิลปินเพลงร็อกระดับตำนาน แต่ก็ไม่อยู่ในสายตาของ NFL และสปอนเซอร์สักครั้ง

เพราะอะไรศิลปินเพลงร็อกถึงไม่ถูกเลือกขึ้นเป็นเฮดไลน์ หรือศิลปินหลักในช่วง ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์ ในยุคหลัง ขอชวนชาวร็อกมาหาคำตอบกับ Main Stand ได้ที่นี่..

 

ย้อนอดีต “วงร็อก” เขย่าสเตเดียม

นับตั้งแต่ NFL เลิกใช้บริการวงดุริยางค์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ แล้วดึงศิลปินในวงการเพลงมาแสดงช่วงพักครึ่ง ยุค 90 จากนั้นมา แฟนอเมริกันฟุตบอล ก็ได้เพลิดเพลินกับการแสดงและโชว์ของศิลปินมืออาชีพกันต่อเนื่อง ไล่ตั้งแต่ New Kids on the Block วงบอยแบนด์ระดับตำนาน ศิลปินเบอร์แรกที่ขึ้นแสดงช่วงพักครึ่งปี 1991 ก่อนที่ ไมเคิล แจ็คสัน ราชาเพลงป๊อปผู้ยิ่งใหญ่ จะขึ้นขย่มสนาม โรส โบว์ล ปี 1993 พร้อมการแสดงระดับตำนานที่ทุกคนไม่มีวันลืม

หลังจาก ไมเคิล แจ็คสัน สร้างตำนาน ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์ ในปี 1993 แล้วได้รับกระแสตอบรับอันยอดเยี่ยม ตั้งแต่นั้นมา NFL ก็ได้โอกาสปูพรมต้อนรับศิลปินชื่อดังมากมายมาขึ้นเวทีแสดงช่วงพักครึ่ง ซูเปอร์ โบวล์ ทุกปีเช่น ไดอาน่า รอสส์, Boyz II Men, สตีวี่ วอนเดอร์, มาดอนน่า, ฟิล คอลลินส์, แชเนีย ทเวน, เจเน็ต แจ็คสัน, แบล็ค อาย พีส์, พรินซ์, “เดอะ บอส” บรูซ สปริงสทีน, บรูโน่ มาร์ส, เลดี้กาก้า, เคที่ เพอร์รี่, บียอนเซ่ ฯลฯ เป็นต้น

ขณะที่ศิลปินเพลงร็อกหลายเบอร์ ก็ได้รับเลือกขึ้นมาเป็นเฮดไลน์ของช่วงพักครึ่ง ซูเปอร์ โบวล์ กันมากหน้าหลายตาอย่าง Aerosmith (2001), U2 (2002), No Doubt (2003), พอล แม็คคาร์ตนีย์ อดีตสี่เต่าทอง The Beatles (2005), “หินกลิ้ง” The Rolling Stones (2006) และ The Who (2010) ก่อนเป็นเหล่าศิลปินเพลงป๊อป, ฮิปฮอป และ อาร์แอนด์บี ผลัดเปลี่ยนกันมาเอนเตอร์เทนผู้ชมทั้งในและนอกสนามในยุคปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อโน๊ตตัวสุดท้ายของเพลง Won't Get Fooled Again เพลงฮิตของวง The Who ถูกบรรเลงที่สนาม ซัน ไลฟ์ สเตเดียม ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ปี 2010 กลับกลายเป็นว่าพวกเขาคือวงร็อกวงสุดท้าย ที่ได้ขึ้นเวทีในฐานะเฮดไลน์ของ ซูเปอร์ โบวล์ ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์

เพราะหลังจากนั้นมา ก็ไม่มีวงร็อกเพียวๆ วงไหนที่ได้เป็นเฮดไลน์ของเกมนัดชิง NFL อีกเลย

 

เสียงตัดพ้อจากชาวร็อก

ตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา เมื่อไหร่ก็ตามที่ NFL ประกาศศิลปินที่จะเป็นเฮดไลน์ช่วง ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์ เมื่อนั้นมักมีเสียงตัดพ้อน้อยใจจากแฟนเพลงร็อกเสมอ เมื่อศิลปินเพลงร็อกที่พวกเขาชื่นชมบูชา ถูกมองข้ามจาก NFL และสปอนเซอร์หลักของ ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์ พร้อมกับยกสปอตให้ศิลปินเพลงป๊อป ฮิปฮอป อาร์แอนด์บี ยึดหัวหาดเอนเตอร์เทนท่านผู้ชมในเกมนัดชิงบ่อยครั้ง

แม้ความจริง ซูเปอร์ โบวล์ ยังเปิดพื้นที่ให้ศิลปินเพลงร็อกขึ้นเวทีโชว์พักครึ่งในยุคหลัง แต่พวกเขาก็มาในฐานะแขกรับเชิญของศิลปินเฮดไลน์ประจำปีมากกว่า ยกตัวอย่าง Red Hot Chili Peppers พริกเผ็ดสุดฟังค์ ที่มาแจมกับ บรูโน่ มาร์ส ในซูเปอร์ โบวล์ ปี 2014 แล้วสร้างตำนาน “เล่นดนตรีไม่เสียบสายแจ๊ค” จนเป็นที่เล่าขานไปทั่วโลก ขณะที่ เลนนี คราวิตซ์ กีต้าร์ฮีโร่ฝีมือฉกาจ ก็มาเป็นแขกรับเชิญ โซโล่กีต้าร์ให้ เคที่ เพอร์รี่ ในซูเปอร์ โบวล์ ปี 2015

ส่วน Coldplay ที่มาเป็นเฮดไลน์ของปี 2016 กับ Maroon 5 ที่เป็นเฮดไลน์ของปี 2019 แม้สองวงนี้จะมีรากฐานมาจากการทำเพลงร็อกสมัยเริ่มตั้งวง แต่พวกเขาก็ถูกประทับตราว่าเป็นวงป๊อปมากกว่าวงร็อก จากผลงานเพลงป๊อปต่างๆ ของพวกเขาที่ฮิตและประสบความสำเร็จเข้าถึงมหาชนวงกว้าง

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้คนฟังเพลงร็อกหลายคนพากันวิจารณ์ NFL กับเหล่าสปอนเซอร์ ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์ ว่าทำไมถึงไม่ให้ศิลปินเพลงร็อกขึ้นเป็นเฮดไลน์ช่วงพักครึ่งบ้างกันเต็มโลกอินเตอร์เน็ต ทั้งที่มีวงร็อกที่เป็นขวัญใจมหาชนชาวอเมริกันมากมายเต็มไปหมดให้เลือกสรร เช่น Guns N' Roses, Metallica, Queen, Bon Jovi, AC/DC, Green Day, Foo Fighters, Pearl Jam, Ozzy Osbourne, Santana เป็นต้น

โดยปี 2016 เคยมีข่าวลือว่า Santana วงละตินร็อกฝีมือระดับปรมาจารย์ ที่มีเพลงร็อกสุดฮิตรู้จักกันทั่วโลกอย่าง Maria Maria, Smooth, Black Magic Woman จะได้รับเลือกเป็นศิลปินเฮดไลน์ ซูเปอร์ โบวล์ ครั้งที่ 50 ที่ ซาน ฟรานซิสโก แต่สุดท้าย คณะกรรมการกลับเลือก Coldplay, บียอนเซ่ และ บรูโน่ มาร์ส ขึ้นมาเล่นแทน ทำเอาชาวร็อกโกรธเคืองกันไม่น้อย

ทั้งที่ ลีวาย สเตเดียม สังเวียนจัด ซูเปอร์ โบวล์ ครั้งที่ 50 ตั้งอยู่บริเวณ ซาน ฟรานซิสโก เบย์ แอเรีย ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของศิลปินร็อกระดับโลกมากมายอย่าง Metallica, Santana, Journey, Green Day, Joe Satriani ฯลฯ แทนที่คนท้องถิ่นจะได้สนุกสนานและโยกหัวกับโชว์พักครึ่งจากวงร็อกเจ้าบ้าน แต่ NFL และสปอนเซอร์ดันให้ศิลปินป๊อปจากเกาะอังกฤษอย่าง Coldplay ขึ้นมาเฉิดฉายในฐานะเฮดไลน์เสียอย่างนั้น

ดี สไนเดอร์ นักร้องเฮฟวี่เมทัลสุดเก๋าแห่งวง Twisted Sister แสดงความเห็นหลังจากที่ NFL ประกาศให้ เจนนิเฟอร์ โลเปซ กับ ชากีร่า สองศิลปินละตินป๊อปหญิงสุดฮอต ขึ้นเวทีพักครึ่งปี 2019 ว่า “เป็นอีกครั้งที่ดนตรีร็อก เฮฟวี่เมทัล ที่เคยเขย่าสนามกีฬาอย่างยอดเยี่ยมมาแล้วหลายต่อหลายครั้งถูกเพิกเฉยอย่างสิ้นเชิง ถ้าให้เดา ผมคิดว่าพวกเรายังเต้นเขย่าบั้นท้ายได้ไม่ดีพอล่ะมั้ง”

เรื่องที่น่าน้อยใจกว่าสำหรับชาวร็อกคือ ทุกครั้งที่สื่อวงการเพลงระดับแมส ตั้งกระทู้ทำนายทายทักว่า ศิลปินคนไหนจะได้เป็นเฮดไลน์ ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์ ครั้งต่อไป พวกเขาก็จะลิสต์ชื่อแต่ศิลปินเพลงป๊อป, ฮิปฮอป หรือ อาร์แอนด์บี ที่ได้รับความนิยมเป็นหลักในวงการเพลงอเมริกันมากกว่า แทบไม่มีสื่อแมสเจ้าไหนเสนอชื่อวงร็อกสอดแทรกขึ้นมาเลย ยกเว้นสื่อเพลงร็อกสำนักต่างๆ ที่ทำโพลให้คุณผู้อ่านโหวตเชียร์กันเอง ซึ่งก็ไม่มีผลต่อการตัดสินใจของทาง NFL สักนิด

จนมีชาวเน็ตเมืองนอกแซวว่า ลุ้นให้ศิลปินเกาหลี K-POP ที่กำลังตีตลาดเพลงอเมริกาอยู่เช่น BTS หรือ BLACKPINK ขึ้นเวที ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์ ยังง่ายกว่าลุ้นให้ศิลปินเพลงร็อก ขึ้นเป็นเฮดไลน์ช่วงพักครึ่งเสียอีก

 

ใครเลือกศิลปินขึ้น ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์?

หากจะถามว่าทำไมศิลปินเพลงร็อกถึงไม่ได้เป็นเฮดไลน์ ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์ มาตั้งแต่ปี 2011 ก็คงต้องกลับไปถามถึงผู้ที่มีส่วนตัดสินใจเลือกศิลปินขึ้นแสดงช่วงพักครึ่ง นั่นก็คือ คณะกรรมการของ NFL สปอนเซอร์ผู้สนับสนุน และเจ้าภาพจัด ซูเปอร์ โบวล์ ประจำปีนั้น

เกณฑ์คัดเลือกศิลปินเฮดไลน์ ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์ เกิดจากการพิจารณาของทีมงานสามฝ่ายคือ คณะกรรมการด้านความบันเทิงของ NFL กับสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนหลักในแต่ละช่วง (เช่น Bridgestone, PEPSI, Apple Music) โดยเงื่อนไขแรกคือพวกเขาจะช่วยกันลิสต์รายชื่อศิลปินที่อยากชวนมาแสดง อิงจากชื่อเสียง ความสำเร็จ และความนิยมของคนฟังในเวลานั้น นั่นก็เลยทำให้ศิลปินที่เป็นเฮดไลน์ส่วนใหญ่ เป็นศิลปินเพลงป็อป ฮิปฮอป หรืออาร์แอนด์บี บ่อยๆ ในยุคหลังเพราะเป็นแนวเพลงที่ครองใจคนฟังวงกว้าง ฮิตติดหู เข้าถึงคนฟังทั่วโลก และมีศิลปินให้เลือกใช้งานมากมาย

เมื่อได้รายชื่อศิลปินที่พวกเขามองว่ามีศักยภาพที่จะดึงดูดคนดูทั่วโลกได้ ทั้งจากความนิยม เพลงฮิต ความสำเร็จ และโชว์คอนเสิร์ตสุดอลังการ NFL กับสปอนเซอร์ ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์ ก็เชิญตัวแทนเมืองเจ้าภาพ ซูเปอร์ โบวล์ มาพิจารณาร่วมกันว่าจะเลือกใครดี ก่อนตัดสินใจเคาะโต๊ะแล้วประกาศชื่อศิลปินเฮดไลน์ช่วงพักครึ่งให้สื่อ แฟนเพลง และแฟนกีฬาได้รับทราบโดยทั่วกัน

ลำพังแค่วิธีเลือกแบบเดิม ก็ทำให้ศิลปินเพลงร็อกมีโอกาสเป็นเฮดไลน์ ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์ ยากอยู่แล้ว กระทั่งการมาของ เจย์ซี และทีมงาน Roc Nation แทบจะเป็นการปิดประตูการเป็นเฮดไลน์ของเหล่าวงร็อกใน ซูเปอร์ โบวล์ ไปเลย

 

อิทธิพลของ JAY-Z

ปี 2019 มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกี่ยวกับการคัดเลือกศิลปินขึ้นเวที ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์ เมื่อ NFL เซ็นสัญญากับ Roc Nation บริษัทด้านธุรกิจบันเทิงชั้นนำของสหรัฐฯ ซึ่งมี เจย์ซี แร็ปเปอร์ตัวเก๋าชั้นแนวหน้าของโลก นั่งเก้าอี้ผู้บริหาร โดยทาง NFL มอบหมายให้ เจย์ซี และทีมงานระดับมืออาชีพ ที่เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมความบันเทิง เป็นผู้พิจารณาเลือกศิลปินขึ้นแสดงช่วงพักครึ่งของ ซูเปอร์ โบวล์ ตั้งแต่นั้น

นั่นเลยทำให้ตั้งแต่ ซูเปอร์ โบวล์ ปี 2020 กลายเป็นการเปิดฟลอร์ให้ศิลปินเพลงป๊อป และฮิปฮอป สลับกันขึ้นมามอบความสนุกให้กับแฟน NFL มาตลอดเช่น เจนนิเฟอร์ โลเปซ & ชากีร่า (2020), เดอะ วีคเอนด์ (2021), Dr.Dre และแก๊งฮิปฮอปของเขา Snoop Dogg / Eminem / Mary J. Blige / Kendrick Lamar (2022), ริฮานน่า (2023), Usher (2024) ซึ่งแต่ละคนก็ถือเป็นศิลปินระดับตัวพ่อ-ตัวแม่-ตัวตำนาน และมีความสัมพันธ์อันดีกับ เจย์ซี ด้วย

ดูจากรายชื่อศิลปินด้านบนก็คงไม่ต้องแปลกใจอะไรหาก เจย์ซี จะเลือกพวกเขามาแสดงช่วงพักครึ่งซูเปอร์ โบว์ล เพราะเป็นกลุ่มศิลปินที่ตรงกับแนวเพลงของ เจย์ซี นั่นก็คือฮิปฮอป ซึ่งมีส่วนผสมของเพลงป๊อปติดหูคนฟัง และประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมเพลงยุคปัจจุบันแบบไร้ข้อสงสัย

ตั้งแต่เข้ามารับงานคุม ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์ เจย์ซี และทีมงาน Roc Nation ที่มีประสบการณ์จัดคอนเสิร์ตให้ศิลปินดังมาอย่างโชกโชน มีเป้าหมายชัดเจนว่าพวกเขาจะชวนศิลปินคนไหน ทำโชว์อย่างไร เพื่อให้แฟนกีฬา NFL รวมถึงบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่แฟนอเมริกันฟุตบอล แต่อยากดูโชว์พักครึ่งเฉยๆ ได้รับความสนุกและความบันเทิงแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย และ เจย์ซี ก็มองว่าศิลปินกลุ่มเพลงป๊อป ฮิปฮอป และอาร์แอนด์บี ที่มีเพลงฮิตติดหูคนฟังวงกว้าง ตอบโจทย์การทำงานของเขาเป็นอย่างดี

“ผมคิดเรื่องนี้มานาน ไม่ใช่แค่ NFL แต่โดยหลักแล้ว เพลงแร็พเป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอเมริกา” เจย์ซี ให้ความเห็น “มันคือแนวเพลงอันดับ 1 ของโลก และเป็นแบบนั้นแน่ ดังนั้น ผมอยากให้แพลตฟอร์มเหล่านี้เข้ามาครอบคลุมวงการดนตรีของเรา”

คำพูดของ เจย์ซี อาจทำให้ชาวร็อกรู้สึกโกรธเคือง กระนั้นหากพิจารณาให้ดีใช่ว่า เจย์ซี รังเกียจรังงอนเพลงร็อก เพียงแต่เขามองในมุมนักธุรกิจ และมองตามความเป็นจริงว่า คนอเมริกันและคนฟังเพลงทั่วโลกนั้น นิยมชมชอบเพลงป๊อป ฮิปฮอป มากกว่า มันเป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิยมมานานไม่มีเสื่อมคลาย เข้าถึงคนฟังวงกว้าง และสามารถครีเอตโชว์สนุกสนานสอดแทรกลงไปได้ด้วย ทั้งร้อง เต้น เอนเตอร์เทน แสดงผาดโผน หรือจุดดอกไม้ไฟอลังการเต็มท้องฟ้า

ซึ่งเป็นสิ่งที่ศิลปินเพลงร็อกหลายวงทำได้ไม่เท่าและไม่ถึงแบบศิลปินกลุ่มด้านบน จริงอยู่ที่แม้วงร็อกชื่อดังมากมายจะมีประสบการณ์ขึ้นเวทีระดับสเตเดียมทัวร์ (สนามกีฬา) มาอย่างโชกโชน ขายตั๋วหมดเกลี้ยง แฟนเพลงล้นหลาม แถมยังสร้างโปรดักชั่นอลังการได้ แต่ส่วนใหญ่ศิลปินร็อกมักปักหลักร้องเพลง ดีดกีต้าร์ สแลปเบส และตีกลองอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง จะให้โหนสลิงลอยฟ้าแบบ เลดี้ กาก้า หรือไถโรลเลอร์เบลดไปด้วย ร้องเพลงไปด้วยแบบ Usher ก็คงทำไม่ได้ เพราะวงร็อกเหล่านี้ไม่ได้ถูกฝึกมาให้เป็นเอนเตอร์เทนเนอร์แบบนั้น

สิ่งที่พวกเขาทำได้ดีที่สุดก็คือ เล่นดนตรีกับร้องเพลงร็อกที่พวกเขาเขียนเองทำเองแบบ 100% ให้แฟนเพลงได้เสพกันอย่างมีความสุข

 

ไม่ให้เล่นก็ไม่เป็นไร

ถึงจะถูก NFL และทีมผู้จัดมองข้ามมาตลอด แต่ศิลปินเพลงร็อกตัวจริงหลายเบอร์ก็ดูจะไม่สนไม่แคร์กับการขึ้นเวที ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์ กันสักเท่าไหร่ บางวงอาจรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง แต่เมื่อพิจารณากันอย่างละเอียด ประกอบกับ NFL จ่ายค่าตอบแทนให้ศิลปินช่วงพักครึ่งแค่เพียงน้อยนิด ตามรายงานของ People ว่า NFL ยอมจ่ายค่าจ้างให้ศิลปินตามเรตขั้นต่ำของสหภาพแรงงานในสหรัฐฯ ที่ 1,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 35,780 บาท) ศิลปินเพลงร็อกเหล่านั้นคงคิดว่า เอาเวลาไปแต่งเพลง หรือออกทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก ทำของที่ระลึกออกมาขาย ยังจะได้เงินเสียมากกว่า

เจมส์ เฮตฟิลด์ ฟรอนต์แมนและมือกีต้าร์ของ Metallica วงเมทัลระดับตำนาน บอกว่า “ผมเต้นไม่ได้ กระโดดโลดเต้นไม่ได้ ผมไม่ใช่นักกายกรรม พวกเราไม่ใช่ศิลปินวาไรตี้โชว์ โชคไม่ดีที่มันเริ่มไม่เกี่ยวกับเรื่องของดนตรีแล้ว แต่เป็นการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจแทน ตอนที่เรามีโอกาสจะได้เล่นฉลอง 50 ปี ซูเปอร์ โบวล์ (ปี 2016) ที่นี่คือบ้านเกิดของเรา แต่พวกเขาไม่ให้เราเล่น มันคงถึงเวลาแล้ว เวลาที่ดีของมันคงผ่านไปแล้ว”

“เพราะเราคือศิลปิน เราเป็นวงดนตรี เรารักการเล่นดนตรี และเราจะไม่ห้อยโหนอยู่บนอากาศ ท่ามกลางดวงดาวที่เปล่งประกายและม้ายูนิคอร์นบนฟ้าหรอก” เจมส์ เฮตฟิลด์ กล่าว

ตัดภาพมาที่วงการเพลงยุคปัจจุบัน สิ่งหนึ่งที่ชาวร็อกต้องทำใจก็คือ เพลงร็อก ไม่ใช่แนวเพลงกระแสหลักของโลกไม่ใช่แนวเพลงที่วัยรุ่นหรือคนฟังเพลงยุคโซเชียล มีเดีย ครองโลกนึกถึงแล้ว แม้ในช่วงยุค 80-90 จนถึงยุคมิลเลนเนียม จะเป็นช่วงเวลาที่วงร็อกจำนวนมาก ก้าวขึ้นมาขย่มวงการเพลงกระแสหลัก มีเพลงฮิตติดชาร์ตอันดับ 1 สู้กับเพลงป๊อปและฮิปฮอปได้สบาย แต่ทุกวันนี้เป็นเพลงป๊อป ฮิปฮอป หรือ อาร์แอนด์บี ที่ครองชาร์ตเพลงระดับท็อป 100 แบบเหนียวแน่นแทน

ขณะที่ศิลปินเพลงร็อกทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ แม้จะยังผลิตผลงานเพลงออกมาให้ฟังกันสม่ำเสมอ แต่ต้องยอมรับว่าความนิยมสู้กลุ่มศิลปินระดับแมสไม่ได้ ที่ผ่านมาอาจมีวงร็อกรุ่นใหญ่ รุ่นตำนานที่ออกอัลบั้มใหม่ ทำยอดขายคว้าแชมป์อันดับ 1 ของชาร์ตเพลงกระแสหลักอย่าง Billboard แต่ก็เป็นแค่ชั่วครั้งชั่วคราว อยู่ได้ไม่นานก็โดนศิลปินเพลงป๊อปคนอื่นๆ มาเขี่ยตกบัลลังก์ไป ก่อนที่ศิลปินร็อกจะหันไปทำเงินจากการทัวร์คอนเสิร์ต พบปะแฟนเพลงทั่วโลกแทน

นั่นเลยเป็นเหตุผลว่า เราคงไม่เห็นศิลปินเพลงร็อกเป็นเฮดไลน์ ซูเปอร์ โบวล์ ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์ กันไปอีกพักใหญ่ หรือจนกว่าจะมีศิลปินร็อกคนไหนระเบิดพลัง ฝ่ากระแสธารความฮิตของเพลงป๊อป ขึ้นมาครองใจคนฟังหมู่มากได้จนเขย่าใจของ NFL และ Roc Nation ได้ในอนาคต

 

แหล่งอ้างอิง :

https://ultimateclassicrock.com/super-bowl-halftime-rock-bands/
https://loudwire.com/rock-bands-should-play-super-bowl-halftime-show/
https://www.sportscasting.com/heres-how-the-nfl-chooses-the-super-bowl-halftime-performers/
https://www.forbes.com/sites/soniathompson/2023/09/26/how-roc-nation-has-brought-a-more-inclusive-approach-to-super-bowl-halftime-shows/?sh=1771adac548a

Author

วัลลภ สวัสดี

ฟังไปเรื่อย ดูไปเรื่อย เขียนไปเรื่อย

Graphic

อภิสิทธิ์ โชติพิบูลย์ทรัพย์

Art Director ผู้รับเหมางานภาพกราฟิกหน้าปกบทความทุกชิ้น