สุดสัปดาห์นี้ฟุตบอล เจลีก 1 ญี่ปุ่น ฤดูกาล 2023 จะกลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง ซึ่งแฟนบอลจะได้เชียร์ 2 นักเตะไทยที่ค้าแข้งอยู่บนแผ่นดินแดนปลาดิบ คือ ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลาง คาวาซากิ ฟรอนตาเล และ สุภโชค สารชาติ กองกลาง คอนซาโดเล ซัปโปโร
ล่าสุด “ทิซัง” ทิวาพล สังขพันธ์ ล่ามส่วนตัวของ สุภโชค ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า สุภโชค จะได้โอกาสลงสนามมากขึ้นในฤดูกาลนี้ และจะได้ลงเล่นในตำแหน่ง Shadow Striker
แล้ว Shadow Striker คือตำแหน่งอะไร? สุภโชค จะเล่นตำแหน่งนั้นได้ไหม ติดตามได้กับ BallThaiStand
Shadow Striker คืออะไร
โลกฟุตบอลหมุนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว กุนซือยุคใหม่พยายามดัดแปลงกลยุทธ์ วิธีการเล่นให้มีความหลากหลาย เพื่อเอาชนะคู่แข่งในแต่ละเกม นั่นทำให้ตำแหน่งของผู้เล่นถูกแยกหน้าที่มากกว่าเดิม
จากตำแหน่งหลักมีแค่ ผู้รักษาประตู แบ็ค กองหลัง กองกลาง กองหน้า ปัจจุบันเราจะได้ยินชื่อตำแหน่งแปลกๆ อาทิ Inverted Back แบ็คที่หุบมาเล่นเป็นกองกลางในบางครั้ง
กองกลางที่วิ่งขึ้นช่วยเกมรุกและรับที่เรียกว่า Box-To-Box Midfielder หรือปีกกึ่งกองหน้าที่เรียกว่า Inside Forward
กองหน้าตัวต่ำ เทคนิคดี คล้ายๆ พวกเพลย์เมกเกอร์ ที่เรียกว่า Trequartista และกองหน้าอย่าง Shadow Striker ที่เรากำลังจะพูดถึง
ในอดีต “กองหน้า” มีหน้าที่คอยทำประตู เก็บบอลในแดนบนเพื่อช่วยให้เกมบุกมีความต่อเนื่อง หรือคอยดึงกองหลังให้หลุดตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้กองกลางหรือปีกสอดเข้าไปทำประตู เช่น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี และ เออร์ลิง ฮาลันด์
หากกองหน้าคนไหนเทคนิคดี มีความเร็วสูงอาจจะทำหน้าที่ชงเองกินเอง ลงไปล้วงบอลเอง แล้วเลี้ยงบอลแหวกแนวรับคู่ต่อสู้ไปทำประตูได้เลย อาทิ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, แฮร์รี่ เคน หรือ เธียร์รี่ อองรี
ต่อมากองหน้ากึ่งปีกได้รับความนิยมมากขึ้นในฟุตบอลยุคใหม่ นักเตะเหล่านี้มีจุดเด่นเรื่องความเร็ว มีเทคนิคดี ยิงประตูคมกริบ ไม่ว่าจะเป็น อาเยน ร็อบเบน, คริสเตียโน โรนัลโด้ และ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ เป็นต้น
แต่นักเตะที่เล่นเป็น Shadow Striker จะมีคุณสมบัติของกองกลาง ปีก และกองหน้ามารวมกัน นักเตะเหล่านี้สามารถพักบอลได้ ยิงประตูได้ดี เลี้ยงบอลตัดเข้าในยิงประตู หรือสร้างสรรค์เกมได้
“โค้ชอ๊อตโต้" พันธุ์นารายณ์ พันธุ์ศิริ กุนซือหนุ่มวัยย่าง 26 ปี ของ ชัยนาท ฮอร์นบิล ในไทยลีก และเป็นเจ้าของเพจ The Next Coach มียอดติดตามในเพจเฟซบุ๊กเกือบ 2 แสนคน ได้เผยถึงรายละเอียดของตำแหน่ง Shadow Striker ว่า
“ถ้าใครชอบเล่นเกม Football Manager คงจะคุ้นหูชื่อ Shadow Striker อยู่แล้ว มันคือบทบาทของกองหน้าตัวต่ำ เล่นอยู่ต่ำกว่ากองหน้า จุดเด่นคือการสอดขึ้นไปทำประตูได้บ่อยๆ”
“หน้าที่นี้แม้จะยืนเหมือนเป็น Playmaker ก็จริง แต่จุดที่แตกต่างคือมีหน้าที่หลักในการทำประตูมากกว่าสร้างสรรค์เกม”
“เห็นชัดๆ ในตำแหน่งนี้ก็คือนักเตะอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด, เปาโล ดิบาลา หรือ โธมัส มุลเลอร์ สมัยที่ขึ้นมาเล่นให้ บาเยิร์น มิวนิค ยุคแรกๆ”
“คุณสมบัติของผู้เล่นตำแหน่งนี้มี 3 อย่างที่ต้องมีความโดดเด่น คือ การเคลื่อนที่สอดเข้าไปในเขตโทษเพื่อทำประตู มีความสามารถจบสกอร์ได้ดีพอๆ กับกองหน้า และ เทคนิคการยิงไกลต้องดี เพราะบางจังหวะอาจต้องยืนอยู่หน้าไลน์กองหล้ง หากไม่มีตัวประกบเมื่อได้บอลสามารถยิงไกลเพื่อลุ้นทำประตูได้เลย”
ตำแหน่งที่คุ้นเคยสมัยค้าแข้งให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
สุภโชค เป็นนักเตะที่ได้รับการยอมรับว่ามีเทคนิคดี คล่องแคล่ว มีความเร็วสูง ไปกับบอลได้ดี และยิงประตูได้อย่างเฉียบขาด ตำแหน่งที่เขาเล่นให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก่อนย้ายไปเล่นในเจลีก ญี่ปุ่น ก็คือกองกลางตัวรุก บางครั้งยืนอยู่หลังคู่กองหน้า หรือบางครั้งก็ถูกจับไปเล่นเป็นกองหน้า
แต่วิธีการเล่นของเขาจะแตกต่างจากกองหน้า คือไม่ได้เป็นยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า แต่จะฉีกออกไปอยู่ริมเส้นบ้าง หรือบางครั้งก็ยืนเป็นกองหน้าตัวต่ำคอยเชื่อมเกมระหว่างกองกลางกับกองหน้า
จุดเด่นของ สุภโชค อีกอย่างหนึ่งก็คือ เขาเป็นนักเตะที่ยิงประตูได้ดี และหาพื้นที่ว่างเก่งมาก หลายครั้งเราจะเห็น สุภโชค ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษแล้วยิงไกล หรือการเลี้ยงบอลจากปีกซ้ายเข้ามายิงประตูด้วยเท้าขวาข้างถนัด หรือการสอดเข้าไปทำประตูในกรอบเขตโทษก็ทำได้อย่างไร้ที่ติ
“ผมมองว่า สุภโชค เป็นผู้เล่นที่ไม่ใช่เพลย์เมกเกอร์ธรรมชาติ แม้ว่าเขาจะเล่นอยู่หลังกองหน้า เขามีสัญชาตญาณของความเป็นกองหน้า จบสกอร์ได้ดี และมีจังหวะที่ชงเองกินเองได้”
“เขาสามารถเล่นได้ 2 บทบาท ก็คือ Shadow Striker และ Inside Forward เพราะเลี้ยงตัดในเข้ามายิงประตูได้”
“ฟุตบอลของ ซัปโปโร่ ที่ติดตามดูเมื่อฤดูกาลก่อน เขาจะมีกองหน้า 1 คน เล่นคล้ายเป็น False 9 คอยเชื่อมเกมกับกองกลางหรือฉีกออกไปเล่นด้านข้าง”
“ตำแหน่งกองกลางตัวรุก 2 คนคอยสอดเข้าไปทำประตู สไตล์ของ สุภโชค เหมาะสมที่จะเล่นตำแหน่งนี้อยู่แล้ว” พันธุ์นารายณ์ กล่าวเสริม
สุภโชค จะต้องเบียดแย่งตัวจริงกับใครบ้าง
ใครเป็นแฟนบอลเจลีก และ ติดตามทีม คอนซาโดเล ซัปโปโร่ จะทราบดีว่าแท็คติคของ มิไฮโล เปโตรวิช เฮดโค้ชจะเน้นระบบการเล่นที่ใช้ตัวรุกด้านบน 3 คน ประกอบด้วย กองหน้าตัวเป้า 1 คน และจะมีกองกลางตัวรุกคอยสนับสนุนกองหน้าอยู่ 2 คน ซึ่งในตำแหน่งหลัง สุภโชค จะต้องพยายามเบียดแย่งตัวจริงให้ได้
“ชุ” ปรัชญา วรรณวิจิตร ผู้บรรยายฟุตบอลเจลีก 1 ญี่ปุ่น จาก Siamsport เชื่อว่า สุภโชค มีโอกาสเป็นตัวจริงมากขึ้นในฤดูกาลนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสไตล์การเล่นที่แตกต่างจากนักเตะในทีมคนอื่นๆ
“ผมคิดว่า สุภโชค จะได้โอกาสลงสนามมากขึ้นในฤดูกาลนี้ เพราะการที่ ซัปโปโร เซ็นสัญญายาว 5 ปี แสดงว่าเขาเห็น สุภโชค มีพัฒนาการที่ดีและมีโอกาสพัฒนาฝีเท้าได้อีก”
“ครึ่งซีซั่นที่แล้ว สุภโชค มีโอกาสลงสนามน้อยก็จริง แต่สามารถสร้างความแตกต่างในเกมได้ ทำแอสซิสต์ได้ 3 ครั้ง หากในช่วงปรีซีซั่นสามารถฝึกซ้อมได้ดี พัฒนาเรื่องความฟิตและยืนระยะได้ มีโอกาสลงสนามเป็น 11 ตัวจริงได้เลย”
“คนที่ สุภโชค ต้องแย่งตัวจริงด้วยก็มี เรียวตะ อาโอกิ ที่ สุภโชค แอสซิสต์ให้ ทั้งคู่เล่นเข้ากันมาก และ สึโยชิ โอกาชิวาะ เล่นคล้ายๆ ชนาธิป ปีที่แล้วเจ็บเพิ่งกลับมา ยังมี ยูยะ อาซาโนะ ที่มาจาก ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า แต่ไม่รู้ว่าจะเล่นได้ขนาดไหน เพราะปีที่แล้ว ซานเฟรซเซ่ ดอง”
“อีกคนอีก โยชิอากิ โคมาอิ ที่เจ็บอยู่ หลักๆ ก็จะมีประมาณนี้ ผมคิดว่า เช็ค ไม่มีปัญหา อยู่ที่จะได้เล่นทางซ้ายหรือขวา”
“ในจังหวะตัดบอลแล้วเล่นเกมทรานซิชั่น เปลี่ยนจากรับเป็นรุกเร็ว สุภโชค จะมีประโยชน์กับทีมมาก เพราะเขามีความเร็ว จังหวะพุ่งไปข้างหน้าทำได้ดีมาก ทำให้เพื่อนสามารถจ่ายบอลไปพื้นที่ว่างให้ได้เลย”
“สุภโชค สามารถชงเองกินเองได้ ซึ่งสไตล์การเล่นแบบนี้แตกต่างจากตัวที่มีอยู่ในทีม ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบเลย อย่าง โอกาชิวะ จะติดเลี้ยงและติดสินใจไม่ไม่ค่อยดี” ปรัชญา กล่าว
ต้องบอกว่าตำแหน่ง Shadow Striker ไม่ใช่ตำแหน่งใหม่ของ สุภโชค เลย เพราะเจ้าตัวเคยผ่านการเล่นตำแหน่งนี้มาแล้วในเครื่องแบบ บุรีรัมย์
จากนี้เหลือเพียงการปรับตัวให้เขากับแท็คติคของ คอนซาโดเล ซัปโปโร ที่ มิไฮโล เปโตรวิช เฮดโค้ชติดตั้งไว้ และเล่นให้เข้าขากับเพื่อนร่วมทีมเท่านั้น
หากได้โอกาสลงสนามแล้วคว้าโอกาสทอง ทำผลงานได้เป็นที่พอใจ โอกาสยึดตัวจริงมีสูงทีเดียว
