ศึกมวยปล้ำ WrestleMania ครั้งที่ 30 เมื่อวันที่ 6 เมษายน ปี 2014 เป็นวันที่แฟนๆ ของ ดิ อันเดอร์เทเกอร์ สัปเหร่อผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกมวยปล้ำจดจำไม่มีวันลืม เพราะมันคือวันที่สถิติไร้พ่ายของเขาถูกทำลายโดย บร็อค เลสนาร์
ศึกใหญ่บนสังเวียน เมอร์เซเดส เบนซ์ ซูเปอร์โดม อันเดอร์เทเกอร์ เจ้าของสถิติสุดยอดเยี่ยม ชนะรวดใน WrestleMania มา 21 ไฟต์ ขึ้นเวทีมาเผชิญหน้า บร็อค เลสนาร์ รุ่นน้องคู่อริ แต่สุดท้ายการต่อสู้ตลอด 25 นาที จบลงที่ "เดอะ บีสต์" จับ อันเดอร์เทเกอร์ ใส่ท่าไม้ตาย F5 แล้วกดนับสามชนะไปแบบช็อคคนดูทั่วโลก
ชมแมตช์ อันเดอร์เทเกอร์ VS. บร็อค เลสนาร์ : https://youtu.be/w1m95BxWe4Y
ความพ่ายแพ้ของ "เดอะ ฟีนอม" วันนั้นกลายเป็นโมเมนต์ที่แฟนๆ ไม่อยากเชื่อสายตา แล้วจากนั้นเขาก็มาพ่ายแพ้ให้กับ โรมัน เรนส์ อีกในศึก WrestleMania ครั้งที่ 33 ในปี 2017 ก่อนท้ายที่สุดเขาจะรีไทร์เลิกปล้ำไปพร้อมกับสถิติ 25-2 (ชนะ 25 แพ้ 2) ใน WrestleMania ปี 2020
อันเดอร์เทเกอร์ หรือ มาร์ค คัลลาเวย์ วัย 58 ปี ปัจจุบันมีโอกาสเปิดใจคุยกับสื่อเรื่องชีวิตของเขาหลังม่านมวยปล้ำ และหนึ่งในเรื่องน่าสนใจคือเบื้องหลังความพ่ายแพ้ต่อ บร็อค เลสนาร์ เมื่อปี 2014 ที่เขาเชื่อว่าตัวของ เลสนาร์ ก็คงไม่อยากเป็นผู้ทำลายสถิตินี้ แต่ต้องทำเพราะเป็นเรื่องของธุรกิจ และเป็นการตัดสินใจของ วินซ์ แม็คแมน เจ้าของ WWE ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันในช่วงโค้งสุดท้าย ทั้งที่เดิมทีวางไว้ว่า อันเดอร์เทเกอร์ จะเป็นผู้ชนะแล้วรักษาสถิติไร้พ่ายต่อไป
"มันยากที่จะพูดเรื่องนี้ เพราะผมไม่คิดว่า บร็อค ต้องการมัน (ทำลายสถิติ) เขาเป็นที่สนใจของคนดู เป็นดาราดัง เขาถูกสร้างขึ้นมาเป็นแบบนั้น ผมไม่รู้ว่าเขาจะยกระดับตัวเองได้มากกว่านี้หรือเปล่า แต่ผมคิดว่าคงจะดีสำหรับ โรมัน ถ้า บร็อค ไม่ได้เป็นคนทำลายสถิติของผมก่อน มันน่าจะเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับโรมัน"
"วันนั้นคือช่วงบ่าย ผมนั่งอยู่ในห้องแต่งตัว แล้ววินซ์ก็เข้ามา ผมรู้ทันทีว่ามันคืออะไร เขาจัดการเปลี่ยนแปลงผลเรียบร้อย ผมให้ความเห็นกับเขา ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้น แต่คำว่าไม่ ของผมในตอนนั้นคือผมไม่คิดว่า บร็อค อยากเป็นคนทำลายสถิตินี้"
"แต่วินซ์ก็ตอบกลับมาว่า ถ้าไม่ใช่บร็อค แล้วใครจะเอาชนะแก? วินซ์ ขายไอเดียนี้ให้กับเขาได้ ผมก็พูดถึงเรื่องต่างๆ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต วินซ์ก็มีดีลของเขา ผมเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเลิกปล้ำและพูดว่าพอแล้ว ดังนั้นก็เลยทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับสิ่งที่ต้องการ"
"ผมไม่เคยคิดว่า วินซ์ มองภาพที่ผมขี่มอเตอร์ไซค์หายไปกับพระอาทิตย์ตกพร้อมกับสถิติอันสมบูรณ์แบบ ไม่รู้ว่าวันนั้นจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่ถ้าคิดจะทำลายมันก็ต้องเป็นใครสักคนที่ทำแล้วมันส่งผลดีต่ออาชีพของเขา เอาแบบเห็นแก่ตัวเลย มันคงเป็นเรื่องดีถ้าผมลงจากเวทีด้วยชัยชนะ แต่นั่นไม่ใช่วิถีของธุรกิจ มีผู้คนมากมายที่ให้การช่วยเหลือผมตลอดอาชีพ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาและถูกต้องแล้วที่ต้องตอบแทนกลับไป ธุรกิจนี้มันใหญ่กว่าตัวผมคนเดียว บร็อค สมควรได้รับมัน"
ทั้งนี้ อันเดอร์เทเกอร์ ยังระบุด้วยว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ บร็อค เลสนาร์ ยังแน่นแฟ้นเสมอ วันที่เขาถูกกดนับสามและถูกส่งไปโรงพยาบาล บร็อค ก็นั่งรถตามไปดูแลเขา และปัจจุบัน อันเดอร์เทเกอร์ ก็แวะเวียนมาที่ WWE เพื่อพูดคุยและให้คำแนะนำกับ บร็อค ที่ยังปล้ำอยู่เสมอ