Feature

ไมเคิล และ นิโคล เฟลป์ส : ฉันอยู่ตรงนี้เสมอ ในวันที่เธอต้องสู้กับความซึมเศร้า | Main Stand

ค่ำคืนของวันที่ 30 กันยายน ปี 2014 ไมเคิล เฟลป์ส (Michael Phelps) หนึ่งในนักว่ายน้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เจ้าของเหรียญทอง 23 เหรียญจากโอลิมปิก 5 สมัย กำลังขับรถกลับบ้านในสภาพเมามาย เขาถูกจับกุมฐานเมาแล้วขับ ส่งผลให้ไม่กี่เดือนต่อมาต้องถูกสมาคมว่ายน้ำสหรัฐฯ สั่งแบนไม่ให้ทำการแข่งขันเป็นเวลานานถึง 6 เดือนเต็ม

 


เหตุการณ์ดังกล่าวมีส่วนให้ไมเคิลตกอยู่ในเงามืดของสภาวะซึมเศร้า เขากินไม่ได้นอนไม่หลับจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป

แต่ระหว่างที่ต้องต่อสู้กับสภาวะจมดิ่งของจิตใจอยู่นั้น เขาได้รับความรักและกำลังใจอย่างดีจาก นิโคล จอห์นสัน (Nicole Johnson) คนรักของเขา

นี่คือเรื่องราวความรักของ ไมเคิล และ นิโคล เฟลป์ส ที่ช่วยเยียวยาให้ยอดฉลามหนุ่ม หลุดพ้นจากความโศกเศร้า แล้วกลับมาสร้างผลงานยิ่งใหญ่ในวงการว่ายน้ำได้อีกครั้ง ติดตามได้ใน Main Stand

 

สภาวะอันหนักหน่วง

ในห้องที่ถูกปิดสนิท เป็นอีกวันที่ ไมเคิล เฟลป์ส ไม่อาจลุกขึ้นจากเตียงนอนได้ เขากำลังสับสนอยู่กับสภาวะอารมณ์ที่ยากต่อการอธิบาย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะต้องพบเจอกับความกดดันมาตลอดทั้งชีวิต ทำให้ไมเคิลในวัย 29 ปี ณ เวลานั้นมีความวิตกกังวลและซึมเศร้าอย่างหนัก

เขาทุกข์ใจจนต้องหาทางออกด้วยการดื่มเหล้า สูบกัญชา หรือเสพสิ่งเสพติดบางชนิด เพราะคิดว่าสิ่งเหล่านั้นจะช่วยให้คลายจากความกังวลได้

แต่เปล่าเลย ผลของการดื่มหนักทำให้เขาถูกจับในข้อหาเมาแล้วขับ เกิดเป็นกระแสถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลก จนในวันที่ 7 ตุลาคม 2014 สมาคมว่ายน้ำสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งขั้นเด็ดขาด ห้ามไม่ให้ไมเคิลลงทำการแข่งขันในรายการใดใดเป็นเวลา 6 เดือน

ไมเคิลรู้สึกอับอายจนไม่อยากไปพบหน้าใคร ด้วยเหตุนี้เขาจึงขังตัวเองอยู่ในห้องนอนเพียงอย่างเดียว ไม่กิน ไม่ดื่ม และเอาแต่จมปลักอยู่กับความผิดหวัง

“มันแย่มาก! ผมไม่เคยรู้สึกโศกเศร้าขนาดนี้มาก่อน ผมขังตัวเองอยู่ในห้องสามถึงห้าวัน ไม่กิน ไม่นอน เอาแต่อยากฆ่าตัวตายลูกเดียว” ไมเคิล กล่าว

เขาเป็นนักกีฬาว่ายน้ำที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ เขาคือฉลามหนุ่มที่รวดเร็วและน่าเกรงขามสำหรับคู่ต่อสู้ของเขาเสมอ

แต่ในวันนี้เขาเป็นเพียงชายหนุ่มผู้พ่ายแพ้ให้กับตัวเอง ซึ่งศัตรูของเขากลับเป็นหัวใจที่อ่อนล้าและโรยแรงจนแทบแตกสลาย

จนกระทั่งเขาได้ค้นพบว่าเขาไม่อาจต่อสู้บนเส้นทางนี้ได้เพียงลำพัง เขาจึงออกจากห้องที่ปิดตายเพื่อหาวิธีทำให้หัวใจของตัวเองกลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง

“ผมตัดสินใจว่าถึงเวลาที่ต้องพยายามค้นหาเส้นทางอื่น เส้นทางที่จะช่วยให้ผมหลุดพ้นจากขุมนรกนี้” เขา กล่าว

 

รักแท้ในยามยาก

ช่วงเวลาที่หม่นหมองที่สุดในชีวิต เราล้วนต้องการใครสักคนมาคอยยืนเคียงข้าง

ไมเคิล เฟลป์ส คือชายผู้โชคดีที่สุด เพราะเขามี นิโคล เฟลป์ส หรือ นิโคล จอห์นสัน คอยให้กำลังและอยู่เคียงข้างเสมอ

ทั้งคู่พบกันตั้งแต่ปี 2007 ในงานประกาศรางวัล ‘ESPY’ ไมเคิล ตกหลุมรัก นิโคล ทันทีตั้งแต่แรกเห็น เขาทั้งคู่หลงรักกันและแอบคบหากันแบบลับ ๆ แต่ก็มีข่าวหลุดออกมาให้เห็นว่ากุ๊กกิ๊กกันอยู่บ่อย ๆ แต่ด้วยปัจจัยหลายอย่างทำให้พวกเขารัก ๆ เลิก ๆ กันตลอดช่วงแรกของการคบหา ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้ว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะไมเคิลในวัยหนุ่มมักมีข่าวฉาวกับหญิงสาวหลายคนเช่นกัน

ด้านของนิโคลก็มีดีกรีเป็นถึง มิสแคลิฟอร์เนีย ประจำปี 2010 เธอกำลังสับสนกับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อไมเคิล เนื่องจากยอดฉลามหนุ่มยังไม่ชัดเจนกับเธอเสียที

แต่ในวันที่เขาต้องการเธอมากที่สุด เธอไม่เคยหนีหายไปไหน โดยเฉพาะในปี 2014 ที่ไมเคิลต้องต่อสู้กับความรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย และต้องเข้ารับการบำบัดอย่างเร่งด่วน นิโคลได้ย้ายเข้ามาอยู่กับเขาและคอยให้กำลังใจเขา ด้วยความรักที่จริงแท้จากใจ และความห่วงใยอันบริสุทธ์ที่เธอมีต่อไมเคิล มันทำให้เธอชนะใจของเขาได้

“ฉันบอกไมเคิลอยู่เสมอว่าเราไม่ได้ตัดสินเขา” นิโคล กล่าว “ฉันมาที่นี่เพื่อให้กำลังใจเขา ฉันมาเพื่อรักเขา ฉันจะไม่ทำให้เขาอับอาย จะไม่ทำให้เขาโดดเดียว และฉันจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ”

ต่อมาในปี 2015 พวกเขาแต่งงานกันแบบเงียบ ๆ ในบัลติมอร์ แมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีแค่ญาติไม่กี่คนมาร่วมงาน

มันเป็นเวลาที่ยุ่งเหยิงสำหรับเขาทั้งคู่พอสมควร พวกเขามีลูกด้วยกัน และเนื่องจากไมเคิลต้องฟื้นฟูสภาพจิตใจ เขาจึงต้องพักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงต้องเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนที่จะมาถึงในปี 2016 ทำให้เขาไม่คอยมีเวลาให้กับลูก ๆ มากนัก

“บางครั้งลูก ๆ จะเห็นผมออกจากห้องไปด้วยความรู้สึกหนักใจ และเก็บอารมณ์แทบไม่ไหวเพราะคิดอะไรไม่ออก มันคลุ้มคลั่งอยู่ในอกของผม” ไมเคิล กล่าว “บางทีผมกรีดร้องด้วยความทรมาน บางทีผมทำได้แค่เขียนความเจ็บปวดลงในสมุดเพื่อดึงความรู้สึกเหล่านั้นออกมา ดีกว่าปล่อยให้มันหมักหมมอยู่ในตัวของผมเอง”

 

ครอบครัวคือส่วนสำคัญที่สุด

ด้วยกำลังใจจากนิโคลและลูก ๆ ทำให้ไมเคิลเอาชนะสภาวะกดดันตัวเองได้สำเร็จ เขากลับมาฝึกซ้อมว่ายน้ำอีกครั้งพร้อมกับฟื้นฟูสภาพจิตใจไปด้วย ซึ่งมันค่อนข้างหนักหนาสำหรับผู้ป่วยซึมเศร้าเช่นเขาที่มีเป้าหมายคือการกลับมาคว้าเหรียญทองโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 ที่ริโอเดอจาเนโร ให้ได้อีกสมัยหนึ่ง

นิโคลอธิบายระหว่างให้สัมภาษณ์ ว่า

“ฉันบอกกับลูก ๆ ว่าบางทีพ่อของเขาก็มีวันที่แย่ แต่ไม่ใช่เพราะลูก ๆ ที่ทำให้พ่อเป็นแบบนี้ เราควรปล่อยให้พ่อมีพื้นที่ของตัวเองบ้าง”

แน่นอนว่าไมเคิลฝึกซ้อมอย่างหนักทุกวัน เขาเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่มีชื่อเสียงเรื่องระเบียบวินัยและการฝึกซ้อมเสมอ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาต้องพยายามหนักขึ้นคือการคิดบวกให้มากขึ้นกว่าเดิม

ไมเคิลต้องสั่งการให้สมองคิดบวกตลอดเวลา เขาพยายามทำอะไรให้ตัวเองดูมีคุณค่า และอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ด้วยการตั้งเป้าหมายแล้วทำมันให้สำเร็จ

ทุกครั้งที่สติหลุด ไมเคิลจะถอยออกจากจุดเดิมที่ยืนอยู่ เขาจะพยายามนึกถึงนิโคลกับลูก ๆ ของเขา ที่กำลังโอบกอดเขาอยู่ด้วยสายตาแห่งความห่วงใย

“ผมบอกตัวเองว่าเป็นคุณพ่อลูกสาม เป็นสามี และเป็นคนที่ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่คิดอยากฆ่าตัวตาย เมื่อผมมองไปข้างหลังผมเห็นครอบครัว ครอบครัวที่รักผมด้วยใจจริงและพร้อมอยู่เคียงข้างกันเสมอ มันคือความจริงที่สุดในชีวิตของผม”

ไมเคิลลงทำการแข่งขันโอลิมปิกครั้งสุดท้ายของตนโดยได้รับแรงสนับสนุนจากครอบครัวอย่างเต็มที่ แม้ว่าเขาจะเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษที่ในโอลิมปิกเกมส์ แต่เขาก็ถูกสบประมาทจากผู้คนอยู่ไม่น้อยอีกเช่นกันว่า ยุคของเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว

ไมเคิลรู้ดีว่าโอลิมปิกครั้งนี้สำคัญกับเขามากแค่ไหน แต่เขาก็ทำเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาคือลงทำการแข่งขันด้วยความมั่นใจและทุ่มเทสุดกำลังเพื่อสยบคู่ต่อสู้ของเขา ซึ่งต่างมุ่งหวังที่จะคว้าเหรียญทองมาครองให้ได้ด้วยความมุ่งมั่นไม่แพ้กัน

เขาปิดฉากโอลิมปิกฤดูร้อนที่ริโอเมื่อปี 2016 ด้วยการสร้างประวัติศาสตร์จากการคว้าเหรียญทองมาครองได้ถึง 5 เหรียญ เขากลายเป็นนักกีฬาที่คว้าเหรียญรางวัลได้มากที่สุดในโอลิมปิกที่ 28 เหรียญ (23 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง) เขาก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในโอลิมปิกทันที

ไมเคิลออกมายอมรับว่า ส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่ตนได้รับมาจากแรงสนับสนุนจากคนในครอบครัว โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากในการต่อสู้กับโรคซึมเศร้า เขาโชคดีที่มีครอบครัวที่อบอุ่น รวมถึงการมีนิโคลคอยยืนเคียงข้าง นับเป็นความสำเร็จสูงสุดเท่าที่เขาเคยได้รับมา

“ตั้งแต่ได้พบกับนิโคล เธอเป็นผู้หญิงที่ทำให้ผมรู้สึกว่าไม่มีใครแล้วจะเข้าใจตัวผมได้ดีเท่ากับเธอ” ไมเคิล กล่าว

ปัจจุบัน ไมเคิล เฟลป์ส ในวัย 37 ปีได้ยุติอาชีพนักกีฬาว่ายน้ำไปนานแล้ว แต่เขายังต้องต่อสู้กับสภาวะซึมเศร้าของตัวเองอยู่ทุกวัน โดยมีนิโคลและลูก ๆ ทั้งสามคอยให้กำลังใจอยู่เคียงเช่นเดิม

แม้ว่าไมเคิลยังไม่หายขาดจากโรคซึมเศร้าดีนัก แต่เขาก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากโรคนี้ นั่นคือการได้รับความรักจากนิโคลที่คอยหนุนหลังอยู่ข้างหลังเสมอ อย่างน้อย มันก็ช่วยให้เขาลบความคิดที่อยากฆ่าตัวตายออกไปได้อย่างสิ้นเชิง

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.essentiallysports.com/us-sports-news-swimming-news-how-did-michael-phelps-meet-wife-nicole-johnson/
https://people.com/sports/michael-phelps-praises-wife-nicoles-support-amid-depression-the-glue-that-holds-us-together/
https://edition.cnn.com/2018/01/19/health/michael-phelps-depression/index.html

Author

ณัฐพงศ์ อินต๊ะริด

Main Stand's author

Photo

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1

Graphic

ภราดร ภราดร

อยากจะทำให้ดี ไม่ใช่แค่อยากจะทำให้เป็น