Feature

คำถามที่ตอบยาก : แข้งไทยในยุโรปเก่งจริงมาทำไม “ไทยลีก” ? | Ball Thai Stand

ปัจจุบันนักเตะลูกครึ่งสายเลือดไทยต่างตบเท้าเข้ามาโกยเงินบาทในศึกลูกหนังไทยลีกมากขึ้น หลายคนดีกรีไม่ธรรมดา แต่แน่นอนว่ามันย่อมกลายเป็นประเด็นถกเถียงกันของแฟนบอลไม่รู้จบว่า สรุปแล้วนักเตะลูกครึ่งฝีเท้าเก่งจริงหรือเปล่า ?

 

เก่งจริงทำไมเลือกมาค้าแข้งในไทยลีกแทนที่จะลุยไปให้สุดในฟุตบอลลีกยุโรป ติดตามกับ BallThaiStand


ไทยลีกไม่ธรรมดา 

ปัจจุบันฟุตบอล “รีโว่ ไทยลีก” ได้รับการยอมรับว่าเป็นลีกที่ดีที่สุดในอาเซียน ฟุตบอลไทยลีกคือฟุตบอลเอนเตอร์เทนอย่างแท้จริง หลายสโมสรเน้นเกมรุก บุกแหลกเอาใจแฟนบอลที่เข้ามาชมเกมในสนาม

สิ่งอำนวยความสะดวก สนามแข่งขันมีการยกระดับขึ้น หลายสนามเป็นฟุตบอล สเตเดียม ทำให้บรรยากาศการเชียร์คึกคัก คล้ายคลึงกับการชมฟุตบอลต่างประเทศ

ขณะเดียวกันฟุตบอลไทยเองมีการพัฒนาด้านแท็คติคมากกว่าในอดีต ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโลกลูกหนังที่เปิดกว้างมีกุนซือฝีมือดี ผ่านการคุมทีมโชกโชนเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น 

รวมทั้ง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ  เองให้ความสำคัญกับการเปิดอบรมโค้ชทุกระดับ ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงระดับโปรไลเซนส์ มีกุนซือสัญชาติไทยตบเท้าเข้าไปหาวิชาเพิ่มขึ้น 

นักเตะต่างชาติหลายคนเคยค้าแข้งในลีกท็อปของยุโรป ต่างย้ายเข้ามาเล่นในไทยลีก ถือเป็นการยกระดับและทำให้นักเตะไทยได้เรียนรู้วิธีการเล่นฟุตบอลแบบมืออาชีพ ไม่แปลกที่ฟุตบอลไทยลีกจะมีความคล้ายคลึงกับฟุตบอลลีกในยุโรปไม่น้อยทีเดียว

อย่าลืมว่าลีกในยุโรปหรือดิวิชั่นที่ต่ำลงไปยังมีแนวทางการเล่นที่ล้าหลัง เน้นพละกำลัง และเล่นกันอย่างดุเดือดเผ็ดมัน ไม่ได้เน้นแท็คติคหรือเทคนิคมากนัก 

นักเตะบางรายอาจไม่ชอบฟุตบอลสไตล์แบบนั้น และพยายามมองหาลีกที่เหมาะสมกับสไตล์การเล่นของตัวเอง เพื่อดึงศักยภาพออกมามากที่สุด 

หนึ่งในนั้นคือ เบนจามิน เดวิส กองกลางที่ย้ายจาก อ็อกฟอร์ด ยูไนเต็ด ในลีกวัน อังกฤษ มาค้าแข้งกับ การท่าเรือ แบบยืมตัว 1 ฤดูกาล ได้เปิดเผยว่า "การย้ายมาเล่นที่นี่มันสำคัญมาก เพราะผมอายุยังน้อย การมาเล่นที่ไทยหนึ่งฤดูกาลเป็นโอกาสที่ดีในการแสดงให้ทุกคนเห็นว่าผมทำอะไรได้บ้าง"

"มันเป็นการตัดสินใจที่ยาก ผมมีตัวเลือกที่อังกฤษ แต่เป็นดิวิชั่นล่างๆ ซึ่งเล่นคนละสไตล์กับผม พวกเขาเล่นบอลยาว ไม่ค่อยเล่นบอลกับพื้น ในสิ่งที่ผมถนัด”

“ดังนั้นผมคิดว่าการย้ายมาที่นี่จะทำให้คนรู้ว่าผมทำอะไรได้บ้าง ผมเพิ่งอายุ 21 ปี ผมว่าตัวเองยังมีเวลา"


เวทีชุบตัวเพื่อก้าวไปเล่นในลีกที่สูงกว่า

ในอดีตมีนักเตะต่างชาติหลายคนมาค้าแข้งในไทยลีกแล้วสามารถต่อยอดก้าวไปเล่นในลีกระดับท็อปของเอเชียไม่น้อย 

ปัจจุบันในเตะไทยเองได้รับการยอมรับในลีกเอเชียมากขึ้น มีนักเตะทีมชาติไทย ก้าวไปเล่นในเจลีก ญี่ปุ่น หลายคน 

นั่นทำให้นักเตะลูกครึ่งมองไทยลีกว่าเป็นเวทีที่เหมาะกับการพัฒนาฝีเท้า หากผลงานดี มีโอกาสถูกสโมสรในเอเชียดึงตัวไปร่วมทีม 

นอกจากนี้สโมสรในไทยลีก ยังจับมือเป็นพันธมิตรกับสโมสรในเจลีก นั่นทำให้โอกาสไปเล่นในเจลีก ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นลีกถูกยกให้เป็นอันดับ 1 ของเอเชียเปิดกว้างขึ้นไปอีก

โจนาธาร เข็มดี กองหลังวัย 20 ปี ที่เคยค้าแข้งกับ โอบี โอเดนเซ ในซูเปอร์ลีกเดนมาร์ก ย้ายมาเล่นในศึก “รีโว่ ไทยลีก 2002/2023” เลก 2 กับ ราชบุรี แบบเซอร์ไพรส์ 

เชื่อว่าฟุตบอลไทยลีกคุณภาพไม่ได้ด้อยไปกว่าในยุโรป หากเขาทำผลงานได้ดี โอกาสที่จะย้ายไปเล่นในเจลีก เคลีก หรือกลับไปเล่นในยุโรปเปิดกว้างสำหรับเขาเสมอ 

“ตอนนี้ผมอายุ 20 ปี อยู่ในช่วงพัฒนา ผมไม่อยากรีบร้อนในการมองไปยังการค้าแข้งในต่างประเทศ”

“ผมต้องการลงสนามอย่างสม่ำเสมอ ผมเชื่อว่าที่นี่พัฒนาศักยภาพของผมได้”

“ผมมองไปทีละสเต็ป เป้าหมายของผมไม่ได้ต้องการมาแขวนสตั๊ดที่ไทยอยู่แล้ว ผมมองว่าถ้าทำผลงานดีโอกาสไปเล่นในลีกที่ใหญ่กว่าหรือกลับไปเล่นในยุโรปอีกครั้งในอนาคตก็ยังเป็นไปได้”

“ความแตกต่างของฟุตบอลไทยกับยุโรป ผมคิดว่าไม่ต่างกันมาก ในยุโรปจะเน้นเรื่องแท็คติกมาก”

“แต่ที่นี่จะมีความกระหายชัยชนะมากกว่า คุณจะต้องทำพยายามให้มากกว่าเดิมเพื่อชนะในแต่ละเกม” 

ต่อคำถามที่ว่าถ้านักเตะในยุโรปเก่งจริงทำไมมาเมืองไทย โจนาธาร ตอบว่า “ผมก็ไม่รู้หมือนกัน แต่สำหรับผม ผมมาที่นี่เพราะอยากท้าทายตัวเอง” 


เพิ่มโอกาสลงสนามมากขึ้น

ฟุตบอลไทยลีกแม้ความนิยมจะลดน้อยลงไปในแง่ของจำนวนแฟนบอลที่เข้าไปเชียร์ในสนาม หรือมูลค่าในการถ่ายทอดสดที่ตกลงไปจากระดับพันล้านหรือหลักร้อยล้าน

แต่ที่นี่ยังเป็นลีกที่ดึงดูดให้นักเตะหลายคนเข้ามาหาความท้าทายเสมอ โดยเฉพาะนักเตะลูกครึ่งอายุน้อยที่ต่างตบเท้าเข้ามาเล่นในไทยลีกมากขึ้น 

แน่นอนว่าฟุตบอลลีกยุโรป โดยเฉพาะลีกใหญ่ๆ อย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ลา ลีกา สเปน, กัลโช ซีเรีย อา อิตาลี หรือ บุนเดสลีกา เยอรมัน คือความฝันของนักเตะทุกคน ที่ต้องหาโอกาสไปลิ้มรสชาติลีกระดับโลกสักครั้งในชีวิตการค้าแข้ง 

แต่การก้าวไปจุดนั้นไม่ได้ง่ายเลย เพราะต้องผ่านอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะนักเตะดาวรุ่งที่ต้องขับเคี่ยวแย่งชิงพื้นที่ 11 ตัวจริงของทีมชุดใหญ่ และต้องต่อสู้กับนักเตะรุ่นพี่ที่กระดูกบอลเหนือกว่า ถ้าฝีเท้าไม่สุดในรุ่นหรือขั้นเทพจริงๆ โอกาสที่จะไปยึดตัวจริงในทีมมีน้อย 

ทำให้สโมสรตัดสินใจปล่อยนักเตะที่มีแววรุ่งไปค้าแข้งกับสโมสรอื่นในดิวิชั่นที่ต่ำกว่า เพื่อเปิดทางให้นักเตะมีโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง 

หากฝีเท้าพัฒนารุดหน้าก็มีโอกาสกลับไปเป็นตัวจริงในอนาคต หรืออาจถูกสโมสรที่ใหญ่กว่าดึงตัวไปร่วมทีม

บางรายเลือกที่จะหาโอกาสลงเล่นโดยการย้ายไปเล่นในลีกอื่น เห็นได้ชัดเจนว่านักเตะลูกครึ่งอายุน้อยหลายคนสามารถก้าวมาเป็นกำลังสำคัญของทีมในไทยลีกได้ ในอดีตก็มี ทริสตอง โด สมัยอยู่ บีอีซี เทโรศาสน และ เมืองทอง ยูไนเต็ด

หรือ เควิน ดีรมรัมย์ แบ็คซ้ายที่แจ้งเกิดกับ ราชบุรี ตั้งแต่อายุ 19 ปี ก่อนย้ายมาเล่นให้ การท่าเรือ ในปัจจุบัน 

เมื่อมีโอกาสลงสนามมากขึ้น โอกาสพัฒนาฝีเท้าก็มีมากขึ้น หากผลงานดีก็มีทีมใหญ่สนใจดึงตัวไปร่วมทีมต่อไป 


รายได้ที่สูงขึ้น

“ผมไม่ได้มาเพราะเรื่องเงิน ถ้าผมมาเพราะเรื่องเงินจริงๆ ผมคงไม่เลือกมาเล่นที่นี่” นี่คือคำให้การของ โจนาธาร เข็มดี ถึงเป้าหมายในการเล่นไทยลีกของเขา

แม้เขาจะไม่ได้มองเรื่องเงินเป็นหลัก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่านักเตะลูกครึ่งอายุน้อยหลายคน ได้รับค่าเหนื่อยแต่ละเดือนสูงทีเดียว 

นักเตะลูกครึ่งดาวรุ่งที่ค้าแข้งกับทีมระดับเศรษฐีบอลไทย ทั้ง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด, การท่าเรือ หรือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในอดีตจนถึงปัจจุบันล้วนได้รับเงินเดือนหลักหลายแสนบาทต่อเดือน ซึ่งเป็นเงินจำนวนมากทีเดียว เมื่อเปรียบเทียบกับนักเตะหลายคนที่เล่นในยุโรป 

หนึ่งในเอเยนต์ที่ทำงานในวงการฟุตบอลไทย เปิดเผยว่า นักเตะลูกครึ่งที่อายุน้อยๆ บางราย รายได้ตกเดือนละเกือบ 3 แสนบาท บางรายได้รับมากกว่านั้น 

นี่แค่เงินเดือนอย่างเดียวยังไม่รวมโบนัสที่จะได้เพิ่มกรณีพาทีมชนะหรือได้แชมป์แต่ละรายการ

ขณะที่นักเตะดาวรุ่งในต่างประเทศไม่ได้รับเงินสูงอย่างนั้น ตัวอย่างเช่น อเลฮานโดร การ์นาโช ปีกดาวรุ่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับทัพ “ปีศาจแดง” ในฤดูกาลนี้ได้รับเงินเดือนราว 5,000 ปอนด์ หรือราว 210,000 บาท เท่านั้น 

ถามว่าค่าเหนื่อยของ การ์นาโช สูงไหม ก็ต้องบอกว่าสูง แต่อย่าลืมว่าเขาอยู่กับสโมสรระดับโลกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 

หากนักเตะลูกครึ่งไม่ได้ค้าแข้งกับทีมระดับโลก เงินเดือนคงไม่ถึงระดับนั้นแน่นอน

แต่เงินไม่ใช่ปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจอย่างเดียว บางสโมสรได้แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยาน ทำให้เป็นแรงจูงใจให้ย้ายมาเล่นในไทยลีกได้เช่นกัน 

วิลเลียม เวเดอร์เฌอ กองกลางลูกครึ่งไทย-สวีเดน ของ การท่าเรือ เผยว่า "จริง ๆ ผมได้รับข้อเสนอจากทีมในสวีเดน และ ทีมอื่น ๆ ในไทยด้วย แต่ตอนที่ผมได้รับข้อเสนอจาก การท่าเรือ ผมรู้สึกแตกต่างออกไป”

“ผมรู้ว่านี่เป็นหนึ่งในสโมสรใหญ่ในไทย มีเป้าหมายชัดเจน และ ความทะเยอทะยานอยู่ตลอด"

ขณะที่ ชาริล ชัปปุยส์ กองกลาง การท่าเรือ กล่าวถึงการมาค้าแข้งในไทยลีก แม้จะเคยมีข่าวว่า “ยูเวนตุส” ยอดทีมในกัลโช ซีเรีย อา อิตาลี ให้ความสนใจไปร่วมทีมว่า “ผมมีความสุขกับที่เป็นอยู่ทุกวันนี้นะ”

“ผมรู้สึกภาคภูมิใจและแฮปปี้ที่อยู่ที่นี่ อีกทั้งยังได้เล่นให้กับทีมชาติไทย ซึ่งทำให้ผมภาคภูมิใจ”

“ตอนนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม แต่ตอนนี้ผมอยู่กับปัจจุบัน”

ไม่ว่าใครจะมองบรรดานักเตะลูกครึ่งไทยในยุโรปที่กลับมาเล่นไทยลีกอย่างไร แต่พวกเขาเหล่านั้นล้วนมีเหตุผลเป็นของตัวเอง ซึ่งที่สุดแล้วฝีเท้ากับผลงานในสนามคือสิ่งที่จะเป็นคำตอบได้ดีกว่าแต่ละคนเก่งจริงหรือเปล่า 

Author

ศุภฤกษ์ สีทองเขียว

หนุ่มแดนหมอแคน ผู้คลั่งไคล้ในฟุตบอล

Photo

วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว

หนุ่มน้อยผู้คลั่งรัก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดหัวใจ

Graphic

อภิสิทธิ์ โชติพิบูลย์ทรัพย์

Art Director ผู้รับเหมางานภาพกราฟิกหน้าปกบทความทุกชิ้น