Feature

เฟเดริโก้ มาเคด้า : ดาวรุ่งผู้หลงทางในโรงละครแห่งความฝัน | Main Stand

หากคุณเป็นแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือรับชมฟุตบอลมาเกินกว่าทศวรรษ คงจะจดจำชื่อของ เฟเดริโก้ มาเคด้า ได้เป็นอย่างดี เพราะเขานี่แหละที่เป็นส่วนสำคัญในการพาปีศาจแดงผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อฤดูกาล 2008-09 ด้วยวัยเพียง 17 ปี เท่านั้น

 


แต่หลังจากเดบิวต์กับทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เรื่องราวชีวิตของ เฟเดริโก้ มาเคด้า เหมือนจะถูกโชคชะตาเล่นตลกเข้าอย่างจัง โดยการที่เขาต้องร่อนเร่พเนจรไปกว่า 10 สโมสร ในระยะเวลา 14 ปี ที่ผ่านมา

Main Stand จะพาทุกท่านย้อนเวลาไปรับชมเส้นทางฟุตบอลของ เฟเดริโก้ มาเคด้า ศูนย์หน้าดาวรุ่งที่ครั้งหนึ่งผู้คนมองว่าเป็นคนที่ใช่สำหรับการสานต่องานล่าตาข่ายในโรงละครแห่งความฝัน 

แต่เพราะเหตุใดชีวิตของเขาถึงกลับตาลปัตรจากหน้ามือเป็นหลังมือ และไม่สามารถกลับมาอยู่จุดเดิมได้อีกเลย ที่นี่…มีคำตอบ

 

กำเนิดดาวดับ

ย้อนเวลากลับไปในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2008-09 ช่วงเวลานั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังขับเคี่ยวแย่งแชมป์ลีกอยู่กับคู่ปรับตลอดกาล ลิเวอร์พูล แต่ใครจะไปเชื่อกันว่าแข้งเยาวชนที่เพิ่งย้ายมาจากสโมสร ลาซิโอ ได้เพียงปีหมาด ๆ จะสามารถเจิดจริสในสถานการณ์ตึงเครียดแบบนี้ได้

หลังจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่ายสองเกมติดให้แก่ ลิเวอร์พูล คาถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด 1-4 และต่อด้วยการบุกไปพ่าย ฟูแล่ม แบบช็อกแฟนบอล 2-0 ส่งผลให้พวกเขาร่วงลงไปอยู่อันดับที่ 2 ของตาราง ความกดดันจึงถาโถมเข้าใส่ลูกทีมของ เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ในทันที และผู้เล่นของยูไนเต็ดทุกคนก็รู้สึกเหมือนกันว่าเกมที่เหลือนับต่อจากนี้เราจะพลาดไม่ได้แล้ว

5 เมษายน 2009 เส้นทางสู่แชมป์พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ดำเนินมาถึงแมตช์วีคที่ 31 ของฤดูกาล เกมวันนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีคิวเปิดบ้านรับการมาเยือนของ แอสตัน วิลล่า แต่ดูเหมือนพลพรรคปีศาจแดงจะยังเมาหมัดไม่หาย โดน สิงห์ผงาด บุกมากุมความได้เปรียบอยู่ 1-2 ในช่วงต้นครึ่งหลัง

จนนาทีที่ 61 เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ทนไม่ไหวตัดสินใจส่งนักเตะที่มีความกระหายอยากลงเล่นและอยากชนะลงสนาม หวยดันไปออกที่ เฟเดริโก้ มาเคด้า ศูนย์หน้าดาวรุ่งชาวอิตาลี วัย 17 ปี ถูกส่งลงมาแทนที่ของ นานี่ ทำให้เขาได้เดบิวต์เปิดตัวในยูนิฟอร์ม แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นครั้งแรก พร้อมกับหมายเลข 41 สกรีนอยู่บนแผ่นหลัง

ในนาทีที่ 80 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงประตูให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จ เกมดูท่าว่าจะจบลงด้วยผลเสมอเพราะดูจากสภาพร่างกายและวิธีการเล่นของทั้งสองทีมที่ต่างก็เริ่มแสดงอาการเป่าปากให้เห็น กระทั่งเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 90+3 พลพรรคปีศาจแดงกำลังเดินหน้าเต็มกำลังด้วยเกมบุกครั้งสุดท้ายของพวกเขา 

ไรอัน กิ๊ก ส่งบอลผ่านกองหลังของ แอสตัน วิลล่า ไปหา เฟเดริโก้ มาเคด้า "Great turn by MACHEDAAA" เสียงของผู้บรรยาย Sky Sports ดังขึ้นขณะที่เขาเทิร์นบอลไขว้หลังแล้วปั่นด้วยเท้าขวาบอลพุ่งเสียบเสาไกล กลายเป็นประตูชัยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บ 3 แต้ม พร้อมยังคงอยู่ในเส้นทางแชมป์ต่อไป

การแสดงสุดแสนประทับใจของ เฟเดริโก้ มาเคด้า ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะหกวันต่อมาในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องพบกับ ซันเดอร์แลนด์ ทีมที่กำลังลุ้นหนีต้องชั้นแถมยังต้องการแต้มชนิดที่ว่ายอมสู้แบบถวายหัว รูปเกมในวันนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหมือนจะดูตื้อ ๆ ยิงตรงกรอบเพียง 3 ครั้งจากการยิงทั้งหมด 20 ครั้ง สกอร์เสมอกันอยู่ 1-1 เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน จึงตัดสินใจใช้บริการจากศูนย์หน้าดาวรุ่งชาวอิตาลี วัย 17 ปี อีกรอบหนึ่ง

เขาถูกส่งลงสนามมาในนาทีที่ 75 ซึ่งหมายความว่า เฟเดริโก้ มาเคด้า มีเวลาในสนามอีก 15 นาที ทว่าเขาไม่ปล่อยให้แฟน ๆ และเพื่อนร่วมทีมต้องรอนานขนาดนั้น เพราะเพียงแค่ 1 นาที เฟเดริโก้ มาเคด้า ยิงลูกผีจับยัด จากจังหวะที่ ไมเคิล คาร์ริค สับไกลจากนอกกรอบเขตโทษบอลพุ่งไปโดนเท้าเขาเปลี่ยนทางเข้าไปเป็นประตูชัยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บ 3 แต้ม ได้อีกตามเคย

นี่จึงเป็นการแจ้งเกิดแบบเต็มตัวของ เฟเดริโก้ มาเคด้า เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่เนื้อหอมที่สุดในวงการฟุตบอลขณะนั้น ด้วยการถูกเปลี่ยนตัวลงมาและสามารถยิงประตูได้ถึงสองครั้งสองครา ลองคิดเล่น ๆ ดูว่าถ้าหากไม่ได้ลูกยิง 2 ประตูของ เฟเดริโก้ มาเคด้า ไม่แน่ว่าในฤดูกาลนั้นแชมป์อาจตกไปอยู่ในมือของ ลิเวอร์พูล ก็เป็นได้ 

 

เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด

อย่างไรก็ตามทุกอย่างล้วนต้องใช้เวลาทั้งสิ้น หลังจากมีส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาลต่อมา เฟเดริโก้ มาเคด้า ได้เซ็นสัญญายาว 4 ปี แต่กองหน้ารายนี้ต้องเผชิญกับปัญหาอาการบาดเจ็บเข้าเล่นงาน ส่งผลให้เขาได้ลงเล่นเพียง 10 นัด ให้กับสโมสร โดยมีเพียง 5 นัดเท่านั้นที่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ

หลังจากที่หายหน้าหายตาไปนาน เฟเดริโก้ มาเคด้า สามารถกลับมายิงประตูในสีเสื้อ แมนยูฯ ได้อีกครั้ง ซึ่งเกิดขึ้นในเกมที่เสมอกับ แอสตัน วิลล่า 2-2 เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2010 แต่จากนั้นบทชีวิตของเขาต้องเผชิญเข้ากับชะตากรรมนักเตะพเนจรห่างไกลจาก โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แบบที่ไม่มีวันได้กลับมาอยู่จุดเดิมอีกเลย

โดย เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน แนะนำให้ เฟเดริโก้ มาเคด้า ย้ายออกจากโรงละครแห่งความฝันในรูปแบบยืมตัว กับสโมสรในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ แต่ด้วยความที่เป็นสายเลือดอิตาเลียนขนานแท้ ซามพ์โดเรีย แห่งศึกฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา จึงดึงดูดความสนใจจาก เฟเดริโก้ มาเคด้า เสียมากกว่า 

"เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ต้องการให้ผมออกไปหาประสบการณ์แบบยืมตัว มีหลายสโมสรใน พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ติดต่อเข้ามาหาผม รวมถึง เอฟเวอร์ตัน และ ซันเดอร์แลนด์"

"แต่ผมอยากกลับไปเล่นที่อิตาลีบ้านเกิด ในกัลโช่ เซเรีย อา แน่นอนว่า เฟอร์กี้ ไม่เห็นด้วยและบอกว่าผมควรเล่นในอังกฤษ เพราะสโมสรสามารถจับตาดูพัฒนาการของผมได้ ในอิตาลีเป็นเรื่องยากลำบากหากต้องทำแบบนั้น"

"ยังไงสุดท้ายผมก็ยืนยันจะไปอิตาลี และถูกต้อง นั่นเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม ผมควรจะฟังคำแนะนำของ เฟอร์กี้ แต่มันก็ยังมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้น ซามพ์โดเรีย เข้ารอบเพลย์ออฟแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลนั้น พวกเขามีทีมที่ดีเลยนะ"

"ผมได้รับคำวิจารณ์รุนแรงมากมาย มีผู้คนคิดกับผมว่า มาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด แล้วคิดว่าตัวเองเป็นใครหรอ ? เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ความมั่นใจของผมลดฮวบ ผมเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า ดีพอหรือยัง และอาการบาดเจ็บก็เข้ามาเล่นงานผมอย่างต่อเนื่อง” มาเคด้า กล่าวกับ ESPN

รวมแล้ว เฟเดริโก้ มาเคด้า ฝากผลงาน 0 ประตูในลีก กับอีก 1 ประตู ในฟุตบอลโคปปา อิตาเลีย ไว้กับ ซามพ์โดเรีย และถูกปล่อยตัวกลับมายังเกาะอังกฤษอย่างเหงา ๆ 

หลังจากจบการยืมตัวกับ ซามพ์โดเรีย เฟเดริโก้ มาเคด้า กลับมายัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อีกครั้ง ในฤดูกาล 2011-12 หลังจากนั้นตัวเขาก็ร่อนเร่พนเนจรไปยังหลาย ๆ สโมสรไม่ว่าจะเป็น ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ที่เขาได้ลงเล่นเพียง 3 นัด ต่อด้วยในฤดูกาล 2012-13 เฟเดริโก้ มาเคด้า ถูกปล่อยยืมตัวพ่วงสัญญาซื้อขาดกับ สตุ๊ดการ์ด ในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน แต่ทว่าน่าเสียดายเพราะเหมือนหลาย ๆ อย่างที่เมืองเบียร์จะไม่เป็นใจเนื่องจากเขาลงเล่นไปทั้งสิ้น 14 นัด ยิงได้ 0 ประตู ทำให้ไฟเขียวที่จะใช้เงื่อนไขซื้อขาดต้องเป็นหมันไป

ฤดูกาล 2013-14 เฟเดริโก้ มาเคด้า ย้ายไปร่วมทีม ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส และเหมือนเดิมที่กระสุนของเขายังด้านไม่หายเพราะเขาลงเล่นไปทั้งสิ้น 15 นัดให้กับต้นสังกัด และยิงได้เพียง 3 ประตูเท่านั้น ถึงอย่างไรเขาก็มีช่วงเวลาที่ดีกับ เบอร์บิงแฮม ซิตี้ ในครึ่งฤดูกาลหลัง เฟเดริโก้ มาเคด้า กลายเป็นดาวซัลโซของทีมถึงแม้จะเพิ่งย้ายมาเมื่อตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคมของฤดูกาลดังกล่าวด้วยสถิติลงเล่น 18 นัด ยิงไป 10 ประตู

สุดท้าย เฟเดริโก้ มาเคด้า ถูกปล่อยออกจากสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบไร้ค่าตัว เมื่อปี 2014 ซึ่งจุดหมายต่อไปของเขาคือการร่วมงานกับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สุดท้ายก็ไม่วายที่จะถูกปล่อยยืมตัวอีกครั้งกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ โดยรวมเป็นระยะเวลาสองปี ตั้งแต่ ฤดูกาล 2014-15 ถึง 2015-16 เขาลงเล่นไปเพียง 30 นัด และยิงได้เพียง 6 ประตู กับทั้งสองสโมสร

หนึ่งในสาเหตุหลักที่ เฟเดริโก้ มาเคด้า กลายเป็นนักฟุตบอลดาวรุ่งที่เรียกได้ว่าล้มเหลวในชีวิตการค้าแข้ง นอกจากการตัดสินใจไม่ฟังคำแนะนำของ เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน แล้วเลือกทางเดินของตัวเอง นั่นคืออาการบาดเจ็บที่เข้ามาเล่นงานเขาอย่างไม่หยุดหย่อนส่งผลให้ระดับการพัฒนาทั้งทักษะทางด้านร่างกายและฟุตบอลไม่สามารถก้าวต่อไปได้ อีกทั้งอาจทำให้ถดถอยอีกต่างหาก

 

โผล่ไม่เคยพ้นน้ำ

เฟเดริโก้ มาเคด้า เสาะหาหนทางที่จะทำให้เขากลับมาอยู่จุดเดิมอีกครั้งในเส้นทางสายฟุตบอล หลังจากที่โดน คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ยกเลิกสัญญาไปเมื่อปี 2016 เขาย้ายไปร่วมทีมในลีกรองของอิตาลี ฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย บี กับสโมสร โนวารา แต่ดูเหมือนว่าตัวเขาจะยังไม่เหมาะกับฟุตบอลอิตาลีอยู่พอสมควร เพราะตลอดระยะเวลาสองปี เขาลงสนามไป 51 เกม และยิงได้เพียง 11 ประตู

ทำให้ ในปี 2018 เฟเดริโก้ มาเคด้า ทำการย้ายทีมอีกครั้งไปยังประเทศกรีก กับ พานาธิไนกอส โดยที่แห่งนี้เป็นสถานที่ราวกับว่าให้ เฟเดริโก้ มาเคด้า กลับมาหลงรักฟุตบอลอีกครั้ง เพราะตลอด 4 ปี เขาลงเล่นให้ต้นสังกัดไปทั้งสิ้น 116 เกม ยิงได้ 40 ประตู แถมพาต้นสังกัดคว้าแชมป์กรีก คัพ มาครองได้อีกด้วย

ปัจจุบัน ปี 2023 เฟเดริโก้ มาเคด้า ในวัยย่างเข้า 32 ปี สังกัดอยู่กับสโมสร อาโปเอล (APOEL) แห่งลีกประเทศไซปรัส ด้วยสัญญายืมตัวอีกครั้งจากสโมสร อังการากูคู (Ankaragücü) ในตุรกีซูเปอร์ ลีก 

สุดท้ายนี้ เฟเดริโก้ มาเคด้า กล่าวโดยสรุปถึงชีวิตค้าแข้งของตัวเองกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่า "ตอนที่ผมก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมต้องทุ่มเทให้มากกว่าเดิมถึงสามเท่า ผมได้เรียนรู้มากมายจากความผิดพลาดนั้น และแนะนำให้ผู้เล่นดาวรุ่งเชื่อฟังคำบอกกล่าวของญาติสนิทหรือคนที่หวังดีต่อเราจริง ๆ"

"มันไม่ง่ายเลยที่จะจัดการกับความกดดันนอกสนาม ดังนั้นคุณต้องยิ่งเพิ่มโฟกัสไปยังสิ่งที่คุณแสดงออกมาในสนาม และอย่าเป็นกังวัลกับโลกโซเชียลมีเดียมากจนเกินไป" 

ต้องติดตามกันต่อไปว่าตอนจบของอดีตแข้งดาวรุ่งตลอดกาล นามว่า เฟเดริโก้ มาเคด้า จะลงเอย ณ จุดใด 

 

แหล่งอ้างอิง : 

https://www.dailystar.co.uk/sport/football/man-utd-macheda-debut-now-27716891
https://www.goal.com/en/news/federico-macheda-the-career-dive-of-manchester-uniteds-teenage-title-hero/16v43y6gn8kch1t4gxtrjtkg2z
https://www.espn.co.uk/football/blog/espn-fc-united/68/post/3098192/federico-macheda-tells-his-story-from-manchester-united-to-novara
https://bleacherreport.com/articles/2829460-10-years-after-that-goal-vs-villa-federico-macheda-is-on-the-comeback-trail
https://m.allfootballapp.com/amp/news/EPL/Eleven-years-on-from-Machedas-famous-impact-at-Manchester-United/2303974
https://en.wikipedia.org/wiki/Federico_Macheda

Author

รณกฤต ตุลยะปรีชา

วัยรุ่นคู้บอน

Photo

ปฐวี ยอดเนียม

ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล แต่ตอนนี้หลงไหล " ว่าย ปั่น วิ่ง "

Graphic

ภราดร ภราดร

อยากจะทำให้ดี ไม่ใช่แค่อยากจะทำให้เป็น