คำกล่าวนี้สำหรับนักมวยคงเสมือนเป็นคำที่ทิ่มแทงใจดำยิ่งนัก เพราะนักมวยหลายคนต่างพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากวังวนดังกล่าว ไม่ว่าจะด้วยการชกสร้างชื่อหรือตั้งใจชกเก็บเงินเก็บทองเพื่อให้ฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้น
แต่สำหรับ ผศ.ดร.สำราญ สุขแสวง อดีตนักมวยค่าตัวเฉียดเงินแสน นอกจากเจ้าตัวต้องการจะลบคำสบประมาทเหมือนเช่นเพื่อนร่วมอาชีพแล้ว ดอกเตอร์มวยรายนี้ยังแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนในการฉุดดึงพี่น้องนักมวยของเขาให้ก้าวขึ้นมามีคุณภาพชีวิตที่ดี ผ่านการเข้ามามีส่วนในการพัฒนาด้านการศึกษาให้กับพ่อค้ากำปั้นทั่วฟ้าเมืองไทย
จนทำให้ ท่าน ผศ.ดร. สำราญ ได้รับรางวัล “ผู้ทรงคุณค่ากีฬามวยดีเด่น” สาขาผู้ทรงคุณูปการต่อวงการกีฬามวย เนื่องในงานเชิดชูเกียรติ วันมวยไทยแห่งชาติ ประจำปี 2563
ก่อนที่ ผศ.ดร.สำราญ สุขแสวง จะดำรงตำแหน่งคณบดีวิทยาลัยมวยไทยศึกษาและการแพทย์แผนไทย ปูมหลังชีวิตของท่านเป็นอดีตนักมวยไทยมาก่อน
พื้นเพท่านเป็นคน อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เป็นอดีตนักมวยเก่าค่าตัวเฉียดแสนที่ชื่อ สำราญเดช ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ดีกรีอดีตเจ้าของเข็มขัดแชมเปี้ยน 4 เส้น
ผศ.ดร.สำราญ เริ่มชกมวยตั้งแต่อายุ 11 ปี โดยใช้ชื่อว่า สำราญเดช ส.ด่านชัย แม้เส้นทางการค้ากำปั้นจะไปได้สวย แต่เขาก็ไม่เคยทิ้งการเรียน แม้คนส่วนใหญ่จะมองว่าการชกมวยกับการศึกษาไม่สามารถทำควบคู่กันไปได้ แต่เขากลับเชื่อว่าถ้าตั้งใจและบริหารจัดการเวลาดี ๆ ต้องทำได้แน่นอน
สำราญเดช เปลี่ยนมาใช้สีเสื้อ ส.ศรีสมพงษ์ ที่ อ.จอมพระ เพราะต้องการมาเรียนต่อระดับชั้น ม.ปลาย กระทั่งจบปริญญาตรี จึงเปลี่ยนมาใช้สีเสื้อ ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง เพราะมาเรียนต่อจนจบปริญญาโทและปริญญาเอกที่นี่
เมื่อสอบบรรจุเป็นอาจารย์ตอนอายุ 27 ปี เขาตัดสินใจแขวนนวมเพื่อสอนหนังสืออย่างเต็มตัว โดยสร้างเกียรติประวัติในเชิงมวยไทยเอาไว้มากมาย เช่นเป็นแชมป์เวทีราชดำเนิน 3 รุ่น คือ ไลท์ฟลายเวท, แบนตั้มเวท, ซูเปอร์แบนตั้มเวท และแชมป์เฟเธอร์เวท สภามวยไทยโลก (WMC) โดยชิงมาได้จากนักมวยญี่ปุ่นที่กรุงโตเกียว ค่าตัวสูงสุดที่เคยได้รับคือ 80,000 บาท
หลังจากเลิกชกมวยก็มุ่งหน้าต่อในเส้นทางสายวิชาการ ก่อนจะประสบความสำเร็จและเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสายวิชาการที่เผยแพร่วิชาศาสตร์องค์ความรู้มวยไทยให้มีการสอนและถ่ายทอดไปยังคนรุ่นหลัง
ผศ.ดร.สำราญ สุขแสวง จึงเหมาะสมและคู่ควรแก่การถูกยกย่องให้เป็น “ผู้ทรงคุณูปการต่อวงการกีฬามวย” จากการอุทิศแรงกายแรงใจตลอดชีวิตที่ผ่านมา ที่ทำเพื่อวงการมวยด้วยใจจริง
ผศ.ดร.สำราญ เป็นคนวางแผนการใช้ชีวิตมาตั้งแต่เด็ก เมื่อครั้งชกมวยใหม่ ๆ เขาตั้งใจชกเพื่อเก็บเงินสร้างบ้านให้พ่อแม่จนปลูกบ้านหลังโตได้สำเร็จ พอโตขึ้นมาก็เห็นความสำคัญของการศึกษา
แม้จะซ้อมมวยหนักหน่วงแค่ไหนแต่ก็ไม่ทิ้งการเรียน เขาใช้เวลาในยามว่างอ่านหนังสือสะสมความรู้แบบไม่รีบเร่ง เหนื่อยก็พัก หนักก็ผ่อน มีเวลาก็ต้องนอน
ด้วยองค์ความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ที่เขานำมาปรับใช้ ทั้งในเรื่องการชกและการวางแผนอนาคต เขาเชื่อว่าการศึกษาจะทำให้นักมวยหลุดพ้นจากความยากลำบาก จึงมุ่งมั่นตั้งใจชี้ทางสว่างให้นักมวยรุ่นหลังได้เห็นความสำคัญของการเรียนที่จะนำพามาซึ่งความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในภายภาคหน้า
“ดร.สำราญ เป็นคนรักมวยมาก เขาไม่เคยลืมว่าเขาได้ดีทุกวันนี้เพราะมวยไทย เขาจึงทุ่มเทสรรพวิชาและสรรพกำลังเพื่อให้นักมวยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี เริ่มจากความตั้งใจที่จะช่วยให้นักมวยเรียนจบปริญญาตรีให้ได้มากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ แค่นี้ผมก็ประทับใจเขาแล้วครับ” ผศ.ดร.ชาญชัย ยมดิษฐ์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง และที่ปรึกษาการพัฒนาหลักสูตรการสอนมวยไทยศึกษา กล่าวถึง ผศ.ดร.สำราญ สุขแสวง
มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง เป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกในประเทศไทยที่เปิดการเรียนการสอนหลักสูตรมวยไทยศึกษาในระดับปริญญาเอก โดยเป็นแนวคิดของ ผศ.ดร.ชาญชัย ยมดิษฐ์ ตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่งอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
ครั้นพอ ผศ.ดร.สำราญ สุขแสวง เข้ามาสอนที่นี่ก็ได้เสนอหลักสูตรมวยไทยศึกษาเพิ่มเติม จนปัจจุบันเปิดสอนใน 4 สาขาคือ ครุศาสตร์, สาธารณสุขศาสตร์, การแพทย์แผนไทย และ ศิลปศาสตร์
ซึ่งสาขาที่ 4 กำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงหลักสูตรเพื่อเปิดสอนในค่ายมวย ให้นักมวยทั่วประเทศเข้าถึงการศึกษาได้ง่ายขึ้น
“พูดจากความรู้สึกจริง ๆ เลยนะครับ ผมไม่เคยคิดฝันว่าจะได้รางวัลผู้ทรงคุณค่ากีฬามวยดีเด่น สาขาผู้ทรงคุณูปการต่อวงการกีฬามวยจากการกีฬาแห่งประเทศไทย เพราะผมคิดว่ารางวัลนี้เหมาะที่จะมอบให้ผู้อาวุโสซึ่งเป็นปูชนียบุคคลในวงการมวยมากกว่า แต่เมื่อ กกท. โดยสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวยให้เกียรติมอบรางวัล ทำให้ผมมีความภาคภูมิใจมากพอ ๆ กับที่เคยได้รางวัลคนดีศรีอีสาน ประจำปี 2564 รางวัลเกียรติยศเหล่านี้จะเป็นกำลังใจให้ผมตั้งใจทำงานเพื่อวงการมวยต่อไปโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยครับ”
“มวยไทยในยุคปัจจุบันมีวิวัฒนาการในทางที่ดีขึ้น จากเดิมที่มีการแข่งขันเพียงอย่างเดียว ตอนนี้เราเห็นมวยไทยเข้าถึงผู้คนในรูปแบบต่าง ๆ มากขึ้น ทั้งการฝึกเพื่อออกกำลังกาย เป็นนาฏมวยไทยทางด้านศิลปะวัฒนธรรม และอื่น ๆ อีกมากมาย”
“ตรงนี้ต้องขอขอบคุณ ผศ.ดร.ชาญชัย ยมดิษฐ์ ที่ส่งไม้ต่อให้ผมได้สานต่อปณิธานในการผลักดันกีฬามวยไทยให้เป็นที่นิยมของคนไทยทั้งประเทศ ผมจะสานต่องานของท่านอาจารย์ชาญชัย และส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้สืบสานศิลปะมวยไทยต่อไปครับ”
