Feature

แบด บันนี่ : แรปเปอร์ติ่งมวยปล้ำ ที่ได้สานฝันให้เป็นจริงบนเวที WWE | Main Stand

ศึกมวยปล้ำ WWE รายการ Backlash ที่เปอร์โตริโก เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา แบด บันนี่ หรือ เบนิโต อันโตนิโอ มาร์ติเนซ โอกาซิโอ ศิลปินแรปเปอร์ของเปอร์โตริโก สร้างความประทับใจให้แก่แฟนมวยปล้ำ WWE ด้วยการโชว์ลีลาต่อสู้กับ แดเมียน พรีสต์ นักมวยปล้ำประจำค่ายแบบสุดตัว ก่อนคว้าชัยชนะมาได้ต่อหน้ากองเชียร์เรือนหมื่นของตัวเอง

 


แรปเปอร์หนุ่มชาวเปอร์โตริโกในวัย 29 ปี เป็นหนึ่งในเซเลบริตีที่ทาง WWE ดึงตัวมาเป็นแขกรับเชิญสร้างสีสันให้กับสมาคมตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะ WWE มักจ้างคนดังมาปรากฏตัวในโชว์ของพวกเขาอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ แบด บันนี่ ไม่เหมือนแขกรับเชิญคนอื่นก็คือ เขาคือติ่งมวยปล้ำ WWE พันธุ์แท้ และทุ่มเทโชว์ฝีมือบนเวทีอย่างเต็มที่จนได้ใจแฟนมวยปล้ำทั่วโลก

อะไรคือสิ่งที่ทำให้แรปเปอร์หนุ่มผู้ประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งยุคนี้ยอมทิ้งไมค์มาเจ็บตัวบนสังเวียนของ WWE นี่คือเรื่องราวที่ Main Stand นำมาฝากกัน

 

ติ่งมวยปล้ำจากเปอร์โตริโก

ในวงการเพลงฮิปฮอปสไตล์ลาติน แทร็ป ผสมเร็กเก้ ระดับโลก แบด บันนี่ ถูกยอมรับจากคนฟังทั่วโลกให้เป็นหนึ่งในตัวจี๊ดของวงการ ผลงานเพลงของบันนี่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางนับตั้งแต่เขาทำคลอดอัลบั้มแรกในชีวิต X 100pre เมื่อปี 2018 ที่เข้ามาตีตลาดเพลงในสหรัฐอเมริกาได้ ก่อนระเบิดฟอร์มกับอัลบั้มชุดที่สอง YHLQMDLG ในปี 2020 ที่ทำยอดขายในอเมริกาได้ถึง 1.4 ล้านชุด ทั้งที่ไม่ใช่เพลงภาษาอังกฤษ เขาได้ร่วมงานกับศิลปินมากมายก่อนก้าวไปถึงจุดสุดยอดด้วยการคว้ารางวัลแกรมมี่ สาขาอัลบั้มเพลงละตินยอดเยี่ยม ในปี 2021

คนฟังเพลงทั่วไปอาจรู้จัก แบด บันนี่ ในฐานะศิลปิน แต่หากถามแฟนมวยปล้ำก็จะรู้จักเขาเช่นกัน เพราะบันนี่คือแขกรับเชิญที่ WWE สมาคมมวยปล้ำอันดับ 1 ของโลก เชิญตัวมาร่วมสร้างสีสันให้กับโชว์ของพวกเขาตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งตรงนี้หลายคนน่าจะสงสัยเป็นแน่ว่า แรปเปอร์ที่มียอดขายอัลบั้มกว่า 5 ล้านชุดทั่วโลกมาแจมกับ WWE ได้อย่างไร ?

คำตอบคือ เพราะความรักในมวยปล้ำของเขา เนื่องจากมวยปล้ำคือสิ่งที่ แบด บันนี่ คลั่งไคล้สมัยที่เขายังเป็นเด็ก เขาเล่าว่า "ผมมีเพลงเปิดตัวและเครื่องแต่งกายเป็นของตัวเอง ผมใช้แจ็คเก็ตของพ่อและกางเกงที่เราทาสีตกแต่งเอง เราเล่นกันได้เป็นชั่วโมง ๆ" 

แบด บันนี่ สมัยเด็กก็เป็นเหมือนกับแฟนมวยปล้ำฟันน้ำนมทั่วไป พวกเขากับเพื่อน ๆ เล่นเป็นนักมวยปล้ำคนที่ชื่นชอบ พร้อมกับร้องเพลงประจำตัวหรือแต่งกายทำท่าทางเลียนแบบนักมวยปล้ำในดวงใจ และเมื่อเขาเลือกเส้นทางที่จะเป็นศิลปินในวันที่เขาเติบโต เขาก็ได้หยิบจุดเด่นจากมวยปล้ำที่เขาชอบมาผสมปรุงแต่งเข้ากับผลงานของตัวเอง

ลีลาของนักมวยปล้ำบนสังเวียนที่เขาดูตั้งแต่เด็กมีสีหน้าท่าทางในการสื่ออารมณ์ให้เข้ากับบทบาท ประกอบกับเพลงเปิดตัวของนักมวยปล้ำแต่ละคนที่แสนติดหู แบด บันนี่ จึงใช้สิ่งเหล่านี้มาผสมผสานกับบทเพลงและโชว์บนเวทีเพื่อสร้างสรรค์โชว์สำหรับแฟน ๆ 

"สไตล์คือสิ่งสำคัญ การมีเอกลักษณ์จากท่าทาง คำพูด หรือรูปลักษณ์ ทุกองค์ประกอบจะสร้างความประหลาดใจได้เสมอในกีฬามวยปล้ำ แฟน ๆ ชอบที่อะไรที่ไม่ทันตั้งตัว ผมชอบที่จะใส่อารมณ์แบบนี้ไว้ในเพลงของผมเช่นกัน"

การที่ แบด บันนี่ ใช้จุดเด่นของมวยปล้ำมาประยุกต์เข้ากับบทบาทศิลปินคือปัจจัยที่ทำให้เขาเป็นศิลปินที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร และเป็นหนึ่งในศิลปินที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งยุคนี้

แบด บันนี่ ชนะรางวัลแกรมมี่สาขา Best Música Urbana Album ที่งานประกาศรางวัลแกรมมี่ประจำปี 2023

 

เข้าสู่โลกมวยปล้ำตามฝัน

หากจะยกตัวอย่างผลงานที่ แบด บันนี่ หยิบเอามวยปล้ำที่เขาชื่นชอบสอดแทรกเข้ามาในเพลงของตัวเองก็มีอยู่มากมาย เช่น "I Like It" ที่มีเนื้อเพลงกล่าวถึง เอ็ดดี เกร์เรโร ตำนานนักมวยปล้ำจอมตุกติกผู้ล่วงลับ หรือเพลง "¿Quién Tú Eres?" ที่ได้ "สโตน โคลด์" สตีฟ ออสติน ตำนานนักมวยปล้ำ มาแจกเบียร์และแสดงท่าไม้ตายสไตล์จิ๊กโก๋แห่งเท็กซัสในมิวสิกวิดีโอ หรือซิงเกิล Chambea ที่ได้ ริค แฟลร์ ตำนานผู้ยิ่งใหญ่ มาร่วมแสดงใน MV เพลงนี้เช่นกัน 

แต่เพลงที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต แบด บันนี่ ก็คือซิงเกิล "Booker T" บทเพลงสนุก ๆ ที่เขียนถึงนักมวยปล้ำในวัยเด็กของเขา บูเกอร์ ที อันเปรียบเสมือนเพลงที่ทำเพื่อบูชาไอดอลของตัวเอง แถมยังได้ บูเกอร์ ที มาแสดงในมิวสิกวิดีโอให้อีกต่างหาก

ชื่อเสียงและความสำเร็จของ แบด บันนี่ ในเวลานั้น ประกอบกับการแสดงตัวว่าเป็นแฟนมวยปล้ำตัวจริง ทำให้ WWE เล็งเห็นโอกาสในการขยายฐานแฟนคลับ จึงเชิญ แบด บันนี่ มาแสดงสดเพลง Booker T ที่ศึก Royal Rumble ประจำปี 2021 

และการมาปรากฏตัวร้องเพลงในวันนั้นก็ทำให้เขาได้ก้าวเข้าประตูสู่การร่วมงานกับ WWE ในที่สุด จนเขาได้มีเนื้อเรื่องร่วมกับนักมวยปล้ำในสมาคมไปด้วย

แบด บันนี่ แสดงสดเพลง Booker T ในศึก Royal Rumble 2021

 

ก้าวแรกสู่สังเวียน

แบด บันนี่ เริ่มเปิดศึกกับ เดอะ มิซ และ จอห์น มอร์ริสัน ในช่วงต้นปี 2021 โดยการก่อกวนแมตช์ของ เดอะ มิซ เพื่อช่วยให้ แดเมียน พรีสต์ เป็นผู้ชนะ และช่วย แดเมียน จากแมตช์ที่โดน เดอะ มิซ ก่อกวน เส้นเรื่องเริ่มชี้ให้เห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่าแดเมียนต้องจับคู่กับ แบด บันนี่ เพื่อเปิดศึกกับ เดอะ มิซ และ มอร์ริสัน ซึ่งระหว่างนั้นทั้งสองฝ่ายก็สร้างเรื่องราวพัวพันกันมาเรื่อย ๆ ทั้งก่อกวนกันไปมา ตบตี หวดด้วยกีต้าร์ หรือแต่งเพลงแข่งกับ แบด บันนี่ จนในที่สุดเรื่องราวก็ดำเนินมาถึงจุดไคลแมกซ์ เมื่อเดอะ มิซ ท้าทาย แบด บันนี่ ให้มาเจอกันที่ศึก WrestleMania ครั้งที่ 37 แน่นอนว่าเจ้ากระต่ายตัวแสบคนนี้ไม่ปฏิเสธ

"เพราะฉันเป็นลูกผู้ชาย และเขาหมิ่นฉัน เขาพังอุปกรณ์ดีเจของฉัน เขาดูหมิ่นดีเจของฉันที่เป็นเหมือนพี่น้องของฉัน เขาดูหมิ่นอาชีพฉัน เพลงฉัน แฟนเพลงฉัน ดูถูกทุกอย่างโดยไม่มีเหตุผล" แบด บันนี่ ระเบิดอารมณ์ใส่ เดอะ มิซ

ส่วน เดอะ มิซ ก็ตอบกลับตามบท "นายคิดว่านายเป็นใคร ? ฉัน เดอะ มิซ แชมป์โลกสองสมัย ฉันเคารพนายนะ แต่นายไม่เคารพฉัน นายลํ้าเส้นเกินไปแล้ว ฉันไม่รู้ว่าทำไม แต่ฉันไม่แคร์ว่ะ เสาร์นี้ที่ WrestleMania ฉันจะแสดงให้นายดูว่านายจะเคารพฉันยังไง ฉันจะหุบปากแก และเตะก้นแกซะ!" 

แบด บันนี่ เดบิวต์บนสังเวียนศึก WrestleMania ครั้งที่ 37 โดยการจับคู่กับ แดเมียน พรีสต์ ปล้ำแมตช์แท็กทีมเจอกับ เดอะ มิซ และ จอห์น มอร์ริสัน ค่ำคืนนั้น แบด บันนี่ โชว์ลีลาแบบทุ่มสุดตัว สร้างความประทับใจให้กับคนดูทั้งสนามและผู้ชมทางบ้านอย่างมาก โดยเฉพาะช็อตที่จับ จอห์น มอร์ริสัน ใส่ท่า แคนาเดียน เดสทรอยเยอร์ ข้างล่างเวที ทำเอาคนดูทั่วโลกอ้าปากค้าง เพราะไม่คิดว่าแขกรับเชิญอย่างเขาจะฝึกท่ามวยปล้ำนี้มาด้วย ก่อนคว้าชัยชนะมาได้ในที่สุด 

แบด บันนี่ จับคู่กับ แดเมียน พรีสต์ เอาชนะ เดอะ มิซ และ จอห์น มอร์ริสัน ในศึก WrestleMania 37

หลังจบศึก WrestleMania ครั้งนั้น แบด บันนี่ หายจาก WWE เนื่องจากหมดสัญญาการเป็นพาร์ตเนอร์กับสมาคมแล้วกลับไปทัวร์คอนเสิร์ตตามปกติ ซึ่งสิ่งที่เขาได้รับกลับไปจากการร่วมงานกับ WWE ครั้งนั้นคือ เขาได้แฟน WWE เข้ามาเป็นแฟนเพลงกลุ่มใหม่ของเขาเพิ่มขึ้น คนดูมวยปล้ำที่ประทับใจกับลีลาของเขาก็เริ่มหันไปฟังเพลงของเขาและสมัครตัวเป็นแฟนคลับกันมากมาย

ขณะที่ฝั่ง WWE ก็ยังได้แฟน ๆ กลุ่มใหม่จากฐานแฟนคลับของบันนี่เพิ่มมาเยอะเช่นกัน เรียกว่า วิน-วิน กันทุกฝ่าย และด้วยกระแสความนิยมของเขาที่แรงต่อเนื่อง ทำให้ WWE เรียกใช้บริการ แบด บันนี่ อีกครั้งในศึก Royal Rumble ปี 2022 ต่อด้วยปี 2023 ที่เขาได้รับบทเป็นผู้ช่วยของ เรย์ มิสเตริโอ ในแมตช์ที่เขาต้องเจอกับลูกชายของตัวเอง โดมินิก มิสเตริโอ ใน WrestleMania ครั้งที่ 39 

เรื่องราวที่เกิดขึ้นใน WrestleMania 39 ทำให้ แบด บันนี่ กลายเป็นหนึ่งในตัวละครที่เข้าไปอยู่ในเส้นเรื่องความบาดหมางระหว่างพ่อลูกมิสเตริโอที่ยังไม่จบ และที่สำคัญกว่านั้น WWE ยังให้โอกาสเขาได้เป็นเจ้าภาพในศึก Backlash ประจำปี 2023 ณ ประเทศเปอร์โตริโก อันเป็นบ้านเกิดของเขาด้วย

 

ฝันที่เกินฝันใน เปอร์โตริโก

การที่ แบด บันนี่ ขัดขวางโดมินิกในแมตช์ระหว่างพ่อนั้น (ตามบท) ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่าง แบด บันนี่ และ แก๊ง The Judgment Day ที่โดมินิกเป็นสมาชิกอยู่ รวมถึง แดเมียน พรีสต์ อดีตคู่แท็กทีมของแบดบันนี่ที่เป็นสมาชิกแก๊งนี้ก็เปิดศึกกับเขาเป็นระยะ ๆ และจุดไคลแมกซ์ก็คือ WWE ได้วางบทให้ แบด บันนี่ ห้ำหั่นกับ แดเมียน พรีสต์ ไปเลยในศึก Backlash ที่เขาเป็นเจ้าภาพประจำรายการ และเพิ่มความเดือดด้วยการให้ทั้งสองสู้กันในแมตช์ San Juan Street Fight แบบไม่มีกฎกติกาและมารยาทที่สามารถใช้อุปกรณ์ตีกันได้ทุกอย่าง

และในศึก Backlash นั่นเอง แบด บันนี่ เอาชนะ แดเมียน พรีสต์ ไปได้แบบไม่ผลิกโผ เขาทุ่มเทแบบเกินร้อย ทั้งยอมโดนไม้เคนโด้ฟาดกลางหลัง ยอมโดนแดเมียนทุ่มใส่โต๊ะจนพัง กระโดดเหินหาวจากเทิร์นบัคเคิลแบบไม่กลัวเจ็บตัว ก่อนปิดจ๊อบจับ แดเมียน พรีสต์ ใส่ท่า บันนี่ เดสทรอยเยอร์ กดนับสามชนะไป สิ่งเหล่านี้ทำให้ แบด บันนี่ ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากสำหรับความทุ่มเทของเขาที่ไม่ได้เป็นเพียงเซเลบริตีที่มาเกาะ WWE เพื่อสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองเพียงอย่างเดียว

ชัยชนะของ แบด บันนี่ ท่ามกลางเสียงเฮของแฟนมวยปล้ำในเปอร์โตริโกที่ตีตั๋วเข้ามาชมกันในสนามถึง 17,944 คน รวมถึงบรรดาตำนานมวยปล้ำที่มาร่วมสร้างสีสันกับเขาทั้ง คาร์ลิโต้ แคริบเบียน คูล และ ซาวิโอ เวก้า นั้นว่าน่าประทับใจแล้ว แต่สิ่งสำคัญที่เหนือกว่าชัยชนะก็คือการที่ตัวของ แบด บันนี่ เป็นคนนำพามวยปล้ำ WWE กลับมาจัดที่เปอร์โตริโกอีกครั้งนั่นเอง

ย้อนไปเมื่อปี 2005 WWE เดินทางมาจัดศึกใหญ่ที่เปอร์โตริโกในรายการ New Year’s Revolution แม้จะมีผู้ชมเข้ามาชมกันมากมาย แต่ แบด บันนี่ วัย 11 ขวบ กลับไม่ได้เข้าไปชมในแมตช์นั้นด้วยเหตุผลบางอย่าง สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกเสียดายมากและตั้งความหวังว่า WWE จะกลับมาจัดศึกใหญ่ที่บ้านเกิดของเขาอีกครั้ง และเขาจะได้เป็นส่วนหนึ่งของโชว์ในฐานะคนดู

แล้วในที่สุด WWE ก็กลับมาจัดโชว์ที่เปอร์โตริโกจริง ๆ และคนที่นำพา WWE กลับมาที่นี่ได้ในรอบ 18 ปีก็คือตัวของ แบด บันนี่ ในวันที่เขากลายเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งของโลกไปแล้ว ซึ่งเชื่อเลยว่าแม้แต่ตัวของบันนี่ก็คงไม่คิดฝันเช่นกันว่าเขาจะเป็นคนทำให้ WWE มาจัดที่เปอร์โตริโกได้ แถมยังได้มีแมตช์ตัวต่อตัวกับนักมวยปล้ำอาชีพอย่าง แดเมียน พรีสต์ อีกต่างหาก

แบด บันนี่ ฉลองชัยชนะกับ การ์ลิโต, ซาวิโอ เวก้า และกลุ่ม LWO (Latino World Order) ยุคใหม่

"ผมยังคิดถึงมันอยู่เลย ไม่มีคำไหนจะอธิบายความรู้สึกของผมในวันนั้นได้ มันคือความฝัน!"

"ขอบคุณเปอร์โตริโก!! พวกคุณคือดาวเด่นตลอดสองคืนมานี้ ไม่มีกำลังใจไหนเหมือนกับที่พวกคุณให้มา!! ตอนนี้ผู้คนรู้แล้วว่าใครคือแฟนมวยปล้ำที่ดีที่สุดในโลก!!" 

"P FKN R!!" แบด บันนี่ โพสต์ใน Instagram ของตัวเองบรรยายความรู้สึกอันเปี่ยมล้น จากความฝันที่เกิดขึ้นและเป็นจริงไปเรียบร้อย

อันที่จริงแต่เดิมแมตช์นี้ WWE วางแผนไว้ให้ แบด บันนี่ จับคู่กับ เรย์ มิสเตริโอ เจอกับ แดเมียน พรีสต์ และ โดมินิก มิสเตริโอ แต่จากผลงานน่าประทับใจบนสังเวียนที่ผ่านมาทั้ง WrestleMania และ Royal Rumble บวกกับความนิยมในผลงานเพลงที่พุ่งกระฉูดไม่หยุด ทำให้ WWE เชื่อมั่นในศักยภาพของเขา จนเปลี่ยนแผนใหม่ให้ แบด บันนี่ ได้มีแมตช์เดี่ยวตัวต่อตัวกับ แดเมียน พรีสต์ ไปเลย และสิ่งที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนั้นก็คงพิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ทำให้ WWE และคนดูผิดหวังแม้แต่น้อย

ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรที่ WWE จะเรียกใช้บริการดารา นักร้อง หรือบุคคลที่มีชื่อเสียง มาสร้างสีสันให้กับโชว์ของสมาคม ทว่า แบด บันนี่ ไม่เหมือนคนอื่น เพราะเขาคือแฟนมวยปล้ำตัวจริงที่พร้อมที่จะอุทิศเวลาและทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างเต็มที่เพื่อทำในสิ่งที่เขารักมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เขากลายเป็นแขกรับเชิญของ WWE ที่โดดเด่นกว่าใครในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มว่าแฟนมวยปล้ำจะได้พบกับเขาอีกแน่นอนในรายการอื่นๆ ต่อจากนี้

 

แหล่งอ้างอิง :

https://www.facebook.com/100051110544329/posts/pfbid02gNqf2QvJZeTJMHYkYA2w5YbFkhK3uRcoz31wAXSztZoHaXbro5dmbuZgPqTz8a5rl/?mibextid=cr9u03
https://www.afterbuzztv.com/every-time-bad-bunny-has-mentioned-wrestling-in-his-music/
https://www.thesportster.com/wwe-professional-wrestling-influenced-bad-bunny-music-career/
https://wrestlingjunkie.usatoday.com/2023/05/05/report-wwe-originally-had-bad-bunny-tag-team-match-backlash/
https://twitter.com/wrkdwrestling/status/1655035844745371648?s=61&t=5HDjKWTimO3IpYbB9KXvtg
https://www.yardbarker.com/wrestling/articles/bad_bunny_says_wwe_backlash_was_a_dream_thanks_puerto_rico_crowd/s1_16995_38791436
https://instagram.com/stories/badbunnypr/3098287493702509472?utm_source=ig_story_item_share&igshid=NTc4MTIwNjQ2YQ==

Author

Main Stand

Stand ForAll สื่อกีฬาที่เข้าถึงทุกคน

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ