ผลงานการแข่งขันกรีฑาประเภทวิ่งระยะสั้นของทีมชายไทยในมหกรรมซีเกมส์ครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำของวงการกีฬาไทย เพราะนอกจากจะสามารถคว้าเหรียญทองได้อย่างมากมายแล้ว ยังมีการสร้างและทำลายสถิติสำคัญหลายรายการอีกด้วย
ไฮไลต์อยู่ที่ “บิว” ภูริพล บุญสอน ที่สร้างปรากฏการณ์วิ่ง 100 เมตรชาย ต่ำกว่า 10 วินาที ด้วยเวลา 9.94 วินาที ทำลายสถิติซีเกมส์เดิม 10.17 วินาที พร้อมทุบสถิติประเทศไทยของตัวเอง 10.06 วินาที และก้าวขึ้นเป็นนักวิ่งที่เร็วที่สุดอันดับ 3 ตลอดกาลของเอเชีย นอกจากนี้สมาคมกรีฑาโลก (World Athletics) ยังยืนยันว่า เขาเป็นนักวิ่งทำเวลาเร็วอันดับ 5 ของโลกในกลุ่มอายุไม่เกิน 20 ปี
ขณะเดียวกัน ในการแข่งขันวิ่ง 200 เมตรชาย “บิว” ภูริพล ยังทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยเวลา 20.07 วินาที ทำลายทั้งสถิติซีเกมส์และสถิติประเทศไทย ที่เขาเคยทำไว้ที่ 20.37 วินาที รวมถึงในรายการวิ่งผลัด 4×100 เมตรชาย ทีมไทยยังคว้าเหรียญทองด้วยเวลา 38.29 วินาที พร้อมทำลายสถิติซีเกมส์เดิมที่ประเทศไทยเคยทำไว้ 38.58 วินาทีลงได้อย่างขาดลอย
กุญแจสำคัญเบื้องหลังผลงานของทัพนักกีฬาไทยในช่วงหลัง หลายคนคงทราบดีว่าคือ “เจนทรี แบรดลีย์” โค้ชอเมริกันวัย 51 ปี ที่สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ดึงตัวเข้ามาเพื่อภารกิจซีเกมส์ครั้งนี้โดยเฉพาะ
เบื้องหลังดีลนี้ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา นายกสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ เผยกับทีมงาน Main Stand โดยเกริ่นก่อนว่า “จากที่ผมมารับตำแหน่งตั้งแต่เดือนเมษายน สิ่งแรกที่ผมเข้ามาดูหลักๆ มี 2 เรื่อง คือฝ่ายธุรการ และฝ่ายปฏิบัติในการพัฒนานักกีฬาของเราทั้งหมด”
“ช่วงแรกๆผมเองได้ เข้าไปดูนักกีฬาฝึกซ้อมที่สนามทุกวัน จนมองเห็นว่าเราควรที่จะมีโค้ชต่างชาติ เพื่อที่จะเติมเต็มให้นักกีฬาของเราก้าวขึ้นไปในระดับนานาชาติได้อย่างสง่างาม”
“จากนั้นจึงมอบหมายให้ทีมงานสรรหาโค้ชต่างชาติเข้ามานำเสนอ ซึ่งมีรายชื่อเข้ามาพิจารณา 3-4 คน ก่อนจะตัดสินใจเลือก เจนทรี แบรดลีย์ ด้วยเหตุผลด้านชื่อเสียงและโปรไฟล์ที่ตอบโจทย์ ผ่านประสบการณ์คุมทีมวิ่งระยะสั้นมาแล้วในหลายภูมิภาคทั่วโลก ทั้งเอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา และสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังเชี่ยวชาญด้านเทคนิคการวิ่ง การเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย และการวางแผนเตรียมทีมก่อนการแข่งขัน”
“ภารกิจของโค้ชจี ผมให้เวลาเขาเพียง 4 เดือน ที่จะทำงานแข่งกับซีเกมส์ และผมบอกเขาว่าถ้าคุณไม่มีผลงาน คุณก็ต้องออก แต่สุดท้ายเขาก็สามารถทำได้ ตามที่ทุกคนเห็น”
แต่สิ่งที่ โค้ชเจนทรี แบรดลีย์ ที่เข้ามาปรับเปลี่ยนและยกระดับนักกีฬาไทย ตลอดระยะเวลา 4 เดือน ยังคงต้องหาคำตอบที่ชัดเจนต่อไป เพราะ เจ้าตัว ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ผมมาเปลี่ยนแปลงพวกเขาเพียง 3 สิ่ง เท่านั้น แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่านั้นคืออะไร”
ส่วนอนาคตของโค้ชชาวอเมริกันกับทีมกรีฑาไทย ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เตรียมเปิดการเจรจาเพื่อต่อสัญญาฉบับใหม่อย่างเร่งด่วน หลังผลงานกับทัพนักวิ่งระยะสั้นทีมชาติไทยออกมาอย่างโดดเด่น
จากจุดนี้ คงต้องติดตามกันต่อไปว่า “เจนทรี แบรดลีย์” จะยังอยู่ร่วมเดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่ให้กรีฑาไทยต่อเนื่องหรือไม่
