ฤดูกาล 2022/23 เป็นฤดูกาลที่แฟนบอลอาร์เซนอลทุกคนคอยลุ้นเอาใจช่วยทีมประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแชมป์พรีเมียร์ลีก
เรื่องนี้ต้องให้เครดิตกับ มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม เช่นเดียวกับทีมโค้ช ตลอดจนบอร์ดบริหาร ที่สนับสนุนการทำทีมของกุนซือสแปนิชอย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าทุกสิ่งอย่างหลอมรวมจนทีมดังแห่งลอนดอนเหนือมีส่วนผสมที่ลงตัว
หนึ่งในนั้นคือเรื่องแทคติกการเล่นที่หลากหลายและเหมาะสมกับทุก ๆ สถานการณ์การแข่งขัน ซึ่งหากใครจำกันได้ มาร์ติน โอเดการ์ด เคยทำท่าดีใจชู้ตบาสเกตบอล ในเกมกับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ มาแล้ว
เชื่อหรือไม่ว่าท่าดีใจนี้มีความเกี่ยวโยงกับกลยุทธ์การเล่นของกีฬายัดห่วง ซึ่งอาร์เซนอลนำมาปรับใช้จนได้ผล มันเกิดจากการเรียนรู้บ่มเพาะมาตั้งแต่ช่วงฤดูกาลก่อนหน้า และที่สำคัญทีมระดับบิ๊ก 6 หลายทีมก็เคยโดนเล่นงานมาแล้ว
Main Stand จะชวนคุณมาติดตามแนวทางดังกล่าว รวมถึงบทสัมภาษณ์ที่ช่วยยืนยันว่ากฎบาสเกตบอล หรือ Basketball Rule เป็นหนึ่งในแนวทางการทำงานที่ทำให้อาร์เซนอลมีฟอร์มที่ดี ณ เวลานี้
2022/23 ฤดูกาลที่ทำดี ยังไม่มีแผ่ว
มิเกล อาร์เตต้า เข้ามาเป็นกุนซืออาร์เซนอล เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2019 อดีตกองกลางสแปนิชผู้นี้เข้ามารับหน้าเสื่อต่อจากอูไน เอเมรี ที่อำลาตำแหน่งไปเมื่อเดือนก่อนหน้า
เนื่องด้วยเคยเป็นนักเตะของทัพไอ้ปืนใหญ่มาก่อน และเคยสวมยูนิฟอร์มลงบู๊ในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดียม มาถึง 5 ฤดูกาล เคยเป็นกัปตันนำเพื่อนร่วมทีมเดินลงสู่สนาม และที่สำคัญช่วงเวลาที่อดีตดาวเตะทีมชาติสเปนชุดเยาวชนผู้นี้ลงเล่นให้ทีมอยู่ในช่วงที่ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของสโมสรคุมทัพ
จึงไม่แปลกที่เขาจะมี DNA ความเป็นอาร์เซนอลอยู่เต็มเปี่ยม อาร์เตต้ารับรู้เข้าใจปรัชญาและวัฒนธรรมของสโมสร เขาได้นำแนวทางนี้มาปรับใช้อย่างแน่วแน่ เมื่อก้าวเข้ามาเป็นผู้จัดการทีม
“ผมคิดว่าเราต้องสร้างวัฒนธรรมที่เหมาะสม สร้างสภาพแวดล้อมที่ทุกคนเคารพซึ่งกันและกันที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน นั่นคือพื้นฐาน และหลังจากนั้นเราจึงจะพัฒนาต่อจากจุดนี้ได้ จากนั้นพวกเราจะสามารถสร้างตัวตนจากที่ผมคิดอยู่ในหัวออกมาเพื่อสโมสรแห่งนี้" ส่วนหนึ่งจากบทสัมภาษณ์แรกของอาร์เตต้า เมื่อปี 2019
อย่างที่แฟนฟุตบอลสโมสรอังกฤษทราบกันดี การเข้ามาคุมทัพปืนโตช่วงแรก ๆ ของ มิเกล อาร์เตต้า แม้เขาพาทีมมีโทรฟี่ติดมือได้ทันทีด้วยการเป็นแชมป์เอฟเอ คัพ 2020 แต่นั่นไม่ใช่การความสำเร็จที่เขาคิดว่าจะเป็นการสร้างทีมระยะยาวตามแนวทางที่ตั้งใจไว้
และด้วยการที่อดีตผู้ช่วยโค้ชเป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รู้จักกับผู้อำนวยการกีฬาสโมสรอย่าง เอดู กาสปาร์ อดีตนักเตะชุดแชมป์ลีกไร้พ่าย ซึ่งมีส่วนในการดึงกุนซือชาวสเปนมาคุมทีม ทำให้การทำงานประสานกันระหว่างทีมบริหารกับทีมจัดการดูง่ายและลงตัวเรื่อยมา
ไม่ว่าจะกรณีหานักเตะใหม่มาเสริมแกร่ง ปล่อยตัวผู้เล่นออก หรือการดันเยาวชนสโมสรสู่ทีมชุดใหญ่ เพื่อให้ลงตัวกับสโมสรที่สุด การผนึกกำลังช่วยกันคิดช่วยกันทำระหว่างอาร์เตต้าและเอดูและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เปลี่ยนจากช่วงฤดูกาลแรกที่อยู่ในขั้นทำความรู้จักกับขุมกำลังว่าใครเหมาะสมไม่เหมาะสมกับทีมยุคเขา สู่การเปลี่ยนถ่ายแข้งเก่าอย่างการโละ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง, วิลเลี่ยน, ดาวิด ลุยซ์ ไปจนถึง นิโคลัส เปเป้ ฯลฯ
แล้วเติมแข้งใหม่ที่มองว่าเหมาะสมกว่าในทุก ๆ รอบตลาดซื้อขาย เช่น เบน ไวท์, อารอน แรมส์เดล ซื้อขาด มาร์ติน โอเดการ์ด รวมถึง ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ เป็นต้น เช่นเดียวกับการให้โอกาสดาวรุ่งได้เติบโต เราจะเห็นชื่อของ บูกาโย่ ซาก้า, เอมิล สมิธ โรว์ ไปจนถึง เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่เป็นสมาชิกทีมชุดใหญ่ในเวลานี้
จากนั้นก็เสริมเติมแต่งมาเรื่อย ๆ จนถึงฤดูกาลปัจจุบัน ที่ได้สองทีเด็ดพร้อมฉีกซองใช้งานได้ทันทีอย่าง กาเบรียล เชซุส และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ไปจนถึงปีกที่คุ้นเคยกับพรีเมียร์ลีกเป็นอย่างดีอยู่แล้วอย่าง เลอันโดร ทรอสซาร์ ในตลาดหน้าหนาว 2023 เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ส่งให้อาร์เซนอลจากที่ผลงานออกได้ทั้งสามหน้าในทุก ๆ รายการแข่งขัน ในช่วงกว่า 2 ฤดูกาลที่อาร์เตต้าคุมทัพ จากที่เคยตกสู่อันดับสุดท้ายของตารางในช่วงต้นฤดูกาล 2021/22 เคยมีแฮชแท็กอย่าง #ArtetaOut พูดถึงเป็นวงกว้างบนโลกออนไลน์
เกมไหนที่แพ้มาหนัก ๆ หลากเสียงวิจารณ์ที่ถาโถมเข้าใส่ทีม อาร์เตต้าก็มักจะคอยให้กำลังใจและสนับสนุนนักเตะอยู่เสมอ เขามักจะแสดงความรับผิดชอบต่อผลงานแทนที่ลูกทีม มันแสดงถึงสปิริตภายในทีม ซึ่งทำให้ทุกคนพร้อมสู้แบบถวายหัว
หรือหากจะกล่าวถึงความสำเร็จในแต่ละขวบปี อย่างมากก็แค่คว้าโควตาฟุตบอลยุโรปถ้วยเล็กในแต่ละฤดูกาลเท่านั้น
แต่มาวันนี้ไม่ใช่อีกแล้ว เพราะทุก ๆ การบ่มเพาะต้องใช้เวลา กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียวฉันใด การสร้างอาร์เซนอลยุคอาร์เตต้าก็ไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียวฉันนั้น
ถึงตอนนี้พวกเขาคือจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีก 2022/23 ชนิดที่ยืนหยัดมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2022 หรือตั้งแต่แมตช์เดย์ที่ 3 ของฤดูกาล เรียกได้ว่ายังไม่มี “แผ่ว” ออกมาให้เห็นแม้แต่น้อย
ประยุกต์กับศาสตร์กีฬาอื่น
เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจที่ให้อำนาจการตัดสินใจในการจัดการทีมอย่างเต็มอัตรา แถมยังสื่อสารกับทีมบริหารอย่างลงตัวอยู่เสมอ นั่นทำให้ มิเกล อาร์เตต้า มีเวลาคิดและทดลองแบบแผนการทำทีมของตัวเองอยู่เรื่อยมา
กับแผนการเล่นที่แยบยลและได้รับการยอมรับจากใครหลาย ๆ คนว่ากุนซือเลือดกระทิงได้นำมาปรับใช้อยู่ไม่มากก็น้อย คือการนำศาสตร์ของกีฬาชนิดอื่น ๆ มาปรับใช้กับแผนการเล่นของอาร์เซนอล
อาร์เตต้าเคยให้สัมภาษณ์ผ่านพอดแคสต์ ‘Michael Calvin’s Football People’ ของ ไมเคิล คาลวิน (Michael Calvin) นักข่าวกีฬาจอมเก๋าแห่งวงการลูกหนังอังกฤษ กับเรื่องที่ใครหลายคนยังไม่เคยรู้ นั่นคือการเป็นสมาชิกของกลุ่มโค้ชกีฬาต่างชนิดที่คอยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านโลกออนไลน์
กุนซือแห่งถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดียม เล่าว่าพื้นที่ออนไลน์แห่งนี้เป็นที่รวมตัวกันของโค้ชมากประสบการณ์จากหลายวงการกีฬา ทั้ง ฟุตบอล อเมริกันฟุตบอล NFL และบาสเกตบอล NBA แห่งสหรัฐอเมริกา รวมถึงแวดวงรักบี้ และอื่น ๆ ที่มารวมตัวกันในวงสนทนาแต่ละครั้ง ซึ่งก็ทำให้โค้ชหลาย ๆ คนนำทัศนคติ แนวทาง ตลอดจนแผนการเล่นไปปรับใช้ตามความเหมาะสม
“ผมได้รับเชิญ ทีแรกผมไม่ได้คาดหวังอะไร แต่เมื่อผมมองไปยังกลุ่มและมองไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง ผมรู้สึกประหลาดใจมาก เพราะล้วนแต่เป็นคนที่มีประสบการณ์ ความรู้ และมีภูมิหลังที่แตกต่างกันมากมาย” อาร์เตต้า กล่าว
“มันน่าทึ่งครับ ผมสนุกกับมันมาก มันท้าทาย ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ช่วยให้เราคิดนอกกรอบ และได้พบปะผู้คนที่เคยผ่านประสบการณ์ที่น่าเหลือเชื่อมา พวกเขาเต็มใจอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันทุกสิ่งอย่างที่พวกเขารู้ ไม่ใช่การแข่งขันอย่างเดียวด้วย เป็นเรื่องราวของกีฬาที่ต่างชนิดกันไป เป็นการนำมิติที่แตกต่างในระดับที่คุณสามารถแบ่งปันสิ่งต่าง ๆ ร่วมกันได้”
ด้วยเหตุนี้ทำให้การนำแนวทาง “บาสเกตบอล” มาปรับใช้กับแผนการทำทีมจะกลายเป็นกลยุทธ์ที่เคยเล่นงานคู่แข่งมาแล้ว
ชู้ต!
“เราเรียกมันว่ากฎบาสเกตบอลครับ ในบาสเกตบอลมีการรีบาวด์ค่อนข้างมาก นั่นคือสิ่งที่บอสได้นำมารวมเข้ากับสไตล์ของเรา” รีซ เนลสัน ดาวเตะชาวอังกฤษ เผยถึงแนวทางการเล่นเกมบุกของอาร์เซนอลที่มีศัพท์บาสเกตบอลมาเกี่ยวข้อง
บาสเกตบอล มีกฎ กติกา และพื้นที่สนามแข่งขัน ไปจนถึงจำนวนผู้เล่นในสนามที่ต่างไปจากฟุตบอล
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนว่ากีฬาสองชนิดนี้มีแนวทางที่คล้ายคลึงกัน นั่นคือการบุกไปยังแดนของฝั่งตรงข้ามเพื่อทำแต้ม ขณะเดียวกันก็ต้องคอยป้องกันเกมรับในแดนตัวเองเพื่อไม่ให้คู่ต่อสู้ทำแต้มได้
ความเหมือนและต่างไม่มากก็น้อยนี้มีความเกี่ยวโยงกับศัพท์ทางกีฬายัดห่วงอย่างการ รีบาวด์ (rebound) หรือการจับลูกบาสเล่นต่อหลังนักบาสเกตบอลฝั่งทีมบุกชู้ตทีแรกพลาด จากนั้นก็มีโอกาสทั้งการจะเล่นเกมรุกเพื่อหวังทำแต้มต่อไป รวมถึงโดนคู่แข่งแย่งเพื่อได้บุกคืน
โดยในส่วนหลังเราเรียกว่า “ดีเฟนซิฟรีบาวด์ (defensive rebound)” หลายต่อหลายครั้งมันสามารถเปลี่ยนเป็นแต้มให้ทีมที่บุกคืนได้แบบสายฟ้าแลบ และนี่เป็นแนวทางที่ มิเกล อาร์เตต้า นำมาปรับใช้ในการเล่นเกมรุกของทีม
เจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ที่ชื่อ @nonewthing จำแนกแนวทางดังกล่าวออกมาให้เห็นภาพชัดเจน และที่สำคัญอาร์เซนอลไม่ได้ใช้แผนการนี้แค่ในฤดูกาล 2022/23 พวกเขามีแนวทางดังกล่าวมาตั้งแต่ฤดูกาลก่อนหน้า เขายกตัวอย่างเกมเปิดบ้านพ่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-2 ที่แม้จะพ่ายในเกมนั้น แต่นี่ถือเป็นประตูที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดลูกหนึ่ง
พลพรรคปืนใหญ่ถ่ายบอลจากเท้าสู่เท้าเพียง 5 จังหวะก่อนเปลี่ยนเป็นประตูขึ้นนำในเกมดังกล่าว บอลเริ่มจาก เบน ไวท์ ตัดเกมกลางทางของ เควิน เดอ บรอยน์ แล้วค่อย ๆ ถ่ายต่อให้ โธมัส ปาเตย์ สู่ กรานิต ชาก้า และ มาร์ติน โอเดการ์ด จากนั้นบอลก็ไปอยู่ทางซ้ายที่ คีแรน เทียร์นี่ย์ ลากขึ้นแดนบนแล้วจ่ายเข้าแถวกรอบเขตโทษให้ บูกาโย่ ซาก้า กดเรียดแบบไม่ต้องจับเข้าไปไม่เหลือ
ที่สำคัญคือจังหวะเข้าทำนี้ใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาที จากแดนตัวเองสู่ก้นตาข่ายทีมเรือใบสีฟ้า สื่อให้เห็นถึงนักเตะอาร์เซนอลที่มีความตื่นตัว มีระเบียบแบบแผน และปิดโอกาสไม่ให้ เดอ บรอยน์ มีเวลาคิดตัดสินใจ ทุกคนอ่านเกมออกแม้ว่าลูกฟุตบอลจะไม่ได้อยู่กับตัว แน่นอนว่าการจะใช้แผนดังกล่าวให้ “เป๊ะ” เช่นนี้ได้มันเกิดขึ้นจากการฝึกซ้อมการเคลื่อนไหวที่เป็นระบบระเบียบ
อาร์เซนอลทำเกมบุกในลักษณะที่ว่ากันว่าเปรียบเหมือน “กฎบาสเกตบอล” ดังที่ รีซ เนลสัน บอก และมันเห็นผลต่อเนื่องมายังฤดูกาล 2022/23 เช่นเกมกับ ลิเวอร์พูล
ในวันที่หงส์แดงเดินทางลงใต้มายังลอนดอน ประตูแรกในเกมเกิดขึ้นตั้งแต่ผู้ตัดสินเป่าเริ่มเกมไม่ถึงนาที อลีสซง เบคเกอร์ เตะสาดขึ้นเกมให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ดาวิน นูนเญซ สองเกมบุกของทีมที่ไม่ได้มีลูกกลางอากาศเป็นจุดเด่น ผลเป็นไปตามคาด อาร์เซนอลเก็บกวาดจังหวะนี้ได้หมด
เมื่อเกมรับจัดการได้ เกมรุกก็พร้อมทะลุทะลวง
จากนั้นลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า จึงค่อย ๆ ต่อบอลอย่างแม่นยำเสมือนรับส่งลูกบาสเกตบอลจากมือสู่มือ แล้วไปจบที่ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ สอดขึ้นมา “ชู้ต!” เน้น ๆ เข้าประตู ท้ายสุดอาร์เซนอลชนะไปได้ 3-2
ทุก ๆ การตัดสินใจในระยะลุ้นจบทั้งแถวกรอบเขตโทษและในเขตโทษนั้นไม่เคยง่าย และถ้ามาสังเกตดูดี ๆ ทั้งคนที่คอยแอสซิสต์เฉียบ ๆ ในจังหวะชี้เป็นชี้ตายทั้งสองเกมคือ มาร์ติน โอเดการ์ด ขณะที่คนจบสกอร์อย่าง บูกาโย่ ซาก้า และ กาเบรียล มาร์ตินเนลลี่ นอกจากจะจบแม่นยำแล้ว การเคลื่อนที่เอาชนะตัวประกบแล้วเปลี่ยนผลเป็นประตูก็แสดงให้เห็นถึง “การตัดสินใจ” ที่เด็ดขาด และทำได้ดีทั้งการเข้าทำไปจนถึงจบสกอร์
หรือในแมตช์เดย์ที่ 20 ของฤดูกาล 2022/23 วันที่ทีมทำศึกลอนดอนเหนืออัด ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ คาบ้าน 2-0 ก็มีลูกลักษณะนี้ให้เห็นเช่นเคย อย่างประตูที่สองที่เริ่มจากการตัดเกมโยนยาวของเจ้าบ้านให้ แฮร์รี่ เคน ช็อตนี้ไปจบที่การขึ้นเกมกันแค่ 4 คน ซาก้าไหลให้โอเดการ์ดมีพื้นที่มีเวลาหวดด้วยซ้ายบอลพุ่งเกินกว่าที่ อูโก้ โยริส จะรับมือ
การแสดงท่าดีใจในลักษณะของการ “ชู้ตบาส” ของนักเตะอาร์เซนอลอย่างในเกมบุกอัดสเปอร์ส ซึ่งโอเดการ์ดและซาก้า คนทำประตูกับแอสซิสต์ ได้ทำไว้ หรือจะย้อนกลับไปเมื่อช่วงปีใหม่ 2023 ในเกมบุกชนะ ไบรท์ตัน 4-2 กัปตันหมายเลข 8 ก็เคยทำท่าดีใจลักษณะนี้หลังซัดเปรี้ยงเก็บตกแถวกรอบเขตโทษเข้าประตูไป เปรียบดั่งการชู้ตสามแต้มซวบลงห่วงได้แบบไม่เคอะเขิน
มาร์ติน โอเดการ์ด ก็เคยให้สัมภาษณ์ว่าท่าดีใจเสมือนการโยนลูกลงห่วงมาจากแนวทางและวิธีการทำงานของทีม “ความมั่นใจที่คุณได้รับจากการทำประตูให้กับทีมมันทำให้คุณสามารถทำเรื่องพวกนี้ได้ ผมขออธิบายท่าฉลองแบบชู้ตบาสเกตบอล มันเป็นเรื่องที่เราได้พูดคุยกันในทีมครับ”
“เรามีหลักการบางอย่างภายในทีมที่เป็นวิธีการทำงานของเรา และมีสิ่งหนึ่งที่เราทำที่เราคิดว่ามันคล้ายกับบาสเกตบอล เราทำหลายอย่างร่วมกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเกมของพวกเรา ดังนั้นเราจึงพูดถึงเรื่องนี้กัน และตัดสินใจที่จะทำมันเพื่อฉลองหลังทำประตูได้ เช่นกันครับ หลังจบเกมเราก็เอ็นจอยกับเรื่องพวกนี้”
หากมองไปยังแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหลังสุดหรือไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราจะเห็นแชมป์วนเวียนอยู่แค่ไม่กี่ทีม และสำหรับอาร์เซนอล พวกเขาไม่ได้ชูโทรฟี่นี้มาเกินทศวรรษเข้าไปแล้ว
ทว่าฤดูกาล 2022/23 นี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในรอบหลายปีที่ทัพ เดอะ กันเนอร์ส จะก้าวไปถึงแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษอีกครั้ง ภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตต้า
แน่นอนว่านายใหญ่วัย 40 กะรัตก็พร้อมจะงัดกลยุทธ์กฎบาสเกตบอลมาใช้โจมตีคู่แข่ง เพื่อสานภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้ให้สำเร็จต่อไป และมากกว่านั้นเราอาจได้เห็นลูกทีมของเขาแสดงท่าดีใจ “ชู้ตบาส” หลังทำประตูใส่คู่แข่งอีกเรื่อย ๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง
4 ปีแห่งความอดทน : อาร์เซนอล ทำอย่างไร จึงกลับมายืดหยัดแข็งแกร่ง
แหล่งอ้างอิง
https://twitter.com/nonewthing/status/1617546366758129664?fbclid=IwAR04WlmHJTdkJzB8xWbUFyA0nWJjWSSstfJTYQCeRx_75XdTbLt3zj6V-eY
https://theathletic.com/3704476/2022/10/20/arsenal-arteta-data-tactics-analysis/
https://arseblog.news/2022/11/arteta-praises-meticulous-eddie-jones-thinks-arsenal-can-learn-from-rugby/
https://arseblog.news/2022/10/mikel-arteta-talks-to-journalist-michael-calvin/
https://en.wikipedia.org/wiki/2022%E2%80%9323_Arsenal_F.C._season
https://www.arsenal.com/news/arteta-my-blueprint-success
https://metro.co.uk/2023/01/21/martin-odegaard-explains-new-basketball-goal-celebration-with-bukayo-saka-18143943/
https://www.nowarsenal.com/editorial/what-is-the-basketball-rule-that-mikel-arteta-has-implemented-in-the-squad/