Feature

มานอร์ โซโลมอน : จากระเบิดที่ยูเครน สู่แข้งอิสราเอลหนึ่งเดียวบนเวทีพรีเมียร์ลีก | Main Stand

หากพูดถึงฝีเท้า มานอร์ โซโลมอน คือหนึ่งในเพชรเม็ดงามที่น่าจับตามองของวงการฟุตบอลอิสราเอล จากการยึดตัวจริงได้ทั้งกับสโมสร ชัคตาร์ โดเนตสก์ กับ ฟูแล่ม และยังมีโอกาสโชว์ฝีเท้ากับทีมแนวหน้าในพรีเมียร์ลีกอย่าง ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ตลอดทั้งฤดูกาลนี้

 


แต่หากกล่าวถึงประสบการณ์ชีวิต แข้งวัย 24 ปีรายนี้ได้เผชิญทั้งการลี้ภัยจากยูเครนในช่วงที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานในต้นปี 2022 และสถานการณ์สงครามในบ้านเกิดของตนที่มีผลกระทบแบบย่อม ๆ ถึงต้นสังกัดปัจจุบัน ซึ่งเป็นทีมที่มีความเชื่อมโยงกับชาวยิวอยู่ไม่น้อย

นี่คือเรื่องราวของ โซโลมอน กับการผ่านร้อนหนาวทั้งบนโลกลูกหนังและโลกแห่งความจริง

 

วันเดอร์คิดไซส์มินิ

มานอร์ โซโลมอน เติบโตมาในย่าน Kfar Saba ไม่ไกลไปจากเมืองหลวงอย่างเทลอาวีฟ โดยมีทั้งคุณพ่อและคุณแม่เป็นครูสอนพลศึกษาที่พบกันในมหาวิทยาลัยเดียวกัน และยังศึกษาพาณิชยนาวีเป็นวิชารองเหมือนกัน จนเป็นที่มาของชื่อ ‘มานอร์’ ของลูกชายคนนี้

ยอสซี่ พ่อของเขา ได้กระตุ้นให้ลูกชายลองเล่นกีฬาชนิดต่าง ๆ มาตั้งแต่เด็ก ทั้งเทนนิส บาสเกตบอล กรีฑา ซึ่งข้อเสียหนึ่งเดียวของโซโลมอนคือความสูงเพียง 170 เซนติเมตร แต่ก็ทำให้เขามองไปยัง ลิโอเนล เมสซี่ ผู้ก้าวข้ามส่วนสูงเดียวกันสู่ผลงานระดับตำนาน และเป็นแรงบันดาลใจในการลงเล่นกีฬาลูกหนัง

เขาติดทีมเยาวชนของ เปตาห์ ทิกวา ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และได้รับความสนใจจากแมวมองของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อครั้งติดทีมชุดใหญ่ด้วยวัย 17 ปี ก่อนที่เขาจะย้ายไปร่วมทัพ ชัคตาร์ โดเนตสก์ ในต้นปี 2019 หลังเสร็จสิ้นภารกิจรับราชการทหารภาคบังคับ โดยค่าตัว 6 ล้านยูโรในตอนนั้นถือเป็นสถิติอันดับห้าของนักเตะอิสราเอลเลยทีเดียว

หลังจากนั้นไม่นาน โซโลมอนก็โชว์ฟอร์มเก่งทั้งเวทีฟุตบอลลีก และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยมีชื่อเป็นผู้ทำประตูตีเสมอเกมบุกเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ในปี 2019 และยิงประตูใส่ เรอัล มาดริด ได้ถึงสองเกมในฤดูกาล 2020/21 ตามรอยอดีตผู้เล่นชั้นนำของประเทศอย่าง ยอสซี่ เบนนายูน และกลายเป็นนักเตะชาวอิสราเอลคนที่สองที่ทำประตูใส่ทีมราชันชุดขาวได้

และเช่นเดียวกับเบนนายูน เจ้าหนูมานอร์ได้ย้ายมาค้าแข้งบนเวทีพรีเมียร์ลีกในปัจจุบัน ทว่าการเดินทางของเขาสู่ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส กลับเต็มไปด้วยเรื่องราวอันแสนโหดร้ายจากสงครามต่าง ๆ

 

ลี้ภัยจากยูเครน

24 กุมภาพันธ์ 2022 รัสเซีย เปิดฉากโจมตี ยูเครน ตั้งแต่กลางดึก “ผมได้ยินเสียงระเบิดและตื่นมาเปิดทีวีกับเช็คมือถือ ก่อนพบว่าเพื่อน ๆ ก็กำลังพิมพ์ถามเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น

“จากนั้นทั้งข่าวของอิสราเอลและยูเครนต่างลงว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นในเคียฟ พร้อมกับมีเหตุระเบิดเกิดขึ้น ตอนนั้นยังไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างแน่ชัด แต่พวกเรารู้แล้วว่าต้องมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นแน่ ๆ” โซโลมอน ระลึกถึงเหตุการณ์ในวันที่การรุกรานเริ่มต้นโดยที่เขายังอยู่ในเมืองหลวงของยูเครน

“มันเป็นวันที่แย่มาก ผมให้คนขับรถรีบพาไปชายแดนทันที และหยิบกระเป๋าทุกใบที่ผมสามารถคว้าได้ เราต้องเดินทางกันประมาณ 18 ชั่วโมงเพื่อไปถึงชายแดน ซึ่งถ้าไม่ได้คนขับช่วยซิ่งหรือใช้เส้นทางลัดหลบหลีก มันอาจใช้เวลานาน 2-3 วันด้วยซ้ำ เพราะตอนนั้นทุกคนต่างมีเป้าหมายอยู่ที่เดียวกัน”

แม้จะต้องรอคอยนานกว่า 10 ชั่วโมงโดยไม่มีอาหารหรือน้ำให้ซื้อเพิ่มเติม แต่ท้ายที่สุดโซโลมอนก็ผ่านชายแดนเข้าสู่อาณาเขตของโปแลนด์ได้ด้วยการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ทูตของอิสราเอล แต่สถานการณ์ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง “เต็มไปด้วยความโกรธเคือง ผู้คนเป็นหมื่น ๆ ต่างมายืนรอท่ามกลางความหนาวเหน็บ พร้อมกับสัมภาระและความไม่แน่นอน” โดยเขาเปิดเผยกับ BBC เพิ่มเติมว่า “ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่มาช่วยก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับผมที่นั่น”

ด้วยภาวะการสู้รบทางทหารทำให้ฟุตบอลลีกยูเครนไม่สามารถแข่งขันได้ และ FIFA ได้ออกมาตรการให้แข้งต่างชาติที่มีต้นสังกัดอยู่ในยูเครนและรัสเซียสามารถพักสัญญากับสโมสรได้ โดยโซโลมอนได้ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมฟูแล่ม แบบยืมตัว ด้วยเหตุผลเรื่องการอยากมาอยู่ลอนดอน และให้บริษัทช่วยวิเคราะห์ข้อมูลดูความเหมาะสม

แม้จะประเดิมเวทีพรีเมียร์ลีกด้วยอาการบาดเจ็บเข่าหลังจบเกมแรกจนต้องหยุดพักรักษาตัวไปนานกว่า 4 เดือน แต่โซโลมอนก็กลับมาได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปี 2023 พร้อมกับทำสถิติเป็นชาวอิสราเอลคนแรก นับตั้งแต่ รอนนี่ โรเซนธาล ในยุค 90s ที่ทำประตูในพรีเมียร์ลีกได้สามเกมติดต่อกัน ก่อนสร้างสถิติใหม่ด้วยการยิงต่อเนื่องถึง 5 นัดติด ในช่วงปลายฤดูกาล 2022/23

โซโลมอน ได้ย้ายข้ามฟากมาสวมเสื้อของทัพไก่เดือยทองในฐานะนักเตะฟรีเอเยนต์ เนื่องจาก FIFA ได้ขยายช่วงเวลามาตรการย้ายทีมให้กับนักเตะต่างชาติให้กับทีมในยูเครน ทำให้เขาที่กำลังจะหมดสัญญาลงใน 6 เดือนข้างหน้าสามารถย้ายไปร่วมทีมไหนก็ได้อย่างไร้ค่าตัว

 

สเปอร์ส และชาวยิว

“สเปอร์สมีแฟนบอลมากมาย พวกเขาเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่อยู่แล้ว แต่พอมีความเชื่อมโยงกับชาวยิวจึงมีแฟนบอลในอิสราเอลจำนวนมาก มีชุมชนของกองเชียร์สเปอร์สขนาดใหญ่ในประเทศ และผมคิดว่าจะได้เห็นพวกเขาในสนาม” นี่คือประโยคที่โซโลมอนพูดถึงความเชื่อมโยงของสโมสรและบ้านเกิด ในวันที่ย้ายมาร่วมทีม

ย้อนกลับไปเมื่อศตวรรษที่แล้ว ชาวยิวที่ปักหลักอาศัยในลอนดอนต่างสนับสนุน ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส เป็นสโมสรแรก โดยมีข้อมูลว่าในช่วงปี 1930s มีแฟนบอลชาวยิวเข้ามาชมเกมมากถึง 1 ใน 3 ของความจุสนาม ไวท์ ฮาร์ต เลน

ถัดมาในยุค 1960s แฟนบอลคู่แข่งของสเปอร์สเริ่มมีการตะโกนด่าว่า ‘Yid’ ซึ่งถือเป็นคำเหยียดเชื้อชาติชาวยิว โดยคำดังกล่าวเคยถูกใช้โดย เซอร์ ออสวอลด์ มอสลีย์ ผู้นำขบวนการฟาสซิสต์ในอังกฤษ และนอกจากคำว่า ‘Yid’ ยังมีรายงานว่าแฟนบอลคู่แข่งบางส่วนได้เลียนเสียงปล่อยลม เพื่อสื่อถึงการรมแก๊สของนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แฟนบอลไก่เดือยทองในเวลานั้นได้นำคำเหยียดเชื้อชาตินี้มาใช้แสดงถึงความภูมิใจในรากเหง้าที่เชื่อมโยงกับคนยิวของสโมสร แม้แต่แฟนบอลที่ไม่ได้มีเชื้อสายยิวต่างก็เรียกตัวเองอย่างภูมิใจว่าเป็น ‘Yid Army’ ซึ่งประเด็นดังกล่าวยังเป็นที่ถกเถียงถึงความเหมาะสม โดยทางสโมสรไม่เคยใช้คำดังกล่าวอย่างเป็นทางการ และพยายามร้องขอให้แฟนบอลละเว้นการใช้คำว่า ‘Yid’ เพื่อความเหมาะสม

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสเปอร์สมีความเชื่อมโยงกับชาวยิวอยู่ไม่น้อย แม้แต่ประธานสโมสรอย่าง แดเนียล เลวี่ ก็เป็นคนยิว และยังเป็นทีมที่มีนักเตะชาวอิสราเอลหนึ่งเดียวในพรีเมียร์ลีก และทำให้สถานการณ์สงครามระหว่าง อิสราเอล-ฮามาส ในปัจจุบัน ค่อนข้างตึงเครียดสำหรับสโมสรและแฟนบอล

โซโลมอนได้ออกมาโพสต์ผ่านสตอรี่ของอินสตาแกรม โดยแชร์ภาพเหตุระเบิดโรงพยาบาลในกาซา พร้อมเขียนข้อความประกอบว่า “ฆ่าประชาชนตัวเอง แล้วมาโทษอิสราเอล” พร้อมกับใส่อิโมจิรูปสงสัย 2 ตัว เช่นเดียวกับโพสต์อีกจำนวนหนึ่งที่เขาแสดงออกถึงการสนับสนุนประเทศบ้านเกิดอย่างชัดเจน

ด้านตัวแทนแฟนบอลในประเทศอิสราเอลได้บอกกับ The Athletic ว่า “แฟนสเปอร์สในอิสราเอลรู้สึกเหมือนโดนทรยศ” พร้อมกับชี้ให้เห็นภาพรถของประชาชนในอิสราเอลที่ถูกระเบิดของกลุ่มก่อการร้ายฮามาสโจมตี ซึ่งมีตราสโมสรสเปอร์สแขวนอยู่ข้างในรถ “มันเหมือนกับพรีเมียร์ลีกกำลังกังวลว่าคำแถลงจะไปทำให้ใครไม่สบายใจ จนสุดท้ายพวกเขาเขียนคำแถลงโดยไม่ดูหน้างานเลยว่าเกิดอะไรขึ้น”

สำหรับ มานอร์ โซโลมอน ผู้ผ่านประสบสถานการณ์สงครามในยูเครนมากับตัว และยังมีครอบครัวที่พักอาศัยอยู่ใน อิสราเอล นี่คือสถานการณ์ที่ค่อนข้างยากลำบาก โดยเฉพาะมันเป็นสงครามที่มีความละเอียดอ่อนด้านรายละเอียดจากมุมมองต่าง ๆ ซึ่งไม่แน่ชัดว่าตอนนี้สโมสรจะมีมาตรการอย่างไรกับแข้งวัย 24 ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงกับทั้งสองความขัดแย้ง

 

อ้างอิง:

https://www.fulhamfc.com/news/2023/february/24/manor-remembers/
https://theathletic.com/4969755/2023/10/17/tottenham-israel-hamas-gaza/
https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-12643413/Tottenham-star-Manor-Solomon-claims-Hamas-blaming-Israel-killing-people-Israel-accused-Islamic-Jihad-rocket-responsible-blast-Gaza-hospital-left-500-people-dead.html
https://theathletic.com/3403217/2022/07/25/manor-solomon-the-protracted-signing-fulham-hope-is-worth-the-wait/
https://apnews.com/article/tottenham-solomon-transfer-5abacea2ba35d88756ea1b3678d84da0
https://www.bbc.com/sport/football/64893002

Author

กรทอง วิริยะเศวตกุล

2000 - Football and F1 fanatics - Space enthusiasts - aka KornKT

Graphic

ปริญญา คงปันนา

กราฟฟิคหน้าโหด ทำงานด้วย Passion ว่างๆ ชอบไปคาเฟ่ หลงไหลในศิลปะ, การเดินทางและกีฬา