News

“กรดไหลย้อน” ต้องดูแลรักษาอย่างไรให้อาการดีขึ้น

กรดไหลย้อน หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ "โรคกรดไหลย้อนกลับ" เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในสังคมปัจจุบัน โดยเกิดจากการไหลย้อนกลับของกรดในกระเพาะอาหารขึ้นสู่หลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนราวไฟลุกท้องปวดแน่นท้องหรืออาเจียนได้ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ ดังนั้น เมื่อเป็นกรดไหลย้อนจึงต้องดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญ

 

 

อาการของโรคกรดไหลย้อนที่พบบ่อย ได้แก่ แสบร้อนบริเวณลิ้นปี่หรือหน้าอก เรอมีกลิ่นเปรี้ยว รู้สึกเหมือนมีอาหารหรือน้ำย่อยไหลย้อนขึ้นมาในคอ คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บคอ ไอเรื้อรัง และ เสียงแหบ

โรคกรดไหลย้อนเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น หูรูดหลอดอาหารส่วนล่างหย่อน ความอ้วน การตั้งครรภ์ โรคเบาหวาน ความเครียด การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การกินอาหารมื้อดึก การกินอาหารรสจัด และการกินยาบางชนิด เช่น ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs

โรคกรดไหลย้อนต้องดูแลรักษาอย่างไร 

สำหรับผู้ที่เป็นกรดไหลย้อน มีแนวทางการรักษาที่หลากหลาย ตั้งแต่การปรับพฤติกรรมไปจนถึงการผ่าตัด 


1.ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร

เมื่อเป็นกรดไหลย้อน แนวทางการรักษา คือ พยายามงดอาหารและเครื่องดื่มที่ก่อให้เกิดกรด เช่น อาหารมัน อาหารรสจัด กาแฟ แอลกอฮอล์ น้ำอัดลม และเปลี่ยนพฤติกรรมมารับประทานอาหารปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้ง เพื่อลดแรงกดดันในกระเพาะอาหาร และไม่นอนราบทันทีหลังรับประทานอาหาร ควรรอประมาณ 2-3 ชั่วโมง

-ลดน้ำหนัก

น้ำหนักตัวที่เกินเป็นปัจจัยเสี่ยงของกรดไหลย้อน เนื่องจากแรงกดดันในช่องท้องมากขึ้น การลดน้ำหนักอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะช่วยบรรเทาอาการได้ ลองควบคุมอาหาร โดยการกินอาหารให้น้อยลง เน้นการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

-งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์

การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ จะทำให้คอหอยตึงและผนังหลอดอาหารอ่อนแรงลง ส่งผลให้กรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น การดูแลรักษาด้วยการไม่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นทางหนึ่งที่ช่วยบรรเทาอาการ

-รับประทานยาลดกรด

ยาลดกรด เช่น ยาปฏิชีวนะหรือยากลุ่ม H2 Blockers และ Proton Pump Inhibitors สามารถช่วยลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารและบรรเทาอาการได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน เพื่อความปลอดภัย

-การผ่าตัด

ในบางกรณีที่อาการรุนแรงมาก อาจต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหา โดยปัจจุบันจะมีวิธีการผ่าตัดผ่านกล้อง แผลเล็ก โดยตกแต่งหูรูดกระเพาะอาหารให้กระชับขึ้น 

นอกจากนี้ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ลดความเครียด และหลีกเลี่ยงการนอนหงายก็เป็นวิธีการดูแลรักษากรดไหลย้อนที่มีประสิทธิภาพ หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีเลือดปนในอาเจียน ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อหาสาเหตุกรดไหลย้อนและวิธีการรักษาที่เหมาะสม ด้วยการดูแลอย่างถูกวิธี กรดไหลย้อนสามารถควบคุมและบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Author

Main Stand

Stand ForAll สื่อกีฬาที่เข้าถึงทุกคน

Graphic

วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว

หนุ่มน้อยผู้คลั่งรัก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดหัวใจ