หลังเกิดเหตุการณ์เด็กอายุ 14 กราดยิงกลางห้างสยามพารากอน คำว่า 'เกม' ก็กลายมาเป็นคำที่ถูกครหามากที่สุด เนื่องจากตัวผู้ก่อเหตุมีนิสัยชอบเล่นเกมที่มีการต่อสู้ด้วยปืน ทำให้บางสำนักข่าวตีความสรุปไปว่า แรงจูงใจในการก่อเหตุมาจากเกม
สันติ โหลทอง นายกสมาคมอีสปอร์ต ออกมาไลฟ์ผ่านทางเฟซบุ๊คส่วนตัวทันทีที่มีข่าวเกิดขึ้น โดยสรุปใจความได้ว่า ไม่อยากให้ทุกคนด่วนสรุป หรือ ยัดเยียดความผิดให้เกมอย่างเดียว และอยากให้คนในวงการอีสปอร์ต ออกมาปกป้องวิชาชีพของตัวเองอย่างสุภาพ อย่าตอบโต้คนที่ไม่เข้าใจด้วยคำหยาบ เพราะไม่อยากเพิ่มแรงเสียดทานให้กับวงการนี้
"ในฐานะที่ผมเติบโตมากับครอบครัวที่เป็นสื่อ ผมเข้าใจหน้าที่ของนักข่าวดี ว่าเขาต้องค่อยๆแซะแงะปมมันออกมา แต่ผมอยากให้ทุกคนอย่าด่วนสรุป รอให้กระบวนการสอบสวนเสร็จก่อน ว่าเด็กมีพฤติกรรมอย่างไร ถูกเลี้ยงดูยังไง มีประวัติอาการทางจิตไหม หรือถ้าเขามีพฤติกรรมติดเกมจริงๆ เกมก็อาจจะมีส่วนที่เป็นหนึ่งในแรงจูงใจ แต่ผมอยากให้ทุกอย่างมันสรุปโดยเจ้าหน้าที่ก่อน เราอย่าเพิ่งไปด่วนสรุปกัน เราไม่ต้องรีบกับเรื่องแบบนี้"
พร้อมกับเขียนอีกหนึ่งโพสต์ยาวๆ ที่มีเนื้อความบางช่วงบางตอนว่า
'ประเทศนี้จากการสำรวจเรามีคนไทยครึ่งประเทศเล่นเกม แสดงว่าคน 30 กว่าล้านคน คือ บุคคลอันตรายอย่างนั้นหรือ หากจะบอกว่าเล่นเกมแล้วก่อเหตุ เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน มิเช่นนั้นผมซึ่งนั่งขุ่นมัวอยู่นี่คงซื้อปืนจากร้านออนไลน์ มาโมฯ แล้วออกไปไล่ยิงคนแล้วสิ เรื่องแบบนี้ไม่เคยมีในสมองผมเลยแม้แต่เสี้ยวนาทีเดียว เอาเวลามานั่งเขียนแผน คุยกับน้องๆ ในเครือข่าย และไล่โทรกลับหาสายที่ไม่ได้มากมายไม่ดีกว่าหรือ?
แล้วเกมส์ทำให้ประชาชนในประเทศแปลงร่างไปเป็นอย่างในเกมได้หรอครับ ผมยังไม่เห็นบอลไทยไปบอลโลกนะ เพราะเกมเมอร์อีฟุตบอล ฟีฟ่า เล่นเกมเก่ง แต่ไม่ได้เป็นนักบอลเก่งระดับโลกแบบในเกม
ไม่เคยเห็นคนมุดท่อ เก็บเห็ด
ไม่เคยเห็นคนเดินไปตีป้อม (ไม่ใช่ลุงป้อม)
ไม่เคยเห็นคนเหาะได้แบบซูเปอร์แมน
เราไม่ควรเส้นตื้น ควรทันโลกทันสมัย แยกแยะเป็นอะไรตลก อะไรจริง อะไรคือสิ่งจำลอง
แล้วด่วนสรุปความสูญเสียด้วยแรงจูงใจที่ไม่มีน้ำหนัก ต่อให้ผู้ก่อเหตุเป็นคนเล่นเกม
ยินดีแสดงทรรศนะ กับพี่สื่อทุกค่ายทุกสังกัดนะครับ
ขอบคุณครับ'
