Opta สำนักเก็บสถิติชื่อดังแห่งวงการฟุตบอล เปิดเผยสถิติอย่างนึงที่น่าสนใจ
นับตั้งแต่ฤดูกาล 2023-24 เป็นต้นมา อาร์เซน่อล ทำประตูจากลูกเตะมุมไปแล้ว 22 ประตู มากกว่าทุกทีมในพรีเมียร์ลีก และแทบไม่เสียประตูเลยเมื่อเป็นฝ่ายเสียลูกตั้งเตะ
จากทีมที่เคยผวาทุกครั้งที่โดนบอมบ์ใส่ กลายเป็นพวกเขาที่กลายเป็น "เซียน" ในเรื่องนี้ได้แบบไม่น่าเชื่อ
ทุกเรื่องมีเบื้องหลัง …. อาร์เซน่อล เล่นลูกโหม่งเก่งได้ยังไง? Main Stand มีคำตอบ
ตามเทรนด์ให้ทัน
หากคุณนับถอยหลังไปสัก 10 20 หรือ 30 ปี แล้วนึกภาพฟุตบอลในยุคนั้น และจินตนาการถึงทีมฟุตบอล หรือเฮดโค้ชที่ทำฟุตบอลโดดเด่นเรื่องเซ็ตพีซ เชื่อว่าจะมีชื่อไม่กี่ชื่อที่โผล่ขึ้นมาในหัว "วิมเบิลดัน ยุค เครซี่แก๊ง", "แซม อัลลาไดซ์ กับสไตล์ไดเร็กต์สถานเดียว", "โทนี่ พูลิส และ สโต๊ค ของพวกเขา"
จอร์เเดน การ์บัตต์ หัวหน้าของทีมเก็บสถิติฟุตบอล อธิบายเหตุผลในเรื่องนี้ว่า จากสถิติการที่เขาเก็บมาโดยเฉลี่ยต่อฤดูกาลของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก จะมีประตูที่เกิดขึ้นจากลูกเซ็ตพีซราว 30% โดย และส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากทีมในอันดับที่ 10 ลงไป ด้วยเหตุผลที่ว่าลูกตั้งเตะเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ง่ายที่สุดสำหรับทีมเหล่านี้ เพราะสามารถจำลองสถานการณ์ในการซ้อมได้ง่าย ในเรื่องของการยืนตำแหน่ง การเปิดบอล และการเคลื่อนไหว ที่หากทีมไหนซักซ้อมกันมาดี พวกเขาจะขยับโดยสัญชาติญาณ ดังทีมที่เรากล่าวมาในข้างต้น
ในเมื่อทีมเหล่านี้เป็นทีมที่ต้องตั้งรับเยอะเป็นพิเศษในแต่ละเกมเพื่อเน้นผลเสมอเป็นที่ตั้ง ประตูเดียวสามารถวัดได้ทันทีว่าพวกเขาจะไม่แพ้ ดังนั้นลูกตั้งเตะจึงเป็นหนทางที่พวกเขาหวังประตูได้มากที่สุด และเป็นสิ่งที่ทีมระดับกลางค่อนล่างจะต้องซักซ้อมกันให้ขึ้นใจมากกว่าทีมระดับหัวตาราง
กลับกันเหล่าทีมใหญ่จะเอาเวลาไปซ้อมเกมรุก การครองบอล และการเข้าทำพื้นที่สุดท้ายมากกว่า เพราะเป็นอะไรที่จับต้องได้ ไม่ต้องไปลุ้นว่าเกมนี้จะได้ฟรีคิกกี่ครั้ง เตะมุมกี่ครั้ง ยกตัวอย่างชัด ๆ คือ บาร์เซโลน่า ยุค เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พาครองโลก พวกเขาเล่นบอลสั้นแทบจะทุกครั้งเมื่อได้ลูกตั้งเตะ โดยมีปรัชญาประจำทีมที่ว่า "เมื่อเป็นฝ่ายครองบอล โอกาสเข้าทำจะเกิดขึ้นเรื่อย ๆ"
จากวันนั้น เวลาล่วงเลยมามากกว่า 10 ปี ว่ากันฟุตบอลในปัจจุบันมีรายละเอียดเยอะขึ้น นักเตะเก่งขึ้น แท็คติกลึกลับซับซ้อนมากขึ้น และแน่นอนคนเป็นโค้ชก็ต้องทำงานหนักมากขึ้น หากหวังจะให้ทีมประสบความสำเร็จ และเมื่อการแข่งขันมันสูงขึ้น คุณจำเป็นต้องใส่ทุกรายละเอียด ดังนั้น ... ทำไมคุณจึงปล่อยให้ลูกเซ็ตพีซที่เป็นสิ่งควบคุมได้ กลายเป็นเรื่องของทีมโซนล่างล่ะ ในเมื่อคุณเองก็สามารถจะเพิ่มประตูจากลูกลักษณะนี้ได้เหมือนกัน ?
เทรนด์ของฟุตบอลเปลี่ยนไปหลังจากนั้น แนวคิดการซักซ้อมลูกตั้งเตะเพิ่มขึ้นเยอะมาก ถึงขั้นที่ว่ามี "โค้ชลูกตั้งเตะ" เป็นตำแหน่งใหม่เกิดขึ้น ซึ่ง ณ ตอนนี้ทุก ๆ ทีมล้วนแต่มีผู้เชี่ยวชาญคอยชี้เเนะเรื่องนี้ทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่กระทั่งที่ทีมกำลังเป็น "เซียนเซ็ตพีซ" รายล่าสุดอย่าง อาร์เซน่อล ภายใต้การทำทีมของ มิเกล อาร์เตต้า
ปกติแล้ว DNA ของ อาร์เซน่อล คือทีมที่เล่นสวยงามต่อบอลเยอะ เคลื่อนที่ไปทั่วสนาม หนำซ้ำยิ่งเมื่อคุณมีโค้ชเป็นชาวสเปนที่เป็นต้นตำรับบอลเท้าสู่เท้าอย่าง อาร์เตต้า แล้ว การเก่งเซ็ตพีซดูจะเป็นอะไรที่ตรงกันข้าม
อย่างไรก็ตามทุกเรื่องล้วนมีเหตุและผล ซึ่งจุดเริ่มต้นของการเป็นเซียนเซ็ตพีซของอาร์เซน่อลนั้นง่ายนิดเดียว นั่นคือ เซ็ตพีซ เคยเป็นจุดสลบของพวกเขามาก่อน ชนิดที่ว่าเสียลูกตั้งเตะทีไร แฟนบอลเหมือนเป็นไข้จับสั่นทุกที ... เมื่อเป็นแบบนั้นก็ต้องแก้ไข
แต่จะแก้ไขทั้งที ... อย่าเอาแค่พอได้ มิเกล อาร์เตต้า เกิดแนวคิดที่ว่าเขาจะไม่ใช่แค่แก้จุดอ่อน แต่จะทำให้เป็นจุดแข็งของทีมไปเลย และเรื่องมันก็เริ่มจากจุดนั้น
จากจุดสลบ สู่ไพ่ตาย
ก่อนที่ อาร์เตต้า จะร่วมอาร์เซน่อลเป็นปึกแผนและสร้างมทีมแห่งยุคขึ้นมาใหม่ พวกเขาคือทีมที่เล่นลูกตั้งเตะ และป้องกันลูกตั้งเตะได้ห่วยที่สุดในพรีเมียร์ลีก ... เรื่องน้ั้มีสถิติยืนยัน
โดยในฤดูกาล 2019-20 อาร์เซน่อล เสียประตู 44 ลูกตลอดทั้งซีซั่น โดยมีการเสียประตูจากลูกเซ็ตพีซทั้งหมด 20 ลูก คิดเป็น 45.5% เรียกได้ว่าใช้คำว่า "ห่วย" ก็ยังได้ เพราะสถิติดังกล่าวทิ้งทีมอันดับ 2 จากท้ายอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ขาดลอย (แมนยู เสีย 13 ลูก) และ มิเกล อาร์เตต้า คือคนที่ซีเรียสกับเรื่องนี้มากที่สุด โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์หลังเกม อาร์เซน่อล แพ้ สเปอร์ส ในซีซั่นดังกล่าวว่า
"ทีมของเราเล่นดี บุกกดดันขึงใส่พวกเขาได้แบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เราส่งของขวัญให้พวกเขา เราทำให้พวกเขาทำประตูได้ จากลูกตั้งเตะอีกแล้ว ... ในเกมระดับนี้ เราจะมาเสียอะไรง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด ผมขอโทษแฟน ๆ ทุกคน ผมพยายามจะทำให้พวกคุณมีความสุข แต่มาถึงจุดนี้ ผมขอโทษ ขอโทษที่ผมทำมันไม่ได้" อาร์เตต้า ว่าแบบนั้น
นั่นแทบจะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด เขาไมได้ขอโทษแบบขอไปที แต่รอบนี้คือของจริง อาร์เตต้า เข้าไปหาบอร์ดบริหารเพื่อร้องของพนักงานใหม่ 1 ตำแหน่ง นั่นคือผู้เชี่ยวชาญเรื่องลูกตั้งเตะ เพื่อเข้ามาเปลี่ยนจาก "ฝันร้าย" ของพวกเขา กลายเป็นฝันร้ายให้กับคู่แข่ง
กระบวนการสรรหาของ อาร์เซน่อล เริ่มขึ้นหลังจากนั้น คนที่ อาร์เตต้า ร้องขอคือ นิโคลาส โจเวอร์ โค้ชชาวเยอรมัน ที่เคยเป็นนักวิเคราะห์เกมผ่านวีดีโอ (video analyst) และ การแข่งขันจริง (match analyst) มาก่อน ก่อนที่เขาจะเอาดีทางด้านการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านลูกเซ็ตพีซ โดยทีมแรกที่จ้างเข้าทำงานนี้คือ เบรนท์ฟอร์ด สมัยที่ เบรนท์ฟอร์ด ยังอยู่ใน เดอะ เเชมเปี้ยนชิพ เมือ่ปี 2016
ความเก่งของ โจเวอร์ คือเหตุผลหลักที่เขาขยับขึ้นมาทำงานเป็นมือขวาของ โทมัส แฟรงค์ จากนั้นชื่อเสียงขจรขจาย ทีมที่ดีที่สุดในอังกฤษอย่าง แมนฯ ซิตี้ จะดึงตัวเขาไปทำทีมสต๊าฟฟ์ด้วย ซึ่งแน่นอนว่า อาร์เตต้า และ โจเวอร์ "ทันกัน" สมัยที่ทำงานที่ แมนฯ ซิตี้ โดย อาร์เตต้า เป็นมือขวาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก่อนที่ จะออกมาบินเดี่ยวเป็นกุนซือครั้งแรกที่ อาร์เซน่อล ในปี 2019
โจเวอร์ สำคัญอย่างไร? ง่าย ๆ เลยคือในเมื่อเขาคือผู้เชี่ยวชาญและโตมาในสายวิเคราะห์ สิ่งที่เขาเริ่มแก้ให้ อาร์เซน่อล คือหลังจากที่ อาร์เตต้า จูงใจเข้ามาอยู่กับ อาร์เซน่อล ในฤดูกาล 2020-21 คือ โจเวอร์ มานั่งเปิดวีดีโอทุกประตูที่ อาร์เซน่อล เสียย้อนกลับไปถึง 2 ซีซั่นหลังสุด หรือนับตั้งแต่ที่ อาร์เตต้า คุมทีม การนั่งดูวีดีโอและวิเคราะห์ใช้เวลาหลายวันจนแกะรหัสออกมาได้ว่าอะไรคือจุดอ่อน
สิ่งที่ยอดเยี่ยมหลังจากได้รหัสแล้ว คือ โจเวอร์ คือคนที่สื่อสารเก่ง ชัดเจน และทำให้ทุกคนเห็นว่าข้อมูลที่เขาเตรียมมาสำคัญกับทีมขนาดไหน ไม่ใช่แค่บอกนักเตะ แต่การขายไอเดียให้กับ อาร์เตต้า ด้วย ซึ่ง อาร์เตต้า เคยออกปากชม โจเวอร์ ว่า "ชายผู้สร้างอิมแพ็คต์"
"หลายปีก่อนตอนที่ผมทำงานอยู่กับ ซิตี้ ผมเคยมีไอเดียว่าเราต้องการผู้เชี่ยวชาญเรื่องลูกตั้งเตะ ผมได้เจอกับ นิโก้ (โจเวอร์) ที่นั่น เราพูดคุยและเขาเริ่มอธิบายฉากต่าง ๆ ในหัวของเขาเกี่ยวกับการเล่นลูกนิ่ง และเขาอธิบายชัดเจนขนาดที่ว่า ลูกนิ่ง กับการเล่นแบบ โอเพ่นเพลย์ ถูกผสมออกมาเป็นเนื้อเดียวกัน ... เขาไม่ได้แยก 2 เรื่องนี้ แต่เขาทำให้มันสิ่งที่เชื่อมโยงเข้าหากัน และมีประโยชน์กับเรามากจริงๆ " อาร์เตต้า กล่าว
"ผมตามเขามาทำงานที่โปรเจ็คต์ของเรา (อาร์เซน่อล) และเมื่อเขาเข้ามา เขาคือคนที่สร้างอิมแพ็คต์ให้กับทีมได้มากจริง ๆ "
เรื่องนี้จะชม โจเวอร์ อย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องชมนักเตะทุกคนที่เปิดใจรับข้อมูลของเขา รวมถึง อาร์เตต้า ที่เป็นเจ้านายที่เชื่อมั่นในข้อมูลที่ โจเวอร์ นำมามอบให้งานแก้ไขลูกเซ็ตพีซ ไม่ใช่แค่การนั่งดู วีดีโอ แล้วบอกนักเตะให้ทำตามสิ่งที่ได้มา แต่มันคืองานที่ไม่รู้จบ..
โจเวอร์ กับ อาร์เตต้า แก้ลงไปถึงรายละเอียดแต่ละจุด คู่แข่งที่จะเจอในแต่เกมที่จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งจะต้องแก้เป็นนัด ๆ ทำงานแบบเชื่อมโยงกันทุกวัน นอกจากนี้ทั้งคู่ยังพากันลงลึกไปถึงจิตใจของนักเตะ เพราะการเล่นลูกเซ็ตพีซนั้นอาศัยความกล้าด้วย กล่าวคือกล้าในการเข้าปะทะ กล้าที่จะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงได้รับบาดเจ็บเพื่อผลประโยชน์ของทีม ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นแนวทางที่พวกเขาแก้ไขให้ อาร์เซน่อล ได้จริง
"ทุกอย่างในทีมเราเกิดขึ้นเพราะวิวัฒนาการ และเราพยายามปรับตัวอยู่เสมอ ... ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ปล่อยเราเล่นง่าย ๆ พวกเขาฉลาดและมองเราออก พวกเขาก็วางแผนตั้งรับลูกตั้งเตะของเราเหมือนกัน ดังนั้นคุณเองก็ต้องดีขึ้นในทุกวัน ปรับตัวกับสถานการณ์แต่ละเกมให้ได้"
"ถึงตอนนี้เซ็ตพีซคือส่วนสำคัญของเกมฟุตบอลแล้ว ถ้าคุณจะทำให้ดี คุณจำเป็นต้องสรรหาบุคลากรที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และมีนักเตะที่เหมาะสมกับงานที่จะทำได้ ... แน่นอนว่าตอนนี้มันได้ผล นักเตะในทีมเชื่อใจทีมงาน และงานที่เราทำ เมื่อทุกอย่างมันควบคู่ไปกันได้ คุณจึงได้เห็นสิ่งเหล่านี้"
"เราทำได้ดีมาก ... แต่ผมบอกไว้เลยว่าเราจะทำให้ดีมากขึ้นกว่านี้อีก" อาร์เตต้า กล่าวถึงเบื้องหลังการเล่นลูกเซ็ตพีซของ อาร์เซน่อล ที่กระจ่างชัด
ปืนติดปีก
อาร์เซน่อล เป็นทีมที่เล่นบอลกับพื้นดีอยู่แล้วเมื่อพวกเขาปิดจุดอ่อนเวลาเสียลูกตั้งเตะได้ และเปลี่ยนมันเป็นอาวุธ ... ผลลัพธ์คืออันดับในตารางและผลงานของพวกเขาที่แสดงออกมาให้คุณเห็นในเวลานี้
อธิบายเพิ่มเติมให้เห็นภาพที่ อาร์เตต้า บอกว่า พวกเขาไมได้แก้แค่ลูกตั้งเตะ แต่พวกเขาทำให้การเล่น เซ็ตพีซ กับ โอเพ่นเพลย์ ให้ไปพร้อมกันได้ จากเกมล่าสุดที่ อาร์เซน่อล บุกถล่ม เวสต์แฮม 1 ในทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องลูกตั้งเตะ ถึง 6-0
สิ่งที่บอกว่าพวกเขาทำให้ 2 จุดไปพร้อมกันได้คือเกมนี้ อาร์เตต้า ส่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟธรรมชาติลงถึง 4 คน ในแผงเเบ็คโฟร์ เบน ไวท์, วิลเลี่ยม ซาลิบา, กาเบรียล มาร์กัลเญส และ ยาคุบ คิวิออร์ แน่นอนว่านักเตะตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟนั้นถูกฝึกเรื่องการเล่นลูกตั้งเตะมาตั้งแต่เด็กไม่ว่าจะเป็นการเล่นตอนที่ตั้งรับ หรือตอนที่ทีมเป็นฝ่ายบุก นั่นเท่ากับว่าพวกเขามีนักเตะที่เล่นเซ็ตพีซเก่งถึง 4 คนในสนาม ซึ่งช่วยกลบจุดอ่อนของทีมที่ปกติเเล้วมีนักเตะตัวเล็ก ๆ หลายคนได้ดี
ผลที่ออกมาคือ กาเบรียล ยิงได้ 1 ประตู, ซาลิบา ยิงได้อีก 1 ประตู ในเกมเดียว ชัดเจนว่าทั้งบอลเป็นและบอลตายของ อาร์เซน่อล สามารถปรับใช้ด้วยกันได้แล้วในเชิงเเท็คติก
4 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟธรรมชาติทำหน้าที่กันพร้อมสรรพ คิวิออร์ ยืนในกรอบ 6 หลา เรียกตัวประกบได้อย่างน้อย 2 คน เบน ไวท์ ทำหน้าที่เป็นตัวเจ้าเล่ห์ทำลายจังหวะของผู้รักษาประตูของ เวสต์แฮม (ถ้าสังเกตุจะเห็นว่ามีการชนใส่ด้วยก่อนที่บอลจะไปถึง ซาลิบา) โดยมี ซาลิบา กับ กาเบรียล เป็นตัวเล่นเซ็ตพีซหลักประจำการที่เสาสอง ... นอกจากนี้ยังมี ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่เป็นนักเตะตัวรุกที่สูง 190 เซ็นติเมตร เข้ามาดึงความสนใจได้อีก
เรียกได้ว่าความสบสันเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า แนวรับเวสต์แฮม อลหม่านไปหมดจากการที่ อาร์เซน่อล วางแท็คติกลูกตั้งเตะมาย้อนเกล็ดพวกเขาแบบนี้
ไม่ใช่แค่นั้น เราสามารถย้อนกลับไปเรื่องที่ อาร์เตต้า บอกว่า "ทุกอย่างจะถูกปรับใหม่ตามช่วงเวลาที่เหมาะสม" นั่นคือก่อนที่จะมีเบรก 2 สัปดาห์ อาร์เซน่อล ที่กำลังฟอร์มตก ไปเก็บตัวที่ ดูไบ (ประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) และเมื่อเก็บตัวเสร็จ และการเเข่งขันกลับมา "พวกเขาชนะทุกเกม" และเจาะให้ลึกไปอีกคือ พวกเขามีการเล่นเซ็ตพีซที่แก้มาใหม่ด้วย
ประการแรก ดีแคลน ไรซ์ นักเตะที่สูงใกล้ ๆ 190 เซ็นติเมตร กลายมาเป็นคนเตะฟรีคิกหรือเตะมุม ทุกครั้งที่เยื้องมาฝั่งซ้าย (เหลี่ยมเปิดโค้งเข้าหาประตู) ซึ่งในเกมกับ เวสต์แฮม นั้น เซ็ตพีซจากเท้าของ ไรซ์ นั้นหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดไปที่เสาสอง (ประตูของ ซาลิบา) และการเปิดโค้งไปที่กลางประตู (ประตูของ กาเบรียล)
นี่คือตัวอย่างที่บอกว่า อาร์เซน่อล สถาปนาตัวเองเป็นราชาลูกตั้งเตะแล้ว ณ เวลานี้ ทั้งในแง่ของความหลากหลาย และการเอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหาและสถานการณ์แบบเกมต่อเกม
แน่นอนว่าเครดิตก้อนใหญ่ต้องยกให้ อาร์เตต้า ที่เห็นปัญหาและไม่ปล่อยผ่าน เขาเร่งทำการแก้ไขอย่างจริงจัง เลือกเอาคนที่เก่งจริงและเชี่ยวชาญจริงเข้ามาช่วย นอกจากนี้ยังทำให้ "บอลเป็นกับบอลตาย" ไปด้วยกันได้แบบเป็นเนื้อเดียวกัน เหนือสิ่งอื่นใดคือไอเดียของเขา และ โจเวอร์ ทำให้นักเตะในทีมคล้อยตามและพร้อมจะซักซ้อมอย่างหนัก จนตอนนี้ ตั้งเตะกลายเป็นอาวุธสังหารที่ อาร์เซน่อล พร้อมหลอนทุกทีมอย่างแท้จริง
ถ้าคุณคิดว่าคุณจับทางพวกเขาได้ ... คุณอาจกำลังจะตกอยู่ในอันตราย เพราะอย่าลืมว่าพวกเขาแก้กันแบบเกมต่อเกม สิ่งที่จะทำให้ทีมของคุณต่อต้านลูกตั้งแต่ของ อาร์เซน่อล ได้คุณต้องพยายามให้เท่ากับพวกเขา เพื่อให้ลูกตั้งเตะที่เป็นจุดอ่อนนี้ กลายเป็นจุดแข็งที่ใครก็ต้องผวา แบบที่ มิเกล อาร์เตตา สร้างให้เป็นท่าไม้ตายของทีมเขาในตอนนี้
แหล่งอ้างอิง
https://sports.yahoo.com/unseen-behind-arsenal-set-piece-173818150.html
https://paininthearsenal.com/posts/how-arsenal-can-weaponise-set-pieces-for-the-rest-of-the-season-01hmq0sty26d
https://www.linkedin.com/pulse/unravelling-pivotal-role-set-pieces-set-piece-coaches-jordan-garbutt-2efpe
https://www.thesun.co.uk/sport/football/12106736/arsenal-worst-premier-league-set-pieces/
https://theathletic.com/5095337/2023/12/20/nicolas-jover-is-a-master-of-deception-and-the-man-behind-arsenals-set-piece-success/
https://www.eurosport.com/football/premier-league/2023-2024/exclusive-mikel-arteta-on-arsenal-set-piece-joy-nicolas-jover-and-tricking-opponents-a-big-part-of-t_sto10000464/story.shtml