หากนึกถึงนักเตะที่เข้ามาแก้สถานการณ์เซ็นเตอร์แบ็กขาดแคลนของ ลิเวอร์พูล ชื่อของ จาเรลล์ ควอนซาห์ อาจไม่ใช่ตัวเลือกแรก ๆ ที่แฟนบอลหลายคนนึก หรือแม้แต่รู้จักด้วยซ้ำในช่วงก่อนเริ่มฤดูกาล 2023/24
แต่ในนาทีนี้ ดาวเตะวัย 20 ปีจากอคาเดมี่สโมสร กลายเป็นหนึ่งในนักเตะหมุนเวียนของทีมชุดใหญ่ ที่ถือว่าเล่นได้ดีเกินวัย และมีโอกาสเป็นความหวังใหม่ที่อาจยืนระยะในแดนหลังของหงส์แดงไปได้อีกหลายปี
ควอนซาห์ คือใครกัน ทำไมถึงพัฒนาขึ้นทีมชุดใหญ่แบบก้าวกระโดดได้เช่นนี้ ร่วมไขคำตอบได้พร้อมกับ Main Stand ในบทความนี้
เติบโตจากอคาเดมี่
แม้ จาเรลล์ ควอนซาห์ จะไม่ใช่เด็กท้องถิ่นที่ลืมตาดูโลกในเมืองลิเวอร์พูลตั้งแต่กำเนิด แต่เด็กน้อยจากเมืองวอร์ริงตัน ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในระบบอคาเดมี่ของหงส์แดงตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบเท่านั้น
ควอนซาห์ ค่อย ๆ เติบโตขึ้นมาตามลำดับขั้นกลุ่มอายุ และได้รับความไว้วางใจให้เป็นกัปตันทีมชุด U18 ที่เข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ ยูธ คัพ ในปี 2021 ตามด้วยบทบาทการเป็นกัปตันทีมชุดอายุไม่เกิน 19 และ 21 ปีของสโมสร
เขาเติบโตขึ้นมาในรุ่นเดียวกันกับ บิลลี่ คูเมติโอ, คอเนอร์ แบรดลี่ย์, และ ลุค แชมเบอร์ส อีกสามผู้เล่นแนวรับที่ได้โอกาสจาก เยอร์เก้น คล็อปป์ ให้ขึ้นมามีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ แต่หมุดหมายสำคัญที่ทำให้ ควอนซาห์ เติบโตอย่างก้าวกระโดด เกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2023 ที่ผ่านมา
ในเดือนมกราคม 2023 เซ็นเตอร์แบ็กวัย 19 ปี ได้ย้ายไปร่วมทีม บริสตอล โรเวอร์ส ด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล ซึ่งการได้ลงสัมผัสจังหวะฟุตบอลอาชีพ แม้จะเป็นกับต้นสังกัดในระดับลีกวัน ก็ถือเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าสำหรับนักเตะดาวรุ่งที่ใช้เวลาส่วนใหญ่กับทีมเยาวชน
ควอนซาห์ ลงเล่นฟุตบอลอาชีพนัดแรก ในเกมที่ต้นสังกัดพ่ายให้กับ มอร์แคมบ์ ไปด้วยสกอร์ 1-5 และเจ้าตัวได้สัมผัสชัยชนะแค่ 2 จาก 16 แมตช์ที่ลงเล่นในระดับลีกวัน แต่ผลงานการขึ้นเกมจากแดนหลัง กลายเป็นสิ่งที่ทำให้กุนซืออย่าง โจอี้ บาร์ตัน ประทับใจในตัวของดาวรุ่งรายนี้ไม่น้อย
ผลงานดังกล่าวส่งให้ จาเรลล์ ควอนซาห์ ได้ติดทีมชาติอังกฤษ ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก U-20 ที่อาร์เจนตินา เมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 ที่ผ่านมา โดย เอียน ฟอสเตอร์ ผู้จัดการทีมชาติชุด U-19 และ U-20 กล่าวถึงเซ็นเตอร์แบ็กรายนี้ว่า "เขามีความกล้าหาญ และรู้ดีว่าเวลาไหนควรเล่นอย่างไร เขาไม่ทำอะไรยาก ๆ เวลาโดนกดดัน และสามารถพาบอลขึ้นมาหาช่องได้เมื่อมีโอกาส"
"เขาเล่นโดยคอยมองหาจังหวะการผ่านบอลอยู่ตลอดเวลา และหากพูดถึงความสามารถเชิงเทคนิค เขายังสามารถพัฒนาได้อีกไกล"
ก้าวขึ้นทีมชุดใหญ่
หลังกลับมาจากการยืมตัวและรับใช้ทีมชาติรุ่นเล็ก ควอนซาห์ ถูกเรียกมาติดทีมชุดใหญ่ระหว่างช่วงพรีซีซั่นที่เยอรมนีและสิงคโปร์ เหมือนกับทุกครั้งที่ คล็อปป์ มักดึงนักเตะดาวรุ่งไปร่วมทีมในช่วงอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาล
ความแตกต่างคือ ควอนซาห์ แสดงให้เห็นอะไรบางอย่างที่กุนซือชาวเยอรมันต้องการจากเซ็นเตอร์แบ็กของทีม มากพอจะทำให้ ลิเวอร์พูล ไม่ต้องลงตลาดเพื่อหาเซ็นเตอร์แบ็กคนใหม่มาร่วมทัพ
แต่คงไม่มีใครคาดคิดว่ากองหลังวัย 20 ปี จะได้โอกาสลงสนามเกมพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม 2023 เพื่อมาแทน โจเอล มาติป ในช่วง 13 นาทีสุดท้ายของเกม ระหว่างที่หงส์แดงเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน ในแมตช์ที่พวกเขาพลิกสถานการณ์บุกไปชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-1
"ผู้จัดการทีมบอกว่าผมพร้อมแล้ว และผมก็รู้สึกว่าตัวเองพร้อมที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ในสถานการณ์นี้" เจ้าตัวเล่าถึงช่วงเวลาก่อนลงสนามผ่านเว็บไซต์ของสโมสร โดยแม้ต้องลงสนามมาในช่วงเวลาที่ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายตามหลังอยู่ 0-1 แต่ ควอนซาห์ ได้แสดงให้เห็นถึงความนิ่งในด้านสภาพจิตใจ เช่นเดียวกับจังหวะผ่านบอลขึ้นเกม ที่เขาพยายามหาช่องเพื่อเปิดบอลไปในแดนหน้าอยู่เสมอ
แม้หลายฝ่ายอาจคิดว่า ควอนซาห์ ต้องรอโอกาสลงเล่นในเกมฟุตบอลถ้วย ไม่ว่าจะเป็นคาราบาวคัพ ยูโรปาลีก หรือเอฟเอคัพ แต่กลายเป็นว่าเจ้าหนูวัย 20 ปีรายนี้ เป็นหนึ่งในตัวเลือกหมุนเวียนของแผงเกมรับไปเสียแล้ว จากอาการบาดเจ็บจนต้องปิดฤดูกาลของ โจเอล มาติป และ อิบราฮิมา โกนาเต้ ไม่สามารถยืนระยะลงเล่นอย่างต่อเนื่องได้ทุกเกม
จังหวะการเข้าสกัด เซกิ แอมดูนี ก่อนที่ผู้เล่นของ เบิร์นลี่ย์ จะหลุดไปมีโอกาสทำประตู หรือลูกยิงประเดิมประตูแรกในสีเสื้อหงส์แดงของแมตช์ยูโรปาลีก เป็นส่วนหนึ่งของหลายจังหวะที่ ควอนซาห์ แสดงออกว่าเขาพร้อมกับการพิสูจน์ตัวเอง เพื่อรับโอกาสลงเล่นเคียงข้างกับรุ่นพี่อย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค และ โกนาเต้
คล็อปป์ กล่าวถึงเซ็นเตอร์แบ็กรายนี้ไว้ว่า "ถ้าคุณถามผมตั้งแต่ก่อนพรีซีซั่น ใช่เลย ผมคงเซอร์ไพรส์ที่เขาพัฒนามาได้ขนาดนี้ แต่การได้เห็นเขาลงซ้อมทุกวันในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล ทำให้ผมไม่รู้สึกเซอร์ไพรส์เลย เขาคือนักเตะที่ดีและยังสามารถพัฒนาได้อีก จากสิ่งที่เจ้าตัวแสดงออกมาตั้งแต่วันแรก"
แต่การกระโดดขึ้นมาจากฟุตบอลระดับอคาเดมี่ สู่ลีกสูงสุดของประเทศ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วไม่น้อย ทำให้มีคำถามว่าอะไรคือเบื้องหลังการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของ ควอนซาห์ ในฤดูกาลนี้
เรียนรู้จากทุกอย่าง
เจ้าตัวเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ของสโมสรว่า "ผมเคยใช้วิดีโอมุมสูงของสนาม เพื่อมาดูการเคลื่อนที่ของแผงแนวรับ และรายละเอียดต่าง ๆ ผมเรียนรู้จากการดูนักเตะที่เคยผ่านเกมระดับสูงมาแล้วไม่น้อยกว่า 400-500 นัด"
"เฟอร์กิล (ฟาน ไดจ์ค) ทำให้ทุกอย่างในสนามดูง่ายไปหมดเลย และตอนได้ลงเล่นข้างเขามันก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน ทำให้ผมเหมือนได้เรียนรู้แบบ 24 ชั่วโมง ตลอดทั้ง 7 วันไปเลย"
นอกจากบทเรียนที่ได้จากรุ่นพี่ในสโมสรแล้ว ควอนซาห์ ยังได้ประสบการณ์ล้ำค่าจากช่วงเวลาที่ไปยืมตัวกับ บริสตอล โรเวอร์ส เช่นกัน "ผมได้สัมผัสกับการลงเล่นแบบทุ่มทุกอย่างเพื่อชัยชนะ และการที่นักเตะมากประสบการณ์ใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายมาสู้กับคุณ มันคือส่วนที่ผมต้องปรับตัวอยู่"
อีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยให้ ควอนซาห์ เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว คือความถ่อมตัวและให้เกียรติกับผู้เล่นและทีมงาน ซึ่งเป็นสรรพคุณที่ได้รับการยืนยันจากทั้งโค้ชระดับทีมชาติและสโมสร นั่นคือเจ้าตัวพร้อมที่จะเรียนรู้จากรุ่นพี่มากประสบการณ์ รับฟังข้อมูลจากโค้ชในสนามซ้อม ไปพร้อมกับมีความมั่นใจในตัวเองมากพอที่จะสอดแทรกขึ้นมาเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงกับพี่ ๆ ได้
หลังจาก มาติป ประสบอาการบาดเจ็บระยะยาวไป ควอนซาห์ เปิดเผยว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นกับ โจเอล มันไม่ดีเลย และผมรู้สึกเสียใจกับเขาจริง ๆ แต่แนวคิดของผมคือการพยายามก้าวข้ามเขาให้ได้ และผลักดันตัวเองให้เป็นเซ็นเตอร์แบ็กตัวจริงของเกมพรีเมียร์ลีก"
จากวันนั้น ควอนซาห์ ได้โอกาสลงเล่นตลอดทั้งครึ่งปีหลังของปี 2023 ไปแล้ว 14 นัด และมีสถิติเลี้ยงผ่านสำเร็จ กับจ่ายบอลสำเร็จมากสุดในบรรดา 4 เซ็นเตอร์แบ็กชุดใหญ่ของทีม แต่ตัวเลขดังกล่าวยังเป็นสถิติจากเวลารวม 263 นาทีในสนามเท่านั้น ซึ่งแปลว่ายังมีบทพิสูจน์อีกยาวไกลสำหรับนักเตะเจ้าของเบอร์เสื้อเลข 78 กับการยืนระยะบนลีกสูงสุดของเกาะอังกฤษ
ผลผลิตจากอคาเดมี่ของหงส์แดงจะไปได้ไกลแค่ไหน มาทดแทนช่องว่างในวิกฤตินักเตะบาดเจ็บได้ไหม เขาจะตามรอยรุ่นพี่อย่าง เจมี่ คาร์ราเกอร์ และ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้หรือไม่ คือสิ่งที่น่าติดตามดูในปี 2024 ที่กำลังมาถึงนี้
แหล่งอ้างอิง:
https://www.liverpoolfc.com/news/id-get-footage-jarell-quansah-reveals-247-learning-liverpool
https://www.liverpoolfc.com/news/jarell-quansah-signs-new-liverpool-fc-contract
https://www.liverpoolfc.com/news/jarell-quansah-hoping-loan-experience-can-lead-liverpool-opportunities
https://theathletic.com/5163591/2023/12/29/jarell-quansah-liverpool-transfer/
https://www.liverpoolfc.com/news/jarell-quansah-i-wanted-chance-and-ill-keep-working-improve
