Feature

คาร์สัน หยาง : อดีตเจ้าของสโมสรเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ผู้เคยต้องจำคุก 6 ปี ด้วยคดีฟอกเงิน | Main Stand

ปฏิเสธไม่ได้ว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีบุคคลไม่ประสงค์ดีจำนวนไม่น้อยที่ใช้ "ธุรกิจกีฬา" เป็นฉากบังหน้าในการทำกิจกรรมผิดกฎหมาย และถ้าหากพูดถึงกิจกรรมผิดกฎหมายที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดในโลกลูกหนัง คงหนีไม่พ้น "การฟอกเงิน" 

 

เพราะพวกเขาเหล่านั้นคิดว่าฉากหน้าที่เป็นสโมสรฟุตบอลอันสวยหรูและมีรายรับจากหลายช่องทางจะสามารถช่วยปกปิดเส้นทางการเงินอันไร้แหล่งที่มาได้อย่างแยบยล แต่สุดท้ายไม่ช้าก็เร็วทุกการกระทำย่อมมีผลตามมาเสมอ

Main Stand ขอพาทุกท่านไปรับชมเรื่องราวของ คาร์สัน หยาง อดีตเจ้าของสโมสรเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ผู้ร่ำรวยจากธุรกิจฟุตบอลภายในเวลาไม่กี่ปี ก่อนจะถูกตรวจพบว่ามีความผิดในฐานฟอกเงิน จุดจบของเขาลงเอยอย่างไร สามารถติดตามได้ที่นี่ 

 

เริ่มต้นจากเสียงกรรไกรกระทบกัน

คาร์สัน หยาง (Carson Yeung Ka Sing) ลืมตาดูโลกเมื่อปี 1960 เป็นที่รู้จักกันดีในบทบาทนักธุรกิจชาวฮ่องกง สมัยวัยเยาว์ตอนเขาอายุได้ 12 ปี คาร์สัน หยาง เคยเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ อยู่ระยะหนึ่งก่อนจะย้ายกลับฮ่องกง และเริ่มเส้นทางการหาเงินเหมือนคนหาเช้ากินค่ำทั่วไป 

จนกระทั่งอายุเข้าเลขสาม เขาใช้ชีวิตอยู่ในร้านตัดผมของตนเองที่ชื่อ "Vanity" ตั้งอยู่ ณ ย่านจิมซาจุ่ย (Tsim Sha Tsui) พร้อมกับฝึกฝนจนสามารถใช้วิชาเสริมสวยมาประกอบอาชีพหาเลี้ยงตนเองได้ โดยส่วนใหญ่ร้านของเขามักจะให้บริการแก่นักธุรกิจและดาราภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียง เช่น เฉิน หลง (Jackie Chan)

เวลาต่อมา คาร์สัน หยาง ที่พอมีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง เขาตัดสินใจลงทุนในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และทุกอย่างดูเหมือนจะดำเนินไปได้อย่างสวยหรูไม่มีอุปสรรคใด ๆ ให้เงินที่กำลังไหลเข้ากระเป๋าหยุดชะงัก แต่ทว่าวิกฤตทางเศรษฐกิจครั้งสำคัญในอดีตส่งผลกระทบที่ก่อให้เกิดความกลัวว่าจะเป็นต้นเหตุของการล่มสลายทางเศรษฐกิจทั่วโลกอย่าง "วิกฤตต้มยำกุ้ง" เมื่อปี 1997 ก็เข้ามาทำลายความฝันของ คาร์สัน หยาง จนหมดสิ้น 

หลังจากที่มีเวลาได้พักหายใจหายคอเป็นเวลาเกือบปี คาร์สัน หยาง ที่เพิ่งสังเวยร้านทำผมให้กับพิษเศรษฐกิจก็พยายามกอบกู้สถานะทางการเงินของตัวเองด้วยการนำทรัพย์สินที่มีไปลงทุนในตลาดหุ้นเพนนีในปี 1998-99 และการตัดสินใจครั้งนี้ของ คาร์สัน หยาง ไม่รู้ว่าเขามองเกมขาดหรือโชคช่วยกันแน่ เพราะมีการเปิดเผยจาก BBC สื่อที่เชื่อถือได้ว่า คาร์สัน หยาง สามารถสร้างรายได้จำนวนมหาศาลจากหุ้นเพนนีในมาเก๊า

เมื่อได้ทราบว่าถังเงินที่ตนเองใฝ่ฝันอยู่ที่มาเก๊า ไม่กี่ปีหลังจากนั้นในปี 2004 คาร์สัน หยาง ที่เริ่มมีฐานะก็เริ่มต้นสร้างอาณาจักรของตนเองนาม "Greek Mythology" ขึ้นที่มาเก๊า ที่นั่นคือคาสิโนครบวงจรและมีความหรูหราเป็นอย่างมากและสามารถต้อนรับนักเสี่ยงโชคจากหลากหลายประเทศได้ นอกจากจะเป็นเจ้าพ่อคาสิโนแล้ว คาร์สัน หยาง ยังดำรงตำแหน่งระดับสูงในบริษัทก๊าซทั้ง Universal Energy Resources Holdings และ Universal Management Consultancy Ltd อีกด้วย

เส้นทางการบริหารธุรกิจฟุตบอลของ คาร์สัน หยาง เริ่มต้นในปี 2005 เขาประเดิมนั่งเก้าอี้ประธานสโมสรฮ่องกง เรนเจอร์ (Hong Kong Rangers) เป็นเวลาหนึ่งปีจนถึงปี 2006 ซึ่งในระหว่างนั้น คาร์สัน หยาง ก็มักจะเข้าร่วมการประมูลเสื้อที่นักฟุตบอลอังกฤษชื่อดังใส่ลงแข่งขันของพร้อม ๆ กับบริจาคเงินให้กับสมาคมฟุตบอลท้องถิ่นเป็นจำนวนกว่า 80,000 ปอนด์

และดูเหมือนว่าแค่เสื้อของนักฟุตบอลอย่างเดียวจะไม่สามารถเติมเต็มความคลั่งไคล้ในฟุตบอลแดนผู้ดีของ คาร์สัน หยาง ได้ เพราะหนึ่งปีต่อมาในปี 2007 เขาพยายามเทคโอเวอร์สโมสรเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ทีมดังจากเกาะอังกฤษ แต่ทว่า คาร์สัน หยาง กลับเป็นฝ่ายที่พลาดเองเนื่องจากล้มเหลวในการส่งมอบเงินให้ทันกำหนดวันที่ 30 พฤศจิกายน ปีดังกล่าว 

จากเหตุการณ์นี้ส่งผลให้ สตีฟ บรูซ ผู้จัดการทีมของสโมสรเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ณ ขณะนั้น ที่ตอนแรกมีโอกาสได้พูดคุยกับ คาร์สัน หยาง ถึงแผนการทำทีมในอนาคตรวมถึงสัญญาฉบับใหม่ต้องล่มไป แถมยังส่งผลให้กุนซือรายนี้ตัดสินใจลาออกจากจากตำแหน่งและย้ายไปคุม วีแกน แอธเลติก ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่รู้ว่าการเข้าซื้อกิจการของ คาร์สัน หยาง จะไม่เกิดขึ้น

เวลาดำเนินมาถึงวันที่ 12 สิงหาคม 2009 สโมสรเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ทำการประกาศอย่างเป็นทางการว่า คาร์สัน หยาง ในนามกลุ่ม "Yeung's Grandtop International Holdings” จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นจำนวน 29.9 เปอร์เซ็นต์ของสโมสร พร้อมกับระบุว่าจะมีการเข้าซื้อหุ้นส่วนที่เหลือเพิ่มเติมในภายหลัง นอกจากนี้ยังมีรายงานออกมาอีกว่า คาร์สัน หยาง ได้สัญญาที่จะสนับสนุนเงินราว ๆ 50 ล้านปอนด์ในการซื้อผู้เล่นใหม่ให้กับ อเล็กซ์ แมคลีช ผู้จัดการคนใหม่ที่เข้ามารับช่วงต่อจาก สตีฟ บรูซ  

ไม่กี่วันให้หลัง สื่อหลายสำนักทั้งแดนผู้ดีและฮ่องกงรายงานตรงกันว่า คาร์สัน หยาง เตรียมกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของสโมสรเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ที่เพิ่งเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด ด้วยการทุ่มเงินกว่า 82 ล้านปอนด์ หรือราว ๆ 4,000 ล้านบาท ท่ามกลางคำครหาถึงการเปลี่ยนมือเจ้าของครั้งนี้ว่ามีผู้ได้รับการแต่งตั้งตำแหน่งบางคนทำตัวเหนือกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม คาร์สัน หยาง สามารถเข้าฮุบสโมสรเบอร์บิงแฮม ซิตี้ ได้สำเร็จด้วยหุ้นในมือกว่า 94 เปอร์เซ็นต์ (76,620,136 หุ้น) ในวันที่ 6 ตุลาคม ปี 2009 ซึ่ง คาร์สัน หยาง ได้นำบุคลากรจาก “แกรนด์ท็อป โฮลดิงส์” กลุ่มบริษัทของตัวเองเข้ามาทำหน้าที่แทนผู้บริหารชุดเก่าอย่าง เดวิด ซัลลิแวน, ราล์ฟ โกลด์ และ คาร์เรน เบรดี และเตรียมพร้อมกวาดหุ้นในส่วนที่เหลือแบบเบ็ดเสร็จอีกด้วย แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไว้วางใจให้ เดวิด โกลด์ นั่งเก้าอี้ประธานสโมสรต่อไป

โดย อเล็กซ์ แมคลีช ผู้จัดการทีมของสโมสรเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ณ ขณะนั้น ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ต้อนรับการมาถึงของ คาร์สัน หยาง และกลุ่มแกรนด์ท็อป โฮลดิงส์ ว่า “ผมเฝ้ารอและรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้ทำงานร่วมกับเจ้านายใหม่ ผมเชื่อว่าเราต่างก็มีความทะเยอทะยานในการผลักดันสโมสรให้พัฒนามากขึ้นไปอีกเพื่อแฟน ๆ ทีมตราลูกโลก ถ้าหากเจ้านายใหม่ยอมอนุมัติงบประมาณการเสริมทีมให้ผม นั่นถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง”

 

เอาเงินมาจากไหน ?

ในการให้สัมภาษณ์ที่หาดูได้ยากเมื่อปี 2009 คาร์สัน หยาง ที่เพิ่งประดับยศตัวเองเป็นเจ้าของสโมสรเบอร์มิงแฮม ซิตี้ กล่าวกับ The Independent สื่ออังกฤษว่า "สโมสรฟุตบอลเป็นส่วนหนึ่งของภาคธุรกิจบันเทิงของผม เพราะเรายังมีหนังสือพิมพ์ Sing Pao มีนิตยสาร มีธุรกิจคาสิโน และการลงทุนในพลังงานน้ำ รวมถึงการลงทุนด้านสินทรัพย์อื่น ๆ"

สำหรับผลงานในสนามของสโมสรเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ภายใต้เจ้าของใหม่ไปได้ไม่ค่อยสวยสักเท่าไรนัก เพราะพลพรรคตราลูกโลกต้องเวียนวนอยู่กับการขึ้นชั้นตกชั้นทุกฤดูกาล แต่ก็ยังดีที่มีแชมป์ติดมือ โดยเป็นชัยชนะเหนือ อาร์เซนอล 2-1 ในรอบชิงรายการลีกคัพ ประจำฤดูกาล 2010-11 

หลังจากฉลองความสำเร็จเป็นที่เรียบร้อย หายนะของ คาร์สัน หยาง ก็ได้เริ่มต้นขึ้นในที่สุด โดยในเดือนมิถุนายนปี 2011 เขาถูกจับกุมที่บ้านพักในฮ่องกงด้วยข้อหาฟอกเงิน แถลงการณ์สั้น ๆ ระบุว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติดเข้าตรวจค้นสถานที่สองแห่ง แห่งหนึ่งบนเกาะฮ่องกงและอีกแห่งที่เกาลูน พร้อมกับทำการยึดเอกสารค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ 5 ข้อหาคดีฟอกเงินซึ่งสามารถฟ้องร้องได้ ก่อนจะยื่นเงินประกันตัวจำนวน 7 ล้านเหรียญฮ่องกง เพื่อไม่ให้ตนเองถูกคุมขัง 

แต่ถึงกระนั้น คาร์สัน หยาง ก็ถูกทางการฮ่องกงห้ามไม่ให้เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่สโมสรเบอร์มิงแฮม ซิตี้ เนื่องจากอัยการมองว่าการปล่อยคนอย่าง คาร์สัน หยาง ออกนอกประเทศมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเขาจะไม่กลับมาเข้ากระบวนการทางกฎหมายของฮ่องกง อย่างไรก็ดี คาร์สัน หยาง ได้ยื่นอุทธรณ์และสามารถเดินทางมาดูแลสโมสรของเขาได้ตามความตั้งใจ

การพิจารณาคดีของ คาร์สัน หยาง ถูกเปิดขึ้นอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม 2013 และลากยาวไปจนถึงเดือนมีนาคม 2014 ผู้รับหน้าที่พิพากษาในคดีของ คาร์สัน หยาง คือ ดักลาส เหยา เขาได้กล่าวถึงท่าทางและการกระทำของอดีตเจ้าของสโมสรเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ว่า “ผมพบว่าจำเลยเป็นคนที่พร้อมจะโกหก และจะโกหกทุกอย่างเมื่อเขาเห็นว่าสมควรทำเช่นนั้น” 

ในชั้นศาลทนายของ คาร์สัน หยาง ได้บอกกับผู้พิพากษาว่า หยางสร้างอาณาจักรธุรกิจที่มีทั้งร้านทำผม พลังงานธรรมชาติ คาสิโน และอสังหาริมทรัพย์ โดยเปรียบเปรยเป็นคำพูดว่า "คาร์สัน หยาง มาจากผ้าขี้ริ้วและสามารถไปสู่ความร่ำรวย แต่มีแนวโน้มที่จะกลับไปเป็นผ้าขี้ริ้วอีกครั้ง” 

ทางฝั่งอัยการได้เปิดเผยว่ามีเงินจำนวนมหาศาลเคลื่อนไหวผ่าน 5 บัญชีที่เชื่อมโยงถึง คาร์สัน หยาง โดยที่มาของมันมาจาก "บุคคลที่ไม่รู้จักโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน" ซึ่ง คาร์สัน หยาง ก็ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเงินดังกล่าวเขาสะสมผ่านการซื้อขายหุ้น ร้านทำผม การลงทุนทางธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่และมองโกเลีย รวมถึงการลงทุนคาสิโนในมาเก๊า

สุดท้ายศาลมีคำตัดสินออกมาว่า คาร์สัน หยาง มีความผิดจริงใน 5 ข้อหาเกี่ยวกับการฟอกเงินในระหว่างปี 2001-2007 มูลค่ารวม 720 ล้านเหรียญฮ่องกง และถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 6 ปี

ทันทีที่เรื่องดังกล่าวปรากฏต่อสายตาชาวโลก ปีเตอร์ พานนู รักษาการประธานสโมสรเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ณ ขณะนั้น ก็แสดงความมั่นใจว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการของทีมแน่นอน เนื่องจาก คาร์สัน หยาง ได้ยื่นหนังสือลาออกเรียบร้อยแล้ว โดยแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ของสโมสรไว้ว่า

“ผมเสียใจที่ต้องแจ้งให้ผู้สนับสนุนและพนักงานทุกคนของสโมสรอันเป็นที่รักของเราได้ทราบว่า วันนี้ คาร์สัน หยาง อดีตประธานและผู้มีอุปการคุณของสโมสรฟุตบอลเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาฟอกเงินหลังจากกระบวนการทางกฎหมายที่ยืดเยื้อ”

“ผมต้องการให้ผู้สนับสนุนและทีมงานทุกคนมั่นใจว่าคำตัดสินในวันนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในแต่ละวันของสโมสรฟุตบอลเบอร์มิงแฮม ซิตี้”

ที่ผ่านมาสมาคมฟุตบอลอังกฤษมีการทดสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลบนเกาะอังกฤษมาโดยตลอด แต่ในกรณีของ คาร์สัน หยาง เป็นเครื่องพิสูจน์ว่ากระบวนการตรวจสอบที่กำหนดขึ้นมาไม่ได้ทำหน้าที่ปกป้องสโมสรในพรีเมียร์ ลีก อย่างเต็มที่

 

ชีวิตหลังผ่านซังเต

ช่วงเวลาที่ คาร์สัน หยาง ต้องมีคำนำหน้าเป็นผู้ต้องหา เขาดิ้นรนให้ตัวเองพ้นคดีความฟอกเงินที่ติดตัวเขาอยู่ด้วยการยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน จนได้รับการประกันตัวด้วยเงิน 7 ล้านเหรียญฮ่องกงพร้อมกับหลักประกันเงินสดอีก 6 ล้านเหรียญฮ่องกง แต่มีคำสั่งให้ระงับเอกสารการเดินทางของเขาและห้ามออกจากฮ่องกง ก่อนในท้ายที่สุดศาลอุทธรณ์แขวงในฮ่องกงปฏิเสธคำขอของ คาร์สัน หยาง พร้อมถูกคุมตัวกลับเรือนจำทันที

คาร์สัน หยาง ดำเนินกิจวัตรประจำวันหลังลูกกรงเรื่อยมาจนกระทั่งเหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้นที่เขาจะได้พ้นโทษและสัมผัสบรรยากาศนอกเรือนจำสแตนลีย์ ทว่าศาลแขวงในฮ่องกงนำโดยผู้พิพากษา ดักลาส เหยา มีคำสั่งให้เขาต้องชำระเงินเป็นจำนวนกว่า 43 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจำคุกอีก 10 ปี

หนังสือพิมพ์ South China Morning Post ระบุว่า คาร์สัน หยาง มีเวลา 12 เดือนในการจ่ายเงินให้กับอัยการฮ่องกง โดยอธิบายว่าเงินดังกล่าวเป็น "รายได้จากการก่ออาชญากรรม"

ทางฝั่งทีมของ คาร์สัน หยาง ประกอบไปด้วย โรเบิร์ต ลี และ ฟีเตอร์ พานนู ได้แจ้งไปยังอัยการฮ่องกงว่าพวกเขาพร้อมที่จะจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวแต่ขอเป็นลดลงครึ่งหนึ่งซึ่งก็ได้ผล และ คาร์สัน หยาง ก็ถูกปล่อยตัวออกมาในเดือนมกราคม ปี 2019 

ตั้งแต่เริ่มเป็นที่รู้จักจนมาถึงช่วงเวลาที่เขาหลุดพ้นจากคดีความ คาร์สัน หยาง เป็นคนที่ขึ้นชื่อเรื่องความเงียบขรึมมาแต่ไหนแต่ไร โดยหนึ่งคนที่ออกมายืนยันเรื่องดังกล่าวได้คือ เบน ฟอสเตอร์ อดีตนายทวารของสโมสรเบอร์มิงแฮม ซิตี้ โดยให้สัมภาษณ์กับ The Peter Crouch Podcast ไว้ว่า

"นั่นคือฤดูกาลที่เราคว้าแชมป์ลีกคัพเหนืออาร์เซนอล ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งของผมในการเล่นฟุตบอลอาชีพ มันยอดเยี่ยมมาก”

“เรามี คาร์สัน หยาง เป็นบอสใหญ่ ไม่รู้ว่าพวกคุณจะยังจำเขาได้ไหม เขาเข้ามาดูนักเตะในสนามแค่ไม่กี่ครั้ง ภาษาอังกฤษของเขาเป็นศูนย์ เขาพูดอะไรไม่ได้เลย จนเหลืออีกประมาณ 2-3 เกมก่อนจบฤดูกาล ทีมเรากำลังมีปัญหาและกำลังเผชิญกับการตกชั้น”

"คาร์สัน หยาง ต้องการเข้ามาพูดคุยกับเหล่านักเตะสักสองสามคำก่อนการแข่งขันจะเริ่มเพื่อเป็นการเพิ่มขวัญกำลังใจ พวกเขาปรากฏตัวและเดินเข้ามา”

“ผมว่าเขาเหมือนเอลวิสนิดหน่อย เขาตัวขาว ๆ คุณรู้ไหมว่าเขาสวมถุงมือสีขาวด้วยนะ เพราะใครที่มีเทสแบบนี้ต้องเป็นแฟนเอลวิสแน่ ๆ”

"อย่างไรก็ตาม เขาเดินเข้ามาและคุณจะเห็นได้ว่าเขาประหม่า ทุกอย่างเงียบและแปลกมาก เขาไม่พูดอะไรเลย และทุกคนก็งงเช่นเดียวกัน และในที่สุดเขาก็โพล่งออกมาว่า ชนะ! และนั่นคือทั้งหมดที่เขาพูด ก่อนที่เขาจะอันตรธานหายไป”

ในปีเดียวกันกับการให้สัมภาษณ์ของ เบน ฟอสเตอร์ คาร์สัน หยาง ได้กลับมามีชื่อบนสื่ออีกครั้ง แต่รอบนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการฟอกเงินแต่อย่างใด เพราะ South China Morning Post รายงานว่า คาร์สัน หยาง ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะหลังการโต้เถียงเรื่องการลงทุนในโรงแรมแห่งหนึ่งในคอสเวย์เบย์ ฮ่องกง แต่ที่น่าสงสัยคือหลังจากที่ คาร์สัน หยาง เข้ารับการรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาลแล้ว เขากลับไม่ยอมเปิดปากให้การกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยเลยสักนิดเดียว

และเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา คาร์สัน หยาง ถูกคนร้ายสามคนทิ้งโน๊ตบันทึกทวงถามหนี้ไว้บริเวณรอบบ้านพักสุดหรูของเขาพร้อมกับมีธูปปักอยู่ข้าง ๆ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเพิ่มมาตรการคุมเข้มบริเวณที่พักอาศัยของ คาร์สัน หยาง เลยทีเดียว 

ถึงแม้ คาร์สัน หยาง จะได้รับโทษตามกระบวนการทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่มีใครทราบได้ว่าในอดีตที่ผ่านมานอกจากการฟอกเงินเขามีช่องทางทำมาหากินสีเทาอื่น ๆ อีกหรือไม่ เพราะสังเกตจากเหตุการณ์ที่เขาเผชิญหลังจากได้รับอิสระ เพื่อนร่วมงานของ คาร์สัน หยาง มักจะมีวิธีการติดต่อสื่อสารกับนักธุรกิจชาวฮ่องกงรายนี้แบบถึงเนื้อถึงตัวอยู่ตลอด 

ปัจจุบัน คาร์สัน หยาง มีอายุได้ 63 ปี และยังคงประกอบอาชีพนักธุรกิจเช่นเดิม 

 

แหล่งอ้างอิง :

https://en.wikipedia.org/wiki/Carson_Yeung
https://bleacherreport.com/articles/1984423-birmingham-city-owner-carson-yeung-reportedly-sentenced-to-6-years-in-prison
https://www.sanook.com/sport/62869/
https://www.birminghammail.co.uk/sport/football/football-news/birmingham-city-news-carson-yeung-19428918
https://www.birminghammail.co.uk/sport/football/football-news/birmingham-city-carson-yeung-prison-15542763
https://www.bangkokpost.com/world/397052/yeung-hong-kong-barber-who-went-from-scissors-to-soccer
https://www.scmp.com/news/hong-kong/law-and-crime/article/2177265/former-soccer-owner-carson-yeung-told-pay-us432-million
https://www.scmp.com/news/hong-kong/law-and-crime/article/3166351/hong-kong-police-investigate-hell-money-debt

Author

รณกฤต ตุลยะปรีชา

วัยรุ่นคู้บอน

Graphic

อภิสิทธิ์ โชติพิบูลย์ทรัพย์

Art Director ผู้รับเหมางานภาพกราฟิกหน้าปกบทความทุกชิ้น