ไม่ว่าจะในฐานะนักเตะ และในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ดิโอโก้ โชต้า ทำมันอย่างสุดความสามารถ น่าเสียดายที่ทุกอย่างคงต้องหยุดไว้เท่านั้นเนื่องจากการจากไปแบบไม่มีวันกลับของเขา
ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนบอลของ ลิเวอร์พูล หรือไม่ คุณไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า การเสียชีวิตของเขาคือความสูญเสียที่โลกฟุตบอลจะต้องคิดถึงเขาตลอดไป
นี่คือ 7 ช่วงเวลาสำคัญในอาชีพของเขา ที่ ดิโอโก้ โชต้า ฝากไว้ให้กับแฟนบอลก่อนจะถึงการเดินทางไกลแบบไม่มีวันกลับของเขา
"ดิโอโก้ & ราอูล" Wolves Deadly Duo
ย้อนกลับไปหลายปีก่อน วูล์ฟส์ เป็นเพียงน้องใหม่ในฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ทุกคนตั้งตารอดูฟอร์ม เนื่องจากพวกเขาเป็นทีมที่มีกลุ่มทุนชาวจีนเป็นเจ้าของ และทุ่มเงินสร้างทีมขึ้นมาใหม่ด้วยการนำนักเตะชาวโปรตุเกสเข้ามาเสริมทัพมากมาย จากการสนับสนุนของ ฮอร์เก้ เมนเดส อดีตเอเย่นต์ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ผู้กว้างขวางในวงการ
การนำพานักเตะโปรตุเกสเข้ามาของ เมนเดส มีหลายคนที่กลายเป็นผู้เปลี่ยนแปลงให้น้องใหม่ทีมนี้เป็นหมาป่าติดปีกตั้งแต่ซีซั่นแรกที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก แต่คนที่โดดเด่นติดดาวและถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในดูโอ้แนวรุกที่อันตรายที่สุดในช่วงเวลานั้นก็คือ ดิโอโก้ โชต้า ที่จับคู่กับ ราอูล ฆิเมเนซ ดาวยิงชาวเม็กซิกัน
ทั้งสองคนตอบโจทย์การเล่นสวนกลับของกุนซือ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ แบบเต็ม ๆ ฆิเมเนซ รับบทตัวชน-ตัวเก็บ ส่วน โชต้า เป็นหน่วยทะลวงแนวรับที่ใช้ทักษะฟุตบอลอันเหนือชั้น การคาดการณ์ล่วงหน้าที่แม่นยำ และการจบสกอร์ที่เฉียบขาด ซึ่งในปีนั้น วูล์ฟส์ ได้ประตูจาก โชต้า 10 ลูกและ 12 แอสซิสต์ ขณะที่ ฆิเมเนซ ยิงไปอีก 17 ประตูและทำไปอีก 6 แอสซิสต์ จนน้องใหม่อย่างวูล์ฟส์ จบอันดับที่ 7 ของตารางแบบสุดเซอร์ไพรส์
ตัวของ โชต้า ที่ในเวลานั้นอายุแค่ 20 ปี ได้รับคำชมมากมาย โดยเฉพาะโค้ชอย่าง นูโน่ ที่บอกว่าการผสานงานของทั้งคู่ลงตัวแบบเขาไม่เคยเห็นมาก่อน "ดิโอโก้ และ ราอูล เข้าใจกันในสนามแบบที่เราเองก็ไม่อยากจะเชื่อ พวกเขายิ่งกว่ามองตาก็รู้ใจ แค่คนนึงได้บอล อีกคนก็รู้แล้วว่าจะต้องขยับไปทางไหน ... ไม่มีอะไรอธิบายถึงความยอดเยี่ยมของทั้งคู่ได้มากไปกว่าสิ่งที่เขาแสดงออกมาในสนามอีกแล้ว"
การแจ้งเกิดกับ วูล์ฟส์ ทำให้ โชต้า ที่เล่นให้ทีม 3 ฤดูกาล ลงเล่นไป 131 เกมยิงได้ทั้งหมด 41 ประตู ได้ย้ายไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2020 อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ภาพการประสานงานของทั้งคู่ยังถูกฉายซ้ำบนโซเชี่ยลมีเดีบแทบทุกช่องทาง และประโยคคลาสสิกสำหรับทั้งคู่ก็คือ "The Streets Never Forget" หรือ "ตำนานที่พวกเราชาววูล์ฟส์ไม่มีวันลืม"
ราชา FIFA อันดับ 1 แห่งพรีเมียร์ลีก
หลายคนบอกว่าเป็นไปได้ยากที่คนเราจะเก่งอะไรทั้ง 2 อย่างในเวลาเดียว แต่นั่นเหมือนจะไม่ใช่คำจำกัดความของ ดิโอโก้ โชต้า เพราะเขาคนนี้ไม่ใช่แค่เป็นนักเตะระดับแถวหน้าของพรีเมียร์ลีกเท่านั้น แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง ในจักรวาลของเกมเมอร์ เขาก็ถือเป็นเกมเมอร์ที่มีถ้วยแชมป์การันตีด้วยเช่นกัน และ โชต้า แสดงมันออกมาในช่วงเวลาที่ โควิด-19 ระบาดจนเกิดมาตรการล็อกดาวน์ และทำให้ทางพรีเมียร์ลีกจัดการแข่งขันชิงแชมป์เกม FIFA (EA SPORTS FC ในปัจจุบัน) จาก 20 สโมสรในพรีเมียร์ลีก
โดย โชต้า ที่ ณ เวลานั้นเป็นตัวแทนของ วูล์ฟส์ สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนบอลเป็นอย่างมาก เขาไล่ปราบนักเตะของทีมอื่น ๆ แบบง่ายดาย ก่อนเดินทางมาถึงรอบชิงกับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ตัวแทนจาก ลิเวอร์พูล และสุดท้าย โชต้า ก็เอาชนะ เทรนท์ ไป 2-1 ก่อนที่เขาจะนำเงินรางวัลที่ได้จากการแข่งขันทั้งหมดบริจาคให้แฟนบอลผ่านแคมเปญ #PlayersTogether ซึ่งจัดตั้งขึ้นมาโดยบรรดานักเตะพรีเมียร์ลีก เพื่อนำไปมอบให้กับสำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติของอังกฤษ (NHS) ไว้สำหรับต่อสู้กับวิกฤตการณ์ไวรัส โควิด-19 ต่อไป
ความเก่งกาจด้านเกม FIFA และความคลั่งไคล้ใน E-Sports ทำให้ โชต้า มีทีมอีสปอร์ตสของตัวเองที่ชื่อว่า Diogo Jota Esports ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Luna Galaxy Esports ซึ่งจุดนี้ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า มนุษย์เราสามารถทำสิ่งที่รักทั้ง 2 สิ่งพร้อม ๆ กันได้ ตราบใดก็ตามที่เราพร้อมจะทุ่มเทเพื่อสิ่ง ๆ นั้นจริง ๆ
ประตูที่ 10,000 ของสโมสร ลิเวอร์พูล
หลังจาก ลิเวอร์พูล ภายใต้ยุคสมัยของกุนซือ เยอร์เก้น คล็อปป์ ประสบความสำเร็จ คว้าทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีก และแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาครองได้สำเร็จ คล็อปป์ จึงต้องการนักเตะสักคนที่เข้ามาเติมเขี้ยวเล็บในแนวรุก เพื่อช่วยลดภาระงานของ 3 ผู้ยิ่งใหญ่อย่าง โม ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ซึ่งสุดท้ายหวยก็มาออกที่ โชต้า จาก วูล์ฟส์ ในราคาราว ๆ 44 ล้านปอนด์
โชต้า เข้ามาและกลายเป็นตัวสอดแทรกที่ลงล็อกตั้งแต่เริ่ม วิธีการเล่นของเขามีความแตกต่างจากทั้ง 3 คน และช่วยให้อาวุธของทีมหลากหลายมากขึ้น ในช่วงเวลาตึง ๆ เกมตัน ๆ คล็อปป์ มักจะส่ง โชต้า ลงสนาม และไม่นานนัก เขามักจะฝากสกอร์ให้กับทีมได้เสมอ ภาพจำของเขาจึงเป็นโจ๊กเกอร์ที่ยิงได้ในเวลาสำคัญ ๆ นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทัพหงส์แดง
โดย โชต้า รับบทบาทนี้ และกลายเป็นนักเตะที่บันทึกชื่อตัวเองในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วยการยิงประตูที่ 10,000 ในทุกรายการของสโมสร ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกนัดพบกับ มิดทิลลันด์ ที่ ลิเวอร์พูล เปิดรัง แอนฟิลด์ เอาชนะไป 2-0
"นี่คือหมุดหมายที่ยิ่งใหญ่ และผมมีความสุขมาก ๆ ที่ทำให้ทีมได้รับชัยชนะ ... 2 สุดยอดลูกเปิดของ เทรนท์ มันมีผลมาก ผมแค่ตั้งท่ารอ เตรียมตัวให้พร้อม และจากนั้นเขาจะเสิร์ฟมันถึงที่เลยล่ะ" โชต้า กล่าวหลังจากเกมนั้น
เด็กฉลาดของ เยอร์เก้น คล็อปป์
อย่างที่กล่าวไปในข้างต้น ในยุคสมัยของคล็อปป์ โชต้า เป็นอาวุธลับที่ส่งลงไปเมื่อไหร่ก็ได้เรื่องเมื่อนั้น ซึ่งความยอดเยี่ยมของเขาได้รับคำชื่นชมจากคล็อปป์ อยู่บ่อย ๆ ส่วนที่ คล็อปป์ ชอบในตัว โชต้า ที่สุด คือความฉลาดในการเล่น และเป็นคนที่รู้ว่าควรจะอยู่ตรงไหนเวลาที่ทีมต้องการ
"แม้เขาจะเป็นคนตัวเล็ก แต่การขยับตัวเข้าหาพื้นที่จากลูกครอสของเขา ทำให้เขาสามารถลบความเสียเปรียบเรื่องส่วนสูงได้"
“เขามีทุกอย่างที่นักเตะลิเวอร์พูลในทีมชุดนี้ต้องการ เขามีทักษะด้านเทคนิค เขามีทักษะด้านร่างกาย และเขาฉลาดมาก และสามารถเรียนรู้เรื่องแท็คติกต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว” กุนซือหงส์แดงกล่าวชื่นชมกองหน้าของเขา
“นอกจากนี้เขายังสามารถเล่นได้ทั้งสามตำแหน่ง ในระบบ 4-2-3-1 เขาสามารถเล่นในตำแหน่งหมายเลข 10 ได้ ดังนั้นมันจึงมีประโยชน์มาก”
“เขามีความเร็ว มีความปรารถนาที่จะจบสกอร์ได้ดี ผมคิดว่าสถิติการทำประตูของเขาน่าประทับใจเสมอ นั่นคือสิ่งที่ผมมักจะชื่มชมเขาตลอดเวลา”
แม้จะไม่ใช่ตัวหลักที่ได้ลงสนามในทุก ๆ เกม แต่ โชต้า คือคนโปรดของ คล็อปป์ เสมอมา แม้แต่แฟนบอลหงส์แดงก็คงคิดไม่ต่างกัน เมื่อใดที่ โชต้า ลุกออกมาจากม้านั่งสำรอง กอดกับ คล็อปป์ และตบไหล่กระตุ้นก่อนลงเล่น ... เมื่อนั้นเตรียมเห็นประตูที่มาจากเขาทั้งทางตรงและทางอ้อมได้เลย
ไม่มีอะไรบนโลกนี้ที่ไร้ประโยชน์ "แม้แต่วีดีโอเกม"
ความฉลาดเฉลียวของ โชต้า มาจากการฝึกซ้อมที่หนักหน่วงเอาจริงเอาจัง รวมถึงการดูแลร่างกายอย่างดี รักษาตัวเองให้อยู่ในวินัยที่ทีมงานโค้ชสั่งมาเสมอ ทว่าหนึ่งสิ่งที่ โชต้า ได้แสดงให้เห็นว่า "โลกยุคปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว" หลายสิ่งที่ใครมองว่าไร้สาระ และเสียเวลาสำหรับคนที่เป็นนักเตะอาชีพ ก็สามารถสร้างประโยชน์ได้ในการลงแข่งขันจริง อยู่ที่ว่าเราจะตกผลึกนำสิ่งที่ได้จากวีดีโอเกมนำมาประยุกต์ใช้กับงานหลักได้ดีแค่ไหน
สำหรับ โชต้า การเล่นเกมมีส่วนช่วยเขาอย่างมากในสนามจริง ในเกมที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ สเปอร์ส เมื่อฤดูกาล 2023-24 ที่ แอนฟิลด์ จากประตูชัยท้ายเกมของเขาที่เขาชิงจังหวะอ่านเกมล่วงหน้า และตัดบอลเข้าไปซัดประตูสุดสวย โชต้า แสดงความดีใจด้วยท่านั่งกดจอยเกม ซึ่งเป็นการบอกในทางอ้อมว่า "ลูกแบบนี้เขาได้มาจากวีดีโอเกม"
"มันอาจจะแปลกหน่อยนะ แต่การเล่นเกมช่วยพัฒนาการเล่นฟุตบอลของเขาจริง ๆ สิ่งที่ชัดที่สุดคือคุณคาดการณ์ล่วงหน้าและเข้าใจเกมได้เร็วมากขึ้น คุณจะไหวตัวได้เร็วเมื่อรู้ว่ามีบางสิ่งที่ทำแล้วไม่เวิร์ก หรือจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรในเชิงของแท็คติก ในส่วนนี้ การเล่นเกมอย่าง FIFA และ Football Manager ให้คุณได้แน่นอน" โชต้า ว่าแบบนั้น
"ประตูที่ยิงได้ในเกมกับ สเปอร์ส ผมคาดการณ์ล่วงหน้าจากสิ่งที่เคยเห็น และมันก็ไม่ได้ถูกต้องไปเสียทุกครั้งหรอกนะ แต่โชคดีที่ครั้งนี้เป็นไปตามที่ผมคาดไว้" โชต้า ว่า
"นั่นคือช่วงเวลาที่ผมคิดว่า มูร่า จะคืนบอลแน่ จากบอลโด่งของ อลีสซง ... ไม่มีใครคิดแบบนั้น แต่ว่าผมคิด แม้ว่า คริสเตียน โรเมโร่ จะเริ่มตื่นตัวเมื่อบอลออกจากเท้า มูร่า แต่นั่นก็ช้าไปแล้ว"
"ไทมิ่ง คือสิ่งสำคัญของผู้เล่นในตำแหน่งเกมรุก ใคร ๆ ก็สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ แต่สิ่งที่ยากคือ คุณต้องทำให้ร่างกายของคุณตอบสนองก่อนใคร ถ้าคุณคือคนที่เร็วที่สุด มันก็ยากที่ใครจะหยุดคุณได้" คำอธิบายของเขา
แชมป์ลีกสมัยที่ 20 กับเสื้อหมายเลข 20 ของ ลิเวอร์พูล
แม้จะเข้ามามีบทบาทเป็นหนึ่งในฟันเฟืองของยุคสมัยที่รุ่งเรืองของ ลิเวอร์พูล แต่ โชต้า ก็ไม่เคยได้แชมป์พรีเมียร์ลีกเลยสักครั้ง จนกระทั่งความพยายามของเขามาสำเร็จเอาในซีซั่น 2024-25 ที่เขาคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 กับ ลิเวอร์พูล ซึ่งตรงกับเสื้อหมายเลข 20 ของเขาพอดิบพอดี
แม้ในซีซั่นที่ผ่านมา โชต้า จะเริ่มฤดูกาลด้วยอาการบาดเจ็บ แต่เมื่อร่างกายของเขากลับมาฟิต ความสำคัญของเขาก็เริ่มฉายแสงออกมา และไม่ว่าจะในระบบของ คล็อปป์ หรือ อาร์เน่อ ชล็อต ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเรืองของความเข้าใจเกมของเขานั้น ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้เขาไม่เคยถูกมองข้าม
“มันเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งสำหรับคนตัวเล็ก ๆ ที่เดินทางมาจากกอนโดมาร์ ซึ่งผมมีความฝันที่จะมาที่นี่ การได้มาถึงจุดนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก” โชต้า กล่าวหลังทีมคว้าแชมป์อย่างเป็นทางการ
“มันยิ่งใหญ่มาก เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยฝันมาก่อนเมื่อตอนเป็นเด็ก ผมอยากเล่นในพรีเมียร์ลีก แต่ผมไม่เคยจินตนาการว่าจะได้แชมป์ ผมแค่อยากเล่นที่นั่น ผมรู้ว่านี่คือลีกที่ดีที่สุดในโลก”
“ผมคิดว่าตั้งแต่ผมมาถึงที่นี่ ผมก็มีส่วนสำคัญกับทีมมาตลอดหลายปีร่วมกับ คล็อปป์ และตอนนี้กับอาร์เน่อ และในที่สุดเราก็ทำได้”
ในวันแห่ฉลองถ้วยแชมป์ โชต้า เป็นหนึ่งในคนที่ยิ้มแย้มและแสดงสีหน้าแห่งความสุขอยู่ตลอดเวลา ไม่น่าเชื่อว่าหลังการเฉลิมฉลองครั้งสำคัญในอาชีพของเขาในเวลาแค่เดือนเดียว จะกลายเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้ชูถ้วยรางวัลแห่งความสำเร็จกับสโมสรที่เขารักที่สุดอย่าง ลิเวอร์พูล
ยอดนักเตะ และสุดยอดแฟมิลี่แมน
ดิโอโก้ โชต้า ไม่ใช่แค่นักเตะที่ผลงานดี มีสถิติจับต้องได้เท่านั้น สิ่งที่ยอดเยี่ยมอีกด้านของเขา คือทัศนคติต่ออาชีพของตัวเอง ที่ทำให้เขาไม่เคยมีปัญหากับใคร ทุ่มเทฝึกซ้อม และเป็นคนที่โค้ชทุกคนที่ร่วมงานด้วยกล่าวชื่นชมเสมอ นั่นทำให้เขาเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานทุกคน
อย่างไรก็ตาม อีกด้านของชีวิต โชต้า ในวัย 28 ปี คือแฟมิลี่แมนตัวจริง ที่ควรได้รับคำชมมากกว่าเรื่องฟุตบอลด้วยซ้ำ
โดยเขาและภรรยาที่เพิ่งเข้าพิธีการแต่งการไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนอย่าง รูท คาร์โดโซ่ คบหาดูใจกันมาตั้งแต่สมัยที่ทั้งคู่อายุ 17 ปี พวกเขาผ่านช่วงเวลามากมาย ตั้งแต่การย้ายประเทศไปด้วยกันทั้งในสเปน และในอังกฤษ
รูท เป็นลมใต้ปีกที่ทำให้อาชีพค้าแข้ง โชต้า ดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น ขณะที่ โชต้า เองก็ดูแลแฟนสาวทั้งในฐานะคนรัก และในฐานะแม่ของลูกทั้ง 3 คนของเขาเป็นอย่างดี ซึงเมื่อถึงช่วงเวลาที่ทุกอย่างสุกงอม เขาคว้าแชมป์ลีกร่วมกับ ลิเวอร์พูล รวมถึงคว้าแชมป์ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก กับทีมชาติ โปรตุเกส ได้สำเร็จ โชต้า ก็เข้าพิธีแต่งงานกับ รูท อย่างชื่นมื่น เป็นการตอบแทนความรักและการดูแลกันและกันมาโดยตลอด
ไม่ว่าจะในฐานะนักเตะ และในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ดิโอโก้ โชต้า ทำมันอย่างสุดความสามารถ น่าเสียดายที่ทุกอย่างคงต้องหยุดไว้เท่านั้นเนื่องจากการจากไปแบบไม่มีวันกลับของเขา ... ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนบอลของ ลิเวอร์พูล หรือไม่ คุณไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า การเสียชีวิตของเขาคือความสูญเสียที่โลกฟุตบอลจะต้องคิดถึงเขาตลอดไป
แหล่งอ้างอิง
https://www.tntsports.co.uk/football/premier-league/2021-2022/liverpool-boss-jurgen-klopp-praises-exceptional-diogo-jota-after-goal-heroics-in-southampton-premier_sto8646562/story.shtml
https://punchng.com/10-records-broken-by-diogo-jota/
https://www.standard.co.uk/news/world/diogo-jota-dead-who-wife-rute-cardoso-married-liverpool-b1236186.html
