"ถ้าถามว่านี่จะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของผมหรือเปล่า แน่นอน มันเป็นเรื่องจริง"
จากบทสัมภาษณ์ของลิโอเนล เมสซี ในฐานะกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา ระบุไว้ในช่วงก่อนแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ว่าทัวร์นาเมนต์ที่กาตาร์นี้ จะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของเขา
เส้นทางร่วมกับทัพฟ้าขาวของเมสซี ในรายการระดับนานาชาติ อาจจะปิดฉากในอนาคตอันใกล้
ทว่าเมื่อเป็นเรื่องของการค้าแข้งในระดับสโมสร ดูเหมือนว่าช่วงเวลาน่าติดตามไม่น้อยไปกว่ากัน
เพราะสัญญาฉบับปัจจุบันร่วมกับปารีส แซงต์-แชร์กแมง จะหมดลงในช่วงซัมเมอร์ปี 2023 และในระหว่างนี้ มีข่าวลือเกี่ยวกับอนาคตของสตาร์วัย 35 ปีปรากฏบนช่องทางออนไลน์มากมาย
สถานีต่อไปของลิโอเนล เมสซี จะออกมาในแง่ใดได้บ้าง และมีภารกิจสำคัญใดบ้างที่รอให้ซูเปอร์สตาร์รายนี้เป็นผู้ตัดสิน
Main Stand ชวนแฟน ๆ มาร่วมขยายความเป็นไปได้ไปพร้อม ๆ กัน
รู้จักลิโอเนล เมสซี กันให้มากขึ้น
แม้จะเคยประสบภาวะร่างกายขาดโกรท ฮอร์โมน (Growth hormone) หรือฮอร์โมนเกี่ยวกับการเจริญเติบโต ในช่วงอายุ 10 ขวบ แต่ด้วยความไม่ย่อท้อของครอบครัว ที่เห็นเด็กชายลิโอเนลหลงใหลในเกมลูกหนังตั้งแต่ 5 ขวบ และเคยไปฝึกหัดกับสโมสรนิวเวลส์ โอลด์ บอยส์ ซึ่งเป็นสโมสรชั้นนำในบ้านเกิดที่โรซาริโอมาแล้ว
กอปรกับครอบครัวเมสซีมีญาติอยู่ในแคว้นกาตาลุญญา (Catalonia) ทุกคนที่เกี่ยวข้องได้ทำทุกวิถีทางเพื่อให้เด็กมหัศจรรย์รายนี้ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมฟุตบอลระดับโลกประจำแคว้นอย่างบาร์เซโลน่า และเพื่อได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง
และแล้วการเซ็นสัญญาก็เกิดขึ้น นักเตะและครอบครัวเดินทางมาอยู่สเปน โดยการให้โอกาสของการ์เลส เรซัช อดีตนักเตะบาร์ซ่า ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสโมสรในเวลานั้น
ว่ากันว่าสัญญาการเป็นแข้งบาร์ซ่าฉบับแรกของเมสซี เป็นการเซ็นลงบนกระดาษเช็ดปากในร้านอาหาร
อย่างไรก็ดี นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของสโมสรอย่างแท้จริง
ลิโอเนล เมสซี ค่อย ๆ เติบโตบนถนนลูกหนังร่วมกับอาซูลกราน่า เขากลายเป็นนักเตะทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 18 ปี พร้อมจารึกสถิติตลอดเส้นทางค้าแข้งให้บาร์ซ่าชุดใหญ่ตั้งแต่ฤดูกาล 2004-2005 ถึง 2020-2021 มากมาย
ตัวอย่างสถิติเด่น ๆ ที่เมสซีสร้างไว้ภายใต้สีเสื้อยอดทีมแห่งกาตาลุญญา เช่นเจ้าของสถิติลงสนามรวมทุกรายการมากที่สุดให้บาร์ซ่า ที่ 778 นัด, เจ้าของดาวซัลโวสูงสุดสโมสร ที่ 672 ประตู, ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของลาลีก้า ที่ 474 ประตู และคว้าโทรฟี่ร่วมกับบาร์เซโลน่าถึง 34 รายการด้วยกัน เป็นต้น
และยังไม่นับมูลค่ารายรับที่ซูเปอร์สตาร์หมายเลข 10 ได้รับกับทางบาร์ซ่า ยิ่งตอกย้ำถึงอิทธิพลที่เขามีต่อทีมอย่างแท้จริง อย่างช่วงปี 2009-2014 นิตยสาร France Football ระบุว่าเมสซีได้รับค่าตอบแทนอยู่ที่ 40 ล้านยูโร หรือกว่า 1.4 พันล้านบาท ส่วนปี 2020 นิตยสาร Forbes เปิดเผยรายได้ของนักกีฬาฟุตบอล ผลปรากฏว่าเมสซี มีรายได้รวมตลอดการค้าแข้งมากว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 3.5 หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว
กระทั่งฤดูกาล 2021-2022 มีเหตุการณ์ที่ทำให้โลกลูกหนังต้องฮือฮา เมื่อลิโอเนล เมสซี ต้องแยกทางจากถิ่นคัมป์ นู เนื่องจากปัญหาเรื่องค่าเหนื่อย เกี่ยวโยงกับสภาวะทางการเงินสโมสรและกฎข้อบังคับของลาลีกา ย้ายมาเล่นให้ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยสัญญา 2 ปี แถมยังเป็นการย้ายทีมแบบไร้ค่าตัว
แม้การย้ายมาเล่นในถิ่นพาร์ค เดอ แปร็ง เมสซี่จะไม่ได้ยิงประตูถล่มทลายเหมือนก่อน แถมยังไม่มีชื่อเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ (Ballon d'Or) ปี 2022 ทั้ง ๆ ที่ปีก่อนหน้า (2021) เขาเป็นเจ้าของรางวัลดังกล่าว
ทว่าหากมองสถิติเพียว ๆ อย่างภาพรวมที่เล่นให้เปแอสเชก่อนมาลุยฟุตบอลโลกที่กาตาร์ เมสซีลงสนามให้ทีมไปแล้ว 53 นัด ยิง 23 ประตู กับอีก 29 แอสซิสต์ เมื่อเห็นตัวเลขเช่นนี้ ถือว่าไม่ได้แย่เลยแม้แต่น้อย และยังไม่นับเรื่องมูลค่าที่ได้รับจากสปอนเซอร์ภายนอก ที่ทำทั้งรายได้และสร้างภาพลักษณ์ให้เป็นที่จดจำมาตลอดช่วงก่อนหน้า
ทำให้เมื่อพิจารณาจากฟอร์มในสนาม ตลอดจนมูลค่าภายนอกสนามของเมสซีก็โดดเด่นจนเป็นที่พูดถึงได้อยู่เสมอ การย้ายมาเปแอสเชของลิโอเนล เมสซี ไม่ได้สร้าง “ผลเสีย” ต่อทีมแต่อย่างใด
ด้วยรายละเอียดของสัญญา ที่ตำนานแข้งเบอร์ 10 เซ็นกับเปแอสเชไว้แค่ 2 ปี และจะหมดลงในช่วงกลางปี 2023 ทำให้เรื่องราวของเมสซี หลังภารกิจฟุตบอลโลก 2022 ก็ดู “น่าติดตาม” ไม่แพ้กัน
เมื่อสัญญากับเปแอสเช เหลือถึงซัมเมอร์หน้า
เมื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในเส้นทางค้าแข้งสโมสร เราจะเห็นว่าสัญญาฉบับปัจจุบันที่เมสซีเซ็นไว้กับปารีส แซงต์-แชร์กแมง มีออปชั่นขยายต่อออกไปอีก 1 ปี ทำให้เขายังสามารถบรรลุข้อตกลงกับยอดทีมแห่งกรุงปารีส เพื่ออยู่ค้าแข้งที่นี่ต่อได้
ขณะที่อีก “ข่าวลือ” หนาหู คือการย้ายกลับไปอยู่กับบาร์เซโลน่า สโมสรคุ้นเคย ที่เจ้าตัวโลดแล่นมาตั้งแต่สมัยเยาวชน แถมจะได้ร่วมงานกับชาบี เอร์นานเดซ กุนซือคนปัจจุบัน ซึ่งเมสซีเคยร่วมงานสมัยที่อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติสเปน ลงสวมเสื้อบาร์ซ่าบู๊มาก่อน
ยิ่งจังหวะและโอกาสอยู่ในช่วง “พอเหมาะพอเจาะ” อยู่ไม่น้อย เพราะในซัมเมอร์หน้า เมสซี่จะหมดสัญญากับเปแอสเช นั่นทำให้บาร์เซโลน่าไม่จำเป็นต้องทุ่มเม็ดเงินมหาศาลเพื่อดึงอดีตแข้งอคาเดมี่รายนี้กลับมา
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ปัจจุบันของอาซูลกราน่า ยังคงมีประเด็นเรื่องสภาพคล่องทางการเงินของสโมสรเกี่ยวข้องอยู่ ทั้งยังต้องคอยคำนึงถึงเรื่องบัญชีซื้อตัวผู้เล่น เรื่องค่าเหนื่อยนักเตะ ตลอดจนเรื่องเพดานค่าเหนื่อยของลา ลีกา
ทำให้ทีมไม่สามารถหยิบจ่ายใช้สอยได้สะดวกมาโดยตลอดช่วงหลังมานี้ ขณะเดียวกันเมสซีก็ต้องยอมรับค่าเหนื่อยให้ไม่เกินนโยบายปัจจุบันของสโมสร ที่ 10 ล้านยูโร หรือประมาณ 364 ล้านบาท ต่อปีด้วย
เรียกได้ว่าต้องยอมลดค่าเหนื่อยเหลือเพียงร้อยละ 25 จากที่ได้รับในปัจุบันกับปารีส แซงต์-แชร์กแมง
หนทางสำคัญที่บาร์เซโลน่าจะดึงเมสซีกลับมาได้ หนีไม่พ้นการใช้แนวทาง “คันโยกเศรษฐกิจ" หรือการขายสิทธิ์ต่าง ๆ ของทีม เพื่อให้ได้เงินก้อนมาใช้ก่อน แล้วจากนั้นค่อยหาทางแก้ไขไปตามสถานการณ์ อีกครั้งนั่นเอง
ยังมีอีกข่าวลือที่เกิดขึ้นไม่น้อยไปกว่ากระแสต่อสัญญาเปแอสเช รวมทั้งเรื่องกลับบาร์เซโลน่า โดยสื่อต่างประเทศหลายสำนักโยงไปที่สโมสรอินเตอร์ ไมอามี ในเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ สหรัฐอเมริกา ที่มีเดวิด เบ็คแฮม เป็นเจ้าของ
CBS MIAMI สื่อท้องถิ่นในอเมริกา อ้างอิงเนื้อหาจาก The London Times ระบุว่า: "เป็นที่เข้าใจกันว่าเมสซีมีบ้านอยู่ในไมอามี และมีความสุขกับวันหยุดที่นั่นร่วมกับครอบครัว เขาเคยบอกกับสื่อสเปนเมื่อปีที่แล้ว (2021) ว่าการเล่นในสหรัฐอเมริกาเป็นความฝันของเขามาตลอด"
ส่วน Sky Sports News ชี้ว่าเมสซีอาจจะยังไม่ไปลีกต่างแดนในเร็ววัน แต่อนาคต “ไม่แน่”
“MLS เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเมสซีในอนาคต ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยพูดอย่างเปิดเผยว่าต้องการเล่นที่นั่น แต่ Sky Sports News ได้รับแจ้งว่าลีกนี้จะยังไม่ใช่จุดหมายปลายทางสำหรับเขา จนกว่าจะถึงปี 2024 หรือ 2025 เป็นอย่างน้อย”
อยู่กับปัจจุบัน แต่มีสถิติสำคัญรอให้ต่อยอด
มีรายงานเรื่องอนาคตของลิโอเนล เมสซี จากนักข่าวกีฬาหลาย ๆ คนในทำนองเดียวกันว่า สตาร์ทีมชาติอาร์เจนติน่า จะตัดสินใจเรื่องอนาคตค้าแข้งของตัวเองในช่วงหลังจบฟุตบอลโลก ที่กาตาร์ ไปจนถึงปีใหม่ 2023
นั่นเพราะโฟกัสเดียวของเขาในช่วงปลายปี 2022 นี้ คือการลงช่วยทีมชาติอาร์เจนติน่า ทำผลงานให้ดีที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของตัวเอง
ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวฟุตบอลชื่อดังเคยทวีตข้อความเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2022 ความว่า “ลิโอเนล เมสซี ยังไม่ได้กำหนดอนาคตของเขา ที่แคมป์ทีมชาติของเขา รับประกันว่าลิโอเนลจะโฟกัสเฉพาะฟุตบอลโลกเท่านั้นและยังไม่มีข้อตกลงกับสโมสรใด อินเตอร์ ไมอามี ต้องการตัวเมสซีและจะผลักดันเรื่องนี้ แต่เปแอสเชก็จะเสนอข้อตกลงใหม่ให้กับลิโอในไม่ช้า”
“การตัดสินใจของเมสซี่จะเกิดขึ้นในปี 2033”
ในภายหน้า หากเจ้าตัวตัดสินใจโลดแล่นในเวทียุโรปต่อ โดยเฉพาะการได้อยู่ค้าแข้งกับทีมระดับท็อปที่ทำอันดับได้เล่นในเวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็มีโอกาสสูงที่ลิโอเนล เมสซี จะทำลายสถิติเดิม “ของตัวเอง” ที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้
เมื่อมองสถิติที่เมสซีมีโอกาสทำลายได้ และมีโอกาสทิ้งห่างคู่แข่งที่ใกล้ทำผลงานทาบ ตัวอย่างเช่นสถิติทำแฮตทริคในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ตอนนี้เมสซีเป็นเจ้าของผู้ทำแฮตทริคสูงสุด ด้วยจำนวน 8 ครั้ง โดยคนที่ทำสถิตินี้ตามมาติด ๆ กันก็คือคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ 7 ครั้ง
หรือแม้แต่สถิติทำประตูสูงสุดในรอบแบ่งกลุ่มที่สตาร์เบอร์ 10 รายนี้เคยทำไว้ที่ 80 ประตู โดยอันดับรองลงมาเป็นของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ 73 ประตู อันดับสาม & สี่เป็นโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และคาริม เบนเซม่า ที่จำนวน 61 และ 56 ประตู ตามลำดับ เป็นต้น
กลับมาที่สถานการณ์ปัจจุบัน ทันทีที่เริ่มปีใหม่ 2023 ระยะเวลาของสัญญาของเขากับเปแอสเช ที่เหลืออีกแค่ 6 เดือน ทำให้กรณีของเมสซี จะเข้าเกณฑ์เรื่อง “กฎบอสแมน” ทันที และสามารถเจรจากับสโมสรอื่น ๆ ได้ตามที่ตัวเองต้องการ แถมสโมสรนั้น ๆ ก็จะได้ซูเปอร์สตาร์รายนี้ไปแบบไร้ค่าตัว
อย่างไรก็แล้วแต่ ทุกสถานการณ์เกิดขึ้นได้กับตัวเขา ทางเปแอสเชเองก็ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นทั้งแชมป์ในประเทศ ตลอดจนยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แชมป์ใหญ่ที่เป็นความปรารถนาสูงสุด ซึ่งทีมฉลุยมาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้
ส่วนบาร์เซโลน่า ก็ต้องทำผลงานทั้งในและนอกสนามเพื่อดึงดูดให้เจ้าตัวกลับมายังถิ่นเก่าที่เคยลงเล่นเกินทศวรรษอีกครั้ง เช่นเดียวกับอินเตอร์ ไมอามี หากพวกเขาสนใจดึงสตาร์ดังชาวอาร์เจนติน่าไปเสริมแกร่ง ก็ต้องงัดกลยุทธ์เด็ดเพื่อผลักดันให้เจ้าตัวย้ายมาโลดแล่นในลีกแดนพญาอินทรีหนแรกให้จงได้
หรืออนาคตอาจจะมีข่าวสโมสรอื่น ๆ มาเข้าร่วมความฮือฮานี้ด้วยอีกทาง ก็เป็นไปได้ทั้งหมด
เรื่องราวของลิโอเนล เมสซี กับฟุตบอลโลก 2022 ถือว่าน่าสนใจและเป็นที่น่าติดตามอยู่แล้ว
แต่อีกทางหนึ่ง อนาคตค้าแข้งของเจ้าตัว กับสัญญาฉบับปัจจุบันที่จะหมดลงในซัมเมอร์หน้า ก็ “น่า” สนใจไม่แพ้กัน
อยากเชียร์ฟุตบอลโลกแบบไม่เหงา เราขอชวนมาดูบอลผ่านจอยักษ์กับ adidas ที่เอ็มควอเทียร์!
ไม่พลาดความสนุกไปกับทัวร์นาเมนต์เวิลด์คัพ ที่ 4 ปีมีครั้ง ถ้าไม่อยากเชียร์บอลแบบเหงา ๆ อาดิดาส เนรมิตรลานเฮลิกซ์ การ์เด้น บริเวณชั้น 5 ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ จัดงาน “adidas Football Festival”
เพื่อเป็นพื้นที่ให้แฟนบอลได้ร่วมเชียร์แมตช์สำคัญร่วมกัน พบปะอินฟลูเอนเซอร์ และนักเตะชื่อดังของไทย พร้อมกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลสุด exclusive อย่างสตั๊ด adidas X SPEEDPORTAL AL RIHLA PACK พร้อมลายเซ็นลิโอเนล เมสซี รอมอบให้ผู้โชคดีเช่นคุณ
คอเวิลด์คัพต้องไม่พลาดกับงาน adidas Football Festival มาร่วมลุ้น เชียร์ทีมโปรด สนุกไปด้วยกันได้ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ของทุกวัน จนถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2565 เข้าร่วมงานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงแค่เป็นสมาชิก adiClub โดยสมัครได้ฟรีที่ a.did.as/adiClub-wc22th และยังสามารถสะสมคะแนนเพื่อปลดล็อคระดับสมาชิกสำหรับสิทธิพิเศษที่เหนือกว่าได้ด้วย
ข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง
What If ? : ถ้า "เมสซี่" จะรีเทิร์นจริง บาร์เซโลน่า ต้องดำเนินการอย่างไร | Main Stand
แหล่งอ้างอิง
https://www.givemesport.com/88013002-the-13-records-set-by-lionel-messi-that-will-never-be-broken
https://talksport.com/football/1210500/lionel-messi-barcelona-return-psg-transfer-news/ https://www.sportingnews.com/us/soccer/news/when-will-messi-retire-international-football-argentina/lem6ql3y4uromrmlecdgdxe3
https://www.cbsnews.com/miami/news/is-argentinas-leo-messi-coming-to-inter-miami/ https://www.skysports.com/football/news/11095/12757151/lionel-messi-expected-to-resist-joining-mls-club-inter-miami-and-stay-in-european-football-until-at-least-2024
https://en.wikipedia.org/wiki/Lionel_Messi
https://www.givemesport.com/88013002-the-13-records-set-by-lionel-messi-that-will-never-be-broken
https://www.transfermarkt.com/lionel-messi/leistungsdaten/spieler/28003
