Feature

เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ : กุนซือที่ครั้งหนึ่งพาบาร์เซโลน่าผงาดด้วยสไตล์ฟุตบอลอังกฤษ | Main Stand

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2023 เกิดข่าวเศร้าในวงการฟุตบอลอังกฤษ เมื่อ เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษ ได้เสียชีวิตลงในวัย 80 ปี หลังจากป่วยมาเป็นเวลานาน

 

แน่นอนว่าแฟนฟุตบอลอังกฤษ โดยเฉพาะสาวกรุ่นเดอะคงคุ้นหูกับชื่อเสียงเรียงนามของเวนาเบิ้ลส์เป็นอย่างดี เพราะในสมัยที่ยังเป็นนักเตะและโค้ช เวนาเบิ้ลส์โลดแล่นในวงการลูกหนังอังกฤษมาแบบโชกโชน แถมยังเคยทำหน้าที่คุมทีมชาติอังกฤษ ชุดฟุตบอลยูโร 1996 มาแล้ว

อย่างไรก็ดี ชื่อเสียงของ เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ ไม่ได้ถูกจารึกและได้รับการสดุดีแค่ที่เกาะอังกฤษเท่านั้น อดีตกุนซือผู้ล่วงลับรายนี้ยังเป็นขวัญใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับทีมแกร่งแดนสเปน อย่างบาร์เซโลน่าด้วยเช่นกัน จากช่วงชีวิตที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเข้าไปเป็นโค้ชให้ โดยเป็นการคุมทีมเพียงช่วงสั้น ๆ ราว 3 ปีกว่า

เหตุใด เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ ถึงเป็นที่รักของทุกคนที่อาซูลกราน่า เขาเคยเข้าไปทำอะไรให้ทีมบ้าง Main Stand ขอชวนแฟนฟุตบอลทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ มารับรู้เรื่องราวเหล่านี้ไปพร้อม ๆ กัน

 

จาก ลอฟตัส โร้ด สู่ คัมป์นู

“การโทรในครั้งนั้นเกิดขึ้นโดยที่ผมไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ” 

“เป็นคุณ คุณจะไม่รับงานนี้อย่างนั้นเหรอ การย้ายจากคิวพีอาร์ไปบาร์เซโลนานั้นน่าทึ่งมากนะ และมันจะไม่เกิดขึ้นอีกแน่ ๆ ไม่ว่าจะสนามแข่งขัน การเซ็ตอัปอะไรต่าง ๆ - ทั้งหมดนี้แตกต่างจาก ลอฟตัส โร้ด (รังเหย้าคิวพีอาร์) นะ ผมหยิกตัวเองเลย ผมไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ มันเป็นการก้าวกระโดดที่น่าทึ่งมาก”

ย้อนกลับไปในช่วงเดือนมิถุนายน 1984 เมื่อจู่ ๆ เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ ที่สถานะในเวลานั้นเพิ่งจะแขวนสตั๊ดและแปรเปลี่ยนสถานะมาเป็นกุนซือฟุตบอลได้ราว 8 ปี ได้รับโทรศัพท์จากตัวแทนของ บาร์เซโลน่า ทีมแกร่งชื่อก้องจากประเทศสเปน ซึ่งติดต่อให้เขาเข้าไปคุมสโมสร

ที่มาที่ไปของดีลสะเทือนวงการลูกหนังสองประเทศนี้เกิดขึ้นจากคำแนะนำของ (เซอร์) บ็อบบี้ ร็อบสัน กุนซือทีมชาติอังกฤษในเวลานั้น และ (เซอร์) ดั๊ก เอลลิส อดีตประธานสโมสร แอสตัน วิลล่า ซึ่งทั้งสองมีสายสัมพันธ์อันดีกับ โจน กาสปาร์ต ซึ่ง ณ ตอนนั้นดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานสโมสรบาร์เซโลน่า โดยกาสปาร์ตเป็นคนถามทั้งร็อบสันและเอสลิสว่า ใครคือกุนซืออังกฤษฝีไม้ลายมือดี และน่าจับตามากที่สุดในตอนนั้น 

คำตอบจากทั้งคู่ก็คือ “เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์”

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวนาเบิ้ลส์เข้ามาคุมยอดทีมแห่งถิ่มคัมป์นูในช่วงแรก เขาถูกข้อครหาจากใครหลายคนเข้าทันที ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา ทั้งการที่คนลูกหนังแดนกระทิงไม่ได้ติดตามฟุตบอลต่างประเทศมากเท่าใดนัก ตลอดจนการเปิดรับคนต่างชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแวดวงลูกหนังก็ยังมีอย่างจำกัด ขณะที่ตัวของเวเนเบิ้ลส์เองก็พูดสแปนิชไม่ได้ 

นอกจากนี้ การมาของเวนาเบิ้ลส์ ยังมีโจทย์ใหญ่ที่ท้าทายอีกถึงสองโจทย์ เมื่อสโมสรไม่ได้เป็นแชมป์ลีกสูงสุดมาตั้งแต่ฤดูกาล 1973-74 แถมอดีตกุนซือที่เคยคุมแค่ คริสตัล พาเลซ และ คิวพีอาร์ ในช่วงก่อนมาคุมทัพสีน้ำเงิน-เลือดหมู ยังโดนยกไปเปรียบเทียบกับเซซาร์ หลุยส์ เมนอตติ กุนซือคนก่อนหน้าอย่างยากจะหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะเรื่องของประสบการณ์คุมทีม เพราะเทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ เข้ามารับช่วงต่อจากเฮดโค้ชที่ครั้งหนึ่งเคยคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกร่วมกับทีมชาติอาร์เจนติน่าในปี 1978 นั่นเอง

“คุณเป็นใคร ?” นี่คือคำทักทายแรกจาก แบรนด์ ชูสเตอร์ กองกลางกำลังสำคัญชาวเยอรมัน หลังสโมสรเปิดตัวกุนซือคนใหม่ที่เป็นคนอังกฤษ

กระนั้น เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ ก็ทำให้วงการฟุตบอลกระทิงดุได้รับรู้ถึงตัวตนของเขา ตลอดจนแนวทางการทำทีมที่แตกต่าง และที่สำคัญ เขาทำให้เห็นตั้งแต่เกมแรกของฤดูกาล 1984-85 ที่บาร์เซโลน่า มีคิวไปเยือนคู่ปรับตลอดกาล “เรอัล มาดริด”

 

พาอาซูลกราน่าเถลิงแชมป์ลีกรอบ 11 ปี

ไม่รู้ว่าโชคชะตาเล่นตลกอะไรกับ เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ เพราะโปรแกรมทางการเกมแรกที่เขาต้องรับผิดชอบ ในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่บาร์เซโลน่า นั่นคือเกมออกไปเยือน ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ของ เรอัล มาดริด

เมื่อดูตามเนื้อผ้า แน่นอนว่าทีมที่ภาษีดูดีกว่าหลายขุมก็คือพลพรรค โลส บลังโกส ที่ได้เล่นในบ้านต่อหน้าแฟน ๆ แถมอุดมไปด้วยนักเตะมากชื่อชั้นในประเทศ ยกตัวอย่าง หอกจอมถล่มสกอร์อย่าง เอมิลิโอ บูตราเกนโญ่

ขณะที่อาซูลกราน่า นอกจากจะมีกุนซือดีกรีลีกรองอังกฤษคุมทัพแล้ว นี่ยังเป็นซีซั่นแรกของทีมหลังเสีย ดิเอโก้ มาราโดน่า ซึ่งย้ายไปร่วมทีม นาโปลี มิหนำซ้ำ ศูนย์หน้าที่ถูกมาทดแทนเสือเตี้ย ยังให้สถานะนักเตะ “โนเนม” ไม่ต่างกับโค้ช นั่นคือ สตีฟ อาร์ชิบัลด์ กองหน้าสกอตแลนด์ ว่ากันว่าเวนาเบิ้ลส์ เป็นคนเลือกชื่อของดาวยิงจากสเปอร์สด้วยตัวเอง โดยเลือกก่อนหน้า ฮูโก้ ซานเชซ หัวหอกเม็กซิกันจาก แอตเลติโก มาดริด ด้วยซ้ำไป
 
อย่างไรก็ตาม หลังสิ้นเสียงนกหวีดยาวในช่วงครึ่งหลัง กลับกลายเป็นว่าทีมที่คว้าชัยชนะคือ บาร์เซโลน่า เหนือ เรอัล มาดริด 3-0 โดยอาร์ชิบัลด์ทำได้หนึ่งประตูในเกมนั้น

“ตอนที่ผมคุมทีมครั้งแรก ความคาดหวังต่ำมากนะ” BBC เผยบทสัมภาษณ์ของเวนาเบิ้ลส์ 

“แฟนบอลที่เจอผมตามท้องถนน มักจะเข้ามาพูดกับผมว่า ‘แค่คุณเอาชนะเรอัล มาดริดได้ เท่านั้นก็ถือเป็นฤดูกาลที่ดีแล้วล่ะ’ และเมื่อผมบอกพวกเขาไปว่าเรามีดีพอที่จะคว้าแชมป์ลีก พวกเขาจะหัวเราะใส่หน้าผม”

“ตอนที่เราเจอกับ เรอัล มาดริด ในนัดเปิดสนามที่เบร์นาเบว เรอัล มาดริด มี เอมิลิโอ บูตราเกนโญ่ เป็นกองหน้า ทุกคนล้วนแต่เป็นนักเตะระดับท็อป ดูแล้วเหมือนเป็นลางร้าย แต่ในแง่หนึ่ง มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับพวกเรา เราชนะเกมการแข่งขัน จากนั้นเราก็สามารถเริ่มต้นในแนวทางของพวกเราต่อไป ทุกคนบ้าคลั่งกันสุด ๆ หลังเราคว้าชัยกลับบ้านถึง 3-0 ผมอยากบอกว่า ทุกคน ผมมาแล้ว !”

เพียงแค่ฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมบาร์เซโลน่า เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ พาทีมประสบความสำเร็จในแบบที่กุนซือคนก่อนหน้าในรอบกว่าทศวรรษไม่เคยทำได้ นั่นคือการพาสโมสรคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นสมัยที่ 10 นับแต่ก่อตั้งสโมสร ที่น่าตกใจคือเขาทำให้สโมสรครองการเป็นทีมอันดับหนึ่งของตารางมาตั้งแต่แมตช์เดย์แรกยันแมตช์เดย์ที่ 34 นัดสุดท้ายของฤดูกาล

นอกจากนี้ บาร์ซ่าในซีซั่น 1984-85 กระซวกประตูคู่แข่งไปถึง 69 ลูก และคนที่คว้าดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรก็คือ สตีฟ อาร์ชิบัลด์ (15 ประตู รวมทุกรายการ)

เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ นำระบบฟุตบอลอังกฤษเข้ามาปรับใช้ในวงการฟุตบอลสเปน อย่างแผนการเล่นสไตล์คลาสสิก 4-4-2 มีกองหลังที่ช่วยกันขันเกมรับให้แน่น ฟูลแบ็คช่วยซัพพอร์ตเกมด้านข้าง ใช้คู่กองกลางมันสมองคอยขับเคลื่อน และเป็นผึ้งงานคอยประสานเกมรับเกมรุกให้กลมกล่อม 

เช่นเดียวกับการนำรูปแบบการซ้อมที่อังกฤษเข้ามาประยุกต์ มีตั้งแต่การซ้อมที่เน้นรูปแบบของแอโรบิค กล่าวคือซ้อมแบบใช้อากาศหรือออกซิเจน เพื่อนำมาเป็นตัวช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน แม้ว่าช่วงแรกนักเตะจะไม่เห็นด้วยกับการซ้อมเช่นนี้ ทว่าภายหลังเกมอุ่นเครื่องนัดหนึ่งในพรีซีซั่น ที่ทีมเอาชนะคู่แข่งถึง 9-0 ว่ากันว่าทัศนคติของทีมก็เริ่มเปลี่ยนไป

นอกจากนี้ ยังมีการซ้อมจังหวะทำประตูจากลูกเตะมุม ซึ่งไม่ค่อยเห็นการเข้าทำในลักษณะนี้ที่ลีกสเปนมากเท่าใดนัก ตลอดจนความเชื่อมั่นในเรื่องสภาพร่างกายและพลังงานของนักเตะในทีม ที่มองว่าเป็นข้อแตกต่างและสามารถใช้กดดันคู่แข่งได้ โดยเฉพาะเรื่องการเพรสซิ่ง ซึ่งถือเป็นคีย์ข้อหนึ่งของทีมในยุคนั้น

เช่นเดียวกับการมองเห็นศักยภาพของขุมกำลังบางส่วนจากทีมสำรองสโมสร นำมาซึ่งการให้ใจผ่านการผลักดันสู่ทีมชุดใหญ่ เป็นต้น

“ทั้งหมดนี้ทำให้บาร์เซโลน่าได้เปรียบทีมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเรื่องระบบการเล่น ขณะที่นักเตะก็เป็นภาพตัวแทนของนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในยุคนั้น มีทั้งสภาพร่างกายที่ยอดเยี่ยม มีความเข้มข้นในเกมการแข่งขัน เช่นเดียวกับเรื่องของการจัดการที่ดี” กิเยม บาลาเก้ กูรูฟุตบอลชาวสเปน กล่าวสรุปถึงความสุดยอดของบาร์ซ่าในยุคนั้น ผ่าน BBC

“เขาเป็นผู้ริเริ่มแนวคิดฟุตบอลเช่นการเพรสซิ่งใส่คู่ต่อสู้ ซึ่งทำให้ผู้คนในลาลีก้ารู้สึกประหลาดใจจริง ๆ” วิคเตอร์ มูนญอซ ตอกย้ำถึงความเปลี่ยนแปลงในทีมบาร์ซ่า ยุคกุนซือเวนาเบิ้ลส์

 

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา

“การเป็นแชมป์ว่ายากแล้ว แต่การรักษาแชมป์นั้นยากยิ่งกว่า” คำกล่าวอมตะนี้ถือว่าใช้ได้กับทุกแวดวงการกีฬา เช่นเดียวกับช่วงซีซั่นต่อ ๆ มาของบาร์เซโลน่า ภายใต้กุนซือชาวอังกฤษ เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์

หลังความยิ่งใหญ่ในฤดูกาล 1984-85 ที่อดีตแข้งเชลซีและท็อตแน่มผู้นี้พาทีมเป็นแชมป์ลีกในรอบ 11 ปี ปรากฎว่าช่วงเวลากว่าสองฤดูกาลนับจากนั้น ความสำเร็จในรูปแบบของ “โทรฟี่” เริ่มมีอย่างจำกัดมากขึ้น

แต่ถึงอย่างไร ใช่ว่าสไตล์ฟุตบอลของบาร์เซโลน่ายุคเวนาเบิ้ลส์จะเสื่อมมนต์ขลังลงไปในทันที นั่นเพราะซีซั่น 1985-86 กุนซืออิงลิชชนผู้นี้หวิดจะทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดครั้งหนึ่งให้กับตัวเองและสโมสร เมื่อเขาพาอาซูลกราน่าผงาดชิงชนะเลิศในรายการยูโรเปี้ยน คัพ หรือเทียบสถานะปัจจุบันก็คือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ในการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศกับ สเตอัว บูคาเรสต์ ทีมแกร่งจากโรมาเนีย ในสังเวียน ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน ของเซบีย่า ให้ภาพดั่งการได้เล่นในบ้านอย่างไรอย่างนั้น แน่นอนว่ากูรูทุกคนต่างก็มองเป็นเสียงเดียวกันว่าบาร์เซโลน่า จะเถลิงแชมป์ยุโรปได้

กระนั้น ทุกอย่างกลับไม่เป็นดั่งที่คาด เมื่อทั้งเวลาปกติและเวลาพิเศษจบลงด้วยผล 0-0 และเมื่อต้องดวลลูกโทษตัดสิน ผลปรากฏว่าสโมสรจากชาติที่โลกขนานนามว่า “ผีดิบ” แม่นกว่า เอาชนะไป 2-0 โดยผลลัพธ์จากความพ่ายแพ้ครั้งนี้ มันกลายเป็นความทรงจำที่ไม่ดีเท่าไรกับต่อตัวของ เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ ลูกทีม ไปจนถึงแฟนบอล 

จนเราอาจกล่าวได้ว่า นี่คือหนึ่งในช่วงชีวิตที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลที่มัน “ยากลำบาก” ที่สุดในชีวิตของทุกคนในทีม

“ถ้วยยุโรปในครั้งนั้นควรเป็นถ้วยแห่งประวัติศาสตร์ของสโมสร มันกลายเป็นบาดแผลใหญ่ และทุกอย่างเหมือนพังทลายลงมา” สตีฟ อาร์ชิบัลด์ ย้อนความ

และถึงแม้ขวบปีต่อ ๆ มา เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ จะปรับปรุงขุมกำลังทีมเพื่อสู้ศึกที่เข้ามาหา อย่างการอิมพอร์ต แกรี่ ลินิเกอร์ และ มาร์ค ฮิวจ์ส มาจากดิวิชั่น1 อังกฤษ และทั้งสองก็ทำผลงานได้เข้าตา โดยเฉพาะลินิเกอร์ ที่ย้ายมาปีแรกแต่คว้าดาวซัลโวสูงสุดของทีม และเป็นรองดาวซัลโวของลาลีก้า ที่ 20 ประตู แต่กระนั้น หากมองความสำเร็จในรูปแบบแชมป์รายการสำคัญ บาร์ซ่าไม่อาจทำจุดนี้สำเร็จได้ 

กระทั่งฟางเส้นสุดท้ายของ เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ มาเกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน 1987 หลังทำทีมออกสตาร์ตบู่แพ้รวดในลีก 4 นัด ในเดือนดังกล่าว เขาก็ถูกสโมสรปลดออกจากเก้าอี้กุนซือ ปิดฉากช่วงเวลากว่า 3 ปีที่บาร์ซ่านับแต่นั้น

อย่างไรเสีย ด้วยผลงานที่ได้รับการตราตรึงโดยเฉพาะในช่วงแรกที่เข้ามาคุม ตลอดจนสถิติรวมผ่านตัวเลขการคุมทีมทั้งสิ้น 168 นัด เขาพาทีมชนะถึง 86 นัด คิดเป็นอัตราสำเร็จถึงร้อยละ 51.2 ยังไม่นับเรื่องการพลิกโฉมแนวทางฟุตบอลที่เอาความเป็นอังกฤษมาปรับใช้ จนกลายเป็นมิติใหม่แห่งวงการลูกหนังกระทิง

เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ที่จะทำให้ เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ เป็นที่รักของทุกคนที่ บาร์เซโลน่า ไม่ว่าจะลูกทีม แฟนคลับ ไปจนถึงเด็กเก็บบอลที่ชื่อ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไปจนวาระสุดท้ายของชีวิต

 

สดุดีกุนซือผู้ยิ่งใหญ่

จากที่โดนข้อครหาน้อยใหญ่ในฐานะกุนซือที่มีประสบการณ์คุมทีมแค่ในลีกรองอังกฤษ จนในที่สุด เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ ก็พาตัวเองจากที่โนเนม กลายเป็นกุนซือที่ทุกคนที่บาร์เซโลน่า รักและสดุดี เยี่ยงตำนานสโมสร ดังคำกล่าวอาลัยจากผู้ที่เคยร่วมงานกับอดีตเทรนเนอร์ผู้ล่วงลับ

“เทอร์รี่เป็นคนคิดบวกมาก เป็นที่ชื่นชอบของทุก ๆ คน เขานำสไตล์ฟุตบอลที่แตกต่างออกไปมาสู่ทีม อย่างเรื่องการเล่นเพรสซิ่ง และการใช้สภาพร่างกายเข้าต่อสู้ ดูเหมือนว่าเรื่องเดียวที่ขาดหายไปก็คือการพลาดแชมป์ยุโรป” โฆเซ่ รามอน อเล็กซานโก้ อดีตกัปตันบาร์เซโลน่า เผย

"ไฟดับลงแล้ว แต่อยู่ในความทรงจำของเราเสมอ เทอร์รี่ นักกลยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่" โลโบ การ์รัสโก อดีตปีกบาร์ซ่า ร่วมรำลึก

“ในฐานะแฟนบอลบาร์เซโลน่า เขาทำให้เราได้แชมป์ ลา ลีกา หลังจากไม่ได้มานาน 11 หรือ 12 ปี ที่นั่น (บาร์ซ่า) เขามีอิทธิพลอย่างน่าเหลือเชื่อ เขานำบางสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนมาสู่ทีม ทั้งระบบการเล่นเพรสซิ่ง และลูกตั้งเตะที่ทำให้กองหลังทำประตูได้มากมาย” เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ครั้งหนึ่งเคยปรากฏภาพอยู่เคียงข้างเวนาเบิ้ลส์ กล่าวสดุดี “ผมเสียใจกับครอบครัวของเขาด้วย”

และนี่ก็คือเรื่องราวของกุนซือผู้ยิ่งใหญ่ชาวอังกฤษ ที่ครั้งหนึ่งมาผงาดบนแผ่นดินสเปน อยู่ให้รัก จากไปอย่างตำนาน

สู่สุขคติ เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.fcbarcelona.com/en/club/news/3797015/terry-venables-passes-away 
https://www.fourfourtwo.com/news/terry-venables-dies-at-80-former-barcelona-stars-recall-innovator-revolutionary-and-great-showman-who-transformed-the-team-after-diego-maradonas-exit?fbclid=IwAR32Kmmz9KiJCuzg9I_ZdQcMgDBEbwjtJsSBT0n9LROWjPBXj8sSKkcw7RY 
https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-12792671/Terry-Venables-million-Barcelona-fans-streets-winning-LaLiga-title-11-years-Europe-replacing-Diego-Maradona-Steve-Archibald.html 
https://getfootballnewsspain.com/terry-venables-at-fc-barcelona/ 
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Terry_Venables 
https://www.theguardian.com/football/blog/2023/nov/27/terry-venables-barcelona-title-glory-european-cup-final-defeat 
https://www.bbc.com/sport/football/28327573 
https://www.bbc.com/sport/football/67538677 
https://www.theguardian.com/football/2023/nov/27/pep-guardiola-praises-terry-venables-incredible-impact-at-barcelona 

Author

พชรพล เกตุจินากูล

แฟนคลับเชลซี ติดตามฟุตบอลเอเชีย ไก่ทอดและกิมจิเลิฟเวอร์

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

ปริญญา คงปันนา

กราฟฟิคหน้าโหด ทำงานด้วย Passion ว่างๆ ชอบไปคาเฟ่ หลงไหลในศิลปะ, การเดินทางและกีฬา