โอลิมปิกเกมส์คราวนี้มีดราม่าไม่จบไม่สิ้น ล่าสุดเกิดความขัดแย้งกันระหว่าง 2 องค์กรใหญ่ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) กับ กรีฑาโลก (World Athletics) หรือชื่อเดิมคือสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ (IAAF)
หลังจากกรีฑาโลก ออกมาประกาศว่าจะจ่ายเงินโบนัสให้กับนักกีฬากรีฑาทั้งประเภทลู่และลานที่คว้าเหรียญทองจากการแข่งขันทั้ง 48 รายการ เหรียญทองละ 50,000 ดอลลาร์ หรือราว 1.8 ล้านบาท
ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนมาเป็นระยะเวลานานถึง 128 ปี!
แต่ไม่ใช่แค่เรื่องการแหกขนบธรรมเนียมเท่านั้น อีกสาเหตุที่ทำให้ IOC ไม่พอใจกรีฑาโลกมากถึงมากที่สุด คือ พวกเขาไม่เคยปรึกษาหรือนำเรื่องนี้เข้าวาระที่ประชุม ซึ่งมันทำให้สหพันธ์กีฬาอื่นๆก็ไม่พอใจตามไปด้วย
อย่างสหพันธ์จักรยานนานาชาติหรือ UCI ก็มองว่านี่ไม่ใช่จิตวิญญาณของโอลิมปิกเกมส์จริงๆ
“มันไม่ใช่แก่นหรือจิตวิญญาณของโอลิมปิกที่พวกเราเคยยึดถือ” เดวิด ลัปปาร์เชียน ประธาน UCI ให้สัมภาษณ์
“จิตวิญญาณของโอลิมปิกคือการแบ่งปันรายได้ให้นักกีฬาอย่างทั่วถึง ไม่ใช่แค่การทุ่มเงินรางวัลไปให้แค่นักกีฬาที่ได้เหรียญทอง มันควรเป็นการแข่งขันที่ทำให้ทุกคนเท่าเทียมกันด้วย"
ขณะที่ ฌอง-คริสตอฟ โรลลอง ประธานสหพันธ์เรือพายนานาชาติ ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นในทิศทางเดียวกันว่า
“ผมเคารพการตัดสินใจของกรีฑาโลกอย่างเต็มที่ ตราบใดที่กีฬาที่เข้าแข่งขันมันมีแค่กีฬาของพวกเขา แต่ที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก มันไม่เกี่ยวกับกีฬาของคุณอย่างเดียว แต่เป็นกีฬาทั้งหมด มันคือการรวมกันเป็นหนึ่ง”
“ผมจะยินดีมากเลยนะถ้าเราได้พูดคุยกันก่อนหน้านี้ แต่การตัดสินใจครั้งนี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อนักกีฬาเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบอื่นๆตามมาด้วย”
แม้จะมีกระแสต่อต้านจากคนหมู่มาก แต่ เซบาสเตียน โค ประธานกรีฑาโลก ก็ยังยืนยันเจตนารมณ์เดิม โดยเขามองว่า มันไม่ใช่เรื่องผิดอะไรที่องค์กรของเขาจะนำที่ได้รับจาก คณะกรรมการโอลิมปิกสากล ที่จ่ายเงินสนับสนุนให้ทุกสหพันธ์กีฬาทุกๆ 4 ปีมามอบให้นักกีฬาที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมต่อ
“โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว การมอบเงินโบนัสให้กับนักกีฬามันคือการทุ่มเทเพื่อภาพรวมของพวกเรา เราควรให้รางวัลกับนักกีฬามากที่สุดเท่าที่จะทำได้" ประธานกรีฑาโลกกล่าวทิ้งท้าย