Feature

ลูกากู และ มูรินโญ่ : การเดินทางของคนที่มาเจอกันเป็นครั้งที่สามใน“บ้าน” หลังใหม่ที่ชื่อ โรม่า | Main Stand

หลังโรเมลู ลูกากู เผชิญช่วงเวลาชุลมุนมาตั้งแต่ช่วงตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ 2023 ว่าสถานีต่อไปในเส้นทางค้าแข้งซีซั่น 2023-24 จะออกมาเป็นแบบไหน 

 


ถึงตอนนี้ บิ๊กรอม กำลังทำผลงานได้อย่างร้อนแรงภายใต้ต้นสังกัดในรูปแบบยืมตัวกับ โรม่า ชนิดที่ทีมจะขาดไปไม่ได้เสียแล้ว และที่สำคัญ เขาโชว์ฟอร์มได้ดีในช่วงเวลาที่โรม่ามี โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือผู้ที่ตัวเขาเองเคยร่วมงานด้วยมาก่อนหน้าถึงสองครั้งสองคราคุมทีมอยู่ จนอาจกล่าวได้ว่าการร่วมงานของทั้งคู่เปรียบเสมือนเป็นการชุบชีวิตซึ่งกันและกันไม่มีผิด 

เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนแท้จริงแล้วเป็นแบบไหน และการได้ร่วมงานกันตั้งแต่สมัยที่ เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นเป็นอย่างไร ร่วมหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันกับ Main Stand

 

การเจอกันหนแรกที่เชลซี

เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ฤดูกาล 2013-14 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เชลซีดึงโชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือผู้ที่เคยพาสโมสรครองความยิ่งใหญ่มาก่อนในช่วงหลายปีก่อนหน้า กลับมาคุมทีมคำรบสอง 

ในเวลานั้น โรเมลู ลูกากู ได้รับฉายาว่าเป็น “นิวดิดิเยร์ ดร็อกบา” และมีสัญญาอยู่กับสิงโตน้ำเงินครามมาตั้งแต่ปี 2011 มากไปกว่านั้น ตัวเขาเองยังยอมรับมาโดยตลอดว่าสิงห์บลูส์คือสโมสรที่เขาใฝ่ฝันที่จะลงเล่นด้วยมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก ทั้งหมดนี้หล่อหลอมมาจากการที่เขาเคยเดินทางมาทัศนศึกษาจากเบลเยียมมายังสแตมฟอร์ด บริดจ์ แถมยังเคยดู จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ อดีตหัวหอกเบอร์ 9 ขวัญใจแฟนบอล เดอะ บลูส์ ยุคต้น 2000 ถล่มประตูคู่แข่งมาก่อน

เราอาจกล่าวได้ว่า การได้ร่วมงานกันหนแรกระหว่างเฮดโค้ชผู้ที่เคยสถาปนาตัวเองว่าเป็น “สเปเชียล วัน” กับกองหน้าเพชรเม็ดงามคนหนึ่งของโลกในเวลานั้นเสมือนเป็นการโคจรมาเจอกันแบบเหมาะเหม็งสุด ๆ เพราะครั้งหนึ่งมูรินโญ่เคยให้สัมภาษณ์สมัยอยู่คุม เรอัล มาดริด ว่าเขาจับตาดูลูกากูในสมัยเป็นดาวรุ่งอยู่บ่อย ๆ และอยากดึงมาร่วมงานที่ราชันชุดขาว 

อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่ชื่อชั้นของลูกากูในซีซั่น 2013-14 ยังยากที่จะเบียดกับเหล่าศูนย์หน้าสิงห์บลูส์ในยุคนั้นไม่ว่าจะเป็น เฟร์นานโด ตอร์เรส และ เดมบา บา แถมมูรินโญ่ยังไปสอย ซามูเอล เอโต้ อีกหนึ่งดาวยิงคู่บุญของตัวเองมาจอยกันที่ เดอะ บริดจ์ ทำให้ดาวรุ่งวัย 20 ปีในขณะนั้นกลายเป็นตัวเลือกอันดับสี่ในแผงหัวหอก นั่นหมายความว่าลูกากูในวัยรุ่นต้องรอคอยโอกาสไปก่อน

เป็นเหตุให้โมเมนต์ของการได้ร่วมงานกันหนแรกของทั้งคู่ปรากฏออกมาเป็นการปล่อยตัวไปให้ เอฟเวอร์ตัน ยืมตัว 1 ซีซั่น แน่นอนว่านี่คือเหตุผลที่สมเหตุสมผลกับทั้งสองฝ่าย ในส่วนของลูกากูเองก็จะยังได้บ่มเพาะวิชาพรีเมียร์ลีกต่อเป็นปีที่สองต่อจากฤดูกาล 2012-13 ในยุคโรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ที่เขาถูกปล่อยให้ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ยืมตัว

ทว่าพอเข้าสู่ฤดูกาล 2014-15 กลับกลายเป็นว่าทั้งสองก็ยังไม่ได้ร่วมงานกันอีกเช่นเคย แม้ลูกากูในวัยยี่สิบต้น ๆ จะยิงไป 16 ประตูจากการลงเล่นให้ทอฟฟี่สีน้ำเงิน 33 นัด ซึ่งตัวเขาเองก็มีธงในใจแล้วว่าน่าจะกลับมาเป็นตัวเลือกในแดนหน้าที่เชลซียุคมูรินโญ่ได้แน่

อย่างไรเสีย เชลซีและมูรินโญ่กลับมองต่างออกไป

2014-15 เชลซีเสริมกองหน้ามาถึงสามรายติด ๆ กัน ไล่มาตั้งแต่ ดิเอโก้ คอสต้า, โลอิค เรมี่ และการกลับมาสู่ เดอะ บริดจ์ รอบสองของ ดิดิเยร์ ดร็อกบา นั่นเท่ากับว่าลูกากูกลายเป็นตัวเลือกที่ 3 หรือ 4 อีกครั้งหนึ่ง

ถึงตอนนี้ได้เกิดสถานการณ์ของการมีมุมมองที่ “ต่างกัน” เกิดขึ้นแล้ว ว่ากันว่ามูรินโญ่มองว่าโรเมลูเองก็ยังอายุไม่เยอะ ยังมีเวลาปลุกปั้นใช้งานในภายหน้าได้อีกมาก ในทางกลับกัน ลูกากูไม่ได้มองแบบนั้น เขาคิดว่าตัวเองพร้อมแล้วที่จะลงเล่นให้เชลซี

นำมาซึ่งการตัดสินใจครั้งใหญ่ของลูกากูกับการขอเก็บกระเป๋าย้ายออกจากทีมที่ตัวเองเชียร์มาตั้งแต่เด็ก และเป็นเอฟเวอร์ตันที่เข้ามาสู่ขอไปยังกูดิสัน พาร์ค ด้วยค่าตัวราว ๆ 28 ล้านปอนด์

ถึงจะไม่ได้ร่วมงานกันในนามทีมชุดใหญ่ และแม้จะมีข่าวน้อยใหญ่ถาโถมเข้ามาตลอดว่าทั้งสองไม่ลงรอยกัน อย่างข่าวที่ว่าลูกากูไม่พอใจมูรินโญ่ที่ไม่เคยเชื่อใจและให้โอกาสเขาเลย หรือข่าวที่ว่าเทรนเนอร์โปรตุเกสโกรธกับการตัดสินใจของนักเตะ ที่สุดแล้วทั้งหมดเป็นการ “ลือกันไปเอง” 

ยิ่งไปกว่านั้น คนที่อวยพร โรเมลู ลูกากู คนแรก หลังเลือกย้ายทีมก็คือมูรินโญ่ และความเคารพที่มีต่อกันก็เริ่มจากจุดนั้น

“ผมเป็นคนตัดสินใจเองไม่ใช่สโมสร ทุกคนต่างก็พูดกันเองว่ามันเป็นความผิดของมูรินโญ่ จริง ๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้น เพราะผมเป็นคนตัดสินใจ ผมไปที่ห้องทำงานของเขาเพื่อถามว่าผมขอย้ายทีมได้ไหม เขาเป็นคนแรกที่บอกกับผมว่า “ขอให้โชคดีนะ” ” The Guardian เผยคำพูดของหัวหอกชาวเบลเจียน

“และตอนที่ผมเซ็นสัญญากับเอฟเวอร์ตันตอน 11 โมง ข้อความแรกที่เด้งขึ้นมาทางมือถือแบล็คเบอร์รี่เครื่องเก่าของผมก็มาจาก โชเซ่ มูรินโญ่ นี่ละ เป็นข้อความบอกว่า “ขอให้โชคดี ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไว้เราเจอกันใหม่ในฤดูกาลต่อไป” ”

“เขาเป็นคนแรก ไม่มีใครรู้เรื่องนี้มาก่อนนะ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงเคารพในตัวเขามาก ๆ”

 

คนคุ้นเคยและความเชื่อใจ

การได้ลงเล่นภายใต้การคุมทีมโดยผู้จัดการทีมที่ชื่อ โชเซ่ มูรินโญ่ คือหนึ่งในความฝันที่ โรเมลู ลูกากู คิดอยู่เสมอตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก และในที่สุดการร่วมงานกันก็มาเกิดขึ้นในซีซั่น 2017-18 

เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุคมูรินโญ่ คว้าอดีตลูกทีมสมัยคุมเชลซีมาร่วมทีมด้วยค่าตัวประมาณ 75 ล้านปอนด์ (ไม่รวมอ็อปชั่น) พร้อมสัญญา 5 ปี พ่วงอ็อปชั่นอีก 1 ปี

“ผมอยากเล่นให้กับเขา (มูรินโญ่) มาตั้งแต่ตอนที่ผมอายุ 11 ขวบได้ เมื่อคุณได้รับโอกาสอีกครั้ง เป็นคุณคุณย่อมไม่ปฏิเสธ ผมขอขอบคุณสำหรับโอกาสครั้งที่สองที่เข้ามา” ลูกากู กล่าวกับ Premier League Show ในสมัยสวมอาภรณ์ปีศาจแดง

“เขาเป็นเหมือนเดิมเสมอมา เป็นคนที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดจากนักเตะในการดูแลของเขาในทุก ๆ วัน เขาไม่ได้ให้เราได้ผ่อนคลายในสนามเท่าไรนัก เขาต้องการให้เราต่อสู้ในการฝึกซ้อมและในสนามแข่ง และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมชื่นชอบในตัวเขา นอกสนามเขาก็เปรียบเสมือนคนในครอบครัว คนที่พร้อมจะรับฟังคุณ นั่นคือสิ่งที่ผมชื่นชอบในตัวเขาครับ”

ทางฝั่งของมูรินโญ่เองก็อยากหากองหน้าประเภทโป้งปิดบัญชีมาใช้งานได้ทันที หลังจากที่ปีศาจแดงเสีย ซลาตัน อิบราฮิโมวิช จากอาการบาดเจ็บหนักแถวเอ็นหัวเข่า แถมยังไม่ได้ตกลงเรื่องสัญญาใหม่กับสโมสร ส่วน เวย์น รูนีย์ ก็อำลาทีมกลับไปค้าแข้งกับเอฟเวอร์ตัน 

ดังนั้นหวยจึงมาออกที่อดีตแข้งที่เขาเคยร่วมงานด้วยในช่วงสั้น ๆ ที่มีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว และเขารู้มือดีไม่ได้น้อยไปกว่าใครจึงชวนลูกากูเข้ามาร่วมก๊วน

“โรเมลูเหมาะสมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขามีบุคลิกที่โดดเด่นและเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาที่ต้องการการพัฒนาในเส้นทางอาชีพของเขาร่วมกับสโมสรที่ใหญ่ที่สุด เขาจะเป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยมของทีมและผมรู้ว่าทุกคนจะให้การต้อนรับเขาเป็นอย่างดีผมรอคอยที่จะได้ร่วมงานกับเขาอีกครั้ง” มูรินโญ่ กล่าวถึงลูกากู ผ่านเว็บไซต์ทางการปีศาจแดง

ขวบปีแรกในการทำงานร่วมกันแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยของทั้งสองนั้นออกมาดี แม้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในซีซั่น 2017-18 จะไม่ได้แชมป์อะไรติดมือ แต่พวกเขาก็มีดีกรีเป็นทั้งรองแชมป์พรีเมียร์ลีก แลังเอฟเอ คัพ ขณะที่บิ๊กรอม ตอบแทนความไว้เนื้อเชื่อใจที่มูรินโญ่มีให้โดยตลอด ด้วยการกระทุ้งไปทั้งสิ้น 27 ประตู จากการลงสนาม 51 นัด เป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมในเวลานั้น

แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทั้งการที่ลูกากูเกิดฟอร์มตกลงไปอย่างน่าใจหายในฤดูกาลถัดมา (2018-19) กลายเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้กุนซืออย่างมูรินโญ่ ทำผลงานสวนทางกับความคาดหวังของแฟน ๆ ที่สุดแล้วการแยกทางของทั้งสองก็เกิดขึ้น เมื่อปลายปี 2018 อดีตกุนซือผู้พาสโมสรผงาดแชมป์ยูโรป้า ลีก สมัยแรก ตัดสินใจแยกทางจากโอลด์ แทรฟฟอร์ด

จากนั้นราว ๆ ครึ่งปีเศษลูกากูก็เป็นฝ่ายเดินออกมาจากโรงละครแห่งความฝันบ้าง โดยย้ายไปเล่นให้อินเตอร์ มิลาน เขาทำผลงานร้อนแรงกับงูใหญ่จากสถิติรวม 95 นัด 64 ลูก ก่อนจะโยกกลับไปบ้านหลังเก่าอย่างเชลซี ในซีซั่น 2021-22 ด้วยค่าตัวสุดคลั่ง 97.5 ล้านปอนด์ ตามมาด้วยการเผชิญมรสุมอีกระลอกกับบทวิจารณ์ขรมถึงแนวทางการทำทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล จนเป็นเหตุให้ต้องกลับไปอยู่กับอินเตอร์อีกครั้งภายใต้สัญญายืมตัว

ส่วนมูรินโญ่ ภายหลังจากที่อำลา แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ย้ายไปคุม ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ได้ราว ๆ ปีกว่า ๆ ก่อนจะกลายมาเป็นเฮดโค้ชของ โรม่า นับแตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2021 เป็นต้นมา

แม้ทั้งสองจะมีโอกาสเจอกันอยู่บ้างในฐานะคู่แข่ง อย่างช่วงที่ลูกากูเป็นนักเตะเนรัซซูรี่ ส่วนมูรินโญ่เป็นกุนซือจัลโลรอสซี่ กระนั้นทั้งสองก็ยังมีความรู้สึกที่ดีต่อกันอยู่เรื่อยมา ดังบทวิเคราะห์ผ่าน The Times ถึงช่วงเวลาที่อดีตลูกทีมคนนี้ล้มเหลวในเส้นทางที่ เชลซี และ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2021

“เป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับเขาที่จะบอกกับโลกว่า “ฉันยืนอยู่จุดนี้ได้แล้ว และฉันคือหนึ่งในกองหน้าดีที่สุดในโลก” กับสองปีที่ อินเตอร์ มิลาน มันทำให้เขามีตัวตนและมีความมั่นใจในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ที่เชลซี เขายังเด็กเกินไป ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขายังต้องการการพัฒนา ที่อินเตอร์เขาก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญ เขากลายเป็นที่รักของทุกคน ได้รับความรักที่ยิ่งใหญ่จากแฟนบอล ความรักจากเพื่อนร่วมทีม และความสัมพันธ์อันดีกับโค้ช”

“เขาเป็นคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่กำยำก็จริง แต่ก็ยังเป็นคนที่ต้องการความรัก ต้องการแรงสนับสนุนและต้องการความรู้สึกว่าเขาคือคนที่สำคัญคนหนึ่ง”

กระทั่งการหวนมาเจอกันคำรบสามก็บังเกิดขึ้น ท่ามกลางช่วงเวลาที่พอเหมาะพอเจาะกัน เป็นช่วงเวลาเวลาล่วงเลยมาจนทั้งสองร่วมงานกันได้อย่างกลมกล่อม

 

บิ๊กรอมกับน้ามูคำรบสาม

หากจะบอกว่าช่วงซัมเมอร์ 2023 เป็นช่วงเวลาที่ โรเมลู ลูกากู เคยเดินหลงทางอยู่บนถนนลูกหนังอาชีพ ก็คงไม่ผิด

ภายหลังจากหมดสัญญายืมตัวกับ อินเตอร์ มิลาน จริงอยู่ที่หัวหอกเบลเยียมจะกลับไปรายงานตัวกับต้นสังกัดที่แท้จริงอย่างเชลซี กระนั้นสิงห์บลูส์ในยุคของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็ไม่ได้ต้องการตัวดาวยิงค่าตัว 97.5 ล้านปอนด์อีกต่อไป ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมสู่อนาคต เขาเพียงแค่ซ้อมเรียกความฟิตไปวัน ๆ เท่านั้น

ไม่ว่าจะกระแสข่าวเชลซีที่อยากปล่อยตัวไปเล่นในซาอุดีอาระเบีย ทว่าเจ้าตัวไม่อยากย้ายไป ดีลสลับขั้ว ลูกากู กับ ดูซาน วลาโฮวิช ที่ตกเป็นเรื่องราวพักใหญ่ระหว่างเชลซีกับยูเวนตุส ซึ่งที่สุดก็ไม่เกิดขึ้น แถมแฟน ๆ ม้าลายแห่งตูรินก็ยืนกรานต้านดีลนี้เต็มที่ หรือแม้แต่ข่าวที่ว่าเขาไปแอบคุยกับยูเวนตุสในขณะที่อินเตอร์กำลังเจรจากับเชลซี แม้ว่าการย้ายไปยังตูรินจะไม่เกิดขึ้นจริง ทว่าแฟน ๆ งูใหญ่ก็ไม่ขอให้เขากลับมาสู่ทีมอีกแล้ว เพราะนี่คือสถานะของคนทรยศแบบกลาย ๆ

ทั้งหมดที่ว่ามานี้ทำให้เส้นทางฟุตบอลอาชีพของลูกากูเกิดภาวะสุญญากาศอยู่หลายสัปดาห์ แต่แล้วความหวังของเขากับการอยู่ค้าแข้งกับบิ๊กทีมยุโรปก็ยังคงดำเนินต่อไป และทีมที่เปรียบดั่งพระเอกขี่มาขาวก็คือ โรม่า ของอดีตกุนซือคนคุ้นเคย โชเซ่ มูรินโญ่ ที่อยากได้กองหน้ามาเสริมขุมกำลังเพิ่มเติม หลัง แทมมี่ อับราฮัม มีอาการบาดเจ็บจนต้องพักรักษาตัวช่วงหนึ่ง

โดยรายละเอียดของสัญญากับหมาป่ากรุงโรมเป็นสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล มูลค่า 5 ล้านปอนด์ 

นอกจากนี้ ตัวลูกากูก็ยอมลดค่าเหนื่อยตัวเองลงเพื่อย้ายมายังเมืองหลวงของอิตาลี แถมเชลซียังใส่ค่าฉีกสัญญาไว้ 37 ล้านปอนด์ เป็นราคาขายขาดหาก โรม่า ใช้งานแล้วติดใจอยากได้ตัวเป็นการถาวร

ในการกลับมาร่วมงานกันเป็นหนที่สาม ลูกากูพูดอย่างเต็มภาคภูมิอีกครั้งว่าเขาฝันจะได้ร่วมงานกับมูรินโญ่มาตั้งแต่เด็ก ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายก็รู้จักกันเป็นอย่างดี แถม เดอะ สเปเชียล วัน ยังมีคู่มือใช้งานเขาครบมือ

“โชเซ่ มูรินโญ่ รู้ดีว่าผมมีนิสัยเป็นอย่างไร และผมเองก็เช่นกัน เมื่อเราสองคนผนึกกำลังกัน ผมมั่นใจว่าจะสามารถนำความยิ่งใหญ่มาสู่สโมสรแห่งนี้ได้ ผมเห็นผู้เล่นโรม่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งตอนนี้เป็นเพื่อนร่วมทีม ผมจึงทำการวิเคราะห์ได้ว่าจะปรับตัวหรือเล่นแบบไหนเพื่อให้เข้ากับพวกเขา”

“เพียงแค่โรม่าโทรศัพท์มาหาผมแค่กริ๊งเดียวก็เกินพอแล้ว พวกเขาต่อสายหาผมสองถึงสามครั้งก่อนข้อตกลงจะเกิดขึ้น ผมคุยกับท่านประธานเกี่ยวกับสิ่งที่เขาคาดหวังจากผมและทีม ผมมีศรัทธาในโรม่าทีมนี้ และแน่นอนว่ามันจะต้องออกมาดี”

ไม่ว่าจะเรื่องความเชื่อใจจากกุนซือคนคุ้นเคยหรือตัวลูกากูเองที่ต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่าเขายังเป็นกองหน้าระดับท็อป ที่สุดแล้วทั้งมูรินโญ่และลูกากูผนึกกำลังร่วมกันกับเป้าหมายพาหมาป่ากรุงโรมรั้งอันดับบนของตาราง โดยเฉพาะผลงานการกระหน่ำสกอร์ของหัวหอกวัย 30 กะรัต ที่ถึงตอนนี้ลงสนามรวมทุกรายการไปแล้ว 14 นัด บิ๊กรอมยิงไปแล้วถึง 9 ลูก

และไม่ว่าใครจะออกมาวิจารณ์ลูกากูดุเด็ดเผ็ดมันแค่ไหน กับมูรินโญ่เขาก็ยังเป็นคนเดิมเหมือนกับที่เคยเป็นในสมัยร่วมงานกันหนแรก คือไม่เคยตำหนิลูกทีมออกสื่อ แถมยังให้กำลังใจอยู่เรื่อยมา

“ผมรู้ดีว่ากองหน้ามีชีวิตอยู่เพื่อการทำประตู นับตั้งแต่ที่เขาย้ายมาร่วมทีม เขาเตรียมพร้อมเพื่อทีมมาโดยตลอด มันไม่สำคัญว่าเขาจะยิงได้หรือไม่ แต่เห็นได้ชัดว่าเขามีความสุขขึ้นมาก ๆ หากทำประตูได้ และมันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมสำหรับเขา” มูรินโญ่ ให้สัมภาษณ์หลังเกมที่โรม่าถล่มเอ็มโปลี 7-0 ที่ซึ่งลูกากูทำประตูแรกในสีเสื้อของทีมได้

“ลูกากูต้องมีความสุข เขาต้องการรู้สึกเป็นที่รักและเป็นที่ต้องการ เขามาที่นี่และรู้ทันทีว่าทีมเองก็ต้องการนักเตะแบบเขา”

ระหว่าง มูรินโญ่ และ ลูกากู ตราบใดที่ยังไม่มีใครเดินแยกทางออกไปในเร็ววัน การเดินทางร่วมกันหนที่สามนี้ดูเป็นการเดินทางที่วิเศษกว่าครั้งไหน ๆ อย่างที่ไม่มีใครกล้าเถียง

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.thetimes.co.uk/article/jose-mourinho-karim-benzema-is-such-a-team-player-cristiano-ronaldo-loved-him-at-real-madrid-hx93twb8j 
https://www.independent.co.uk/sport/football/romelu-lukaku-roma-jose-mourinho-chelsea-b2401680.html?fbclid=IwAR2IbMZHJ7ttKCDYKBIz549t_DS85iin83WxbC8Zw2EzysgI5Kt77jCf3uE 
https://www.goal.com/en/news/lukaku-explains-how-mourinho-is-behind-is-fast-start-for-roma/bltfdd3bc50f74261da?fbclid=IwAR3Ensr9-DDeIFRTmYVrkbqivzJUWTKTA1BAt10GtrVXysNKyS5GFNNBavg 
https://www.completesports.com/lukaku-ive-a-special-relationship-with-mourinho/?fbclid=IwAR3FCAGC3rYv8nXze46LmxBFCz3aCs3Wb0i_mjRurHppqj3XLmq9g_bId0I
https://football-italia.net/lukakus-relationships-with-his-coaches-from-mourinho-to-conte/?fbclid=IwAR0Qys7LH-vfAMH_Pz7K49nFZwJS28-P8TzrqjtK4EclzuzqQRVlbQxRDCw
https://romapress.net/romelu-lukaku-details-special-relationship-with-mourinho-after-4-1-win-over-cagliari/?fbclid=IwAR2odrs5kvZMb63BFEouxikEo2SCyhqE49hKlOYnCXcz3ig7t5UhqDioVGI
https://www.skysports.com/football/news/11095/11390034/romelu-lukaku-says-relationship-with-manchester-united-manager-jose-mourinho-is-perfect?fbclid=IwAR1YM31fQf27s8goulaza90CbcrBkYVXf3a-X85PUdctsPJJ0JED7Wvl7PY
https://sport.optus.com.au/news/serie-a/os64260/romelu-lukaku-jose-mourinho-roma-reunion-chelsea?fbclid=IwAR0l3_VaBPqwC6RAQJ2um4bYLkmJKYHJnlukMzcsgM0jCGUTNUN8vNMUJhw
https://utdreport.co.uk/2017/09/08/lukaku-playing-for-mourinho-a-childhood-dream/ 
https://www.manutd.com/en/news/detail/club-statement-manchester-united-confirm-romelu-lukaku-signing 

Author

พชรพล เกตุจินากูล

แฟนคลับเชลซี ติดตามฟุตบอลเอเชีย ไก่ทอดและกิมจิเลิฟเวอร์

Photo

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ